เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 394 เรื่องพลิก

“ผมไม่ได้คาดว่าคุณจะมีประสิทธิภาพขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด ผมจะขอทิฟฟานี่แต่งงานโดยเร็วที่สุด”

มาร์คไม่สนใจเลยว่าอีธานจะแต่งงานหรือไม่ “ลงนามในข้อตกลงการโอนเดี๋ยวนี้ ฉันไม่มีเวลาสำหรับการเม้าท์มอย”

อีธานเซ็นชื่อลงบนเอกสารอย่างสบาย ๆ และเงยหน้าขึ้นมองขณะที่เขาถามว่า “ถ้าผมแต่งงาน ในฐานะพี่ชายของผม คุณจะไปใช่ไหม?”

“อย่าล้ำเส้น!” มาร์คจ้องหน้าเขาด้วยสายตาพิฆาตอย่างไม่ละสายตา

อีธานยักไหล่ขณะที่เขายิ้มอย่างมีความหมาย “เหรอ? ผมขอให้คุณให้ผมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ครอบครัวเทรมอนต์ แต่เนื่องจากคุณไม่เต็มใจ ผมก็ไม่ต้องการบังคับคุณเช่นกัน ผมสามารถมีทุกอย่างได้โดยทำด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามมันจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อผมหากผมประกาศว่าผมเป็น เทรมอนต์เช่นกัน อันที่จริงผมจะได้เปรียบด้วยซ้ำ คุณจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม? ท้ายที่สุดคุณได้บอก แอเรียนทุกอย่างที่ผมทำไปแล้ว คุณจะอธิบายตัวเองอย่างไรและสถานการณ์มันจะลำบากสำหรับคุณอย่างไรก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผม คุณต้องทำตัวเหมือนเรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและยอมรับผมเป็นน้องชายของคุณ”

มาร์คเริ่มตระหนัก อีธานไม่เพียงต้องการประกาศตัวตนของเขาเท่านั้น แต่เขาต้องการให้มาร์คเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขาน้อยชายคนละแม่ของมาร์ค! เพื่อให้การโกหกสมบูรณ์แบบและเพื่อรักษาความลับขั้นสุดท้ายเพราะในตอนนี้ที่แอเรียนรู้แล้วว่าอีธานทำอะไรไว้บ้าง มาร์คจะต้องยอมรับน้องชายคนนี้ต่อหน้าคนทั้งโลกและปูเส้นทางแห่งความสำเร็จให้กับเขา

“เปลี่ยนสภาพของนายซะ นายไม่ได้รับอนุญาตให้ประกาศตัวตนของนาย!” มาร์คคำรามเสียงต่ำพลางพยายามระงับความโกรธของเขา

“ทำอย่าวนั้นไม่ได้หรอก ผมแจ้งให้คุณทราบเฉย ๆ นี่ไม่ใช่การสนทนา หรือคุณจะมอบทรัพย์สินของเทรมอนต์ให้ผมดี ๆ?” คำพูดของอีธานมีเจตนายั่วยุมาร์คอย่างชัดเจน

การมอบทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทรมอนต์เป็นไปไม่ได้ มาร์คไม่มีทางลืมทางเลือกที่แม่ของเขาทำในคืนก่อนเครื่องบินตก เธอทำเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจากเทรมอนต์เป็นของเขา ทุกสิ่งที่เธอทำคือการรักษาทรัพย์สินของเทรมอนต์ไว้ให้เขา เขาจะไม่ส่งมอบให้อีธานเป็นอันขาด อีธานรู้ดีว่าเขาจะไม่มีวันทำนั่นคือเหตุผลที่อีธานยังคงกดดันเขา

เมื่อเห็นมาร์คนิ่งเงียบอีธานก็แนะนำว่า “ผมรู้ว่าคุณมีปัญหากับแอเรียน ผมมีข้อเสนอ ทำไมคุณไม่บอกเธอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเลนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมเลย? กลับคำพูดของคุณทั้งหมด มันดีสำหรับคุณและดีสำหรับผม ไม่อย่างนั้น ผมคงกังวลว่าเธอจะต้องบอกทิฟฟานี่ในวันหนึ่งเมื่อเธอไม่สามารถรั้งมันไว้ได้อีกต่อไป ในเวลานั้นผมจะถูกบังคับให้เปิดเผยความลับของคุณเช่นกัน คุณคิดอย่างไร?”

