ตอนที่ 451 ราชาผีดิบ
ฉินหยุนและคณะแทบไม่กล้าหายใจยามเห็นกลุ่มคน พวกเขาหวาด
เกรงว่าจะถูกพบเห็นเข้า
นี่ก็เพราะในกลุ่มแปดคน มีสองคนเป็นราชันยุทธ์ อีกสามคนอยู่
ขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้า และที่เหลืออยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ด้วยกําลังระดับนี้ ไม่ใช่อะไรที่ฉินหยุนและคณะจะสามารถรับมือได้
“หวังเทียนซือ สุสานนี่อะไร? เหตุใดคนเหล่านี้ด้านในโลงศพจึง
ระดับการฝึกฝนตํ่าเตี้ย?”
ราชันยุทธ์เปิ ดฝาโลงศพพร้อมคิ้วขมวด “นี่ไม่ใช่หลุมฝังเซียนหรือ?
อย่างนั้นร่างศพก็ควรเป็นเซียนสิ!”
หวังเทียนซือหันมองทางพวกเขาและกล่าว “เหล่านี้อาจเป็นผู้ที่
ช่วยเหลือในการสร้างหลุมฝังเซียนเมื่อกาลก่อน! โลงศพพวกนี้
ตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านใน สมควรไล่เรียงระดับความแข็งแกร่ง เข้า
ไปรับชมดีกว่า อาจมีร่างศพขอบเขตราชันยุทธ์ก็เป็นได้!”
ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะนับถือหวังเทียนซือ อีกฝ่ ายค่อนข้างเข้าใจ
เรื่องราวเหล่านี้ลึกซึ้งทีเดียว
ขณะนี้เขาเป็นกังวลเรื่องรอยสักโทเทมที่ผนังกําแพง เพราะโมโม
เพิ่งบอก ว่านางสามารถคัดลอกอักขระโทเทมเหล่านั้นได้
หวังเทียนซือและคณะก้าวเดินไปในห้อง เปิ ดฝาโลงศพไล่ตามทาง
“ดังที่คิด ทางด้านนี้เป็นราชันยุทธ์ นอกจากนี้ ยังมีอาวุธประจําตัว
พวกนี้เป็นอาวุธเต๋า ฮ่าฮ่า… ในที่สุดก็ค่อยได้อะไรดี ๆ ติดไม้ติดมือ
บ้าง!” ราชันยุทธ์คนหนึ่งคว้าเอากระบี่เล่มใหญ่ขึ้นมา เสียงหัวเราะ
จากใจดังออก
ขณะสองราชันยุทธ์รู้สึกยินดีอยู่นั้นเอง กระแสพลังภายในสีดําหลุด
ลอยจากโลงศพ ร่างศพเหล่านั้นกําลังขยับ!
เรื่องนี้ทําหวังเทียนซือหวาดกลัวจนกรีดร้องออก “เร่งรีบจัดการพวก
มัน! เหล่านี้สมควรเป็นราชาผีดิบ ระวังตัวด้วย!”
ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนรู้สึกได้ ว่าหญิงสาวทั้งสองกระชับมือเขาเอาไว้
แน่น นี่เป็นพวกนางหวาดกลัวเช่นเดียวกัน
“ราชาผีดิบ… สร้างสิ่งเช่นนี้โดยใช้ศพโบราณ ต้องผ่านเคล็ดวิชาขัด
เกลาแกร่งกล้า นี่สมควรใช้เพื่อพิทักษ์สุสาน!” สุ่ยเทียนสื่อส่งเสียง
ทางจิตบอกต่อฉินหยุน “นี่เทียบเท่ากับการขัดเกลายอดฝีมือที่วาย
ชนม์ให้กลายเป็นหุ่นเชิดบ้าคลั่ง!”
ฉินหยุนลอบตระหนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินถึงเรื่องราวเช่นนี้
เขามองทางราชันยุทธ์สองคน และทางราชาผีดิบสองตน ขณะนี้
กําลังต่อสู้กันไม่ไกลออกไป
ฟึ่ บ ฟึ่ บ ฟึ่ บ!
ราชันยุทธ์แต่เดิมคิดใช้พลังแกร่งกล้าต่อสู้ สร้างคลื่นพลังภายในทํา
การพลิกโลงศพเหล่านั้นให้พ้นทาง
ร่างศพด้านในล้วนแกร่งกล้า หลังจากโลงศพกลิ้งกระเด็น ร่างย่อม
กระเด็นออกตาม ราวกับนี่เป็นการปลุกผู้วายชนม์ให้ตื่นขึ้น ร่าง
เหล่านั้นกําลังยืนหยัด ไล่ล่าหวังเทียนซือและคณะ
ราชันยุทธ์สองคนเผชิญหน้าราชาผีดิบสองตน หวังเทียนซือและ
ผู้อื่นที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้า ต้องเผชิญหน้าผีดิบอีกหลายสิบตน
พวกเขาย่อมไม่อาจต่อกรผีดิบเหล่านี้ ที่ทําได้ คือการเร่งรีบหลบหนี
“หวังเทียนซือ คิดหาทางเร็วเข้า หากเป็นแบบนี้ต่อ พวกเรามีแต่จะ
ตายกันหมด!’ ราชันยุทธ์ตะโกนเสียงดัง
“ไม่มีทางอื่นแล้ว หนีได้รีบเผ่นหนี!” หวังเทียนซือรู้สึกสิ้นหวัง
“สถานการณ์ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะเปิ ดค่ายอาคม
หลบหนี!”
ฉินหยุนกระทั่งสบถต่อตนเอง ที่ก่อนหน้านี้ไม่เปิ ดฝาโลงศพเหล่านั้น
ฉกชิงเอาอุปกรณ์เต๋ามา
ขณะนี้ภายในเกิดความยินดีที่ไม่ทํา ไม่เช่นนั้น เขาคงต้องถูกรุมล้อม
อย่างไม่ทันตั้งตัว!
หากพวกเขาต้องเผชิญหน้าราชาผีดิบ ก็มีแต่ชะตาต้องตาย
สุสานขนาดใหญ่ โดยทันทีกลับกลายเป็นถูกปกคลุมด้วยเสียงอึกทึก
ถล่มทลายและสายลมกระโชก
การศึกระหว่างราชาผีดิบและราชันยุทธ์ ทําให้โลงศพหยกจํานวน
มากกระเด็นกระจาย ส่งร่างผู้ที่อยู่ภายในกระเด็นออกมา
โลงศพหยกบางโลง กระทั่งแตกออกเป็นเสี่ยง
แม้ฉินหยุนและคณะไม่ได้เผชิญหน้าผีดิบโดยตรง ทว่าหากปล่อยให้
ดําเนินเช่นนี้ต่อก็มีแต่อันตรายแล้ว
สุสานแห่งนี้ถูกผนึก ดังนั้นหากคิดออกไป ก็ต้องใช้ค่ายอาคมเคลื่อน
ย้าย แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีทางที่จะเปิ ดอาคมเคลื่อนย้ายได้
เลย
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเกิดความว้าวุ่น เหงื่อกาฬไหลหลั่งท่วมมือ
ที่จับฉินหยุนเอาไว้
หากทั้งสามเผชิญหน้าราชาผีดิบเมื่อใด ความตายย่อมมาถึง
“ดูไปก่อน บางทีผีดิบพวกนั้นอาจไม่พบเจอพวกเรา!” ฉินหยุนส่ง
เสียงบอกหญิงสาวทั้งสอง
แต่คําพอกล่าวจบ ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ หินเรืองแสงมากมาย
ด้านบนสุสานขนาดใหญ่พลันสาดส่อง
ภายใต้แสงสว่างรุนแรง ฉินหยุนและที่หลบซ่อน ขณะนี้ถูกเปิ ดเผย
หวังเทียนซือได้เห็นพวกเขา เสียงตะโกนคํารามดัง “ไอ้เด็กสารเลว
เป็นพวกเจ้า! จงตายกันเสียที่นี่!”
