“ดาบพลังฉี?!”

เซี่ยปิงขมวดคิ้วขึ้นมา เขามองอย่างที่ไม่ต้องการมองพร้อมกับแทงหอกออกไป พลังเกลียวที่น่าสะพรึงกลัวได้ทะลวงออกไป กระจายออกไปเป็นชั้นๆ เจาะทะลวงผ่านอากาศ มีความเร็วที่อยู่ในจุดที่ไม่สามารถคาดฝันได้

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมนรก—หอกกำราบปีศาจนรก!

พลังเวทมนตร์ภายในร่างกายของเขาได้เอ่อล้นออกมา หลั่งไหลเข้าไปในหอกอเวจี ข้างหลังของเขาก็มีภาพเงาของประตูขุมนรกที่ปรากฏขึ้นมาลางๆ ออร่าของขุมนรกที่น่าสะพรึงกลัวได้ปะทุออกมาและกวาดออกไปรอบๆ

นี่ก็ทำให้ออร่าของเขาน่าสะพรึงกลัวขึ้นเช่นกัน เป็นเหมือนกับอสุราที่ออกมาจากขุมนรก

อะไรกัน?!

เมื่อรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจของหอกนี้ เหยี๋ยนหยงก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา เพราะว่าเพียงแต่การแทงหอกออกมานั้น ดาบพลังฉีของตนเองที่สามารถตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างกลับถูกทำลายจนกลายเป็นผุยผงอย่างกะทันหัน

แม้แต่พลังงานเกลียวนี้ก็ได้บีบรัดทุกสิ่ง ม้วนกลายเป็นพายุ เจาะทะลวงออกไปเป็นชั้นๆ มาถึงที่ร่างกายของเขาโดยตรง ต่อให้เขาจะต้องการตอบสนองก็ไม่สามารถที่จะตอบสนองได้

สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าก็คือหอกนี้ไม่ใช่แค่เพ่งเล็งมาที่ร่างกายของเขาเท่านั้น ทวาเพ่งเล็งมาที่จิตวิญญาณของเขาเช่นกัน ออร่าของขุมนรกที่กำลังเข้ามา เหมือนกับว่ามีเสียงของเดวิลจำนวนนับไม่ถ้วนที่คำรามออกมา จะต้องกลืนกินจิตวิญญาณของเขาให้ได้

ผู้คนปกติธรรมดาที่เผชิญหน้ากับความผันผวนของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เข้มข้นเช่นนี้ บางทีอาจจะหวาดกลัวจนช็อกตายไปอย่างกะทันหันก็เป็นได้

แม้แต่ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติก็ยังรู้สึกได้ว่าจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองถูกยับยั้งไป สามารถที่จะแสดงพลังอำนาจออกมาได้เพียงแค่70%เท่านั้น อีกทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกายก็เชื่องช้าลงไปอย่างมาก

“นี่มันคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน?!”

สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจอย่างมาก เขาคิดว่าทักษะเพลงดาบของตนเองนั้นไร้ที่ติ ต่อให้จะไม่ได้ถือว่าไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน ทว่าก็ยังมีผู้คนน้อยมากที่จะเผชิญหน้ากับมันได้ ดาบที่ตัดออกไปนั้น แม้แต่เมืองก็สามารถที่จะผ่าเป็นสองซีกได้

ทว่าตอนนี้ทักษะเพลงดาบของตนเองกลับพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ ช่างเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการจริงๆ

ปัง!

