ตอนที่ 347: ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินออกจากถ้ำแห่งแรก เขาไปเยี่ยมชมอีก 7 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของตัวเอง โดยไม่มีข้อยกเว้น ทักษะการต่อสู้แต่ละอย่างถูกแสดงบนภาพวาดที่ต้องการให้ผู้บ่มเพาะเข้าใจด้วยตนเองโดยไม่มีคำแนะนำ
ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนไม่เหมือนทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ถูกเขียนขึ้นโดยใช้อักษร และต้องการการฝึกฝนอันยาวนานเพื่อที่จะเข้าใจพื้นฐาน มันยังต้องใช้เวลาในการเริ่มต้น ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้ต้องการความสามารถของตัวเองในการเข้าใจ ดังนั้นหากไม่สามารถเข้าใจทักษะการต่อสู้ที่อยู่ในมือได้ มันก็ถือว่าไร้ประโยชน์
ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นซับซ้อนและลึกลับ ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน 1 อย่างอาจมีภาพวาดนับร้อยและแต่ละรูปแบบที่ปรากฏอาจมีความลึกลับที่แตกต่างกันมากมาย บางทักษะมีภาพวาดเพียง 3 ภาพ แต่ละภาพมีปริศนาที่สามารถสลายสวรรค์และทำลายล้างโลก เมื่อดูที่ภาพวาด ผู้คนที่อยู่ข้างในภาพวาดนั้นดูราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิต แต่ละคนมีอำนาจสั่นสะเทือนโลก หากไม่มีพื้นฐานความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง พวกเขาจะไม่สามารถปรากฏตัวในภาพวาดแบบนั้นได้
แม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่สามารถบรรยายได้ที่มาจากภาพวาด มันทำให้เขากระอักเลือดออกมา แม้แต่ความงดงามของภาพวาดก็เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับเจี้ยนเฉิน
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เจี้ยนเฉินมีความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ระดับเซียนมากขึ้น เขารู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในระดับไหน และทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนี้อยู่เหนือระดับของเขา หากเขาไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎหรือไม่เข้าใจความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลก เวลาที่เขาใช้ในการพยายามทำความเข้าใจทักษะการต่อสู้ระดับเซียนก็จะเปล่าประโยชน์
เจี้ยนเฉินออกจากพื้นที่ที่สาม เขาเข้าไปถึงพื้นที่ที่สี่ พื้นที่ที่สี่เป็นห้องอ่านหนังสือขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะและเก้าอี้ สามารถมองเห็นชั้นหนังสือได้ทุกที่ มีหนังสือที่เติมเต็มแต่ละชั้นซึ่งปกของมันทำมาจากสัตว์อสูร มีพลังงานแปลก ๆ ที่เติมเต็มพื้นที่ซึ่งมันป้องกันหนังสือจากการกัดกร่อนของเวลา
หนังสือเหล่านี้เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกจากผู้บ่มเพาะรุ่นก่อน ๆ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่สามารถได้รับประโยชน์มากมายจากมันในขณะนี้ เขาก็สามารถท่องมันไว้ล่วงหน้าได้ จากนั้นเขาจะสามารถนึกย้อนกลับไป เมื่อเขาสามารถเข้าใจมันได้ดีขึ้น
ภายในพริบตา เจี้ยนเฉินได้ใช้เวลา 3 เดือนในพื้นที่ที่สี่ เจี้ยนเฉินใช้เวลาไปในการอ่านข้อมูลเชิงลึกจากทุก ๆ วิชาการที่เป็นไปได้ภายในขอบเขตการบ่มเพาะ แม้ว่าตอนนี้มันจะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา แต่มันก็จะมีประโยชน์ในภายหลัง
ในช่วงเวลาที่อยู่ในพื้นที่ที่สี่ เจี้ยนเฉินพยายามสร้างรากฐานของเขาให้มากขึ้น ประสบการณ์ในหนังสือที่เขาอ่านและความเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่เขาได้รับเปล่งประกายอย่างมากมาย คนที่เป็นเซียนสวรรค์จะดูดซับพลังงานที่สำคัญของโลกเพื่อเพิ่มทั้งพลังอาวุธเซียนและความแข็งแกร่งส่วนบุคคล แต่มันยังมีสิ่งกีดขวางระหว่างเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษและเซียนปฐพี หากคนหนึ่งประสบความสำเร็จในการข้ามสิ่งกีดขวางนั้น, เขาก็จะกลายเป็นเหมือนมังกร แต่ถ้าเขาล้มเหลว, เขาก็จะกลายเป็นคนพิการที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้
การบ่มเพาะในฐานะเซียนปฐพีเป็นงานที่ง่ายมากโดยไม่มีความยุ่งยากอันใด ตราบใดที่คนหนึ่งมาถึงระดับเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 เขาก็สามารพัฒนากลายเป็นเซียนสวรรค์ได้โดยการใช้แก่นพลังงานของโลกด้วยขั้นตอนเล็ก ๆ พวกเขาจะกลายเป็นเซียนสวรรค์
