ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 300 ใจเย็นๆประธานแสนรัก
“พี่สาวเรากำลังทำงานอยู่ในมืออีริคถ้าพี่ข้ามหน้าเขาไปติดต่อเอฟพีเจแปนแล้วเขารู้เข้าเขาต้องไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
“แต่ถ้าเราเจรจากับบริษัทนั้นเงินที่เราหามาได้ก็แบ่งให้เขาได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“จะเหมือนเดิมได้ยังไงคนอย่างเขาไม่ชอบให้พี่ทำแบบนี้แน่สิ่งที่เขาชอบมากกว่าคือความปรารถนาที่จะควบคุมถ้าพี่ไม่เชื่อฟังเขาจะเอาเงินไปทำอะไร”
ในชั่วพริบตาชายหนุ่มผู้นี้ดุร้ายจนดูเหมือนเขาจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้สิ่งที่เขาวิเคราะห์แตกต่างไปจากคุณสมบัติของเขาอย่างสิ้นเชิงเขายังไม่จบการศึกษาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เขากลับพูดอย่างมีหลักการ
ราวกับว่าเขาเคยผ่านมันมาแล้ว
เขาทำสิ่งนี้ได้อย่างไรนี่เธอคิดไปเองหรอ
เส้นหมี่มองเขาอย่างว่างเปล่าไม่สามารถพูดอะไรได้เป็นเวลานาน
ปอร์เช่”…”
ทันใดนั้นเขาก็รู้ตัว
ทันใดนั้นเธอก็เห็นว่าหน้าซีดของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ผม…พี่สาวอย่าโกรธเลยเรื่องพวกนี้ผมเคยได้ยินมาก่อนผมเป็นห่วงกลัวพี่มีปัญหาถึงได้รีบแบบนี้”เขากำลังอธิบายเหตุผลที่เขาแปลกไป
เส้นหมี่มองดูเขานานๆอีกครั้ง
ช่างเถอะบางทีเขาอาจจะแค่ฟังที่คนอื่นพูดจริงๆคนที่เรียนไม่จบเขาจะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ระงับความสงสัยเหล่านี้”ไม่เป็นไรนายกลับไปนอนก่อนเถอะฉันจะคิดดูอีกครั้ง”
จากนั้นเธอก็ปล่อยให้เขากลับไปนอน
เธอต้องคิดเรื่องนี้จริงๆเพราะเรื่องนี้สิ่งที่น้องชายของเธอเพิ่งพูดก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล
คืนนั้นเส้นหมี่นอนพลิกตัวพลิกไปมาเป็นเวลานาน
แต่คิดไม่ถึงว่าเช้าวันต่อไปเธอยังไม่ทันได้ตัดสินใจพี่คณาธิปซึ่งอยู่ห่างไกลในเคลียร์ก็เดินทางมาโดยเครื่องบินในชั่วข้ามคืนราวกับรู้ว่าเธอจะไม่ตัดสินใจ
“อรุณสวัสดิ์สวยใสผมรู้ว่าคุณยังลังเลไม่เป็นไรผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง”
เช่นเดียวกับเวทมนตร์ทันใดนั้นเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนและสง่างามภายใต้แสงสีทองอ่อนๆเขาเผยรอยยิ้มบางๆทำให้เส้นหมี่ที่มองเห็นสติหลุดลอยไป
เขาห่วงใยเธอมาก
เส้นหมี่สงบลงและหลังจากผ่านคืนแห่งความวิตกกังวลอารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นดังนั้นเธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย
แต่ในขณะนั้นจู่ๆประตูชั้นบนก็ถูกเปิดออก“ปัง”ทำให้ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นมองทันทีก่อนจะพบว่ามีเด็กชายร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เย็นชามาก
“ปอร์เช่ตื่นแล้วหรอพี่คณาธิปมาพอดีเลยไปกันเถอะ”
เส้นหมี่มองไปที่ชายหนุ่มผู้เย็นชาคนนี้และไม่รู้ว่าเป็นอะไรอยู่ดีๆหัวใจของเธอก็ตึงเครียดหลังจากเปิดปากพูดน้ำเสียงก็เหมือนเป็นการปรึกษาอยู่ในที
แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ยิ่งผิดปกติมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่เธอพูดจบจากที่เขาเคยเชื่อฟังเช้านี้ทันทีที่เธอพูดจบเธอกลับเห็นความเศร้าโศกแวบขึ้นระหว่างคิ้วและตาของเขา
วินาทีถัดมาเขาหันกลับไปที่ห้องนอนแล้วปิดประตูดังปังอีกครั้ง
เส้นหมี่”…”
พี่คณาธิป”…”
เด็กคนนี้เป็นอะไรไปอีก
เส้นหมี่ตกตะลึงหลังจากได้สติกลับมาเธอจึงหันไปอธิบายให้คนข้างๆฟัง”ขอโทษด้วยเมื่อคืนเขาไม่อยากให้ฉันไปเขากังวลว่าฉันจะมีปัญหากับอีริค”
พี่คณาธิปหรี่ตาลง
ไม่อยากให้พี่สาวมีปัญหากับอีริคต้องโกรธขนาดนี้เลยหรอ
พี่คณาธิปรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างน้อยที่สุดเมื่อเขาหวนคิดถึงช่วงเวลาเมื่อสักครู่เขาก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้เปลี่ยนไปเขาไม่เคยมีอาการรุนแรงเช่นนี้มาก่อน
สายตาก็ไม่น่ากลัวขนาดนั้น!
พี่คณาธิปจ้องไปที่ประตูเป็นเวลานาน
เส้นหมี่กลับไม่ได้ใส่ใจเธอรู้สึกว่าคำพูดของเธอมีเหตุผลมากเพราะน้องชายคนนี้สูญเสียการควบคุมต่อหน้าเธอไปแล้วครั้งหนึ่งเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนนี้
แม้ว่าการโจมตีทั้งสองจะไม่เหมือนกันก็ตาม
เส้นหมี่ตัดสินใจที่จะไม่พาน้องชายคนนี้ออกไปด้วยเพราะเขาโกรธมาก
แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเมื่อเธอเก็บของและออกจากห้องเพื่อจะออกไปประตูที่เพิ่งปิดอย่างแน่นหนาข้างๆห้องของเธอก็เปิดออกอีกครั้ง
“ผมก็ไป!”
“หา”
เส้นหมี่มองไปที่ชายหนุ่มที่สวมแว่นตากรอบดำขนาดใหญ่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าตัวเองอย่างไม่พอใจชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
น้องชายคนนี้เปลี่ยนไปมากใน2วันที่ผ่านมาเดี๋ยวก็ให้เกียรติเธอเหมือนเจ้านายเดี๋ยวก็โกรธใส่หน้าเธอ!
ตอนนี้ยังมางอนใส่อีก…
เส้นหมี่รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าแล้ว
แต่เมื่อเธอมองอย่างจริงจังและพบว่าหลังจากที่ชายหนุ่มเห็นว่าเธอไม่สนใจเขาหัวของเขาที่สวมหมวกเบเร่ต์ก็ก้มต่ำลงต่อหน้าเธอเมื่อเส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นสายตาภายใต้เลนส์กว้างนั้นทั้งขนตาที่กระพริบไปมาเหมือนพัดเล็กๆ
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกใจอ่อนอีกครั้ง
“โอเคงั้นนายก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะฉันจะรอ”เธออ่อนลงยืนเขย่งปลายเท้าและขยี้ผมที่โผล่ออกมานอกหมวกของเขา
เมื่อปอร์เช่ได้ยินก็ดีใจและยิ้มออกมาทันทีก่อนจะรีบวิ่งกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่วนพี่คณาธิปที่ยืนมองอยู่ข้างล่างก็มองด้วยความไม่พอใจ!
ควรจะบอกว่าปอร์เช่คนนี้คือคนที่ปกติเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นบุคคลนั้น
แต่ไม่รู้ทำไมแค่นี้เขาก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเหมือนมีปัญหาสักจุดมองยังไงก็ไม่สบายใจ!