ราชันยุทธ์สองคนไม่ว่างพอสนใจทางอื่น พวกเขาต้องรับมือกับ
ราชาผีดิบถึงหกตน
ฉินหยุนกัดฟันแน่น นําสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อร่วมทาง ใช้
ความสามารถเทวะทะลุทะลวงกําแพงออกไป
เดิมเขาคิดว่าต้องทะลุทะลวงกําแพงนี้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ที่ไม่คาดคิด
ก็คือ เขากลับพบอุโมงค์ทางเดินเพียงเวลาไม่นาน
เส้นทางนี้กว้างราวห้าถึงหกเมตร และมืดมิดยิ่ง หาได้มีแสงใดเล็ด
รอดเข้ามา
“ปลอดภัยแล้วหรือ?”
สุ่ยเทียนสื่อนําเอาหินเรืองแสงออกมาสาดส่อง นางพบฉินหยุนหมด
แรงที่พื้น โดยทันทีจึงเร่งรีบส่งถ่ายพลังช่วยเหลือฟื้นฟู
สื่อชิงเฉิงเผยความร้อนใจ “ยังวางใจไม่ได้! เทียนสื่อดูแลเขาด้วย ที่นี่
ให้ข้าจัดการ!”
นางนําเอาตะขอคู่ออกมา เร่งรีบไปยังฟากหนึ่งของเส้นทาง
ผีดิบเหล่านั้นกระทั่งอยู่ในเส้นทางเดิน ตัดสินจากความหนาแน่น
ของออร่า พวกมันสมควรอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!
“พี่สาว เร่งรีบช่วยเหลือพี่สาวซาลาเปานึ่ง ข้าช่วยตัวเองได้!”
ฉินหยุนมองทางสื่อชิงเฉิง พบว่าตะขอคู่ในมือของนาง แทงทะลุที่
ลําคอของผีดิบ ถัดจากนั้น บอลแสงทองม่วงพลันระเบิดออก เป่ า
ลําคอนั้นจนกระจุยกระจาย
สุ่ยเทียนสื่อขมวดคิ้ว “ชิงเฉิงสามารถรับมือได้ชั่วคราว ให้ข้าช่วยเจ้า
ฟื้นฟูก่อน!”
ปี กคู่สีทองม่วงปรากฏที่แผ่นหลังของนาง กระพือพัดเล็กน้อย เกิด
เป็นคลื่นลมรุนแรง เป่ าเอาร่างผีดิบเหล่านั้นที่กําลังพุ่งทะยานเข้าหา
ไปพ้นทาง
“นี่สมควรเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างสุสานแห่งนี้ พวกเขาล้วน
ตายที่นี่จนแปรเปลี่ยนเป็นผีดิบ!”
สื่อชิงเฉิงเผชิญศึกหนักหน่วง พยายามกดดันให้ผีดิบที่รุกเข้ามาต้อง
ถอยอย่างต่อเนื่อง
ผีดิบเหล่านี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ และยังมีกันกว่าร้อยตน โชค
ยังดี ผีดิบเหล่านี้ไม่มีความสามารถแกร่งกล้าเพื่อต่อสู้ ดังนั้นจึงได้
ต่อโจมตีสุ่มและกัดไปทั่ว
มีแต่ราชาผีดิบ จึงค่อยมีสัญชาตญาณการต่อสู้
ร่างผีดิบเหล่านี้แข็งแกร่ง ไม่ใช่ง่ายรับมือ
สื่อชิงเฉิงได้แต่บีบบังคับให้ผีดิบเหล่านี้ถอยทัพ หากนางต่อสู้ทีละ
ตัว ผีดิบเหล่านี้จะกลายเป็นตอบโต้จนนางต้องถอยร่น
ฉินหยุนระดับการฝึกฝนตํ่าเตี้ยเกินไป ทุกครั้งที่ใช้ความสามารถ
เทวะทะลุทะลวง เขาต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล
เป็ นเรื่องดีที่สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่ออยู่ข้างกายคอยคุ้มกัน
ไม่เช่นนั้น หลังใช้งานความสามารถเทวะ เขาคงต้องตกอยู่ภายใต้
อันตรายใหญ่หลวง
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฉินหยุนค่อยฟื้นฟูพลังมาได้ราวหกถึงเจ็ดในสิบ
“พี่สาววิญญาณร้ายวารี เร่งรีบช่วยเหลือนาง!” ฉินหยุนเร่งร้อน
ตะโกน “สังหารผีดิบเหล่านี้!”