เซียนสวรรค์สามารถบินผ่านอากาศได้โดยใช้พลังเซียนในการลอยตัว เมื่อใช้พลังงานของโลก,พวกเขาจะสามารถบินผ่านอากาศได้โดยไม่ต้องเสียพลังงานมากมาย ดังนั้นหากต้องการเป็นเซียนสวรรค์ มันจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับแก่นพลังงานของโลก
ส่วนสุดท้ายที่เขาเข้าใจคือเกณฑ์ในการเป็นเซียนผู้คุมกฎ ถึงแม้ว่าการก้าวไปสู่การเป็นเซียนผู้คุมกฏไม่ได้เสี่ยงเท่าการได้เป็นเซียนปฐพี แต่โอกาสในการตัดผ่านก็ยากกว่าหลายเท่า
นั่นเป็นเพราะหากใครต้องการที่จะตัดผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฎ พวกเขาจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานของความลึกลับที่ลึกซึ้งในโลก. มีความลับมากมายที่ซ่อนอยู่ในความลึกลับที่ลึกซึ้งเหล่านี้และมันก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเซียนผู้คุมกฏไม่กี่คนในทวีปเทียนหยวน ขอบเขตของการบ่มเพาะนี้อยู่ยังไกลจากระดับของเจี้ยนเฉินในปัจจุบัน
เจี้ยนเฉินออกจากพื้นที่สี่ เขายังเหลือเวลาอีก 1 เดือนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเดือนสุดท้ายนี้ เขาวางแผนที่จะกลับไปยังพื้นที่แรกเพื่อทำการบ่มเพาะต่อไป ซึ่งจะเทียบเท่ากับ 10 เดือนของเวลาจริง
เมื่อมาถึงพื้นที่แรก หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ยังคงนั่งอยู่ในจุดเดิมโดยไม่มีร่องรอยของการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้รบกวนนางเจี้ยนเฉินนั่งห่างจากนาง 10 เมตร เขาวางแกนอสูรระดับ 5 ไว้บนหน้าตัก แม้ว่าพลังงานในบริเวณนี้จะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่พลังงานภายในแกนอสูรระดับ 5 นั้นหนาแน่นกว่า ตอนนี้เขาเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 3 ขั้นสูง เขาต้องการเพียงความตั้งใจอีกเล็กน้อยในการไปสู่วัฏจักรที่ 4
“พลังงานภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างจากโลกภายนอก พลังงานในที่นี้มีชิ้นส่วนของความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลก แม้ว่ามันจะน้อยมาก แต่มันจะให้ความช่วยเหลือเจ้าอย่างมาก” เสียงของหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ดังขึ้นมาขณะที่เจี้ยนเฉินหยินแกนอสูรระดับ 5 ออกมา
เจี้ยนเฉินหยุดชะงักด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าพลังงานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมีความลึกลับของโลก เจี้ยนเฉินป้องมือเพื่อแสดงความขอบคุณต่อหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เขาเก็บแกนอสูรระดับ 5 กลับเข้าไปในเข็มขัดมิติและเริ่มบ่มเพาะอีกครั้งด้วยพลังงานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ทันใดนั้นพลังงานแรกของพื้นที่ก็เริ่มพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินอย่างบ้าคลั่งขณะที่เจี้ยนเฉินยังคงยอมรับมันทั้งหมดในร่างกายของเขา ระดับความเร็วปัจจุบัน อัตราการดูดซึมของเขาไม่ได้ช้ากว่าหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์
ด้วยความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณกระบี่ เจี้ยนเฉินสามารถดูดซับทั้งปราณโลกและพลังงานภายในแกนสัตว์อสูรในอัตราที่เร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า นับตั้งแต่เขาปลุกจิตวิญญาณกระบี่ให้ตื่นขึ้นมาในหมู่บ้านหวาง มันก็หยุดขโมยพลังงานจากเจี้ยนเฉินโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นตอนนี้เจียนเฉินจึงได้ดูดซับพลังงานเพียงคนเดียว
หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลืมตาขึ้นมาเมื่อนางรู้ว่าเจี้ยนเฉินดูดซับพลังงานได้เร็วแค่ไหน หลังจากจ้องมองด้วยความตกใจอยู่ครู่หนึ่ง นางก็หลับตาอีกครั้ง
อีกครึ่งนาทีต่อมา ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็ยิ้มออกมาท่ามกลางการบ่มเพาะ ตามที่คาดไว้เขาค้นพบว่าพลังงานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างจากพลังงานจากภายนอก มีหลายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจปะปนอยู่ อย่างเช่นพลังงานแปลก ๆ คืออะไร สิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าใจ มันดูเหมือนวงแหวนของแสงที่พุ่งเข้ามาในหัวของเขา หายวับไปไม่สามารถถูกจับได้ สิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ได้แปลกสำหรับเจี้ยนเฉินอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นความลึกลับที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริงของโลกซึ่งเป็นระดับที่เขายังไม่สามารถสัมผัสได้
