อะไรนะ?!

หลังจากที่ประกาศออกมาเช่นนี้ ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าก็รู้สึกได้ถึงออร่าคลุ้มคลั่งที่เอ่อล้นออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิงทันที ดูเหมือนกับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าได้ อากาศสั่นสะท้าน ออร่านี้ได้ปกคลุมทั่วทั้งเมืองคริสตัลอย่างกะทันหัน พื้นดินก็สั่นไหวเล็กน้อย

ภายในเมืองคริสตัล ผู้บ่มเพาะบางคนที่มีพลังอำนาจอ่อนแอนั้นได้หวาดกลัวจนล้มลงไปนอนกับพื้นโดยตรง แม้แต่บางคนก็ถึงกับหมดสติไปในทันที ผู้ที่มีพลังวิญญาณที่อ่อนแอนั้นไม่สามารถที่จะรับมือกับความกดดันเช่นนี้ได้

“ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่บุคคลที่ยโสโอหังเท่านั้น พลังอำนาจนี้ไม่ใช่เรื่องตลกเลย”

ซูเหลียงอิงและคนอื่นๆก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที เส้นประสาทรัดแน่น ในฐานะผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้น พวกเขาย่อมที่จะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมมากกว่าคนอื่นๆ แน่นอนว่าสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งแอบแฝงอยู่ภายในร่างกายของเซี่ยปิง

เมื่อใดที่ปะทุออกมา บางทีอาจจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้!

หากฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงแค่บุคคลที่พูดจาใหญ่โตเท่านั้น ก็คงจะไม่เป็นอะไร ทว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ทำลายหอคอยเซียงยุ่นด้วยตัวคนเดียว ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติหลายคนก็ถูกเขาสังหารไปในพริบตา

บุคคลเช่นนี้ไม่สามารถที่จะประเมินความสามารถต่ำไปอย่างแน่นอน

ทว่าเหยี๋ยนหยงก็เป็นผู้ที่รับรู้ได้ถึงพลังอำนาจของเซี่ยปิงเป็นอย่างดี เพราะว่าถึงอย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็ได้ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม เพียงแค่ไม่นานก็เอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่มีพลังอำนาจที่จะโต้ตอบแม้แต่น้อย

“ระวังตัวด้วย เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดา หากพวกเราไม่ระวังตัว บางทีอาจจะถูกฆ่าล้างได้” เหยี๋ยนหยงถ่ายทอดข้อความลับออกไปสู่ทุกคน แอบเตือนผู้พิทักษ์อีกแปดคนให้ระวังตัว

“นี่มันตลกสิ้นดี อาจจะถูกฆ่าล้างหรือ? พวกเราผู้พิทักษ์ทั้งเก้าที่ร่วมมือกันนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะพ่ายแพ้ให้กับเจ้าเด็กนี่ เขาคิดว่าตนเองเป็นยอดฝีมือในระดับแกนทองหรือ?”

ผู้พิทักษ์คนหนึ่งที่แสดงความไม่เห็นด้วยทันที คิดว่านี่เป็นการยกยอศัตรูมากเกินไปและดูถูกดูแคลนพวกเดียวกัน

“ไม่ ข้าก็รู้สึกได้ว่าเจ้าเด็กนี่มีพลังอำนาจที่ไม่ธรรมดา หากต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งนั้น พวกเราไม่ใช่คู่มือของเขาอย่างแน่นอน”

“ใช่ ทว่าที่นี่ก็คือเมืองคริสตัล เป็นอาณาเขตของพวกเรา ไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับฝ่ายตรงข้าม”

“พูดถูก บางทีหากปล่อยให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อออกไป ทั่วทั้งเมืองคริสตัลอาจจะเผชิญกับการทำลายล้างได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้สร้างมานานหลายปีจะหายไปทั้งหมด”

“พวกเราโจมตีเจ้าคนเสียสตินี่ด้วยพลังอำนาจทั้งหมด ไม่จำเป็นที่จะต้องยั้งมือหรือพูดถึงเรื่องคุณธรรมกับเขา”

ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าคนได้สื่อสารกับผ่านทางข้อความลับ พวกเขาได้แลกเปลี่ยนมุมมองกัน หากพวกเขาร่วมมือกัน แน่นอนว่าคงจะไม่มีปัญหาในการสังหารเจ้าอู๋ไท่โต่วนี่ ทว่าพลังการต่อสู้ในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้นก็มีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป

ต่อให้จะเป็นการต่อสู้เก้าต่อหนึ่ง ทว่าภายใต้การทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีของยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้น ก็สามารถที่จะทำลายเมืองคริสตัลได้อย่างง่ายดาย

