ตอนที่ 214

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 214: หาเรื่องผิดคน

 

การลงโทษเล็กๆ นี้ทำให้มู่เซียนเอ้ออารมณ์เสียในทันใด

 

“เจ้า เจ้าตีตรงไหนของข้า!” มู่เซียนเอ้อหน้าแดง พร้อมกับชี้หน้าเขาขณะที่พูดไม่ออก โฉมหน้าแม่มดน้อยของเธอได้เผยออกมาโดยสมบูรณ์ ไม่หลงเหลือคราบสาวน้อยน่ารักที่ซุกซนเหลืออยู่เลย

 

“นี่เป็นบทเรียนสำหรับเจ้า คิดจะเล่นกับคนอื่น โดยเฉพาะข้า จำเป็นต้องรับค่าตอบแทนไว้เหมือนกัน” อี้เทียนหยุนยิ้ม คิดจะเล่นกับเขา ยังอ่อนไป!

 

“ข้า ข้าจะฆ่าเข้า!” มู่เซียนเอ้อร้องออกมา พร้อมกับพุ่งเขาในทันที พลังที่ระเบิดออกมาของเธออยู่ที่ระดับปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 7 ด้วยอายุเท่านี้ แต่มาถึงระดับนี้ได้ ไม่ถือว่าอ่อนเลย

 

เธอเหมือนกับเสียสติเต็มที่ ฟาดฝ่ามือออกไปไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายทำอย่างนี้กับเธอ เธอก็อยากจะใจเย็นอยู่หรอก แต่ก็ทำไม่ได้ เธอที่ถูกกระทำดั่งเจ้าหญิง เลยถูกทำรุ่มร่ามอย่างนี้ที่ไหน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไง

 

“ตำหนักเทียนเหวินมีกฎว่าห้ามต่อสู้กัน เจ้าก็น่าจะรู้ดีนะ” อี้เทียนหยุนยังไม่ลืมพูดเตือนเธอ

 

มู่เซียนเอ้อที่คิดได้ก็ขบฟันสีเงินแน่น พร้อมกับหยุดมืออย่างรวดเร็ว หลังจากระงับอารมณ์ เธอก็จ้องไปที่อี้เทียนหยุนอย่างเกลียดชัง “เจ้าคนโรคจิต อายุก็ไม่ต่างกับข้าเท่าไหร่ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนลามกอย่างนี้!”

 

เห็นได้ชัดว่าเธอได้สติแล้ว กฎห้ามต่อสู้กันนี้สามารถใช้ได้กับทุกคน กระทั่งตัวมู่เซียนเอ้อเองก็ด้วย

 

มู่เซียนเอ้อคนนี้เกิดมาเพื่อแกล้งคนอื่นโดยเฉพาะ บ่อยครั้งที่เธอทำสำเร็จ แต่ด้วยฐานะที่เป็นหลานสาวของผู้อาวุโสใหญ่ ทำให้ใครไม่กล้าทำอะไรเธอ ต่อให้จะถูกแกล้ง พวกเขาก็ไม่กล้าทำอย่างอี้เทียนหยุนที่ทำการเอาคืน ทั้งยังตีก้นเธออีก!

 

แม้ว่าก้นของมู่เซียนเอ้อจะไม่ใช่ก้นเสือ แต่ผลลัพธ์ของมันนั่นน่ากลัวกว่าก้นของเสือเสียอีก…..”

 

“นี่เป็นการช่วยสั่งสอนเจ้า ให้รู้ว่าแกล้งคนอื่นแล้วจะโดนอะไร เจ้าเป็นคนฉลาด น่าจะรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน ที่จริงแล้ว ควรจะพูดว่า นี่เป็นราคาที่เจ้าต้องจ่ายสำหรับการแกล้งข้าถึงจะถูก” อี้เทียนหยุนกอดอกมองเธออย่างสนใจ คนอื่นอาจจะกลัวมู่เซียนเอ้อ แต่ว่าเขานั้นไม่กลัว

 

“ดีมาก!” มู่เซียนเอ้อโกรธจนตัวสั่น จากนั้นก็พูดลอดไรฟันออกมา “เจ้ารอก่อนเถอะ แล้วข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับการกระทำครั้งนี้ของเจ้า!”

