[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 537 : ทหาร!

ฮู่ว..

ทันทีที่เลี้ยวเข้ามุมไปได้ หลิงหยุนก็ถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงยี่สิบนาที แต่หลิงหยุนกลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นเวลาที่ลำบากยากเย็นเสียเหลือเกิน

“เฮ้อ.. นี่ถ้าข้าหักห้ามใจไว้ไม่ได้ เผลอยุ่งกับเจ้าเข้าไปจะเป็นอย่างไร?”

หลิงหยุนได้แต่นึกกังวลใจอยู่เงียบๆ ยังดีที่เขายังสามารถควบคุมจิตใจของตนเองเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นคงยากที่จะปล่อยหลิวลี่ไป!

แต่เรื่องในวันนี้หลิงหยุนก็ไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ เขาจึงได้แต่เก็บมันไว้เป็นความลับ!

ด้านนอกหมู่บ้านนั้น ถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋กำลังคุยกันอยู่ในรถ แต่หลิงหยุนที่อยู่ไกลออกไปก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน..

“นี่เสี่ยวอู๋.. นายเชื่อฉันมั๊ยว่า.. ตอนนี้สองคนนั่นคงจะกำลัง..?!”

ถังเมิ่ง.. เจ้าเด็กคนนี้วันๆ ไม่คิดเรื่องอะไรดีๆเลย คิดแต่เรื่องสกปรกได้ทุกวัน!

ตี้เสี่ยวอู๋ฟังแล้วจึงได้แต่ยกกำปั้นขึ้นชูพร้อมพูดกับถังเมิ่งว่า “นายเชื่อมั๊ยว่า.. ฉันสามารถต่อยนายสลบได้ภายในหมัดเดียว?!”

“ฉันเชื่อ.. ฉันเชื่อว่านายทำได้ นี่อย่านะ.. อย่าเล่นแบบนี้!”

ถังเมิ่งรีบยกมือปัดขึ้นพร้อมกับร้องห้าม และในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็เห็นหลิงหยุนเดินออกมาพอดี

“พี่หยุนมาแล้ว!”

ตี้เสี่ยวอู๋รีบหันไปมอง และรีบลงมาจากรถทันที ถังเมิ่งเองก็รีบลงรถตามมาติดๆเช่นกัน

ไม่นานหลิงหยุนก็เดินมาอยู่ตรงหน้าน้องชายของเขาทั้งสอง หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับใช้นิ้วจี้จุดถังเมิ่งอย่างรวดเร็ว ถังเมิ่งถึงกับหน้าซีด..

“นี่พี่หยุน.. พี่ทำอะไร!?”

ถังเมิ่งไปไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด แต่เขากำลังคันไปทั่วทั้งตัว ถังเมิ่งรู้สึกคล้ายกับมีมดเป็นล้านๆตัวรุมกัดตามร่างกายของเขาอยู่ และคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าช็อตอยู่ตลอดเวลา

ตี้เสี่ยวอู๋ฉีกยิ้มให้กับถังเมิ่ง และกำลังยืนมองเขาอย่างมีความสุข..

หลิงหยุนปล่อยให้ถังเมิ่งคันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามยิ้มๆว่า “เมื่อครู่นายนินทาอะไรฉัน?”

ถังเมิ่งที่กำลังคันไปทั้งตัวรีบร้องบอกหลิงหยุนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “พี่หยุน.. ฉันผิดไปแล้ว! ยกโทษให้ฉันด้วย!”

หลิงหยุนไม่ได้ต้องการทำให้ถังเมิ่งต้องไม่สบายเนื้อสบายตัวอยู่นานนัก เขามองถังเมิ่งครู่หนึ่ง แล้วจึงจัดการคลายจุดให้พร้อมกับสั่งด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“พวกนายสองคนกลับไปรอฉันที่บ้านเลขที่-1 ก่อน ฉันจะไปทำธุระบางอย่าง!”

หลังจากนั้น.. หลิงหยุนก็ขับรถแลนด์โรเวอร์ของเขาออกไปจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หลิงหยุนคลายจุดให้ถังเมิ่งแล้ว ถังเมิ่งก็หายคันทันที เขายืนมองรถแลนด์โรเวอร์ของหลิงหยุนที่แล่นออกไปด้วยความเร็วด้วยสีหน้าที่งุนงง และประหลาดใจ

“ฉันเพิ่งเข้าใจวันนี้นี่เองว่าเพราะอะไรกู่เหลียนซานถึงยอมหักหลังหลัวจ้ง และพี่ชายของตัวเอง..”

ตี้เสี่ยวอู๋ยิ้ม และพูดขึ้นขณะที่เดินไปยังรถของตนเอง “รู้ก็ดีแล้ว! ไม่อย่างนั้นนายอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว!”

ถังเมิ่งยกมือขึ้นเกาศรีษะ และเดินตามตี้เสี่ยวอู๋ไป เขาอดที่จะแปลกใจไม่ได้จึงได้แต่พึมพำออกมา

 “พี่หยุนอยู่ห่างจากพวกเราตั้งห้า-หกสิบเมตร แล้วเราสองคนก็นั่งคุยกันอยู่ในรถ พี่หยุนได้ยินที่ฉันพูดได้ยังไงกัน?!’

ตี้เสี่ยวอู๋สตาร์ทรถ และหันไปมองถังเมิ่งที่กำลังปิดประตูรถ เขายิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “อย่าว่าแต่ห้า-หกสิบเมตรเลย ไกลกว่านั้นถึงสามเท่าพี่หยุนก็ยังได้ยิน! ไปกันดีกว่า!”

ถังเมิ่งได้ฟังถึงกับตกตะลึงอีกครั้ง!

………..

หลิงหยุนขับรถแลนด์โรเวอร์ของตนมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของเมืองจิงฉูด้วยความเร็วชนิดที่ว่า หากถูกตำรวจจับได้ เขาคงถูกตัดแต้มจนติดลบอย่างแน่นอน

และที่หลิงหยุนขับรถด้วยความเร็วขนาดนี้ก็เพื่อจะไปที่หมู่บ้านฝูฮัว.. ระหว่างที่ขับรถไปนั้นหลิงหยุนก็ได้โทรหาหลินเมิ่งหานถามว่าเธออยู่ที่บ้านหรือไม่..?

หลินเมิ่งหานกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อของให้กับหลิงหยุนอยู่พอดี  เธอจึงตอบหลิงหยุนกลับไปยิ้มๆ

“ทำไม? ไม่ยุ่งแล้วเหรอถึงได้มีเวลาคิดถึงฉัน?”

หลิงหยุนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย “นี่อย่ามายียวน.. ผมแค่ถามว่าตอนนี้คุณอยู่บ้านหรือเปล่า? ตอบมาเร็วเข้า!”

หลินเมิ่งหานถึงกับงุนงง เพราะหลิงหยุนดูรีบร้อน เธอจึงรีบวางเสื้อผ้าที่เลือกอยู่และตอบกลับไปทันที “ฉันกำลังช้อปปิ้งอยู่ นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

หลิงหยุนไม่พูดอะไรมาก เขาสั่งหลินเมิ่งหานว่า “คุณรีบกลับบ้านภายในสิบนาที ผมกำลังจะถึงบ้านแล้ว!”

หลินเมิ่งถามร้องถามอย่างงุนงง “ทำไมถึงได้เร่งด่วนแบบนี้ล่ะ? นี่ฉันยังต้องซื้อของอีกตั้งหลายอย่าง จะกลับไปทันภายในสิบนาทีได้ยังไงกัน?”

“ตอนนี้คุณอยู่ที่ใหน? เดี๋ยวผมจะไปรับคุณเอง!”

หลังจากรู้ที่อยู่ของหลินเมิ่งหานแล้ว หลิงหยุนก็ขับรถตรงไปรับเธอทันที..

แม้ว่าหลิวลี่จะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเองได้ แต่เธอก็ได้ปลุกความรู้สึกต้องการภายในตัวหลิงหยุนได้สำเร็จ ตอนนี้ในสมองของหลิงหยุนนั้นมีเพียงหน้าอกที่ใหญ่โต และพื้นที่ใต้ท้องน้อยเท่านั้น..

หลังจากที่หลิงหยุนหนีออกมาจากบ้านของหลิวลี่ เขาก็ไม่สามารถอดกลั้นต่อความต้องการที่ลุกโชนอยู่ภายในได้อีก เขาต้องการที่จะปลดปล่อยมันออกมา!

หลิงหยุนไม่สนใจแม้แต่ไฟแดง เขาต้องรีบขับรถไปรับหลินเมิ่งหานกลับบ้านให้เร็วที่สุด และทันทีที่จอดรถเขาก็สั่งให้หลินเมิ่งหานที่กำลังถือถุงใบใหญ่อยู่ในมือขึ้นรถทันที

“ขึ้นรถเร็วเข้า!”

หลินเมิ่งหานสวมชุดกระโปรงสีแดง และถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจอวดหน้าอกที่ตั้งตรงทั้งสองข้าง แต่เรือนร่างของเธอก็ร้อนแรงมากสำหรับหลิงหยุนเวลานี้

หลินเมิ่งหานเปิดประตูรถ และจัดการโยนของที่ซื้อไปไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นจึงลงไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ

สายตาของหลิงหยุนจับจ้องอยู่ที่หน้าอกใหญ่โตของหลินเมิ่งหานที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงจากแรงสั่นสะเทือนในการกระแทกตัวลงนั่ง!

หลินเมิ่งหานถามขึ้นทันที “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้ดูรีบร้อนแบบนี้?”

หลิงหยุนจ้องหน้าอกของหลินเมิ่งหานพร้อมกับฉีกยิ้ม “กลับบ้านเดี๋ยวก็รู้เองล่ะ!”

หลิงหยุนขับรถออกไปด้วยความเร็วสูงจนเป็นที่สนอกสนใจของรถคันอื่นๆบนท้องถนน

“เห้ย.. รถคันนั้นทำไมถึงได้ขับเร็วแบบนี้..”

“โอ้โห.. ขับเร็วอย่างกับบิน..”

“สาวที่นั่งอยู่ในรถนั้นสวยน่าดูเลย ดูท่าจะรวยด้วยสิ..”

“อู้หู! ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลย!” หญิงสาวคนหนึ่งกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ

…………….

และเพียงไม่ถึงชั่วโมง.. หลิงหยุนก็ขับรถมาถึงหน้าหมู่บ้านฝูฮัว และรีบขับตรงเข้าไปในหมู่บ้านมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังสุดท้ายทันที

แต่เมื่อรถแลนด์โรเวอร์เลี้ยวเข้าไป หลิงหยุนกับหลินเมิ่งหานก็ถึงกับตกตะลึง!

ประตูบ้านของหลินเมิ่งหานเปิดอ้าไว้.. และมีรถสีเขียวเข้มของทหารจอดอยู่ข้างๆรั้ว พร้อมกับมีทหารติดอาวุธอีกสี่นายกำลังยืนนิ่งไม่ต่างจากรูปปั้น

แม้ว่าจะยังเข้าไปไม่ถึงในบริเวณบ้าน หลิงหยุนก็ได้ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจดูตั้งแต่ตรงสี่แยกแล้ว เมื่อเลี้ยวเข้าไปหลิงหยุนจึงไม่จอดหน้าบ้าน และได้ขับเลยไปไกลถึงห้าสิบเมตร

แต่เมื่อเห็นป้ายทะเบียนรถทหารทั้งสองคัน ใบหน้าของหลินเมิ่งหานก็เริ่มซีดเผือดพร้อมกับร้องออกมาว่า

“ไม่นะ.. พ่อของฉันมาที่นี่!”

หลิงหยุนถึงกับกระทืบเบรก และรีบใส่เกียร์ถอยหลังทันที..

ในเวลาเดียวกันนั้น หลิงหยุนก็เห็นประตูรถทหารกำลังเปิดออก และชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีก็ก้าวลงมาจากรถ

ชายวัยกลางคนผู้นี้สูงราวหนึ่งเมตรแปดสิบเซ็นติเมตร ยืนหลังตรง ผิวขาว แม้ว่าจะอยู่ในวัยกลางคน แต่ยังคงสง่างาม และเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของทหารนักรบ แววตาของเขาสงบนิ่ง ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวนั้นจ้องมองหลินเมิ่งหานที่อยู่ในรถ

หากหลิงหยุนรู้เรื่องสัญลักษณ์ลำดับขั้นบนชุดเครื่องแบบทหารของชายผู้นั้น หลิงหยุนก็จะสามารถรู้ได้ว่า ดาวบนบ่าของชายวันกลางคนนั้นบ่งบอกว่าเขามีตำแหน่งเป็นถึงพลเอก!

