บทที่ 391 เมื่อคนไร้เดียงสาพยายามหลอกลวง

เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์

เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 391 เมื่อคนไร้เดียงสาพยายามหลอกลวง

สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้แอเรียนไม่ใช่เพราะมันเป็นทางเลือกที่ยาก แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงมุมมองอย่างกะทันหันของมาร์คในเรื่องนี้ มันเพียงพอที่จะทำให้เธอถามตัวเองใหม่ว่าเธอได้สรุปเกินเหตุไปหรือไม่ การคืนดีกันจะเป็นไปได้ไหม? มีเหตุผลที่ดีที่จะมองอีธานในแบบอื่นหรือไม่?

ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างทิฟฟานี่และอีธาน ; สิ่งสุดท้ายที่แอเรียนต้องการคือการต้องทำเลาะกับมาร์คเพราะเรื่องนี้

“โอเค ฉันจะไปคิดดู” เธอยอมจำนนก่อนที่จะพูดต่ออีกว่า “คุณรู้ไหม ถ้าสุดท้ายเรื่องมันจะต้องลงเอยแบบนี้ คุณก็ไม่น่าจะบอกเรื่องนี้กับฉันตั้งแต่แรก คุณจะให้ฉันทำเหมือนฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้อย่างไร? ปัดโถ่เอ่ย! อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันเริ่มจะดึกแล้ว และฉันก็อยากกลับบ้าน คุณจะกลับด้วยกันไหม?”

มาร์คไม่เคยเป็นคนประเภทที่จะค้างคืนที่ห้องทำงานของตนเอง และตอนนี้เธอก็ได้มาหาเขาด้วยตัวของเธอเอง มันทำให้เขาไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้นอีกต่อไป “ไปกันเถอะ.”

ในเวลาเดียวกันที่ห้องพยาบาล ทิฟฟานี่ เลน ที่เหนื่อยล้ากำลังทรุดตัวลงบนที่เท้าแขนหลังจากที่ยืดตัวนอนยาวบนโซฟา

การทำงานในระหว่างวันตามด้วยการดูแลอีธานในตอนกลางคืนในโรงพยาบาลเป็นเรื่องยากแม้สำหรับยอดมนุษย์ แล้วนับประสาอะไรกับทิฟฟานี่ที่อายุเริ่มมากแล้ว เธอคิดว่าตัวเองโชคดีที่เป็นห้องพยาบาลนี้เป็นห้องส่วนตัวที่ตกแต่งด้วยโซฟา ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีที่ให้พักสายตาเลย

ภายใต้ความมืดนั้น อีธานมองดูเธอด้วยสายตาที่หม่นหมอง ครู่ต่อมาเขายืดหลังและลุกขึ้นนั่ง “ทิฟฟี่” เขาครวญ

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “มีอะไร? จะเข้าห้องน้ำหรอ?”

เขาสายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไม่ ไม่มีอะไร ขอบคุณ ฉันว่าอาการฉันดีขึ้นมากและน่าจะกลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ทำไมเธอไม่กลับบ้านก่อน? ฉันรู้สึกผิดเมื่อเห็นว่าเธอเหนื่อยแค่ไหน”

ทิฟฟานี่เหลือบดูเวลาและตัดสินใจที่จะไม่อยู่ต่อ “โอเค ตามนั้น พรุ่งนี้ถ้าถึงบ้านแล้วก็โทรหาฉันด้วยแล้วกัน”

เขาพยักหน้า “รถฉันจอดอยู่ที่ที่จอดรถ — คันเดียวกับคันที่เธอให้ฉันนั้นแหละ ; ฉันมั่นใจว่าเธอน่าจะจำมันได้ ขับมันกลับบ้านสะ พรุ่งนี้ฉันเรียกรถกลับได้”

เธอรับข้อเสนอนั้นทันทีพลางหยิบกุญแจรถมาก่อนที่จะออกจากห้องพยาบาลด้วยอาการงัวเงียของเธอ เธอเริ่มสร่างขึ้นจากความง่วงก็ต่อเมื่อลมเย็นของอากาศกลางคืนพัดเข้าหน้าเธอ