ความเข้าใจนี้ทำให้เจี้ยนเฉินมีความสุข เขาใช้เวลาที่เหลือในการทำสมาธิอย่างลึกซึ้ง,เขาเริ่มซึมซับความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลกบางส่วน. เดิมทีเขาวางแผนที่จะลองและศึกษาทักษะมายาพริบตา แต่ด้วยการค้นพบใหม่นี้ เขาจึงไม่สนใจแนวคิดก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
เจี้ยนเฉินใช้เวลาสิบเดือนสุดท้ายของเขาในพื้นที่แรกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขากลายเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 4 และในช่วงสิบเดือนนั้น ความเข้าใจของเจี้ยนเฉินเกี่ยวกับความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จิตใจของเขาเป็นเหมือนโลกแห่งวิญญาณและความลึกลับที่ลึกซึ้งเป็นเหมือนแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์ที่จะส่องแสงเป็นครั้งคราว บางครั้งความคิดแปลก ๆ อาจเกิดขึ้นในใจ แต่เจี้ยนเฉินไม่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่ บางครั้งความคิดของเขาจะคลุมเครือในขณะที่เขาพยายามที่จะเข้าใจมัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างมันจึงยังลึกลับอยู่
ด้วยความช่วยเหลือของชิ้นส่วนที่เขามีอยู่แล้ว เขาก็สามารถสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของความลึกลับที่ลึกซึ้ง ในสถานะปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะดูดซับชิ้นส่วนอื่นเพิ่ม เขาก็จะไม่สามารถเข้าใจชิ้นส่วนปัจจุบันได้
วันนี้เป็นวันที่ครบเวลาครึ่งปี ผู้อาวุโสแปดปรากฏตัวต่อหน้าเจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ครึ่งปีเต็มผ่านไป ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าออกไป”
เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยความเสียใจ ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงประโยชน์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่แรกสามารถทำให้เขามีเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจความลึกลับที่ลึกซึ้ง ตอนนี้เขาเข้าใจดีเกี่ยวกับประโยชน์ของสถานที่แห่งนี้ เขาจึงลังเลที่จะจากไป
“มันจะดีกว่า ถ้าข้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป” เจี้ยนเฉินถอนหายใจเมื่อคิดเช่นนั้น เขารู้ว่าความปรารถนาของเขาเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงติดตามผู้อาวุโสแปดและออกจากพื้นที่แรก
เมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่เต็มใจของเจี้ยนเฉิน ผู้อาวุโสแปดก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่มีความสุขที่ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือ ? ฮ่าฮ่า สถานที่นี้เปรียบเสมือนสมบัติอย่างแท้จริง แม้แต่เซียนผู้คุมกฎก็ยังติดใจในสถานที่แห่งนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เจ้าเป็นราชาแห่งทหารรับจ้างในครั้งนี้ เจ้าจะมีโอกาสได้เข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งในงานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้างครั้งต่อไปหลังจากที่เจ้าได้เป็นเซียนผู้คุมกฏ ทุกครั้งที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปิดทุก 50 ปี เจ้าจะสามารถอยู่ข้างในนี้ได้เป็นเวลา 5 ปี”
“สามารถอยู่ที่นี่ได้เป็นเวลา 5 ปีเลยหรือ ? ถ้าอย่างนั้นทำไมตอนนี้ข้าถึงได้อยู่แค่ครึ่งปีเท่านั้น ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างสับสน
ผู้อาวุโสแปดหัวเราะ “มีแต่เซียนผู้คุมกฎเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ได้ 5 ปี ส่วนคนที่ได้อันดับหนึ่งในงานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้างมีสิทธิ์อยู่ได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น นั่นคือกฎของเมืองทหารรับจ้างของเรา”
เจี้ยนเฉินไม่แย้งผู้อาวุโส เขาเข้าใจทันที ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นดินแดนของพวกเขา ใครก็ตามที่ต้องการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิทธิ์กำหนดกฎเกณฑ์ตามที่พวกเขาเห็นสมควร
หลังจากนั้นผู้อาวุโสแปดก็พาเจี้ยนเฉินไปที่ประตูมิติและออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกับเขา