ตอนที่ 346: ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 346: ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

เจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงไม่ใช่นักรบธาตุแสง นักรบธาตุแสงประสบความสำเร็จในการใช้วิญญาณของพวกเขาในการเพิ่มพูนและเพิ่มความแข็งแกร่งในการควบคุมพลังเซียนธาตุแสงในโลกเพื่อรักษาคน นักรบธาตุแสงบ่มเพาะเหมือนคนอื่น ๆ เพื่อต่อสู้และเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง จิตวิญญาณเป็นเรื่องรองเพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขา ดังนั้นถ้ำธาตุแสงจะไม่มีประสิทธิภาพสำหรับเขามากเท่าไหร่เพราะเขาไม่ได้เป็นผู้บ่มเพาะธาตุแสง

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงและนักรบธาตุแสงมีชื่อที่แตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่พวกเขาเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะที่แตกต่างกัน 2 เส้นทาง ฝ่ายหนึ่งมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ ส่วนอีกฝ่ายมุ่งเน้นไปที่พลังเซียน

เขารีบออกจากถ้ำธาตุแสงอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินรู้ว่าถ้ำธาตุแสงนั้นมีไว้สำหรับทำความเข้าใจซึ่งมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา ไม่เพียงแค่นั้นแต่เขายังไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกเจ็บปวดได้

จากนั้นเจี้ยนเฉินก็เข้าไปในถ้ำอื่น เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น เนื่องจากพลังเซียนภายในของเขาไม่มีธาตุ เขาจึงไม่รู้สึกว่าตัวเองสัมพันธ์กับถ้ำใด

เจี้ยนเฉินมาถึงบริเวณพื้นที่ที่สามซึ่งเป็นกำแพงภูเขาขนาดมหึมา มีถ้ำขนาดใหญ่ 8 แห่งที่ผิดปกติตั้งอยู่บนผนังกำแพง ในขณะที่ถ้ำส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนที่สูงมากบนผนัง ถ้ำที่ต่ำที่สุดนั้นสูงเพียง 30 เมตร ส่วนถ้ำที่สูงที่สุดคือ 100 เมตรขึ้นไปเกือบจะถึงยอดผนัง ผนังกำแพงเรียบเนียนราวกับกระจกเงาที่ส่องแสงไร้รอยขีดข่วน หมายความว่าคนที่ไม่มีพละกำลังจะปีนขึ้นไปไม่ได้

ตรงทางเข้าถ้ำมีข้อความถูกแกะสลักไว้อยู่,ถ้ำแห่งแรกนั้นมีคำว่า “สิ่งที่เหลืออยู่ของเซียนระดับราชา ขั้นสวรรค์ที่ 2 หยุนหยางหวูตี้”

ถ้ำสูงสามถ้ำด้านบนมีข้อความว่า “สิ่งที่เหลืออยู่ของเซียนระดับราชา ขั้นสวรรค์ที่ 9 เทียนฉินหยู ! ” “สิ่งที่เหลืออยู่ของเซียนระดับราชา ขั้นสวรรค์ที่ 9 สือวู่หยา ! ” “เซียนระดับราชา ขั้นสวรรค์ที่ 9 หลางซีเซี่ยซุน ! “

ดวงตาของเจี้ยนเฉินกวาดไปทั่วถ้ำอย่างพิถีพิถัน. ถ้ำทั้งแปดนี้เป็นที่เก็บรักษาสิ่งที่เหลืออยู่ของเซียนระดับราชา ! ถ้ำสามอันดับแรกสุดนั้นเคยเป็นที่พำนักของเซียนระดับราชา ขั้นสวรรค์ที่ 9 ! “

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเซียนระดับราชาทั้งหมดนี้มาจากเมืองทหารรับจ้าง ? ” เจี้ยนเฉินพึมพำ ตอนนี้เองที่เขาตระหนักถึงพลังอันมหาศาลของเมืองทหารรับจ้าง

เมืองทหารรับจ้างตั้งตระหง่านอยู่ในทวีปเทียนหยวนมานานหลายปีในฐานะเมืองสูงสุด พวกเขามีเซียนผู้คุมกฎหลายคนและยังมีผู้ดูแลที่เป็นถึงเซียนระดับราชาอีกด้วย พลังอำนาจประเภทนี้คล้ายกับสัตว์อสูรสงครามที่ดุร้าย ซึ่งไม่มีใครสามารถฆ่าได้

ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อเขาอยู่ในพื้นที่อันห่างไกลตอนที่เขารวบรวมป้ายสำหรับการแข่งขัน เมื่อเขาอยู่ในเทวสถาน ลุงเทียนของหมิงตงเป็นเซียนผู้คุมกฎเมื่อ 5,000 ปีก่อน เป็นไปได้ไหมที่หลังจากช่วงเวลาอันยาวนาน เขาจะได้ตัดผ่านเป็นเซียนระดับราชา ? หรืออาจจะเป็นเซียนระดับจักรพรรดิ ? เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลพร้อมกับสถานที่ที่ใช้สำหรับการแข่งขัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาคือสมาชิกของเมืองทหารรับจ้าง ?

เจี้ยนเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาเริ่มพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เขากระโดดขึ้นไปและได้เข้าไปถึงในถ้ำที่ต่ำที่สุด

ทางเดินภายในถ้ำนั้นค่อนข้างยาวและคดเคี้ยวไปมา หลังจากเดินไปประมาณ 300 เมตร ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็มาถึงทางตันซึ่งเป็นบริเวณที่มีความกว้างประมาณ 50 เมตร ไม่มีแหล่งกำเนิดแสง แต่ถ้ำมืดนี้กลับก็สว่าง มันคล้ายกับแสงด้านนอก เขาไม่พบแหล่งกำเนิดของแสงนี้ ทำให้ถ้ำแห่งนี้มีความลึกลับอีกอย่างหนึ่ง

รอบ ๆ ถ้ำมีภาพเขียนต่าง ๆ ของมนุษย์ ภาพวาดแต่ละภาพแทบเหมือนจริง และในภาพวาดแต่ละภาพ บุคคลที่ถูกวาดอยู่ภายในดูเหมือนจะแสดงท่าทางที่งดงาม

ภายในศูนย์กลางของถ้ำมีชาย 3 คนนั่งจ้องมองภาพวาด พวกเขานิ่งจนคล้ายกับรูปปั้น เส้นผมสักเส้นก็ไม่เคลื่อนไหว จากทั้งสามคน เจี้ยนเฉินรู้จักผู้อาวุโสสิบสาม

“เป็นไปได้หรือไม่ที่ภาพวาดนี้แสดงให้เห็นถึงทักษะการต่อสู้ระดับเซียนในตำนาน ? ” เจี้ยนเฉินคิด เมื่อเดินไปที่ชายทั้งสาม เขาก็ทำตามและเริ่มจ้องที่ภาพวาด หลังจากครึ่งวันผ่านไป เขาไม่เข้าใจอะไรจากภาพวาดเลย

“เจี้ยนเฉิน เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ? ผู้อาวุโสแปดไม่ได้บอกให้เจ้าอยู่ในบริเวณพื้นที่แรกเพื่อบ่มเพาะหรือ ? ” ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็สามารถได้ยินน้ำเสียงที่ชราของผู้อาวุโสสิบสามที่พูดด้วยความตกใจ

“ผู้อาวุโสสิบสาม ข้าแค่มาสังเกตดูรอบ ๆ เท่านั้น ข้าได้ยินมาจากผู้อาวุโสแปดว่าพื้นที่ที่สามมีทักษะการต่อสู้ระดับเซียน มันคือภาพวาดนี้ใช่หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม เนื่องจากเขากลัวที่จะรบกวนชายอีกสองคน เขาจึงกระซิบเบา ๆ