สุ่ยเทียนสื่อนําเอาดาบออกมาสองเล่ม พุ่งทะยานเข้าหาผีดิบ ทําการ
โจมตีหลายครั้ง แม้พวกมันแทงทะลุร่างผีดิบ ก็ไม่อาจนับเป็นการ
สังหาร
“ตัดหัวพวกมัน!” สื่อชิงเฉิงตะโกน
ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนนําเอายันต์สะกดวิญญาณออกมา ขว้างปาพวกมัน
ออก
ยันต์สะกดวิญญาณพอร่อนลงกลางกลุ่มผีดิบ ผลลัพธ์ที่ได้ ผีดิบ
เหล่านั้นส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างพวกมันแปรเปลี่ยนเป็นพลัง
ภายในสีดํา ราวกับกําลังถูกกัดกร่อน
“ได้ผลดีเยี่ยม!” ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่ายันต์สะกดวิญญาณจะส่งผล
กับผีดิบเหล่านี้ได้ดีเยี่ยม
ร่างผีดิบเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นควัน กระนั้นก็ยังคงโดนฤทธิ์ของ
ยันต์สะกดวิญญาณเล่นงาน
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ทั้งสองเร่งรีบพุ่งเข้าใส่ ใช้พลังแกร่งกล้า
ทําลายศีรษะของผีดิบเหล่านั้น
เพียงไม่นาน ผีดิบกว่าสองร้อยตนถูกสังหารสิ้น
“น้องหยุน นั่นยันต์อันใด? ทํางานได้ดีเยี่ยมนัก!” สุ่ยเทียนสื่ออุทาน
ยินดีขณะปาดเช็ดคราบเหงื่อ เผยซึ่งรอยยิ้มยินดีออกมา
สื่อชิงเฉิงกล่าวคํา “เรียกว่ายันต์สะกดวิญญาณ ได้ผลดีเยี่ยมกับภูตผี
สัตว์ร้าย แต่ไม่นึกเลยว่าใช้กับพวกผีดิบเหล่านี้ก็ได้ด้วย!”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นางช่วยเหลือฉินหยุนขัดเกลายันต์สะกด
วิญญาณไว้จํานวนหนึ่ง
ฉินหยุนมองสองฝั่งของเส้นทาง ไม่ทราบว่ามันจะไปสิ้นสุดที่ใด เขา
กล่าวออก “เส้นทางนี้คล้ายอยู่ลึกลับออกไป นี่มันใช้เพื่อนําไปที่ใด
กัน?”
“ย่อมไม่อาจทราบ มีแต่ต้องไปดูจึงรู้ได้!” สุ่ยเทียนสื่อมองสองฝั่ง
ของเส้นทาง “เช่นนั้นควรไปทางใดดี?”
“ทิศทางที่พวกผีดิบคิดไป!” ฉินหยุนชี้นิ้วกล่าวออก
สุ่ยเทียนสื่อก้าวเดินนําหน้า ถือยันต์สะกดวิญญาณสองแผ่นไว้ในมือ
สื่อชิงเฉิงตามประกบหลัง
ฉินหยุนอยู่ตรงกลาง นับว่าปลอดภัยที่สุด
เพียงไม่นาน พวกเขาค่อยเห็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง นับว่าไม่ไกลมาก
นัก
เมื่อเห็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง ความตึงเครียดบังเกิด เพราะที่สุด
ปลายทาง เป็นร่างศพ!
