บทที่ 1225 การล่อลวงของเทพธิดากระต่ายขาว (2)

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1225 การล่อลวงของเทพธิดากระต่ายขาว (2)

แปลโดย iPAT

 

วูเหลียวไม่ใสาใจวูอัน เขาโค้งคำนับไปที่ประตูและตะโกน “วูอันมีเจตนาร้าย วูเหลียวขอเข้าพบนายท่านเพื่อรายงานเขา!” 

 

หัวใจของวูอันราวกับถูกแช่แข็ง 

 

เขากลัว เขากลัวมาก 

 

เขากลัวว่าเมื่อประตูบานนี้ถูกเปิดออก เทพธิดากระต่ายขาวจะวิ่งออกมาพร้อมกับน้ำตา 

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะทำเช่นไร 

 

อย่างไรก็ตามประตูยังคงปิดราวกับฟางหยวนไม่ได้ยินสิ่งใด 

 

แต่มันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร 

 

ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ทั่วไป มันอยู่ในค่ายกลวิญญาณ ขณะที่ฟางหยวนเป็นเจ้าของวิญญาณอมตะที่สำคัญสองดวง เขาสามารถรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในอาณาเขตของตระกูลวู 

 

การกระทำของวูอันและวูเหลียวอยู่ภายใต้การรับรู้ของฟางหยวนทั้งหมด 

 

แล้วเขาจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนของวูเหลียวได้อย่างไร 

 

เป็นไปไม่ได้! 

 

เมื่อเห็นฟางหยวนไม่สนใจ วูเหลียวผู้มีความมั่นใจกลับตกตะลึง 

 

เขารู้ว่าวูอันพยายามทุกวิถีทางเพื่อขอพบฟางหยวน วูเหลียวรู้จุดประสงค์ของเขา 

 

วูเหลียวไม่ได้ขัดขวางเพราะเขารู้ว่ามนุษย์ย่อมมีความโลภและเห็นแก่ตัว ผู้อมตะระดับเจ็ดคนก่อนหน้าเป็นหนึ่งในนั้น 

 

แต่ฟางหยวนไม่ได้พบวูอันในช่วงเวลาที่ผ่านมา นี่ทำให้วูเหลียวมีความสุขมาก 

 

เขาคิดว่าฟางหยวนปฏิเสธวูอันและไม่มีความสุขกับธุรกิจซื้อขายโอกาส 

 

‘ท่านวูอี้ไห่จะคิดอย่างไรหลังจากได้รับข้อเสนอ เขาพึ่งกลับเข้าตระกูล เขาต้องกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของตน มิฉะนั้นเขาจะนำตระกูลวูสู่ความรุ่งโรจน์ในอนาคตได้อย่างไร?’ วูเหลียวคิด 

 

วูเหลียวหวังว่าฟางหยวนจะให้เขาเข้าพบ 

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ? 

 

ประตูยังปิดแน่นราวกับกำแพงหรือภูเขาสูงที่ปิดกั้นหัวใจของวูเหลียว 

 

วูอันหัวเราะเสียงดัง 

 

เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก จิตใจของเขากลับสู่ความสงบ 

 

การขอเข้าพบของวูเหลียวเป็นการตรวจสอบที่ดีที่สุด 

 

วูอันคิดทันทีว่าเขาเข้าใจความตั้งใจของฟางหยวนแล้ว 

 

วูเหลียวไม่เชื่อ เขาตะโกนอีกครั้งแต่ประตูยังปิดสนิทและไม่มีเสียงตอบรับ 

 

วูอันหัวเราะดังขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกมั่นใจมาก 

 

เขากล่าว “วูเหลียว หยุดกรีดร้อง นายท่านมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ อย่ารบกวนท่าน” 

 

การแสดงออกของวูเหลียวกลายเป็นมืดมนและน่าเกลียด 

 

วูอันยิ้มเยาะและส่ายศีรษะ 

 

วูเหลียวดูแคลนวูอันขณะที่วูอันรู้สึกว่าวูเหลียวเป็นคนดื้อรั้นเกินไป เขาไม่รู้วิธีสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน 

 

‘ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าพอใจ’ 

 

‘เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เทพธิดากระต่ายขาวงดงามมาก เมื่อข้าเห็นนางครั้งแรกในชุดนั้น หัวใจของข้าแทบพุ่งออกมาทางปาก ข้าอยากกอดและถูไถร่างกายของนาง!’ 

