ทันทีที่ค่ายกลเปิดใช้งาน ทหารจำนวนมากของเมืองคริสตัลก็ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน

“ไม่คาดคิดว่าผู้พิทักษ์ทั้งเก้าจะเคลื่อนไหวออกมา อีกทั้งยังเปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศ ท้ายที่สุดแล้วใครกันที่รนหาที่ตายเช่นนี้?”

“การที่กล้าเข้ามาสร้างปัญหาในเมืองคริสตัลนั้น เป็นระยะเวลานานแค่ไหนกันที่พวกเราไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ศัตรูผู้นั้นเบื่อหน่ายกับชีวิตหรือ? เขามีภูมิหลังเป็นอย่างไรกัน?”

“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่เขาเข้ามาในเมืองคริสตัล ข้างกายของเขาก็มีผู้หญิงหลายคนเช่นกัน คงจะเป็นนายน้อยที่ต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง บางทีอาจจะเป็นยอดฝีมือมือใหม่ที่มาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่”

“นายน้อยของตระกูลที่ยิ่งใหญ่? บุคคลเช่นนี้ข้าเห็นมามากแล้ว พึ่งพาการที่ตนเองมีฝีมืออยู่เล็กน้อย สร้างปัญหาขึ้นมาทุกหนแห่ง หารู้ไม่ว่าจักรวาลนั้นกว้างใหญ่เพียงใด เป็นไปได้หรือที่นายน้อยของตระกูลเล็กๆจะอาละวาดภายในจักรวาลได้อย่างอิสระ?”

“ใช่ การที่ท้าทายพวกเรากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั้น เจ้าเด็กนั่นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ใช่ ตัวสร้างปัญหาเช่นนี้จะต้องถูกสังหารไป ศีรษะของเขาจะต้องถูกแขวนไว้ที่กำแพงเมือง เป็นการเตือนผู้อื่นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง ไม่อย่างนั้นหมาแมวที่ไหนก็จะคิดเข้ามาสร้างปัญหาในเมืองคริสตัลของพวกเรา ในอนาคตพวกเราอาจจะเผชิญกับปัญหาที่ไม่รู้จบได้”

“ข้าเห็นด้วย ข้าคิดว่าหลังจากที่เขาตาย พวกเราควรมาแบ่งผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของเขา ให้พวกเธอได้ลิ้มลองความสุขของการเป็นผู้หญิง”

ทหารของเมืองคริสตัลจำนวนมากต่างก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ออร่าจิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา ทหารจำนวนมากก็วางแผนที่จะจับตัวเจียงยารุและคนอื่นๆมาเช่นกัน เป็นการหลีกเลี่ยงการที่พวกเธอจะหลบหนีออกไป

ในช่วงเวลานี้ บนอากาศ เซี่ยปิงกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้พิทักษ์ทั้งเก้าของเมืองคริสตัล

“อู๋ไท่โต่ว”

ผู้พิทักษ์ที่สวมชุดคลุมสีขาวได้ตะโกนเสียงดังออกมา “เจ้ารีบมัดมือมัดเท้าและยอมจำนนซะ การที่มีค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศอยู่นั้น เจ้าก็เป็นเหมือนกับเต่าในขวดโหล ไม่มีที่ให้เจ้าหลบซ่อนตัว เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีออกไปจากเมืองคริสตัลได้”

น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยออร่าความชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุด ดูเหมือนว่าเป็นน้ำเสียงที่สามารถที่จะสยบผู้คนได้ บางทีภายใต้เสียงนี้ ผู้บ่มเพาะปกติธรรมดาอาจจะหวาดกลัวจนไม่หลงเหลือความกล้าหาญแม้แต่น้อย

ผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็มีสายตาที่ล้ำลึกเช่นกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าในตอนนี้ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมนั้น ทว่าพวกเขาก็ต้องการที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างระมัดระวัง เพราะสุดท้ายแล้วใครจะไปรู้กันว่าพลังอำนาจของยอดฝีมือระดับหล่อหลอมสมบัติที่ทุ่มสุดตัวนั้นจะเป็นอย่างไร

หากสามารถที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียกำลังใจในการต่อสู้ได้โดยการพูดและทำให้ยอมจำนนนั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา ไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ก็สามารถที่จะจับตัวเจ้าศัตรูนี้ได้

“หลบหนี? พวกเจ้านี่ช่างหยิ่งผยองจริงๆ การที่ข้าตั้งใจจะสังหารพวกเจ้าทั้งหมดนั้น ทำไมข้าจะต้องหลบหนีกัน!”

ร่างกายของเซี่ยปิงกระพริบหายไปในทันที หายไปในอากาศอย่างกะทันหัน

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์—ย่างก้าวหยานเป่ย!