“ถูกต้อง นี่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ไหน ๆ เจ้าก็มาถึงที่นี่ ข้าคิดว่าเจ้าเห็นถ้ำอื่นมาแล้ว นี่คือหนึ่งในความมั่งคั่งของเมืองทหารรับจ้าง โดยรวมแล้วมี 8 ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน เทียบเท่ากับผู้อาวุโสทั้งแปดของเมืองทหารรับจ้าง แต่ละคนได้เป็นเซียนระดับราชาและพวกเขาคือคนที่สร้างทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเหล่านี้” ผู้อาวุโสสิบสามพูด

“ผู้อาวุโสสิบสาม ภาพวาดเหล่านี้ล้วนแสดงถึงทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ทำไมข้าไม่เห็นวิธีการบ่มเพาะเลย ทำไมเป็นเช่นนั้นกัน ? ” เจี้ยนเฉินถามด้วยความสับสน

“ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนแตกต่างจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ไม่มีวิธีการบ่มเพาะ ความก้าวหน้าจากจุดนี้ขึ้นอยู่กับตนเอง การใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนคือการดึงพลังของโลก ดังนั้นในการทำความเข้าใจและไตร่ตรองทักษะการต่อสู้ระดับเซียน อย่างน้อยคนคนนั้นต้องเป็นเซียนผู้คุมกฎ นั่นเป็นเพราะเมื่อมีใครพัฒนากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ พวกเขาจะเริ่มเข้าใจความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลกและเข้าใจพลังงานของโลก เจี้ยนเฉิน ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถเข้าใจได้ในตอนนี้ เจ้ากำลังเสียเวลาอยู่ที่นี่ รีบกลับไปบ่มเพาะในพื้นที่แรก เจ้าคือราชาแห่งทหารรับจ้างของงานชุมนุมทหารรับจ้างในครั้งนี้ รอจนกว่าเจ้าจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎและกลับมางานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้างครั้งต่อไปเพื่อเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง” ผู้อาวุโสสิบสามพูด

” ข้าขอบคุณผู้อาวุโสสิบสามสำหรับความหวังดี ข้าแค่อยากเห็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเท่านั้นและถึงแม้ว่าข้าจะไม่สามารถเข้าใจได้ในตอนนี้ ข้าก็แค่อยากเพิ่มข้อมูลเชิงลึก” เจี้ยนเฉินยิ้ม

มันขึ้นอยู่กับเจ้า เจ้ามีเวลาครึ่งปีเท่านั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้มันอย่างชาญฉลาด” ผู้อาวุโสพูดก่อนที่จะหันกลับไป

เจี้ยนเฉินสงบนิ่งและหันกลับไปมองภาพวาดแรก ตอนนี้เขารู้แล้วว่าภาพวาดเหล่านี้เป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ทัศนคติของเขาจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ได้มองมันด้วยสายตาที่เรียบง่ายอีกต่อไป เขาเริ่มจ้องมันอย่างตั้งใจเพื่อไม่ให้มีรายละเอียดใดถูกมองข้าม

ขณะที่เขามองทุกการเคลื่อนไหวในภาพวาด เขาก็รู้สึกว่ามีการเปิดเผยเล็ก ๆ อยู่ในใจ ราวกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถมองทะลุปุโปร่งในขั้นตอนสุดท้ายและเริ่มสับสนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าการเคลื่อนไหวและรูปแบบเหล่านี้มีความลับบางอย่าง เขาจึงไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ว่าเป้าหมายคืออะไร ซึ่งมันก่อกวนจิตใจเขาอย่างมาก

จากการสังเกตแต่ละครั้ง,เจี้ยนเฉินจะรู้สึกว่าความคิดของเขายุ่งเหยิงมากขึ้นเรื่อยๆ,เขารู้สึกว่าจิตใจของเขากำลังขยาย. มันเกือบจะเหมือนกับว่าหัวของเขากลายเป็นบอลลูนที่กำลังขยายตัวอยู่ตลอดเวลา,และเนื่องจากเขาไม่สามารถทนกับ อากาศ ที่กำลังขยายตัวอยู่ภายในหัวได้,เขาจึงเจ็บปวดอย่างรุนแรง.