 

พูดจบ เธอก็ฮึดฮัดเดินจากไป ตรงไปยังหอคอยเทียนหลิง ไม่สนใจอี้เทียนหยุนอีก เห็นได้ชัดว่าเธอมีเรื่องต้องทำ ไม่อย่างนั้น เธอคงจะต้องตามเอาเรื่องอี้เทียนหยุนให้ถึงที่สุดแล้ว

 

อี้เทียนหยุนส่ายหัว ไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

 

อย่างรวดเร็ว เขาก็กลับมาถึงตำหนักเทียนเหวิน เมื่อเขามาถึง เรื่องที่หอคอยเทียนหลิงก็ได้แพร่ไปทั่วแล้ว

 

เรื่องสำคัญก็คือ อี้เทียนหยุนชนะเจี่ยผิง! นี่หมายความว่าระดับของเขานั้น สูงกว่าเจี่ยผิง

 

อี้เทียนหยุนเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็พบว่าอันดับของตนได้เปลี่ยนแล้ว ตอนนี้อยู่อันดับที่ 24! เข้าแทนที่ตำแหน่งของเจี่ยผิง ทำให้เจี่ยผิงตกไปยังอันดับที่ 25

 

เขาเพิ่งจะกลับมาถึงที่นี่ ก็ได้ถูกกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ พากันจ้องมองมาที่เขา สายตาของพวกเขามีทั้งประหลาดใจ อิจฉา สงสัย ไม่ว่าจะสายตาแบบไหนก็มีหมด

 

แต่ว่าอี้เทียนหยุนก็ไม่สนใจ แต่เมื่อเขากำลังจะจากไปนั้นเอง ก็ได้มีคนสองคนเดินมาด้วยท่าทางเอาเรื่อง ดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดา จากเส้นทางที่พวกเขาเดินมา เห็นได้ชัดว่าตั้งใจเดินมาหาเขา

 

“ลูกพี่!”

 

ในตอนนี้เอง หยางอวี่ก็ได้รีบวิ่งมา และเมื่อเห็นพวกเขา สายตาก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน หลังจากวิ่งมาถึง เขาก็ได้กระซิบอี้เทียนหยุนว่า

 

“พวกเขาคือเหลียงปิงอันดับที่ 19 และหยวนเจิ้งหยางอันดับที่ 20 พวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเฟิงและตระกูลเจี่ย เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาไม่ดี”

 

“มันก็แน่อยู่แล้ว เรื่องที่ข้าทำในการประลอง ถ้าไม่มีเรื่องสิแปลก”

 

อี้เทียนหยุนมองดูท่าทางของผู้มาก็รู้แล้วว่าคงมาหาเรื่องตนแน่ คิดว่าเพื่อนของเจี่ยผิงกลุ่มนี้ หรือคนที่เขาคบด้วย ล้วนแต่มีนิสัยเหมือนกันไม่มีผิด

 

อี้เทียนหยุนเพิ่งจะกลับมา พวกเขาก็มากันแล้ว ความอดทนของพวกเขาช่างต่ำจริงๆ แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกเขาล้วนแต่ก๊กเดียวกัน การที่จะไม่ถูกใจเขานั้นเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก

 

พวกเขาเดิน พร้อมกับหรี่ตามองตัวเขาสักพัก จากนั้นก็หันไปจับจ้องยังหยางอวี่ จากนั้นก็จางปินก็พูดอย่างคนอารมณ์ร้อนว่า “ไง ไม่คิดว่าเจ้าจะมาเป็นเด็กรับใช้ของเจ้าหนูนี่? มีคนหนุนหลังแล้วเก่งนักหรือไง กล้าดียังไงถึงได้มาต่อต้านพวกเรา? ใครก็ไม่รู้นะ ก่อนหน้านี้ยังร้องขอความเมตตาอยู่เลย ทั้งที่หนีหางจุกตูด แต่ก็ยังกล้ามองพวกเราตรงๆ อีก”(จางปินโผล่มาไงไม่รู้นะ เมื่อกี้ยังเป็นหยวนเจิ้งหยางอยู่ ไม่รู้ว่าชื่อไหนกันแน่ที่ผิด)

 

“จางปิน เจ้าก็พูดไป ระดับอย่างมันก็ต้องหาคนหนุนหลังอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะคิดว่าตัวเองร้ายกาจอย่างนี้เหรอ” เหลียงปิงเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นก็มองไปที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดว่า “แล้วก็เจ้า จะหาคนหนุนหลังก็หาให้ดีๆ หน่อย ถ้าเจอเรื่องอะไรเข้า มันจะหนีก่อนเป็นคนแรก ทิ้งเจ้าไว้เอาตัวรอดคนเดียว”

 

“เจ้าพูดเหลวไหล!” หยางอวี่พูดอย่างโมโห “ข้าเป็นคนแบบนั้นที่ไหน ถึงข้าจะแพ้เจ้า ข้าก็ไม่ได้ร้องขอความเมตตาสักหน่อย คำพูดเจ้ามันไร้สาระ!”

