ตอนที่ 465 แค้มป์ (1) / ตอนที่ 466 แคมป์ (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 465 แค้มป์ (1)

เซิ่งอี่เจ๋อพูดด้วยความสุขุมและแน่วแน่จนสายตาอันอี้เป่ยเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินความรู้สึกของเซิ่งอี่เจ๋อที่มีต่ออันซย่าซย่าต่ำเกินไป

เขามองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยแววตาซับซ้อนพลางยิ้มมุมปากที่ไม่ได้เป็นรอยยิ้มเย้ยหยันอีก “หวังว่านายจะทำได้อย่างที่พูด”

“ขอบคุณที่เล่าเรื่องมากมายให้ผมฟัง” เซิ่งอี่เจ๋อโค้งคำนับอันอี้เป่ยแล้วลุกขึ้นเดินออกไป

เมื่อเดินผ่านประตูห้องอันซย่าซย่า เขาก็ชะงักเท้า ลังเลได้สักพักก็ผลักประตูห้องในที่สุด

อันซย่าซย่าน่าจะร้องไห้จนเหนื่อย เธอนอนกอดหมอนร้องอิ๋งอิ๋ง จากนั้นก็ผล็อยหลับไป

ภายใต้แสงสลัว ใบหน้าเล็กๆ ที่ขาวบอบบางยังมีคราบน้ำตาติดอยู่

เซิ่งอี่เจ๋อยกมือเช็ดน้ำตาเธอแล้วกระซิบเบาๆ “หลับเถอะ ฝันดี”

ขอให้ในฝันไร้เสี้ยนหนาม ไม่มีความทุกข์อีกต่อไป

ขอให้ชีวิตนี้มีแต่ความอบอุ่น มีแต่ความสงบสุข

เช้าวันรุ่งขึ้น

อันซย่าซย่าตื่นด้วยความงัวเงีย เธอสะพายกระเป๋านักเรียนไว้ที่หลังแล้วไปโรงเรียน

ในโรงเรียนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงดังจ๊อกแจ๊กอย่างต่อเนื่องจนแทบลุกเป็นไฟ

“มีอะไรให้เม้าท์กันอีกล่ะ?” อันซย่าซย่าถามคังเจี้ยนพร้อมกับหาว

คังเจี้ยนขยับคิ้ว “แต่ละห้องจะจัดอบรมการตั้งแคมป์! พูดง่ายๆ ก็คือได้ไปเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิไงล่ะ! ไม่ง่ายเลยที่จะได้รวมตัวกันออกไปเที่ยวด้วยกัน ทุกคนก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว~”

“กรี๊ด กรี๊ด เจ๋งไปเลย!”

อย่างไรก็ตามอารมณ์คึกคักของทุกคนก็ต้องมาโดนไป่จื่อเยว์สาดน้ำเย็นใส่ ในระหว่างการประชุมในห้องเรียน เธอแสดงท่าทีเสียดาย “เนื่องจากปีนี้งบโรงเรียนของพวกเราไม่เพียงพอ อาจจะไม่ได้ไปขึ้นเขาแล้ว น่าจะทำได้แค่ไปเที่ยวที่สวนสาธารณะใจกลางเมือง…”

ทันใดนั้นในห้องเรียนก็มีระเบิดปะทุ ทั้งห้องมีแต่เสียงร้องคร่ำครวญ——

“คุณครูครับ ที่สวนสาธารณะมีอะไรให้เที่ยวกัน!”

“พวกเราเป็นโรงเรียนมัธยมชั้นหัวกะทิ ทำไมถึงไม่มีงบล่ะคะ?”

“พวกเธอจะรู้อะไร ค่าแค้มป์มันต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนะรู้ไหม!”

ไป่จื่อเยว์โบกมืออย่างปวดหัว “เอาล่ะๆ พวกเธอไม่ต้องพูดแล้ว ครูจะลองเสนอเรื่องไปยื่นกับคุณครูใหญ่ให้อีกครั้งแล้วกัน โอเคไหม?”

ทุกคนถึงจะยอมสงบลงได้

ตอนเย็น เซิ่งอี่เจ๋อพาอันซย่าซย่าไปร้านอาหารตะวันตกที่มีชื่อเสียงในเมืองอวี้ เขาหั่นสเต๊กเสร็จหมดแล้วก็แลกกับอันซย่าซย่า

อันซย่าซย่ากินอย่างไม่สบอารมณ์ เซิ่งอี่เจ๋อจึงอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “เธอน่าจะอารมณ์เสียเรื่องตั้งแค้มป์สินะ?”

