ตอนที่ 1492 มาโดยไม่ได้รับเชิญ (2)
“ไม่ได้” ประมุขวิหารหยกวิญญาณพูดด้วยสีหน้าแข็งกร้าว
“เจ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้” น้ำเสียงของเขายิ่งแข็งเป็นพิเศษ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วมองมุมปากที่แข็งทื่อของประมุขวิหารหยกวิญญาณ “ทำไม?”
“วิหารหยกวิญญาณไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้ามาข้างใน” ประมุขวิหารหยกวิญญาณทำเสียงดุ
ดวงตาที่ใสกระจ่างของจวินอู๋เสียกวาดมองประมุขวิหารหยกวิญญาณตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเย็นชา ความหมายของสายตาชัดจนไม่อาจชัดไปกว่านี้ได้แล้ว
สีหน้าของประมุขวิหารหยกวิญญาณไม่เปลี่ยนไปสักนิด เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ยกเว้นข้า”
“ข้าปฏิเสธ” จวินอู๋เสียพูด
“…………” ประมุขวิหารหยกวิญญาณจ้องเจ้าเด็กหัวดื้อตาแทบถลน [เจ้าเด็กนี่สำคัญตัวเองมากเกินไปไหม? เขาพูดเมื่อไรว่าเจ้าเด็กเวรนี่สามารถปฏิเสธได้?]
“ถ้าท่านกังวลเรื่องศิษย์ในวิหารของท่าน ท่านก็วางใจได้เลย แค่จัดห้องให้ข้าสักห้อง แล้วข้าจะไม่เดินไปไหนมาไหนตามใจชอบ” จวินอู๋เสียเปิดปากพูด นางสังเกตเห็นการแบ่งแยกชายหญิงของที่นี่ ดังนั้นนางจึงไม่ได้พาเจ้าทึ่มเฉียวฉู่มาด้วย
ประมุขวิหารหยกวิญญาณเม้มปากแน่น คันเท้ายิบๆอยากจะเตะเจ้าเด็กก้าวร้าวหัวดื้อนี่ออกไปเต็มแก่
[เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับศิษย์ของเขาเลยสักนิด!!]
“ยังไงก็ไม่ได้!”
จวินอู๋เสียกวาดสายตามองประมุขวิหารหยกวิญญาณ “คนทั่วแผ่นดินต่างพูดว่าวิหารหยกวิญญาณมีสาวงามมากพอๆกับก้อนเมฆ และประมุขวิหารก็คือผู้หญิงที่งดงามน่าหลงใหลมากที่สุดในฮาณาจักรกลาง แต่ไม่มีใครรู้ว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณแท้จริงแล้วเป็นผู้ชาย เป็นไปได้ไหมว่า……มีความลับที่ไม่สามารถให้คนนอกรู้ได้?”
สายตาของจวินอู๋เสียเย็นเยียบราวกับมองทะลุหัวใจคนได้
จวินอู๋เสียจ้องประมุขวิหารหยกวิญญาณเขม็ง จนทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่น่าอับอายลงไปจริงๆ สีหน้าของเขาจึงไม่น่าดูอย่างมาก
“ไอ้เด็กเวร……” เขาหรี่ตา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าเด็กนี่มีความสามารถอยู่บ้างล่ะก็ เขาคงฆ่าทิ้งแล้วโยนเป็นอาหารปลาไปแล้ว “อยากอยู่ก็อยู่ไป แต่ข้าจะเตือนเจ้าเอาไว้! เจ้าห้ามเข้าใกล้ศิษย์วิหารหยกวิญญาณแม้แต่คนเดียว และ! อะไรก็ตามที่เป็นของข้า เจ้าห้ามแตะต้องเด็ดขาด”
พูดจบ ประมุขวิหารหยกวิญญาณก็ดีดนิ้ว หญิงชราผมสีขาวคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แม้ว่าใบหน้าของนางจะเต็มไปด้วยริ้วรอย แต่ก็ไม่มีความหมองคล้ำหรือสายตาฝ้าฟางจากวัยชราเลยแม้แต่น้อย
“ข้ามอบเด็กคนนี้ให้เจ้า หาที่เก่าๆที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆให้เขาอยู่ ให้คนส่งอาหารให้วันละ 3 มื้อ และอย่าให้ศิษย์คนอื่นเข้าใกล้ที่นั่น” สีหน้าของประมุขวิหารหยกวิญญาณน่าเกลียดมากทีเดียว แม้ว่าเขาจะฝืนใจยอมรับคำขอของจวินอู๋เสีย แต่เขาก็ทำด้วยความขัดข้องใจอย่างมาก
[ไอ้เด็กคนนี้บังอาจพูดเป็นนัยว่าเขาอาจทำเรื่องผิดศีลธรรมกับศิษย์ของเขาในวิหารหยกวิญญาณ!]
[ถ้าเขามีเจตนาที่ผิดศีลธรรมจริงๆ เขาคงทำมันไปก่อนหน้านี้นานแล้ว! จะต้องให้เจ้าเด็กนี่มาถามเขาด้วยรึไง?]
ประมุขวิหารหยกวิญญาณจากไปด้วยสีหน้าที่มืดมน ขณะที่ใบหน้าของหญิงชราดูเป็นมิตรอย่างมาก ดวงตาที่มองจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“คุณชายน้อยท่านนี้ ไม่ทราบว่าจะให้เรียกท่านว่ายังไง?”
จวินอู๋เสียตอบอย่างสุภาพว่า “ผู้น้อยแซ่จวิน”
“คุณชายจวิน ข้าชื่อเยว่ เรียกข้าว่ายายเยว่ก็ได้ ด้วยอายุของข้า เรียกข้าว่ายาย คงไม่เสียหายอะไรกระมัง” ยายเยว่หัวเราะขณะมองไปที่จวินอู๋เสีย “คุณชายจวินเชิญทางนี้” พูดจบยายเยว่ก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปด้านในวิหาร
ตอนที่ยายเยว่ปรากฏตัวเมื่อกี้ จวินอู๋เสียสัมผัสไม่ได้เลยว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ แต่พอประมุขวิหารหยกวิญญาณดีดนิ้วทีเดียว ยายเยว่ก็ปรากฏตัวออกมาทันที เห็นได้ชัดว่ายายเยว่ไม่ได้อยู่ห่างจากพวกเขามากนัก
ด้วยพลังวิญญาณสีม่วงขั้นที่ 4 ของจวินอู๋เสีย แต่กลับไม่สามารถรู้สึกถึงตัวตนของยายเยว่ได้เลยแม้แต่น้อย ทำให้จวินอู๋เสียคิดว่ามันค่อนข้างน่าประหลาดใจทีเดียว
ดูเหมือนว่าวิหารหยกวิญญาณจะเป็นสถานที่ที่มีเสือซุ่มมังกรซ่อนอยู่