วินาทีต่อมา พลังอำนาจของหอกนี้ก็ได้ระเบิดใส่ร่างกายของเขา ทำให้ร่างของเขากระเด็นปลิวออกไปอย่างกะทันหัน กระแทกเข้ากับตึกขนาดใหญ่กว่าสิบตึก กระเด็นไปไกลถึง5-6กิโลเมตร

ทว่าตึกขนาดใหญ่เหล่านี้เหมือนกับจะไม่สามารถต้านทานพลังทำลายล้างได้ แต่ละตึกต่างก็ถล่มทลายลงมา เปลี่ยนกลายเป็นเศษหินนับไม่ถ้วน กระจายออกไปรอบๆ ควันหนาได้ลอยขึ้นมาทั่วทั้งพื้นที่

ที่พื้นก็สั่นสะเทือน มีรอยแตกร้าวจำนวนนับสิบที่ปรากฏขึ้นมาซึ่งเป็นผลกระทบจากคลื่นของพลังอำนาจนี้

ผู้บ่มเพาะที่อยู่รอบๆต่างก็หวาดกลัว โชคดีที่พวกเขานั้นไม่ใช่ผู้คนปกติธรรมดา อย่างน้อยก็มีพลังอำนาจในระดับสมปรารถนา หลบหนีไปจากตึกที่ถล่มลงมาเหล่านี้ได้อย่างกะทันหัน

ไม่อย่างนั้น เพียงแค่ทำลายล้างเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายไปมากแค่ไหน

“อั่ก!”

ท้ายที่สุดร่างของเหยี๋ยนหยงก็ได้อัดเข้าไปกับกำแพงของตึกขนาดใหญ่ตึกหนึ่ง พลังอำนาจที่เผด็จการได้สั่นสะเทือนภายในร่างกายของเขา ทำให้หัวใจของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก กลั้นเลือดที่พุ่งออกมาไม่ได้

ในตอนนี้เขาก็ล่วงรู้ว่าทำไมผู้คนของหอคอยเซียงยุ่นถึงได้ตายไปอย่างน่าสลดเช่นนั้น แม้แต่ผู้อาวุโสและหัวหน้าของพวกเขาที่อยู่ในระดับหล่อหลอมสมบัติก็ไม่สามารถหลบหนีไปจากความตายได้ เดิมทีเป็นเพราะว่าพลังการต่อสู้ของเจ้าเด็กนี่น่าสะพรึงกลัวถึงจนขั้นนี้นี่เอง

“เป็นอะไรไป? ไม่ใช่ว่าข้ามีความผิดที่ต้องรับโทษประหารหรือ? ทำไมถึงไม่สังหารข้า?” เซี่ยปิงมองเหยี๋ยนหยงด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม

ได้ยินเช่นนี้ เหยี๋ยนหยงก็มีสีหน้าที่มืดมนอย่างถึงที่สุด ทว่าก็ยังคงไม่ยอมแพ้ “เจ้าหนู เจ้าอย่ายโสโอหังให้มันมากนัก ที่นี่คือเมืองคริสตัล เป็นอาณาเขตของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของข้า นี่ไม่ใช่ตาของเจ้าที่จะสามารถทำอะไรบ้าบิ่นได้ ข้าขอแนะนำให้……”

“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระมากมาย ข้าขอแนะนำให้เจ้าลงไปพูดคุยกับยมราช!”

เซี่ยปิงไม่ได้มีความสนใจที่จะพูดอะไรกับเหยี๋ยนหยงอีก ศัตรูเช่นนี้ มีแต่ต้องสังหารเท่านั้น!

เขาได้ก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว ในมือกำหอกไว้อย่างแน่น เป็นเหมือนกับเทพเจ้าสงคราม จากนั้นก็กำลังจะโจมตีออกไปด้วยความเร็วที่เสมือนกับเป็นสายฟ้าฟาด

“ไม่นะ!”

เหยี๋ยนหยงมีสีหน้าที่สิ้นหวัง ออร่าจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวได้ปกคลุมพื้นที่ในระยะนับสิบกิโลเมตร เป็นความหนาวเหน็บที่ทิ่มแทงกระดูก หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องก้าวตามร้อยเท้าของหัวหน้าหอคอยเซียงยุ่นไปอย่างแน่นอน ถูกเจ้าอาชญากรนี่สังหารไป

“พวกเจ้ากำลังรออะไรกัน รอให้ข้าตายก่อนหรือจึงจะเคลื่อนไหวออกมา?!”

