ตอนที่ 1491 มาโดยไม่ได้รับเชิญ (1)
จวินอู๋เสียไม่เคยคิดเลยว่าทักษะล้วงกระเป๋าที่นางเรียนมาจากใครบางคนจะมีประโยชน์ขนาดนี้!
แมวดำตัวน้อยขยับไปอยู่บนไหล่ของจวินอู๋เสียอย่างเงียบๆ และอดรู้สึกไม่ได้ว่าจวินอู๋เสียเอากุญแจมาจากจื่อจินได้แบบสะดวกง่ายดายอย่างมาก
ภายในวิหารหยกวิญญาณมีเสียงดนตรีไพเราะบรรเลงเหมือนเดิม แต่ไม่มีเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขให้ได้ยิน แต่กลับเป็นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นและเสียงกระซิบที่แผ่วเบาอีกหลายเสียง
จวินอู๋เสียเดินตามเสียงไปช้าๆ จากนั้นนางก็เห็นจื่อจินนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างสระน้ำ สาวๆที่อยู่ข้างๆนางผลัดกันพูดเพื่อปลอบใจเด็กสาว
เมื่อพวกสาวๆเห็นจวินอู๋เสียที่ฝั่งตรงข้ามของสระน้ำ พวกนางก็เข้ามาเบียดเกาะกลุ่มกันและเกิดอาการหวาดผวากันอีกรอบ จากนั้นพวกสาวๆก็กระจัดกระจายกันไปราวกับฝูงนกที่ตื่นตระหนก เหมือนจวินอู๋เสียเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว
สุดท้ายจื่อจินก็ถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียวที่ขอบสระ นางมองจวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ
“เป็นเจ้า! เจ้า! ยังจะกล้ามาที่นี่อีก!” จื่อจินโกรธมากจนดวงตาแดงก่ำ นางดึงเอาแส้หนังที่ห้อยไว้ตรงสะโพกออกมาทันที ดวงตาสีแดงของนางจ้องมองไปที่จวินอู๋เสียเขม็ง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจากความอัปยศอดสู
“…………” จวินอู๋เสียมองจื่อจินที่ทำตัวแปลกอย่างใจเย็น
“เจ้าบังอาจใช้ยาลึกลับกับข้าเมื่อวาน ทำให้ข้าพาเจ้าเข้ามาในวิหาร! เจ้า……เจ้านี่มัน……” จื่อจินยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ หลังจากที่นางได้พูดคุยกับจวินอู๋เสียเมื่อวาน นางก็เซื่องซึมมึนงงเหมือนในหัวมีหมอกหนาจนไม่สามารถตั้งสติได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่ว่านางจะพยายามนึกยังไง นางก็จำได้แค่ภาพที่กระจัดกระจายไม่ปะติดปะต่อ ทำให้นางยิ่งสับสนมากขึ้น
วิหารหยกวิญญาณไม่เคยอนุญาตให้ผู้ชายเข้ามาในวิหาร แต่นางกลับบุ่มบ่ามพาจวินอู๋เสียเข้ามา แม้ว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณจะไม่ได้ตำหนินางเลย แต่จื่อจินก็ยังคงโทษตัวเอง และสิ่งที่ทำให้จื่อจินร้องไห้ก็คือเรื่องที่นางไม่เคยจับมือผู้ชายเลย แต่ในภาพที่ไม่ปะติดปะต่อในหัวนางนั้น มีอยู่ภาพหนึ่งที่จวินอู๋เสียเข้ามาจับมือนาง!
จวินอู๋เสียยังคงมองจื่อจินด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย
จื่อจินทั้งโกรธและหงุดหงิดขณะรอจวินอู๋เสีย ทำให้จวินอู๋เสียยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้น
แม้ว่านางจะใช้ประโยชน์จากจื่อจินเพื่อแทรกซึมเข้ามาในวิหารหยกวิญญาณ แต่นางก็ตกลงร่วมมือกับประมุขวิหารหยกวิญญาณแล้ว ดังนั้นเมื่อมองจากมุมนี้แล้ว จื่อจินไม่เพียงไม่ได้ทำผิด แต่กลับทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
[แต่……ทำไมสีหน้าของนางดูเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องอยู่ล่ะ?]
จวินอู๋เสียไม่ได้รู้เลยว่ายาที่นางให้จื่อจินไปนั้นจะทิ้งแค่ภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ในใจนาง แต่เรื่องเสียงนั้น……
ดังนั้น ความทรงจำของจื่อจินในตอนนั้นจึงมีเพียง……จวินอู๋เสียดึงมือของนางไปวางไว้ที่หน้าอกของจวินอู๋เสีย
“จื่อจิน!” ขณะที่จวินอู๋เสียกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้น เสียงเนือยๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
จื่อจินสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปคุกเข่าตรงหน้าร่างที่ใกล้เข้ามา
“ท่านประมุข”
“ร่างกายเจ้ายังไม่หายดี ไปพักผ่อนเถอะ” ประมุขวิหารหยกวิญญาณมองไปที่จื่อจิน
“เจ้าค่ะ” จื่อจินกัดริมฝีปากเล็กน้อย แล้วออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งจื่อจินออกไปแล้ว ประมุขวิหารหยกวิญญาณจึงเบนสายตามามองที่จวินอู๋เสีย เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและมองผู้เยาว์ที่บุกรุกเข้ามาที่นี่อีกครั้ง
“เจ้าหนู ทำไมถึงมาที่นี่อีก?”
จวินอู๋เสียมองตรงไปที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณและตอบว่า “งานชุมนุมเทพยุทธ์ถูกเลื่อนออกไปอีกครึ่งเดือน และบนยอดเขาก็มีคนอยู่เต็มไปหมด”
“แล้ว?” ประมุขวิหารหยกวิญญาณเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาทันที
“ในฐานะพันธมิตร ช่วงนี้ข้าอยากอยู่ฝึกพลังของข้าที่นี่” จวินอู๋เสียคิดมาละเอียดแล้ว ภูเขาฝูเหยาเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ เหมาะที่สุดสำหรับการฝึกพลัง แต่การฝึกของนางจะต้องไม่ให้ใครรู้มากเกินไปนัก นางจึงตัดสินใจว่า……วิหารหยกวิญญาณอยู่ภายในภูเขาฝูเหยา ถ้าไม่ใช้ที่นี่ก็เสียเปล่าแย่ซิ
ประมุขวิหารหยกวิญญาณหน้าซีดทันที ดวงตาอัลมอนด์ที่มีเสน่ห์ของเขาเบิกกว้าง ปากอ้าค้างด้วยความสยดสยอง