บทที่ 1226 กฎของฝ่ายธรรมะ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1226 กฎของฝ่ายธรรมะ

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นบนเตียง

ที่นี่คือค่ายกลวิญญาณที่กองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ร่วมกันสร้างขึ้น มันปลอดภัยมาก แต่ฟางหยวนยังต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนที่เขาจะลงมือกระทำการใดๆ

ตั้งแต่กำเนิดใหม่ ฟางหยวนฝึกฝนตนเองโดยไม่ยอมเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

การนอนครั้งนี้ก็เช่นกัน

ฟางหยวนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันของตนเองและได้รับทรัพยากบนเส้นทางแห่งความฝันเพื่อหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนมาก

‘เมื่อข้าหลอมรวมพวกมัน ข้าจะได้รับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันอีกห้าหรือหกดวง’ ฟางหยวนประเมิน

พัฒนาการบนเส้นทางแห่งความฝันของเขาชัดเจนมาก

ในอดีตการเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันแต่ละครั้ง เขาจะได้รับทรัพยากรเพียงเล็กน้อยและสามารถหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันเพียงหนึ่งหรือสองดวง แต่ตอนนี้กำไรของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญคือจิตวิญญาณของเขา

ทุกครั้งที่สำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน จิตวิญญาณจะอ่อนแอลง

ดังนั้นยิ่งจิตวิญญาณแข็งแกร่งเท่าใด พวกเขาก็สามารถสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันได้นานขึ้นเท่านั้น

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือความเข้มแข็งของจิตวิญญาณเป็นเพียงเงื่อนไขพื้นฐานของการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันแต่มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คนผู้หนึ่งประสบความสำเร็จในการคลี่คลายความฝัน

บางคนกล่าวว่า อาณาจักรแห่งความฝันเหมือนทะเลทราย ยิ่งจิตวิญญาณของนักสำรวจแข็งแกร่งเท่าใด พวกเขาก็สามารถอดทนต่อความหิวโหยและอยู่ในทะเลทรายได้นานเท่านั้น

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถเดินออกจากทะเลทรายได้

อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งความฝันพึ่งเริ่มต้น กองกำลังต่างๆพึ่งเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับมัน ผู้อมตะมากมายพบกับความทุกข์ทรมานจากการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันโดยที่ไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ

แม้ในปัจจุบันจะมีวิญญาณป่าระดับมนุษย์หรือวิญญาณอมตะป่าบนเส้นทางแห่งความฝันบางดวง มันก็ยังห่างไกลจากการเรียกว่าเส้นทางแห่งการบ่มเพาะที่แท้จริง

หลังจากทั้งหมดการสร้างเส้นทางแห่งการบ่มเพาะไม่ใช่เรื่องง่าย

ตัวอย่างเช่นมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีมากมายถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ยุคแรกกำเนิด เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์ยังสามารถหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีชนิดใหม่ขึ้นมาได้ด้วยตัวพวกเขาเอง อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งวารีพึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อซุ้ยหนี่ก่อตั้งนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

ดังนั้นผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคจึงไม่สามารถทำสิ่งใดเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝัน แม้พวกเขาจะรู้ว่ามันล้ำค่า แต่พวกเขาก็ไม่มีวิธีรับประโยชน์จากมัน

ผู้อมตะหลายคนเสียชีวิตในอาณาจักรแห่งความฝัน

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งและเมื่อไม่นานมานี้ผู้อมตะหลายคนของภาคใต้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากความพยายามสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

แน่นอนว่าผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้สังเกตเห็นความจริงและตัดสินใจชะลอการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันออกไป

อย่างไรก็ตามผู้อมตะหลายคนมีความคิดที่แตกต่าง ดังนั้นธุรกิจซื้อขายโอกาสจึงถือกำเนิดขึ้น

หากผู้อมตะฝ่ายธรรมะมีวิธีสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขาจะมอบผลประโยชน์มหาศาลนี้ให้กับปีศาจอมตะหรือผู้บ่มเพาะสันโดษได้อย่างไร?

เมื่อนึกถึงธุรกิจซื้อขายโอกาส ฟางหยวนลุกขึ้นจากเตียง

ธุรกิจนี้ต้องมีอยู่แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถมีส่วนร่วมมากเกินไป

ธุรกิจซื้อขายโอกาสมีประโยชน์มากมาย

ในแง่หนึ่งมันสามารถสร้างกำไรมหาศาล ในทางกลับกันมันสามารถลดความขัดแย้งของฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจรวมถึงผู้บ่มเพาะสันโดษ

หากฝ่ายธรรมะปกป้องอาณาจักรแห่งความฝันอย่างเข้มงวด ฝ่ายปีศาจและผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคใต้จะคิดอย่างไร?