แผ่นหลังของเขามีปีกโปร่งใสที่งอกขึ้นมา ปีกคู่นี้ได้ผสมผสานเข้ากับปีกของอีกานรกทองคำเช่นกัน ทำให้ความเร็วของเขาอยู่ในจุดที่ไม่สามารถจินตนาการได้ รวดเร็วเหมือนกับการกระโดดข้ามมิติก็ว่าได้

ต่อให้จะมีพลังอำนาจของค่ายกลที่ยับยั้งอยู่ มันก็ไม่สามารถที่จะลดความเร็วของเขาลงได้

ภายในหนึ่งวินาที เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างหลังผู้พิทักษ์คนนี้ หอกอเวจีได้เจาะทะลวงออกไป

“ทำไมถึงรวดเร็วเช่นนี้?!”

ซูเหลียงอิงสะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที ต้องรู้ด้วยว่าตอนนี้พวกเขาได้เปิดใช้งานค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศ อากาศเต็มไปด้วยออร่าที่ชั่วร้ายอย่างที่ไร้ที่สิ้นสุดของค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ซึ่งดึงออกมาจากใต้ดินลึก ทำให้อากาศก่อตัวเป็นสสาร

นอกจากพวกเขาที่เป็นผู้ควบคุมค่ายกลนี้ คนอื่นๆที่ต้องการจะเดินอย่างอิสระภายใต้ค่ายกลนี้นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผู้ที่มีพลังอำนาจอ่อนแอนั้น จะถูกกดทับลงไปจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย

ทว่าเจ้าเด็กนี่กลับไม่มีท่าทีของการถูกยับยั้ง สามารถที่จะแสดงความเร็วที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ออกมาได้

“เจ้าโง่!”

ผู้พิทักษ์ชุดคลุมสีขาวคนนั้นได้แสยะออกมาอย่างต่อเนื่อง “ภายใต้ค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศนั้น ข้าจะกลายเป็นบุคคลที่ไร้เทียมทาน ฐานค่ายกลนี้สามารถที่จะมอบพรให้กับข้าได้ พลังอำนาจของข้าจะเพิ่มขึ้นมานับสิบเท่า การที่เจ้าคิดจะต่อสู้กับข้านั้น นี่จะเป็นการนำพาภัยพิบัติไปสู่ตนเอง!”

เมื่อใดที่เปิดใช้งานค่ายกลนี้ มันจะไม่ใช่มีผลเพียงแค่การยับยั้งผู้คนภายในนี้และขัดขวางทุกการเคลื่อนไหวของศัตรูเท่านั้น ทว่าพลังอำนาจของค่ายกลนี้ก็ยังสามารถที่จะประทานพรให้กับพวกเขาที่เป็นผู้ควบคุมค่ายกล ทำให้พละกำลัง ความเร็วและพลังของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า

นี่ก็คือความน่าสะพรึงกลัวของค่ายกลนี้ เป็นเหมือนกับการที่สวรรค์ประทานพรให้กับพวกเขา ได้รับพรที่ทำให้ทะยานขึ้นสวรรค์

ภายใต้ฝ่ายหนึ่งที่เพิ่มและอีกฝ่ายที่ลดนั้น ถามว่าศัตรูจะต่อกรกับพวกเขาผู้พิทักษ์ทั้งเก้าได้อย่างไร?!

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์—อสนีบาต!

ทันใดนั้น ผู้พิทักษ์ชุดขาวก็ได้เคลื่อนไหวออกมา ร่างกายของเขามีกระแสไฟฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาทันที เสียงช็อตดังขึ้นมา เหมือนกับเป็นเทพเจ้าสายฟ้าที่จุติลงมาก็ว่าได้

มือของเขาดูเหมือนว่าจะควบคุมพลังอำนาจของสายฟ้าและควบแน่นกลายเป็นหอกสายฟ้ายาว จากนั้นก็ได้แทงออกไป ปะทะเข้ากับพลังอำนาจของหอกอเวจี

ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ ภายใต้พรของค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศนั้น มันมีพลังอำนาจที่เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า สายฟ้าเปลี่ยนกลายเป็นขนาดที่เท่ากับถังน้ำ มีพลังทำลายล้างอย่างมหาศาล

ผู้บ่มเพาะปกติธรรมดาที่สัมผัสเข้าไปนั้น จะต้องถูกไฟฟ้าช็อตจนไหม้เกรียมอย่างกะทันหัน

ทว่าภายในพริบตาที่ทั้งสองพลังอำนาจปะทะกัน ผู้พิทักษ์ชุดขาวก็รู้สึกงุนงงทันที รอยยิ้มที่พึงพอใจของเขาได้หายไปจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว สิ่งที่มาแทนก็คือสีหน้าความแตกตื่นรวมถึงความตกใจ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?! ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะสามารถต้านทานอสนีบาตของชายชราผู้นี้ได้?!”