มาร์คยังคงเงียบในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและจากไป

อีธานไม่ได้ใส่ใจ เขาหยิบถ้วยกาแฟตรงหน้าขึ้นมาจิบ เขารู้ว่ามาร์คจะทำตามที่เขาแนะนำอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อมาร์คกลับมาที่ห้องทำงานเขาเห็นแอเรียนนอนหลับอยู่บนโซฟา เขาระงับความโกรธเคืองที่เขารู้สึกและเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเธอ เขาพยายามระวังตัวแล้ว แต่เขาก็ยังปลุกเธออยู่ดี

เธอขยี้ตาและมองไปที่เขาอย่างเลือดเย็น “คุณกลับมาแล้วเหรอ? เรากลับบ้านได้หรือยัง?”

มาร์คสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เขาจะพูดว่า “เรื่องมันเกี่ยวกับอีธาน… ดูเหมือนฉันจะเข้าใจผิด”

แอเรียนรู้สึกสับสน “หืม? เข้าใจผิด? คุณเข้าใจอะไรผิด? เขาไม่ใช่น้องชายของคุณหรอ?”

เขาส่ายหัว คำพูดเหล่าที่เขาต้องพูดเป็นเรื่องยากสำหรับเขา แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดมันออกไป “ไม่ ฉันหมายถึงเรื่องครอบครัวเลน ปรากฎว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย ฉันสงสัยถึงความชอบธรรมของเงินที่เขาใช้ในการตั้งบริษัทและซื้อที่ดินด้วยและมันพาฉันเข้าเรื่องครอบครัวเลน ฉันนึกว่าต้องเป็นเขา แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมฉันพบว่าไม่ใช่เขา ความตายนั้น… ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา วัสดุที่หายไปเหล่านั้นยังคงหาไม่เจอ”

การพลิกกลับอย่างกะทันหันของสิ่งต่าง ๆ ทำให้แอเรียนไม่ทันระวังตัว “คราวนี้คุณแน่ใจหรือไม่ว่าเข้าใจถูกแล้ว? มันฟังดูไร้สาระ…”

มาร์คบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์และพูดอย่างมีเหตุผลว่า “ฉันคิดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของเลน เพราะเขาอาจทำให้ฉันสูญเสียเงินเป็นล้าน ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะได้รับประโยชน์จากมัน เนื่องจากมันเข้ากับเรื่องนั่น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันเข้าใจผิด…”

แอเรียนไม่สงสัยในคำพูดของมาร์ค เธอรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่อีธานไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอยังคงงงงวย นี่ไม่ใช่วิธีการของการทำสิ่งต่าง ๆ ของมาร์ค เขาจะไม่บอกเธอเรื่องเหล่านั้นถ้าเขาไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้มองข้ามความเป็นไปได้ที่เขาจะทำผิดพลาดเนื่องจากไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่า ครอบครัวของเขามีลูกชายนอกสมรส “แล้ว… เงินที่เขาใช้ตั้งบริษัทและซื้อที่ดินมาจากไหน?”

มาร์คไม่ยอมสบตาเธอขณะที่เขาเดินไปที่หน้าต่างกระจก แววตาของเขาเย็นชา “เฒ่าแก่ของเขาอาจจะทิ้งไว้ให้เขา…”

แอเรียนไม่ได้สังเกตว่ามาร์คใช้คำว่า ‘เฒ่าแก่’ แทนที่จะเป็น ‘พ่อของฉัน’ เธอกล่าวว่า “นั่นเป็นความโล่งใจ โชคดีที่ฉันยังไม่ได้พูดอะไรกับทฟฟ์ ไม่งั้นคงรู้สึกอึกอักแย่ ค่อยยังชั่ว! เรากลับบ้านกันดีไหม?”

สิ่งเดียวที่มาร์ครู้สึกขอบคุณในตอนนี้คือแอเรียนยังคงอยู่เคียงข้างเขาและถามเขาว่าพวกเขาจะกลับบ้านหรือยังด้วยสายตาที่ชัดเจนของเธอ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ช่วยลดความรู้สึกผิดของเขาทีขัดต่อมโนธรรมของเขาและพูดสิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้

ในช่วงสุดสัปดาห์แอเรียนและมาร์คไม่ได้ถูกขัดขวางจากความร้อนที่ร้อนระอุและจึงไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้า ท้ายที่สุด พวกเขาได้วางแผนเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว

สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี อาคารทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและโดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดถูกบริจาคโดยมาร์ค

ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเด็ก ๆ ที่เล่นอยู่ใต้ต้นไม้ก็วิ่งมาหาพวกเขา พวกเขาไม่คุ้นเคยกับแอเรียน แต่พวกเขาคุ้นเคยกับมาร์คแน่นอน

“คุณเทรมอนต์!”