เจี้ยนเฉินรู้ว่าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเป็นสาเหตุ ดังนั้นเขาจึงหันหลังให้และนั่งลงบนพื้นทันที เขาพยายามที่จะไม่คิดถึงสิ่งใด เขาทำให้จิตใจของเขาว่างเปล่าขณะที่ทำสมาธิ

หลังจากนั้นสักพักในที่สุดเจี้ยนเฉินก็สามารถควบคุมจิตใจของเขาได้ เขาสามารถเปิดตาและจ้องที่ภาพวาดได้อีกครั้ง

ตอนนี้เจี้ยนเฉินมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับภาพวาดแรก เขาสามารถเข้าใจว่าคนที่อยู่ในภาพเหมือนสวรรค์ พวกเขาเป็นตัวแทนของโลก การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันกับโลก การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งมีความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลก และทุกกระบวนท่ามีทฤษฎีที่ลึกซึ้ง นั่นก็เป็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินยังไม่เข้าใจ

อย่างไรก็ตามเมื่อเจี้ยนเฉินเข้าใจส่วนแรก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ากระบวนท่าที่ปรากฏบนภาพนั้นค่อนข้างง่ายและเขาก็สามารถหาทางออกได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง เขาสามารถรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวนี้รวบรวมหลายอย่างไว้ กระบวนท่าที่ง่ายดายอาจมีความแตกต่างมากมาย ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เขาสามารถรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวนี้คล้ายกับธรรมชาติและกลมกลืนกับโลกก่อนที่มันจะเป็นรูปเป็นร่าง ในช่วงเวลาต่อมา เขารู้สึกว่ามันมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายล้างโลกได้

ภาพวาดที่ดูเรียบง่ายเช่นนี้ ทำให้เจี้ยนเฉินสามารถเข้าใจข้อมูลมากมาย หากเซียนผู้คุมกฏคนอื่นรู้ว่าเจี้ยนเฉินสามารถเข้าใจได้มากเช่นนี้ ตาของพวกเขาจะหลุดออกมาด้วยความตกใจและพวกเขาคงอ้าปากค้าง

สำหรับเซียนปฐพี การได้รับข้อมูลเชิงลึกมากมายหลังจากมองดูทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ หากเจี้ยนเฉินเข้าใจความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลก หลังจากนั้นการทำความเข้าใจทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นคงไม่ไกลเกินเอื้อม ในความเป็นจริงการสร้างทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของตัวเองก็เป็นไปได้เช่นกัน

ทันทีที่ข้อมูลนี้ได้เดินทางไปยังจิตใจของเจี้ยนเฉิน จิตใจของเขาก็สับสนวุ่นวายอีกครั้ง มันพองตัวขึ้น พร้อมที่จะระเบิดเมื่อใดก็ได้

เจี้ยนเฉินหลับตาทันทีอีกครั้งและบังคับตัวเองให้สงบลง

หลังจากสงบสติอารมณ์ เจี้ยนเฉินก็ตรวจสอบภาพวาดซ้ำไปมาอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามข้อมูลเดียวที่เขารวบรวมได้คือข้อเท็จจริงที่ว่าภาพเขียนง่าย ๆ เหล่านี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความลึกลับมากมาย ไม่ว่าเขาจะมองนานแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้ เขาจึงทำได้เพียงหยุดอยู่ที่นี่เท่านั้น หากเขาพยายามที่จะผลักดัน เขาก็จะปวดหัวมาก ความคิดของเขาจะบ้าคลั่งและกระบวนการวิเคราะห์ของเขาจะช้าลง

” ดูเหมือนว่าการไม่สามารถเข้าใจความลึกลับของโลกทำให้ข้าไม่สามารถเข้าใจทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ข้ารู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวนี้เต็มไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ข้าไม่สามารถเข้าใจแนวคิดได้ เป็นไปได้ไหมว่าความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลกยังไม่พอ ? ” เจี้ยนเฉินคิดกับตัวเอง เจี้ยนเฉินรู้สึกไม่สบายใจเพราะทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาเองกลับไม่เข้าใจในความหมายที่ซ่อนอยู่