ผู้พิทักษ์ชุดขาวกรีดร้องออกมา เขารู้สึกได้ว่าทันทีที่หอกสายฟ้าของเขาที่ปะทะเข้ากับหอกอเวจีนั้น ถูกพลังงานฉีของฝ่ายตรงข้ามฉีกทำลายทันที เป็นเหมือนกับพลังเกลียวก็ว่าได้ ฉีกขาดอย่างสมบูรณ์

แม้แต่พลังอำนาจสายฟ้าก็เป็นเช่นกัน เป็นเหมือนกับกระดาษที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆก็ว่าได้

หากมีเพียงแค่นี้ เขาก็ไม่ได้หวาดกลัว เพราะว่าสายฟ้านั้นมีคุณสมบัติในการส่งผ่านอยู่ เขาสามารถถ่ายทอดพลังอำนาจของสายฟ้าผ่านหอกออกไป เจาะเข้าไปที่ร่างกายของเจ้าเด็กนี่ ให้ไฟฟ้าช็อตเจ้าเด็กนี่จนตายทั้งเป็น

ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่ามีศัตรูจำนวนมากแค่ไหนที่ถูกไฟฟ้าดูดภายใต้อสนีบาตของเขา ตายไปโดยที่ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสิ้น

แต่ปัญหาก็คือว่าหลังจากที่พลังอำนาจของสายฟ้าได้เข้าไปในร่างของเจ้าเด็กนี่ เจ้าบัดซบนี่กลับไร้รอยขีดข่วน เหมือนกับว่าเป็นแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ก็ว่าได้ ดูดกลืนพลังงานสายฟ้าของเขาเข้าไปจนหมดจด

ถามว่าการที่การโจมตีที่ดีที่สุดของเขา ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอำนาจที่สุดของเขา ต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามนั้นมันกลับเป็นเพียงแค่เรื่องตลก เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะยอมรับเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้?!

“ตายซะ!”

เมื่อเซี่ยปิงใช้หอกเจาะทะลวงผ่านอสนีบาตของฝ่ายตรงข้ามไป ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ประเคนหมัดข้างซ้ายออกไป หมัดนี้มีพลังอำนาจของสายฟ้าที่แอบแฝงอยู่ด้วย

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์—หมัดสายฟ้า!

มือซ้ายของเขาได้คว้าออกไป ทันใดนั้นก็ได้คว้าพลังงานสายฟ้าบนอากาศเข้ามาในมือ ส่วนลึกของฝ่ามือมีค่ายกลสายฟ้าปรากฏขึ้นมา มีลวดลายที่หนาแน่น เหมือนกับว่าจารึกอยู่ในส่วนลึกของความว่างเปล่าก็ว่าได้

หมัดนี้ได้ถูกประเคนออกไปโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย พุ่งเข้าไปสู่ผู้พิทักษ์คนนี้ในทันที มีความเร็วที่รวดเร็วจนถึงจุดที่จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถสัมผัสได้

“ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย อ๊าก!”

ผู้พิทักษ์คนนั้นส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ร่ำไห้ขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง เขารู้สึกได้ถึงวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ หากไม่สามารถที่จะป้องกันหมัดนี้ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน จะต้องถูกหมัดนี้อัดจนระเบิดออกมา

อะไรนะ?!

ซูเหลียงอิงและคนอื่นๆต่างก็ตกใจ เดิมทีพวกเขาคิดว่าการที่มีพรของค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศนั้น ต่อให้ผู้พิทักษ์คนนี้จะไม่ใช่คู่มือของเจ้าอู๋ไท่โต่ว ก็คงจะสามารถต้านทานไว้ได้ระยะหนึ่ง

ทว่าใครจะคิดกัน เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว ก็ถูกอัดจนอยู่ในสภาพที่สิ้นหวังเช่นนี้ ตกอยู่ในวิกฤติความเป็นความตาย

ทว่าความเร็วของหมัดเซี่ยปิงนั้นก็รวดเร็วเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็อยู่ห่างจากผู้พิทักษ์คนนี้พอสมควร ด้วยความเร็วเช่นนี้และระยะห่างของพวกเขานั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน

ปัง!

วินาทีต่อมา ทุกๆคนในเมืองคริสตัลก็ได้เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นสายฟ้าที่ผ่าอยู่บนอากาศ เหมือนกับว่าจะฉีกท้องฟ้ากลายเป็นสองซีก แสงส่องสว่างเจิดจ้าออกมา เกือบที่จะทำให้ผู้คนตาบอด

จากนั้นเสียงร้องที่น่าสมเพชก็ได้ดังขึ้นมา หน้าอกของผู้พิทักษ์คนนั้นถูกเจาะทะลวงเข้าไป เลือดไหลออกมา พลังงานสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ลุกลามไปทั่วทั้งร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ร่างกายของเขาพองขึ้นมาเหมือนเป็นลูกโป่งก็ว่าได้

ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดออกมาและเปลี่ยนกลายเป็นผุยผง