ต้องรู้ด้วยว่าเมืองคริสตัลนั้นเป็นเมืองที่พวกเขาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อบริหารดูแลจนพัฒนามาได้ถึงทุกวันนี้ เป็นความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของพวกเขา เป็นหนึ่งในฐานทัพของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง พวกเขาไม่ต้องการที่จะให้การต่อสู้นี้ทำลายล้างเมืองคริสตัลอย่างแน่นอน นี่จะเป็นเหมือนการขูดเลือดขูดเนื้อของพวกเขาออกมาก็ว่าได้

ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันจะเป็นการดีที่สุดหากจะสังหารเจ้าอู๋ไท่โต่วนี่อย่างกะทันหัน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำลายล้างเมืองของพวกเขาไปมากกว่านี้

“ข้อขอเสนอให้เปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศของเมืองคริสตัล สังหารศัตรูผู้นี้ให้รวดเร็วที่สุด กำจัดปัญหาให้หมดสิ้นไป” ซูเหลียงอิงได้ถ่ายทอดข้อความออกไป ออร่าของจิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา ดูชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด

เขาแสยะออกมา เดิมทีเขาต้องการที่จะจัดการเจ้าอู๋ไท่โต่วนี่อย่างช้าๆและแย่งชิงผู้หญิงของเขามา ทว่าแผนการกลับล้มเหลว ไม่คาดคิดว่าเจ้าเด็กนี่จะโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ มาที่เมืองคริสตัลเพื่อสร้างปัญหา

ทว่านี่ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน ในตอนนี้เขาก็สามารถที่จะหาเหตุผลในการปลิดชีวิตของเจ้าเด็กนี่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ผู้หญิงหลายคนข้างกายของเจ้าเด็กนี่และสมบัติทุกอย่างก็ต้องตกมาเป็นของเขา

อะไรนะ?!

เหยี๋ยนหยงและคนอื่นๆต่างก็มีสายตาเป็นประกาย ค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศนั้นเป็นหนึ่งในอาวุธลับสุดยอดของเมืองคริสตัล หากไม่เผชิญกับสถานการณ์วิกฤติจริงๆจะไม่มีทางใช้ออกมา

เพราะว่าเมื่อใดที่เปิดใช้ มันจะไม่มีการผ่อนปรนอีกต่อไป ชนิดที่จะต้องสังหารศัตรูให้ได้ พลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการเปิดค่ายกลนี้แต่ละครั้งนั้นก็ถือว่ามหาศาล

ในช่วงเวลานี้ปกตินั้นพวกเขาต่างก็ไม่ต้องการที่จะใช้งานมัน

“ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป!”

“พูดถูก เปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศ สังหารเจ้าเด็กนี่”

“เห็นด้วย”

อย่างรวดเร็ว ผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็เห็นด้วยกับความคิดของซูเหลียงอิงทันที เพราะว่าพวกเขาก็สัมผัสได้ว่าเซี่ยปิงมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง หากไม่สังหารไปในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาใหญ่โตแค่ไหนขึ้นในอนาคต

พวกเขาก็เป็นกลุ่มผู้คนที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเช่นกัน เมื่อใดที่ตัดสินใจแล้วนั้น ก็จะลงมือทันที ทันใดนั้นก็เริ่มเปิดใช้งานค่ายกลของเมืองคริสตัล

“หืมม?” เซี่ยปิงขมวดคิ้วขึ้นมา

เขาค้นพบว่าผู้พิทักษ์ทั้งเก้านี้ได้ประสานมือของตนเอง เหมือนกับว่าจะกระตุ้นพลังอำนาจค่ายกลของเมืองแห่งนี้ เมืองคริสตัลก็ได้เปลี่ยนแปลงไปราวกับฟ้ากับเหวอย่างกะทันหัน

เดิมทีบนท้องฟ้าที่สดใสและไร้ขอบเขตนั้น ในช่วงเวลานี้มันปกคลุมไปด้วยหมอกที่หนาทึบ ก้อนเมฆและหมอกได้ม้วนรวมกัน ลอยเหมือนกับทางช้างเผือกก็ว่าได้ เหมือนกับว่าจะก่อตัวขึ้นเป็นสสาร หลั่ว หลั่ว ส่งเสียงดังออกมา ดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า

ทั่วทั้งเมืองก็ปกคลุมไปด้วยพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวบางอย่าง กำแพงเมือง ท้องถนนและตึกขนาดใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็มีแสงสีครามส่องสว่างออกมา เหมือนกับว่าจะปกคลุมทุกซอกทุกมุม

หล่ง หล่ง หล่ง~

บนอากาศ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ทั้งสี่ทิศ เหมือนกับว่าจะมีภาพเงาของมังกรคราม พยัคฆ์ขาว นกปีศาจ เต่าทมิฬและอสูรศักดิ์สิทธิ์อื่นๆที่ทะยานขึ้นมา พวกมันเหล่านี้ควบแน่นขึ้นมาจากออร่าความชั่วร้ายทั้งหมด

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ภาพเงา ทว่าก็มีพลังอำนาจที่ไร้เทียมทาน