และคนที่มาหาหลินเมิ่งหานนั้นก็คือพ่อของเธอเอง และเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพชื่อว่า.. หลินเจิ้งกัง!

ผ่านกระจกรถแลนด์โรเวอร์.. หลินเจิ้งกังจ้องมองร่างของลูกสาวที่อยู่ในรถ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรัก แต่ก็ปนไปด้วยความโกรธ

“เมิงหาน.. ลงมาเดี๋ยวนี้!” หลินเจิ้งกังตะโกนสั่งเสียงดัง

ด้วยความสามารถในการได้ยินของหลินเมิ่งหานและหยิงหยุน แม้ทั้งคู่จะอยู่ในรถ แต่ก็สามารถได้ยินเสียงตะโกนของหลินเจิ้งกังได้อย่างชัดเจน

หลินเมิ่งหานคิดว่าหลิงหยุนคงจะตกใจกลัวพ่อของเธอ และรีบจอดรถอย่างแน่นอน!

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า.. หลิงหยุนเพียงแค่จ้องมองหลินเจิ้งกังจากกระจกหลัง และรีบกลับรถแล้วเหยียบคันเร่งขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว!

“นี่.. นี่มันอะไรกัน?!”

หลินเจิ้งกังมองหลิงหยุนด้วยความประหลาดใจ หงุดหงิด และตกตะลึง..

“จะให้ไล่ตามไปมั๊ยครับท่าน?”

ภายในรถทหารอีกคัน นายทหารผู้ช่วยคนหนึ่งลงมาจากรถอย่างงงๆ พร้อมกับร้องถามหลินเจิ้งกังทันทีที่เห็นคนในรถอีกคันไม่กล้าลงมา แต่กลับรีบขับหนีหลินเจิ้งกัง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นอะไรแบบนี้..

ยิ่งไปกว่านั้น ลูกสาวของผู้บังคับบัญชาของเขาก็นั่งอยู่ในรถคันนั้นด้วย..

“ไม่ต้องตามไป.. รออยู่ที่นี่!”

หลินเจิ้งกังไม่เชื่อว่าทั้งคู่จะไม่กลับมาที่บ้าน และไม่เชื่อว่าลูกสสาวของเขาจะหนีไปที่ใหนได้

“ครับผม!”

………..

“สามี.. นี่นายกำลังจะทำอะไร? นั่นพ่อของฉันนะ!”

ในเวลานั้นเอง.. รถแลนด์โรเวอร์ของหลิงหยุนก็ขับออกจากหมู่บ้านฝูฮัว หลิงหยุนยังคงขับรถออกไปพร้อมกับบฉีกยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า

“ผมรู้ว่านั่นเป็นพ่อของคุณ แต่ให้เขาคอยสักครู่.. รอให้เสร็จธุระสำคัญของเราสองคนก่อน!”

หลิงหยุนหลิ่วตาอย่างไม่สนใจ ส่วนหลินเมิ่งหานก็ได้แต่ยิ้ม..

ใบหน้าของหลินเมิ่งหานแดงก่ำขึ้นมาทันที และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงได้รีบพาเธอกลับมาที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพระเหตุใดจู่ๆ เขาจึงได้มีความต้องการขึ้นมาอย่างเร่งด่วนเช่นนี้

“นี่.. ถ้าพ่อรู้ว่านายทำอะไรฉันนะ เขาต้องยิงนายตายแน่!” หลินเมิ่งหานตอบอายๆ

ระหว่างที่คุยกันไปนั้น หลิงหยุนก็ขับรถแลนด์โรเวอร์ขึ้นไปบนเขาแห่งหนึ่งทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองจิงฉู หลิงหยุนขับเข้าไปลึกพอที่จะไม่มีคนเข้าไปถึงพร้อมกับจอดรถไว้ข้างทาง

“นี่.. นายจอดรถทำไม?!” หลินเมิ่งหานดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างในหัวจึงรีบร้องถามออกมา

หลิงหยุนลงจากรถและสำรวจไปรอบๆ เขาเดินไปเปิดประตู และอุ้มหลินเมิ่งหานลงมาจากรถ

“พวกเราไม่ควรให้ผู้ใหญ่คอยนาน..!”