 

‘เมื่อได้เห็นความงามของเทพธิดากระต่ายขาว ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งเป็นผู้ชาย พวกเขาย่อมถูกล่อลวง! ท่านวูอี้ไห่เป็นเด็กหนุ่มและแข็งแรง อำนาจและหญิงงามย่อมสามารถตอบสนองอัตตาของเขา นอกจากนี้เขายังเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออกขณะที่เทพธิดากระต่ายขาวก็เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคใต้ การบ่มเพาะอย่างสันโดษย่อมทำให้พวกเขาเข้าใจกัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเทพธิดากระต่ายขาวเป็นหญิงพรหมจรรย์ เมื่อชายหญิงพบกัน พวกเขาจะหลอมรวมกันกันอย่างเร้าร้อน! ฮ่าฮ่าฮ่า’ 

 

ขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้ มันกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น 

 

ประตูเปิดออก เทพธิดากระต่ายขาวยืนอยู่ต่อหน้าผู้อมตะทั้งสองของตระกูลวู 

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น? เจ้าออมาแล้วงั้นหรือ? เหตุใดจึงรวดเร็วนัก!?” วูอันประหลาดใจมาก 

 

“นายท่านต้องได้ยินคำกล่าวของข้าและส่งหญิงผู้นี้ออกมา” วูเหลียวดีใจมากแต่เมื่อเขาเห็นเทพธิดากระต่ายขาว ร่างกายของเขากลับแข็งค้าง 

 

ความงามของเทพธิดากระต่ายขาวทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว เขาต้องยอมรับว่าเทพธิดากระต่ายขาวงดงามมาก 

 

“เจ้าทำไม่สำเร็จงั้นหรือ?” หัวใจของวูอันจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง 

 

แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นว่าเทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว นางไม่ได้สวมชุดขนสัตว์สีขาวอีกต่อไป 

 

นอกจากนี้! 

 

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของวูอันมากที่สุดก็คือเทพธิดากระต่ายขาวสวมตุ้มหูหยกคู่หนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนลูกบอล 

 

นี่เป็นประเพณีของภาคใต้ 

 

เมื่อผู้หญิงแต่งงาน พวกเขาจะสวมตุ้มหูชนิดนี้เพื่อแสดงว่านางได้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ชายของนางแล้ว 

 

วูอันดีใจมาก เขามีความสุขมาก 

 

ใบหน้าของวูเหลียวกลายเป็นซีดขาว เขาเห็นตุ้มหูหยกของเทพธิดากระต่ายขาวแล้ว 

 

“เจ้าทำสำเร็จหรือไม่?” วูอันเดินเข้าไปถามอย่างระมัดระวัง 

 

เทพธิดากระต่ายขาวแสดงท่าทางแปลกๆ นางพยักหน้าแต่ไม่พูด 

 

วูอันพ่นลมหายใจออกมา แรงกดดันทำให้เขาไม่สามารถปรับตัวกับความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและทำให้เขาแทบล้มลงบนพื้น 

 

‘แต่เหตุใดถึงเร็วนัก?’ วูอันคิด ‘อย่าบอกว่าท่านวูอี้ไห่เป็น…นกกระจอก…สิ่งนี้หาได้ยากในภาคใต้ ฮ่าฮ่า หากเป็นเช่นนั้นข้าจะเสนอวิญญาณที่มีประโยชน์ให้กับท่านวูอี้ไห่ในอนาคต แต่ท่านวูอี้ไห่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด วิญญาณเหล่านี้อาจไม่ได้ผล’ 

 

‘ไข่มุกหยกคู่นี้ถูกมอบให้ข้าโดยท่านวูอี้ไห่ ท่านให้ข้าไล่พวกเจ้าไป ท่านจะปิดประตูฝึกตน เจ้าสามารถปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าและอย่ามารบกวนท่านอีก’ เทพธิดากระต่ายขาวกล่าว 

 

หลังจากนางกล่าวจบประโยค วูอันหันหน้าไปมองวูเหลียวด้วยใบหน้าของผู้ชนะ 

 

ร่างกายของวูเหลียวสั่นสะท้านขึ้น เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวและมองวูอันด้วยความโกรธก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว 

 

“ท่านวูอัน ไปด้วยกันเถอะ” เทพธิดากระต่ายขาวกล่าว 

 

“อย่าเรียกข้าว่าท่าน เรียกข้าด้วยชื่อของข้า” วูอันแสดงออกด้วยความสุภาพ 

 

ตอนนี้สถานะของเทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนไปแล้ว 

 

วูอี้ไห่ไม่เพียงรับความบริสุทธิ์ของนางแต่ยังมอบตุ้มหูหยกให้นาง นี่หมายความว่าเขายอมรับนางเป็นนางบำเรอของเขา 

 

เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกได้ถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไปของวูอัน นี่ทำให้นางเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อน 

 

นางกล่าว “แท้จริงแล้วท่านวูอี้ไห่มีบางคำฝากถึงท่านโดยเฉพาะ” 

 

“เทพธิดา เชิญกล่าว” วูอันกล่าวอย่างเคร่งขรึม 

 

เทพธิดากระต่ายขาวพูดเรื่องที่น่าตกใจ “ในความเป็นจริง…ท่านวูอี้ไห่ไม่ได้เข้าหอกับข้า” 

 

“อันใด!?” วูอันตกใจมาก 

 

ฉากก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นในใจของเทพธิดากระต่ายขาวอีกครั้ง 

 