“ฝ่ายธรรมะต้องได้รับผลประโยชน์มหาศาล แต่พวกเขาเก็บมันไว้เพื่อตนเองเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปฝ่ายธรรมะจะแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่พวกเราอ่อนแอลง ต่อไปพวกเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? สิ่งนี้คือสถานที่บ่มเพาะของเทพอมตะแห่งความฝัน ผู้ใดบ้างที่ไม่ต้องการเป็นเทพอมตะ แล้วเหตุใดพวกเราต้องปล่อยให้ฝ่ายธรรมะช่วงชิงมันไปโดยที่พวกเราไม่ทำสิ่งใดเลย?”

พวกเขาจะคิดเช่นนี้

และมันอันตรายมาก

กองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้ดีว่าหากฝ่ายปีศาจและผู้บ่มเพาะสันโดษถูกบีบบังคับมากเกินไป พวกเขาจะร่วมมือกันบุกโจมตีภูเขาอี้เทียนและส่งผลให้เกิดการต่อสู้นองเลือดเช่นเดียวกับภาคเหนือ

ด้วยธุรกิจซื้อขายโอกาส สุดท้ายปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษจะตระหนักได้ว่าอาณาจักรแห่งความฝันอันตรายเกินไป ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาสามารถทำได้ มิฉะนั้นฝ่ายธรรมะจะสร้างธุรกิจซื้อขายโอกาสและปล่อยให้พวกเขาสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันเพื่อสิ่งใด?

ธุรกิจซื้อขายโอกาสถูกคิดขึ้นโดยผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลวู เขาฉลาดมาก โชคไม่ดีที่ฟางหยวนใช้อิทธิพลของพี่ชายเพื่อขับไล่ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้ออกไป

ฟางหยวนต้องการความมั่นคง

ยิ่งมีเสถียรภาพมากเท่าใด มันก็ยิ่งดีต่อเขามากเท่านั้น

เขาต้องการสภาพแวดล้อมที่มั่นคงเพื่อสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

ดังนั้นเพื่อป้องกันการบุกโจมตีของปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษ ธุรกิจซื้อขายโอกาสจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องดำเนินต่อไป

แต่ฟางหยวนไม่สามารถเข้าร่วม

เพราะไม่ใช่กองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดที่เข้าร่วมกับเรื่องนี้

นี่คือจุดสำคัญ

ของขวัญชิ้นนี้ไม่ถูกแจกจ่ายออกไปอย่างทั่วถึง

มีเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากธุรกิจนี้

แต่นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

ผู้อมตะทั้งหมดถูกขับเคลื่อนโดยผลประโยชน์ คนที่มีส่วนร่วมน้อยกว่าจะได้รับประโยชน์มากกว่าได้อย่างไร?

ดังนั้นผลลัพธ์ก็คือหากธุรกิจนี้ถูกเปิดเผย ผู้มีส่วนร่วมจะถูกลงโทษ เพราะนี่คือกฎของฝ่ายธรรมะ

ฟางหยวนไม่สามารถก้าวเข้าสู่กับดักนี้

วูอันและคนอื่นๆพยายามผูกมัดเขา แต่ฟางหยวนรู้ว่าเมื่อสิ่งนี้ถูกเปิดเผย แม้เขาจะเป็นเจ้าของวิญญาณอมตะที่สำคัญสองดวงและมีพี่ชายเป็นวูหยง แต่เขาก็จะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป

ฟางหยวนจะไม่เสี่ยงกับเรื่องนี้

เขาทุ่มเทความพยายามอย่างมากเพื่อแทรกซึมเข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?

คำตอบก็คือเพื่ออาณาจักรแห่งความฝัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวูหยงไม่ได้ชื่นชอบน้องชายผู้นี้ ทัศนคติของเขาขึ้นอยู่กับสถานการณ์เท่านั้น

แต่ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ได้กระทำความผิดและยังเป็นเจ้าของวิญญาณอมตะอยู่ที่นี่ วูหยงจะไม่สามารถส่งเขาไปที่อื่น

ฟางหยวนเห็นรายละเอียดทั้งหมดอย่างชัดเจน

นี่ต้องขอบคุณประสบการณ์ชีวิตอันยาวนานในช่วงชีวิตแรกของเขา

แม้การบ่มเพาะของเขาจะไม่สูงนัก แต่เขาก็เคยอยู่ในกองกำลังฝ่ายธรรมะและเป็นทั้งปีศาจอมตะรวมถึงผู้บ่มเพาะสันโดษ เขามีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถแฝงตัวอยู่ในกองกำลังฝ่ายธรรมะได้อย่างไม่มีปัญหาขณะที่มันไม่ได้หยุดยั้งการบ่มเพาะของวูอี้ไห่ เขาเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของที่นี่ เขารู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อเล่นเกมส์แห่งชีวิตนี้

ดังนั้นเขาจึงเลือกเทพธิดากระต่ายขาว

ในช่วงเวลาสำคัญเขาสามารถใช้นางเป็นแพะรับบาปโดยบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น

ผลประโยชน์จากธุรกิจซื้อขายโอกาสในส่วนของเขาก็มอบให้เทพธิดากระต่ายขาวเช่นกัน

เขาไม่สามารถเก็บผลประโยชน์ไว้กับตนเอง

ฝ่ายธรรมะไม่เหมือนฝ่ายปีศาจและผู้บ่มเพาะสันโดษ บางผลประโยชน์พวกเขาไม่สามารถแตะต้อง

แต่หากฟางหยวนปฏิเสธจะเกิดสิ่งใดขึ้น? หากเทพธิดากระต่ายขาวและวูอันกลายเป็นศัตรูกับเขาจะเป็นอย่างไร?