“ฉันยังไม่เคยไปเลยนี่นา…” อันซย่าซย่าบุ้ยปาก จู่ๆ บริกรก็โน้มตัวเข้ามากระซิบเซิ่งอี่เจ๋อ เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วแล้วจับมืออันซย่าซย่า “คุณซ่งก็มาทานอาหารที่ร้านนี้ พวกเราไปทักทายกันเถอะ”

ถึงอย่างไรคุณซ่งก็มีฐานะไม่ธรรมดาในวงการธุรกิจ จึงควรไปพบเขาเพื่อเป็นมารยาทเสียหน่อย

บริกรนำทางทั้งสองไปที่ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง คุณซ่งนั่งอยู่คนเดียวในห้องที่วิวดีที่สุดพร้อมกับอาหารน่ากินมากมาย

“คุณอาซ่ง สวัสดีครับ” เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าเป็นการทักทาย อันซย่าซย่าก็ทักทายเช่นกัน “สวัสดีค่ะคุณอา”

ทันทีที่คุณซ่งเห็นอันซย่าซย่า ดวงตาก็เป็นประกายไปชั่วขณะ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนอย่างอธิบายไม่ถูก

“มาทานข้าวด้วยกันหน่อยไหม?” เขาเสนอด้วยความใจดี

“ไม่แล้วครับ เธออารมณ์ไม่ค่อยดี ผมกำลังคิดจะปลอบใจเธอน่ะครับ” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มจนปัญญา

คุณซ่งนึกสนใจ “ทำไมอารมณ์ไม่ดีล่ะ?”

“ก็เพราะที่โรงเรียนไม่ให้ไปตั้งแค้มป์น่ะค่ะ…” อันซย่าซย่าหดหู่ใจ เซิ่งอี่เจ๋อจิ้มหน้าผากเธอ ทันใดนั้นเธอก็พบว่าตัวเองพูดผิดไปจึงรีบเอามือปิดปาก

คุณซ่งเห็นท่าทางน่ารักของเธอ สายตาก็อ่อนโยน “ถ้าได้ไปตั้งแค้มป์ หนูจะอารมณ์ดีขึ้นมางั้นเหรอ?”

คุณซ่งคนนี้…ทำไมดูแปลกๆ …

เซิ่งอี่เจ๋อพูดคุยกับเขาไม่กี่ประโยคก็ลากอันซย่าซย่าออกมา

วันรุ่งขึ้น พออันซย่าซย่ามาถึงที่โรงเรียนก็ได้ยินข่าวใหม่

โดยภาคธุรกิจของตระกูลซ่งเป็นผู้อนุเคราะห์ให้คุณครูและนักเรียนทั้งหมดไปตั้งแค้มป์ด้วยกัน!

ตอนที่ 466 แคมป์ (2)

เธอเบิกตาอ้าปากค้างพลางมองเซิ่งอี่เจ๋อที่นั่งโต๊ะเดียวกัน “ภาคธุรกิจของตระกูลซ่งก็คือบริษัทของคุณซ่งไม่ใช่เหรอ…ทำไมเขาถึงให้งบสนับสนุนโรงเรียนพวกเราได้ล่ะ…”

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มเยาะอย่างสงบเสงี่ยม “เธอหลงตัวเองหรือเปล่า? คงไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะเธอหรอกนะ?”

อันซย่าซย่าส่ายหน้าไม่หยุด เธอไม่เชื่อว่าคุณซ่งจะให้งบสนับสนุนฉีซย่าเนื่องมาจากที่เธอเอ่ยประโยคนั้นเมื่อเย็นวานนี้

หลังจากเห็นดวงตาเธอหลุกหลิก สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อก็ดูจริงจังขึ้นมา บริเวณหน้าผากแฝงไปด้วยความฉงน

เดิมทีเขาวางแผนที่จะให้งบสนับสนุนโรงเรียนในนามตระกูลเซิ่งโดยตัวเองจะออกเงินจำนวนหนึ่งให้อันซย่าซย่าได้ไปเที่ยวเล่นอย่างมีความสุข

แต่ตอนนี้…พฤติกรรมของคุณซ่งอดไม่ได้ที่จะทำให้คนเกิดความสงสัย

ใช้เงินแลกรอยยิ้ม ช่างเป็นคนที่ใจกว้างจนน่าตกใจเสียจริงๆ

วันตั้งแคมป์ถูกกำหนดไว้ในช่วงสุดสัปดาห์ อันซย่าซย่าตั้งตารอคอยด้วยความคาดหวังจนในที่สุดก็มาถึงวันศุกร์แล้ว!