ขณะที่นางกำลังเดินเข้าไปสวมกอด นางรู้สึกถึงมือที่แข็งแกร่งคู่หนึ่งคว้าไหล่ของนางเอาไว้ 

 

พลังงานที่อบอุ่นถูกปล่อยออกมาจากมือคู่นี้และไม่ยอมให้มีการต่อต้านใดๆ เทพธิดากระต่ายขาวถูกผลักออกจากร่างของฟางหยวนอย่างแผ่วเบา 

 

ใบหน้าของเทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นเป็นซีดขาว นางรู้สึกราวกับกำลังจะหมดสติ 

 

แต่ในช่วงเวลาต่อมา นางกลับได้ยินเสียงของฟางหยวน “ก่อนหน้านี้ข้าเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษอยู่ในทะเลตะวันออก ข้าเข้าใจความเจ็บปวดของผู้บ่มเพาะสันโดษอย่างชัดเจน หากเจ้าต้องการรสชาติที่หอมหวาน เจ้าต้องจ่ายด้วยบางสิ่ง ข้าแน่ใจว่าตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตามข้าไม่ต้องการฉกฉวยผลประโยชน์จากคนที่กำลังลำบาก” 

 

หลังกล่าวจบประโยค เทพธิดากระต่ายขาวเห็นวิญญาณดวงหนึ่งลอยเข้ามาหา 

 

“นี่คือวิญญาณอาภรณ์ เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยและมาคุยกัน” เสียงของฟางหยวนดังขึ้นอีกครั้ง 

 

เทพธิดากระต่ายขาวเปลี่ยนชุดอย่างเชื่อฟัง 

 

เมื่อนางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นางก็เห็นฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางให้กับนาง “แม้ข้าจะเข้าร่วมตระกูลวู แต่ข้าก็ยังเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เจ้าสามารถพิจารณาว่าวิญญาณดวงนี้เป็นของขวัญจากสหายผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นเดียวกัน’ 

 

หัวใจของเทพธิดากระต่ายขาวสั่นไหว นางรู้สึกประทับใจมาก 

 

ในครั้งเดียวนางเริ่มสะอื้น น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของนางและทำให้การมองเห็นของนางกลายเป็นพร่ามัว 

 

แต่ท่ามกลางความพร่ามัว นางสามารถสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มของฟางหยวน มันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนแสงแดดยามเช้าที่ส่องลงมาที่หัวใจของนาง มันทำให้นางรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย 

 

“อย่างไรก็ตามข้าเข้าใจความตั้งใจของเจ้าและวูอัน ดังนั้นนำสิ่งนี้ติดตัวไปด้วย” ฟางหยวนกล่าวขณะส่งตุ้มหูหยกคู่หนึ่งให้นาง 

 

ด้วยความสามารถของเขา การสร้างสิ่งนี้ต้องใช้เพียงหนึ่งความคิดเท่านั้น 

 

เทพธิดากระต่ายขาวรับตุ้มหูหยกไว้ด้วยน้ำตาคลอเบ้า 

 

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าคือผู้หญิงของข้า” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

 

เทพธิดากระต่ายขาวพยักหน้าเล็กน้อย 

 

“ทำธุรกิจของเจ้าต่อไป แต่ข้าจะไม่รับช่วงต่อ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ข้าสามารถช่วยได้อย่างลับๆ แต่ข้าจะไม่ออกหน้าอย่างเป็นทางการ” 

 

“นี่เป็นการละเมิดผลประโยชน์ของกองกำลังฝ่ายธรรมะอื่นๆ ท้ายที่สุดค่ายกลวิญญาณทั้งหมดก็ถูกสร้างขึ้นจากความพยายามของทุกคน” 

 

“ข้าพึ่งมาถึงภาคใต้ ข้ายังไม่ได้สร้างตัว ข้าไม่สามารถรับผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆเหล่านี้” 

 

“เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าเข้าใจความหมายของข้าใช่หรือไม่?” 

 

“ข้าเข้าใจ” เทพธิดากระต่ายขาวตอบด้วยเสียงสั่นเทา 

 

“กลับไปเถอะ ถ่ายทอดข้อความของข้ากับวูอันและคนรอบข้างเขา กำไรส่วนของข้าจะตกเป็นของเจ้า” ฟางหยวนส่งนางออกไป 

 

เทพธิดากระต่ายขาวต้องการมองฟางหยวนอีกครั้ง แต่นางไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ 

 

นางก้มศีรษะลงขณะเดินจากไป 

 

สถานการณ์ดีกว่าที่นางคิดไว้มาก 

 

สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ชื่อของวูอี้ไห่ถูกจารึกไว้ในส่วนลึกที่สุดของจิตวิญญาณของนางเรียบร้อยแล้ว 

 

“ข้าเข้าใจแล้ว!” หลังจากได้ยินเรื่องเล่าของเทพธิดากระต่ายขาว หน้าผากของวูอันก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ 

 

เขามองไปยังที่พักของฟางหยวน ความชื่นชมและความเคารพสามารถมองเห็นได้จากสายตาของเขา