ในช่วงเวลาที่ภาพอสูรทั้งสี่ตัวนี้ได้ปรากฏขึ้นมานั้น ทุกๆคนที่อยู่ในเมืองคริสตัลเหมือนกับตกอยู่ภายใต้ทักษะยับยั้งร่างกายก็ว่าได้ พวกเขาต่างก็หยุดนิ่ง เพราะว่าพลังอำนาจของค่ายกลนี้ที่ไหลเวียนออกมาอย่างกะทันหันนั้น เหมือนกับว่าจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้แข็งตัว

พวกเขาต่างก็แตกตื่นอย่างมาก เพราะว่าภายใต้ค่ายกลนี้ เหมือนกับว่าพลังเวทมนตร์ภายในร่างกายของพวกเขาจะติดขัด ไม่สามารถไหลเวียนได้

“ไม่นะ! ไม่คาดคิดว่าจะเปิดใช้งานค่ายกลของเมืองคริสตัลขึ้นมา?”

“อันที่จริงพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังแค่ไหนกัน ถึงกับต้องเปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศเลยรึ?!”

ผู้บ่มเพาะจำนวนมากต่างก็ช็อกไปตามๆกัน นับตั้งแต่ที่เมืองคริสตัลก่อตั้งขึ้นมาจนถึงตอนนี้นั้น จำนวนครั้งในการเปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศนั้นก็เป็นจำนวนที่สามารถนับได้ มีการเปิดใช้งานที่น้อยมาก

นอกจากนี้เมื่อผ่านไปนานโดยที่ไม่เปิดใช้งานค่ายกลนี้เลยนั้น ผู้คนจำนวนมากก็ได้หลงลืมว่าเมืองคริสตัลมีค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศที่น่าสะพรึงกลัวนี่อยู่เช่นกัน

ทว่าตอนนี้การที่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าของเมืองเปิดใช้งานมัน ผู้คนของเมืองคริสตัลก็จดจำได้ถึงค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้อย่างกะทันหัน

“ค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศ? ไม่คาดคิดว่าจะมีค่ายกลเช่นนี้ติดตั้งอยู่ภายในเมืองคริสตัล?”

เซี่ยปิงขมวดคิ้วขึ้นมา ภายในไม่กี่ลมหายใจ ก้อนเมฆมืดครึ้มก็ปกคลุมท้องฟ้าในระยะกว่าพันกิโลเมตร ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ได้ลอยอยู่บนอากาศ มีเส้นลวดลายเป็นสีเงิน

จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ได้แผ่กระจายออกไป ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ว่าทั่วทั้งเมืองคริสตัลที่รองรับประชากรได้นับสิบล้านคนนั้น ในช่วงเวลานี้ได้ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ ถนนแต่ละสายของเมืองเหมือนกับว่าเปลี่ยนกลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลนี้ แสงสีครามส่องประกายออกมาทั่วทั้งเมือง

ลึกลงไปใต้ดิน มิธริล หินวิญญาณ เหล็กไมก้า ทองคำ อำพันและแร่ที่ล้ำค่าอื่นๆ พวกมันต่างก็กลายเป็นฐานพลังงานของค่ายกลนี้ ทำให้ค่ายกลนี้ไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง

ตึกแต่ละตึกภายในเมืองคริสตัลเหมือนกับว่าจะเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เหมือนกับว่าก่อตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ ดูเหมือนว่าจะมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดพลังอำนาจออกไป ถ่ายทอดไปสู่ส่วนลึกของค่ายกล

“ร้ายกาจ ไม่คาดคิดว่าจะควบแน่นทั่วทั้งเมืองให้กลายเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ ช่างเป็นผลงานของยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมจริงๆ”

เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงจะไม่สามารถมองเห็นได้ถึงความลึกลับและความลึกซึ้งของเมืองคริสตัลแห่งนี้ ทว่าการที่เขาได้เรียนรู้ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดจนสำเร็จ อีกทั้งได้ศึกษารูปแบบของรากฐานค่ายกลกว่า108,000ชนิดนั้น วิสัยทัศน์ของเขาก็กว้างไกลขึ้นมาก

เขาล่วงรู้ได้ทันทีว่าระบบของเมืองคริสตัลนั้นจะต้องถูกสร้างขึ้นมาโดยยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์ ทุกๆปีจะต้องทำการชะล้างแร่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นมิธริล หินวิญญาณ เหล็กไมก้า ทองคำ อำพันและแร่ล้ำค่าอื่นๆ อีกทั้งด้วยการบ่มเพาะด้วยผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนนั้น มันก็ได้ทำให้ทั่วทั้งเมืองหลอมรวมกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ ผสมผสานเข้าด้วยกัน

เมื่อใดที่ไหลเวียนค่ายกลของเมืองนี้ พลังอำนาจที่แสดงออกมานั้นก็จะเหนือธรรมชาติ น่าสะพรึงกลัวและไร้ขีดจำกัด