เหยี๋ยนหยงคำรามออกสู่ท้องฟ้า มีสีหน้าที่ดุร้ายอย่างมาก

คลื่นเสียงเช่นนี้ก่อตัวขึ้นมาเป็นสสาร กระจายออกไปทั่วทั้งเมือง สั่นสะเทือนไปรอบๆ ทำให้ผู้คนที่อยู่ในระยะนี้ปวดแก้วหัว แม้แต่แก้วก็แตกออกมามากมาย

“ฮ่าฮ่า ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าเพียงคนเดียวก็สามารถที่จะสะสางปัญหานี้ได้หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเรา นี่ช่างไม่เหมือนกับเจ้าเอาซะเลย เหยี๋ยนหยง ทว่ามันก็ทำให้ข้าได้เห็นการแสดงที่สนุกสนานเหมือนกัน”

วิซ ภาพเงาทั้งแปดได้บินออกมาจากซอกมุมต่างๆของเมือง แต่ละคนต่างก็มีออร่าที่ทรงอำนาจ กระตุ้นพลังอำนาจของสวรรค์และโลก เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนเป็นยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติ

พวกเขาได้บินเข้ามาอย่างรวดเร็วและยืนอยู่บนอากาศเหมือนกับเป็นเทพเจ้าก็ว่าได้ ล้อมรอบเซี่ยปิงไว้

“นี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าได้เคลื่อนไหวออกมาทั้งหมดหรือ?!”

ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขาก็ล่วงรู้ได้ทันทีว่าผู้คนเหล่านี้คือใคร พวกเขาก็คือผู้พิทักษ์ทั้งเก้าของเมืองคริสตัลซึ่งเป็นยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติ ในช่วงเวลาปกตินั้นเป็นไปได้ยากมากที่จะเห็นพวกเขาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้

ทว่าตอนนี้เมื่อรับมือกับบุคคลที่สร้างปัญหาเพียงแค่คนเดียว ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวออกมาทั้งหมด เห็นได้ชัดว่านี่มีความสำคัญแค่ไหน เรียกได้ว่าพลังอำนาจเกือบทั้งหมดของเมืองคริสตัลได้ปรากฏออกมา

ผู้คนจำนวนมากก็ล่วงรู้ว่าเจ้าเด็กนี่จะต้องตาย การที่เผชิญกับการห้อมล้อมของยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งเก้าคนนี้ มีที่ไหนที่เขาจะรอดชีวิตออกมาได้

“หืมม?!”

รู้สึกได้ถึงออร่าที่ทรงอำนาจเหล่านี้ เซี่ยปิงก็หยุดอย่างกะทันหันและขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะว่าเขานั้นเห็นซูเหลียงอิงหนึ่งในผู้พิทักษ์ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน

“สหายอู๋ ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจอกันอย่างรวดเร็วเช่นนี้ การที่เจ้าฆาตกรรมผู้อื่น อีกทั้งยังได้ทำร้ายผู้พิทักษ์ของเมืองคริสตัลของข้านั้น ข้าคิดว่านี่มันเป็นการกระทำที่ล้ำเส้นเกินไป”

ซูเหลียงอิงมีสีหน้าที่มืดมนพร้อมกับมองไปที่เซี่ยปิง เขาจดจำได้ทันทีว่าเจ้านี่คือชายหนุ่มที่เขาได้พบเจอที่ท่าอากาศยาน ก่อนหน้านี้เขานั้นก็ต้องการที่จะครอบครองผู้หญิงทั้งสี่คนซึ่งอยู่ข้างกายของฝ่ายตรงข้าม ต้องการที่จะแย่งชิงมาเพื่อเตาหลอมเดม่อนของตนเอง