เธอลุกลงจากเตียงตั้งแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็หยิบกระเป๋านักเรียนที่อันอี้เป่ยจัดไว้ให้รวมไปถึงกล่องข้าวกลางวันสองกล่องใหญ่ที่ป่าป๊าอันเตรียมไว้อย่างดีออกจากบ้านด้วยความร่าเริง

พอมาถึงโรงเรียน ทุกคนก็ขึ้นรถโรงเรียนตามห้องและแยกกันขับไปตามจุดหมาย

โดยแต่ห้องเรียนเลือกสถานที่ไม่เหมือนกัน ชั้นมัธยมปลายปีที่หนึ่งห้องสามเลือกไปที่ภูเขาวั่นจิ่งที่อยู่ในเมืองอวี้ ที่นั่นเป็นภูเขาเนินเตี้ย คลื่นทะเลไม่สูงมาก อากาศสดชื่น เหมาะแก่การรวมกลุ่มกันตั้งแคมป์

รถโรงเรียนขับไปถึงกลางเขาโดยมีไป่จื่อเยว์และถังอี้จวินเป็นคุณครูผู้นำทีม ทั้งสองพาเด็กผู้ชายสองสามคนไปหาพื้นราบที่อยู่ติดกับน้ำพุภูเขา จากนั้นก็แจ้งให้ทุกคนกางเต็นท์

อันซย่าซย่ากับซูเสี่ยวโม่จูงมือกันลงรถ ซูเสี่ยวโม่ถามด้วยความแปลกใจ “ซย่าซย่า กระเป๋าเธอล่ะ?”

“หือ…เซิ่งอี่เจ๋อถือไปแล้ว”

ทั้งสองมองออกไปก็เห็นเซิ่งอี่เจ๋อกำลังสะพายกระเป๋าสีชมพูใบนั้นของอันซย่าซย่า กระเป๋าของเด็กผู้หญิงเล็กไปหน่อยสำหรับเด็กหนุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขากลับให้อารมณ์เหมือนเดินบนรันเวย์ นั่นทำให้ซูเสี่ยวโม่นึกอิจฉา

เธอแกล้งเดินไปชนเหอจยาอวี๋โดยไม่ตั้งใจและทำเป็นเบี่ยงหน้าหนีด้วยท่าทีเมินเฉย

เธอยังไม่ลืมเรื่องเมาเหล้าในคืนนั้น

เหอจยาอวี๋ที่เป็นแบบนั้นทำให้เธอเศร้าใจ ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร

พวกผู้ชายไปช่วยผู้หญิงกางเต็นท์ แต่กลับไม่มีใครสนใจคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์เลวร้ายอย่างหลีชั่นซิง เธอยืนกระดากอายอยู่กับที่ เมื่อไป่จื่อเยว์เห็นดังนั้นก็เรียกให้ซูเสี่ยวโม่กับอันซย่าซย่าไปช่วยเธอ

อันซย่าซย่ากับซูเสี่ยวโม่ทำหน้าเหมือนกินแมลงวันเข้าไป แต่ก็ใจดีพอที่จะช่วยเธอ ไม่มีใครคาดคิดว่าหลีชั่นซิงกลับไม่เห็นคุณค่าพลางทำหน้าเหยียด “คิกคิก พวกเธอสองคนจัดการไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะจ่ายเงินให้”

ในขณะที่พูด เธอก็นั่งสบายใจเฉิบอยู่ข้างๆ ทั้งยังถือหมวกขึ้นมาพัดทำท่าเป็นพวกคุณหนูลูกเศรษฐี

ซูเสี่ยวโม่โมโห “ให้ตายเถอะ เธอเห็นเราเป็นแรงงานต่างด้าวหรือไง ใครอยากได้เงินเหม็นๆ ของเธอกันล่ะ?”

“พวกเธอสองคนก็จนมาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลีชั่นซิงกลอกตา

“เธอพูดถูก เพราะฉะนั้นคนจนอย่างพวกเราจะไปนอนเต็นท์ที่แสนอบอุ่นกัน~ คุณหนูชั่นซิงค่อยๆ นั่งตากลมไปนะ~” อันซย่าซย่ายิ้มตาหยีแล้วจูงมือซูเสี่ยวโม่เดินออกไป

ตลกสิ้นดี ทำไมจะต้องไปโอ๋เธอด้วย?

อุตส่าห์ช่วยเธอยังไม่เห็นใจอีก งั้นก็ปล่อยให้เธอทำเองแล้วกัน

หลีชั่นซิงจ้องมองพวกเธอสองคนที่เดินจากไปด้วยใบหน้าขาวซีด อับอายที่พวกเธอไม่อยู่ทำต่อ บวกกับไม่พอใจที่ไม่มีเต็นท์นอน เธอจึงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ

ถือโอกาสตอนที่อันซย่าซย่ากำลังนั่งคุยบนโขดหิน เธอถือขวดน้ำแร่ไปอีกด้านหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องแสร้งทำเป็นข้อเท้าพลิก!

ขวดน้ำในมือปลิวออกไป รดไปทั่วทั้งหัวอันซย่าซย่า!

“โทษทีนะอันซย่าซย่า” เธอขอโทษอย่างเสแสร้ง