 

น้ำเสียงของเขาแน่วแน่ ไม่เหมือนกับคนพูดจาเหลวไหล เห็นได้ชัดว่าพวกนี้ตั้งใจหาเรื่อง

 

“จะยังไงก็ช่าง ปีกกล้าขาแข็งดีนี่ เพิ่งมาก็จัดการพี่น้องพวกเราไปสองคน….. ร้ายกาจจริงๆ เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองหรือไง?” เหลียงปิงหัวเราะเยาะ “คิดจะอยู่ที่นี่ให้ทิ้งความร้ายกาจไปซะ ไม่อย่างนั้น ระวังจะตายอยู่ในนี้ไม่รู้ตัว!”

 

นี่เป็นคำขู่อย่างเห็นได้ชัด พวกเขาอาศัยฐานะของตนเข้าข่ม

 

อี้เทียนหยุนโบกมือแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “พูดมากไร้สาระ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าต้องการดวลกับข้าหรอกเหรอ? ถ้าพวกเจ้าต้องการดวลก็เข้ามา ข้าพร้อมเสมอ!”

 

“ดี!” สายตาของเหลียงปิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร พูดเย้ยออกมาว่า “พวกเราไปยังสนามเกียรติยศกันตอนนี้เลย!”

 

ที่เขาต้องการก็คือสิ่งนี้ การสอบใกล้จะเริ่มแล้ว ถ้าเป็นการประลอง ต่อให้อี้เทียนหยุนจะบาดเจ็บหรือตายไป การสอบก็จะไม่มีเขามาเกี่ยวข้อง เมื่อเป็นอย่างนี้ อันดับของเหลียงปิงก็จะมั่นคงขึ้น

 

ยังไงก็ตาม อี้เทียนหยุนไม่ได้คิดว่าจะให้ความร่วมมืออะไรกับการสอบนี้อยู่แล้ว เพราะว่านี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

 

“ลูกพี่ ระดับของพวกเขา เมื่อเทียบกับเจี่ยผิงแล้วแข็งแกร่งกว่ามากเลยนะ” หยางอวี่พูดอย่างกังวล ระดับของเหลียงปิงนั้นไม่ต่ำเลย เห็นได้จากเจตนาที่เข้ามายั่วยุ แต่ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะกินเบ็ดเข้าไปจริงๆ

 

นี่ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก ถ้าเกิดบาดเจ็บขึ้นมา ก็ต้องรอสอบรอบต่อไป ไม่มีได้เข้าร่วมแน่

 

“ไม่เป็นไร ข้ามีแผน” อี้เทียนหยุนวางมือบนบ่าของเขา แล้วพูดขึ้นว่า “รังแกคนของข้า ไม่ว่าจะเป็นใคร ข้าก็จะทำให้มันต้องจ่ายค่าตอบแทน!”

 

“นี่…..” หยางอวี่ตกใจ ในใจเกิดรู้สึกตื้นตันขึ้นมา จากนั้นก็กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ลูกพี่ จากนี้ต่อไป ท่านจะเป็นพี่ใหญ่ของข้า!”

 

การเรียกพี่ใหญ่ในครั้งนี้ เป็นการเรียกที่ออกมาจากหัวใจของเขา การเรียกลูกพี่เมื่อก่อนหน้า เป็นการเรียกที่คิดว่าอี้เทียนหยุนเหมาะกับมัน ทั้งเขายังช่วยจัดการเฟิงยู่หลง เจ้าขยะที่คอยตามติดพี่สาวของเขา แต่ตอนนี้ การที่อี้เทียนหยุนช่วยเขาคราวนี้ มันทำให้เขาตัดสินใจติดตามอี้เทียนหยุนด้วยความเต็มใจ!

(ลูกพี่กับพี่ใหญ่มันใช้คำว่าต้าเกอเหมือนกัน แต่ในอังกฤษมันเขียนว่า boss กับ big brother)