ทิฟฟานี่จ้องมองกุญแจรถในมือของเธอด้วยหลากหลายอารมณ์ในใจ เขายังคงใช้รถที่เธอให้เขาถึงแม้ว่าเขาจะทำรายได้ได้มากพอที่จะซื้อรถคันใหม่มาแทนที่มัน แต่กลับกัน สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากที่มันพังยับเยินจากอุบัติเหตุรถชนคือการซ่อมมัน นั่นทำให้ทิฟฟานี่ไม่ต้องสงสัยในความจริงใจของความรักของเขาแม้แต่น้อยเลยใช่ไหม? กระนั้น ทิฟฟานี่ก็ดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความกระตือรือร้นและความหลงใหลแบบเดียวกับที่เธอเคยมีต่อเขาได้เมื่อไม่นานมานี้

เธอไปถึงที่ชั้นล่างของบ้านพักเธอ หลังจากที่ลงมาจากรถได้ไม่นาน ซัมเมอร์ เวสต์ ก็ประกฏตัวออกมาจากในเงามืด “ทิฟฟ์ ที่รัก ได้โปรดบอกฉันว่าเธอไม่ได้เพียงเล่นกับความรู้สึกของแจ็คสัน”

ทิฟฟานี่ตกใจ ซัมเมอร์มาทำบ้าอะไรที่นี้ในยามค่ำคืนแบบนี้? “เอ่อ-เอิ่ม สะ-สวัสดีค่ะป้าซัมเมอร์! ทำไม… เอิ่ม คุณมาที่นี้ทำไม?”

มันชัดเจนว่าเธอเพิ่งจะขับมาที่นี้เพราะรถ Bentley สีดำของเธอยังจอดอยู่ที่ข้างถนน “เขากลับมากลางค่ำกลางคืนพร้อมบ่นพึมพัมว่าเธอสองคนเลิกกัน ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไร จริงหรอ? เร็วขนาดนี้เลยหรอ? ทำไม่จู่ ๆ ถึงเลิกกันล่ะ? ฉันพูดกับเขาว่า ‘ฉันนึกว่าลูกจะพาทิฟฟานี่กลับมาด้วย ทำไมเธอไม่มาด้วยล่ะ?’ และเขาก็ — เขาทำตัวแปลกมาก! เขาไม่ยอมตอบอะไรฉันเลยไม่ว่าฉันจำถามเรื่องทั่วไปก็ตาม ฉันเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องมาที่นี้” ซัมเมอร์บ่น “ตอนฉันมาถึงดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครกลับมาที่นี้ ฉันเลยตัดสินใจที่จะรอข้างนอกนี่ แต่ไม่ต้องกลัว ; ฉันแค่ถามว่าเธอสองคนเลิกกันทำไม”

ทิฟฟานี่ไม่เคยคาดคิดว่าซัมเมอร์จะมาประจัญหน้าเธอเช่นนี้ เธอจึงใช้เวลานานมากก่อนที่จะตอบกลับแบบติด ๆ คัด ๆ “คะ-คพ-คือ หนู เอ่อ ไม่ดีพอสำหรับเขา หนูรู้สึกอย่างนั้น ครอบครัวหนูถังแดกและเราก็จนมาก ถ้ามาร์ค เทรมอนต์ ไม่ใช่คนใจดีเช่นนี้เราคงจะจมอยู่กับหนี้สินเป็นล้าน ล้าน ดอลลาร์”