ทว่าในตอนนี้เขาไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ภายในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน เจ้าเด็กนี่กลับก่อเรื่องที่ใหญ่โตขึ้นมา อีกทั้งยังได้ทำลายหอคอยเซียงยุ่น ทำให้องค์กรของพวกเขาเผชิญกับความสูญเสียที่ไม่สามารถจินตนาการได้

โดยเฉพาะการทำลายหอคอยเซียงยุ่นนั้น เขาแทบที่จะคลุ้มคลั่งออกมา เพราะว่าเขานั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยบงการหอคอยเซียงยุ่นอยู่เช่นกัน ตอนนี้การที่ผู้คนของหอคอยเซียงยุ่นถูกสังหารไปส่วนใหญ่นั้น เขาก็เผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรง

สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าตอนนี้เขาเคียดแค้นมากแค่ไหน ต้องการที่จะสังหารเซี่ยปิงใจจะขาด

หากก่อนหน้านี้เขาล่วงรู้ว่าเซี่ยปิงจะกลายเป็นหนามทิ่มแทงเขาเช่นนี้ เขาก็คงจะสังหารฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ที่ท่าอากาศยาน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของเขาเช่นนี้

“ไม่ ไม่ล้ำเส้นเลย ผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าจะต้องตายไปทั้งหมด ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีภูมิหลังเป็นอย่างไรก็ตาม”

เซี่ยปิงยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง “หากพวกเจ้าโค้งคำนับขอโทษข้าและชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินหนึ่งหมื่นล้านเหรียญจักรวาล บางทีก็อาจจะสามารถบรรเทาความโมโหของข้าได้ ไม่อย่างนั้นวันนี้เมืองคริสตัลจะต้องกลายเป็นทะเลเลือดอย่างแน่นอน”

เขาได้เสนอเงื่อนไขของตนเองออกไป

“ผายลม!”

ผู้พิทักษ์คนหนึ่งเดือดระอุขึ้นมา “เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครกัน? เข้ามาฆาตกรรมผู้อื่นในเมืองคริสตัล ไม่เกรงกลัวกฎหมายและสวรรค์ อีกทั้งยังได้ทำให้ผู้พิทักษ์ของเมืองคริสตัลบาดเจ็บเช่นนี้ ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะยังเรียกร้องให้พวกเราจ่ายค่าชดใช้เป็นเงินหนึ่งหมื่นล้านเหรียญจักรวาล?! เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นคนโง่เขลาที่ไม่มีสติปัญญาอย่างนั้นหรือ?!”

ผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็เดือดระอุเช่นกัน คิดว่าเจ้าเด็กนี่ไม่เกรงกลัวกฎหมายและสวรรค์แม้แต่น้อย อีกทั้งยังยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา แม้แต่พวกเขาผู้พิทักษ์ทั้งเก้าก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเจ้าเด็กนี่ ไม่คาดคิดว่าจะต้องการให้พวกเขาจ่ายค่าชดใช้เช่นกัน เห็นพวกเขาเป็นมดปลวกที่สามารถบดขยี้ได้ทุกเมื่อหรือ?!

การยั่วยุเช่นนี้ มีที่ไหนที่พวกเขาจะอดทนอดกลั้นได้!

ซูเหลียงอิงก็กัดมุมปาก เขาคิดว่าตนเองได้มาพบกับบุคคลที่เสียสติอย่างแท้จริง

“ข้าเป็นใครรึ? บุรุษลูกผู้ชายเดินไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ นั่งไม่ยอมเปลี่ยนแซ่ ข้าคืออู๋ไท่โต่ว!”

เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมาจนส่งเสียงดัง “ข้าก็รู้ว่าพวกเจ้าคงจะไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้ ทว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อข้าสังหารพวกเจ้าไป2-3คน พวกเจ้าก็คงจะยอมรับกันได้อย่างรวดเร็ว”

สายตาของเขาเผยแสงที่โหดเหี้ยมออกมา