นั่นยิ่งแย่กว่า

หากฟางหยวนทำเช่นนั้น แม้สถานการณ์ของเขาจะไม่วิกฤต แต่เขาจะกลายเป็นศัตรูกับกองกำลังทั้งหกที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ หากฟางหยวนไม่อนุญาต พวกเขาก็ไม่สามารถทำธุรกิจนี้ต่อไป แน่นอนว่าคนเหล่านี้จะรู้สึกไม่ดีต่อฟางหยวน

ฟางหยวนพึ่งเข้ามาในค่ายกลวิญญาณ เขาไม่สามารถสร้างความขุ่นเคืองต่อพันธมิตรของตระกูลวู

ขณะเดียวกันกองกำลังที่ไม่มีส่วนร่วมกับธุรกิจนี้เช่นตระกูลปา ตระกูลไท่ หรือตระกูลเฉิงก็กำลังหาโอกาสเล่นงานเขาอยู่

ในกรณีนี้การทำลายพันธมิตรของตนเองย่อมเป็นความคิดที่โง่เขลามาก

การตัดสินใจของฟางหยวนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ธุรกิจซื้อขายโอกาสยังดำเนินต่อไป พันธมิตรทางการเมืองของเขามีความสุข ขณะที่ตระกูลปาและกองกำลังอื่นๆไม่สามารถทำสิ่งใดกับฟางหยวน

ในอนาคตหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป ฟางหยวนจะโยนความผิดให้กับเทพธิดากระต่ายขาวและบอกว่านางทำสิ่งเหล่านี้ลับหลังเขา เขาถูกซ่อนไว้ในที่มืดอย่างสมบูรณ์

โดยรวมแล้วมันจะทำให้ฟางหยวนมีเวลาล่าถอยหรือก้าวต่อไปข้างหน้า

สำหรับกำไรเหล่านั้น ฟางหยวนต้องละทิ้งพวกมันเท่านั้น

ตอนนี้เขาไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากร ทรัพยากรที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิของเขา กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่ก็ยังต้องอับอาย

‘ต่อไปข้าจะเริ่มสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันอย่างเป็นทางการ!’ ฟางหยวนเตรียมตัวเคลื่อนไหว

ในเวลาเดียวกันที่ภาคเหนือ

งานประลองทุ่งโลหิตกำลังจะสิ้นสุดลง

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูและเหยากวงไม่ได้ปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบ แต่อิทธิพลของพวกเขาก็ส่งผลกระทบต่อการประลองเป็นอย่างมาก

ชูตู๋มีการแสดงออกที่น่าเกลียด

สถานการณ์ไม่เป็นไปตามความต้องการของเขา

ห่าวเจิ้งได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนทั้งสองข้างของเขาถูกตัดออก บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานแห่งเต๋า ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษา

‘ฝ่ายธรรมะของภาคเหนือมีรากฐานที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริง’ ชูตู๋ลอบถอนหายใจ เขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเพราะไม่สามารถส่งผู้ใดออกไปอีก

ห่าวเจิ้งกล่าวด้วยความโกรธและไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ “ท่านชูตู๋ ข้ามีสหายที่แข็งแกร่งกว่าข้า แต่พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่ไร้ชื่อเสียง”

ชูตู๋มีความสุขและสงสัย “โอ้ เหตุใดเจ้าไม่แนะนำพวกเขาให้เร็วกว่านี้?”

ห่าวเจิ้งถ่ายทอดเสียงด้วยความระมัดระวัง “มีจุดที่น่ากังวลอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือพวกเขาบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งเลือด”

การแสดงออกของชูตู๋เปลี่ยนไป เขาปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ไม่อย่างแน่นอน ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดไม่สามารถเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ นี่เป็นการประลองระหว่างกองกำลังฝ่ายธรรมะ แล้วผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดจะเข้าร่วมได้อย่างไร?”

หากพวกเขาเข้าร่วม ชูตู๋อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นกองกำลังฝ่ายปีศาจ

นั่นจะส่งผลให้การทำงานหนักทั้งหมดที่ผ่านมาของชูตู๋กลายเป็นไร้ความหมาย

นี่คือกฎของฝ่ายธรรมะ!