น่าเสียดายที่ซัมเมอร์ไม่ได้เชื่อคนง่ายเหมือนแม่ของทิฟฟานี่ “ได้โปรดเถอะสาวน้อย เธอเชื่อว่าฉันจะเชื่อเรื่องนั้นเหรอ? เธอรู้เรื่องฐานะของเราตั้งแต่ก่อนที่เธอจะคบกัน แล้วเธอจะมาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอไม่ดีพอสำหรับเขาอย่างนั้นรึ? อีกอย่าง ฉันมั่นใจว่าฉันบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันไม่สนเรื่องฐานะของบ้านเธอ เธอสำคัญกับฉันมากเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาพากลับบ้าน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ฉันขับมาถึงที่นี้ — เพื่อฟังความจริง”

ทิฟฟานี่ต้องขอบคุณแสงสลัวของยามค่ำคืนที่ปกป้องเธอจากสายตาพิฆาตของซัมเมอร์ ทิฟฟานี่เป็นคนที่ค่อนข้างไร้เล่ห์เหลี่ยมมาโดยตลอดและการโกหกต่อหน้าผู้ใหญ่ที่ฉลาดเฉลียวถือเป็นงานที่ยากลำบากสำหรับเธอ “ตะ-ตะ-แต่ หนูไม่ได้โกหก! เอิ่ม หนูว่าเขาน่าจะบอกเรื่องของเราให้คุณฟังหมดแล้ว และทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง! เราเลิกกันเพราะเรา เอ่อ ตระหนักรู้แล้วว่าเราไม่เหมาะสมกัน จริง ๆ นะคะ!”

ซัมเมอร์เงียบไปครึ่งนาทีจนน่าอึดอัดก่อนที่เธอจะหันกลับไปที่รถของเธอพร้อมพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น เธอสองคนคงจะไม่ใช่เนื้อคู่กัน”

ทิฟฟานี่เฝ้าดูรถของซัมเมอร์หายไปในระยะไกลพร้อมกับรู้สึกว่าหน้าอกของเธอแน่นขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เธออาจจะตกลงที่จะร่วมงานกับแจ็คสันในส่วนของการแสร้ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องโกหกเธอเธอก็ไม่สามารถปัดเป่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั้นออกไปได้

เธอสัญญากับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีกเด็กขาดในอนาคต

ทิฟฟานี่ถูกต้อนรับกลับบ้านด้วยบ้านที่ว่างเปล่าและไร้วี่แววของลิเลียน หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงและเช็คโทรศัพธ์ของตนเองเพียงเพื่อเจอว่าข้อความจากอีธานคนเดียวที่บอกว่า “ถึงบ้านแล้วทักมานะ”

เธอตอบเขาและทิ้งโทรศัพท์ของเธอไว้ข้าง ๆ เมื่อความง่วงค่อย ๆ เข้ามาและในที่สุดก็แทนที่ความหวาดกลัวที่กำลังเดือดปุด ๆ ของเธอ เธอก็ลอยเข้าสู่ห้วงนิทรา

ทิฟฟานี่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ด้วยเสียงวิทยุของลิเลียน “คาดว่าความร้อนจะสูงขึ้นในช่วงสองสามวันนี้ดังนั้นขอแนะนำให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการป้องกันตัว…”

ดูเหมือนว่าลิเลียนจะอยู่ในอารมณ์ที่มีความสุข เธอแต่งตัวสวยและทาครีมกันแดดหนา ๆ บนใบหน้าเพื่อให้ดูเหมือนคนที่เตรียมตัวออกไปข้างนอก

ทิฟฟานี่รีบยกตัวเองขึ้นจากเตียง “แม่จะออกไปข้างนอกเหรอ?”

“อืม!” ลิเลียนตอบพลางฮัมเสียงเพลง “วันนี้แม่มีธุระที่จะต้องจัดการ ลูกดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าเที่ยวเตร่หลังเลิกงานและรีบกลับบ้านด้วยล่ะ เพราะความร้อนนี้ฆ่าคนได้!”

ทิฟฟานี่ไม่เคยเห็นแม่ของเธอแสดงท่าทางสนุกสนานแบบนี้มานานแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะสงสัย “วันนี้แม่อารมณ์ดีชะมัดเลยนะ แม่ถูกล็อตเตอรี่ระดับประเทศหรืออะไร?”