เป็นร่างศพที่แขนและขาถูกโซ่ตรวนทองคําจองจําเอาไว้ และโซ่
ตรวนนั้นก็ดูแข็งแกร่งยิ่ง มันปักเอาไว้กับกําแพงอย่างแน่นหนา
“ดูเหมือนตอนสร้างสุสานแห่งนี้ จะเกิดเรื่องราวขึ้นไม่ใช่น้อย!” ฉิน
หยุนกล่าวคํา “สงสัยนักว่าตรงหน้านี้เป็นราชาผีดิบหรือไม่?”
สื่อชิงเฉิงขมวดคิ้ว “เป็นชายชรา น่าจะมีโทษต้องตายสถานเดียวจึงมี
สภาพนี้!”
ชายชราสวมใส่ชุดผ้าป่ านหยาบกร้าน ดวงตาหลับไว้แน่น ใบหน้าดํา
เทานั้นปรากฏริ้วรอย เส้นผมสั้นขาวโพลน คางค่อนข้างแหลม แม้
ตายไปแล้ว ก็ยังมอบความรู้สึกแกร่งกล้าแก่ผู้พบเห็น
ขณะฉินหยุนคิดเข้าไป ชายชราตรงหน้าพลันเบิกตาโพลง เผยซึ่ง
ดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่ง
ฉินหยุนกรีดร้องภายใน ขว้างปายันต์จํานวนหนึ่งใส่อีกฝ่ าย กระนั้น
กลับไร้ผล ชายชรายังคงจับจ้องด้วยดวงตาแดงฉาน
“เป็นราชาผีดิบ! หนี!” สุ่ยเทียนสื่อดึงฉินหยุนเร่งร้อนคิดจากไป
“อย่าได้หนี… ข้าเป็นมนุษย์!” เสียงชายชราเบายิ่งทว่ากระจ่างชัดดัง
ในอุโมงค์
สุ่ยเทียนสื่อที่เร่งร้อนพลันชะงัก วิ่งกลับมาพร้อมฉินหยุน
หัวใจทั้งสามคนขณะนี้เปี่ ยมด้วยความแตกตื่น นี่ก็เพราะสุสานแห่ง
นี้สร้างไว้นานยิ่ง แต่แล้วกลับยังมีคนรอดชีวิตจนกระทั่งถึงตอนนี้!
“ท่าน… เป็นคนดีหรือคนเลว?” สื่อชิงเฉิงเร่งรีบเอ่ยถาม
“นั่นขึ้นอยู่กับมุมมองความดีและความเลว!” ชายชราหัวเราะ
“กาลเวลาผันผ่านนานนับ สงสัยนักว่าคนดีหรือคนเลวเดี๋ยวนี้มี
มุมมองอย่างไร!”
“หากท่านไม่คิดสังหารพวกเรา ไม่คิดทําร้ายพวกเรา ย่อมไม่ใช่คน
เลว!” ฉินหยุนกล่าว
ชายชราหัวเราะกับตนเอง “สภาพข้าเช่นนี้จะทําร้ายเจ้าได้อย่างไร?”
ฉินหยุนกล่าวคํา “สิ่งที่จองจําท่านแกร่งกล้านัก พวกมันสมควรผนึก
พละกําลังของท่านไว้ ดังนั้นจึงไม่มีออร่าพลังใดหลุดรอด นอกจากนี้
พวกมันยังดูดกลืนพลังต่อเนื่อง กระนั้นท่านกลับยังมีชีวิตรอดมาได้
นานนัก!”
“ข้าไม่นึก ว่าเจ้าอ่อนแอเพียงนี้กลับทราบมากมายเพียงนั้น!” ชาย
ชราประหลาดใจไม่น้อย จากนั้นจึงเอ่ยถาม “พวกเจ้ามาจากแดนยุทธ์
อ้างว้างหรือ? เก้าดวงตะวันขณะนี้เป็นอย่างไร? เก้าดวงตะวันร่วง
โรยหรือยัง?”
ฉินหยุนและหญิงสาวทั้งสองแตกตื่นยามได้ยิน เก้าดวงตะวันถึงขั้น
มีชะตาต้องร่วงโรยจริง!
“ยังไม่!” ฉินหยุนทราบว่าวิญญาณดวงตะวันไม่อยู่ภายในร่างดวง
ตะวันอีกต่อไปแล้ว