บทที่ 291
“ฮ่า ๆ ๆ !”

หวางชงหัวเราะเสียงดังพลางเอ่ย : “คุณอา คุณเข้าใจผิดไปแล้วหรือเปล่า ? พวกเขาคนหนึ่งเป็นคุณหนูที่ตกอับของตระกูลเย่ อีกคนหนึ่งเป็นเขยสวะที่แต่งเข้า จะเป็นคุณหยาง ประธานเย่อะไรนั่นยังไงกัน…… ”

พูดถึงสุดท้าย

จู่ ๆ หวางชงก็พูดต่อไปไม่ได้แล้ว

คอของเขา จู่ ๆ เหมือนถูกคนกักเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

จากนั้น

จ้องมองหยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ

สองขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

เผียะ !

ฟ่านเจี้ยนตบหน้าของหวางชงอย่างโหดเหี้ยมไปหนึ่งฉาด พร้อมตะโกนด่าทอ : “ไอ้เจ้าตาไม่มีแวว ยังไม่รีบคารวะคุณหยางกับประธานเย่อีก !”

ครืน !

ได้ยินดังนั้น

ประหนึ่งฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆ ลงมาที่ศีรษะของหวางชงเข้าอย่างจัง

ที่แท้

เย่เมิ่งเหยียนเป็นประธานสาวที่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปจริง ๆ

ส่วนหยางเฟิงก็คือ ราชาแห่งตงไห่ !

ตุ๊บ !

หวางชงกลัวจนสองขาอ่อนแรง เขาคุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่ลังเลสักนิด

เขาในเวลานี้ ใบหน้าไร้สีเลือดฝาด สีหน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ

เขารู้ว่าตนเองในวันนี้จบเห่แล้ว !

กล้าล่วงเกินราชาตงไห่

ทั่วทั้งตงไห่ จะไม่มีที่ให้เขาได้พักพิง

ราชาตงไห่ น่าหวาดกลัวมากแค่ไหน เขานั้นรู้ดี

พื้นที่สีเทาทั่วทั้งตงไห่นั้น ก็ถูกราชาตงไห่กวาดเรียบ

บุคคลที่เคยใหญ่โตที่ตงไห่จำนวนนับไม่ถ้วน

อย่างเย่ขวง หวางหลง……คนพวกนี้ พังพินาศในเงื้อมมือของราชาตงไห่ทีละคน

แต่เขาฝันก็นึกไม่ถึงว่า หยางเฟิงก็คือราชาตงไห่ !

หลินน่าเห็นหนิวต้าลี่หวางชง ฟ่านเจี้ยน ทั้งสามคนนี้คุกเข่าอยู่บนพื้น จึงตกตะลึงราวกับได้สติกลับมา

“พวกแก……”

เธอไม่กล้าที่จะเชื่อ !

หรือว่า

ทั้งหมดที่หยางเฟิงพูดเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ ?

เย่เมิ่งเหยียนเป็นประธานสาวของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปจริง ?

หยางเฟิงเป็นราชาแห่งตงไห่จริงใช่ไหม ?

เห็นหลินน่ายังคงงงงันอยู่

หนิวต้าลี่ดึงเธออย่างรุนแรง พร้อมตะโกนบอก : “ยืนบื้ออยู่ทำไม ? ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษคุณหยางแล้วก็ประธานเย่อีก !”

“อ้อ ๆ ……”

หลินน่าได้สติกลับมา ตัวเธอได้คุกเข่าลง ทั่วทั้งร่างกายสั่นเทาไม่หยุด หัวใจเต้นแรงไม่หยุด

เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ เห็นที่นี่แล้วต่างก็ตกตะลึงไปเลย

พวกเขาจะยืนก็ไม่ใช่ จะนั่งก็ไม่เชิง

โดยเฉพาะพวกคนที่เคยเยาะเย้ยหยางเฟิง ก็ยิ่งแม้แต่จะนั่งก็นั่งไม่ติดเลย ล้มลงไปบนพื้นทั้งตัวเหมือนเป็นอัมพาต

หยางเฟิงมองหวางชงอย่างหยอกเย้า พร้อมแสยะยิ้มกล่าว : “แกบอกว่าหากฉันเป็นราชาตงไห่ จะเลียรองเท้าให้ฉันไม่ใช่หรอกเหรอ ?”

“อะไรนะ ? แกถึงกับบังอาจปฏิบัติกับคุณหยางอย่างไม่เคารพเช่นนี้เชียว !”

พอได้ยินดังนั้น

ฟ่านเจี้ยนจ้องหวางชงตาเขม็งด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว

เขานึกไม่ถึงเลย หวางชงจะใจกล้าขนาดนั้น ถึงกับกล้าพูดแบบนี้กับหยางเฟิง

ต้องรู้ไว้ว่า ต่อให้เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป แต่อยู่ต่อหน้าหยางเฟิง ก็เป็นเพียงแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น

หยางเฟิงอยากจะบีบตัวเองให้ตาย เพียงนิ้วมือนิ้วเดียวก็ได้แล้ว

“คุณอา ผม……”

หวางชงในตอนนี้ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว

เขาเคยคิดที่ไหนกันว่า หยางเฟิงจะเป็นราชาตงไห่ ?

จากความเห็นของเขา หยางเฟิงเป็นแค่เขยสวะที่แต่งเข้ากระจ้อยร่อยคนหนึ่ง เป็นชีวิตที่ตนเองเหยียบก็ตายได้ด้วยเท้าเดียวเพียงเท่านั้น

จนถึงขณะนี้

เขาถึงได้ค้นพบว่า

ที่แท้คนที่ถูกเหยียบให้ตายได้ในเท้าเดียว คือตัวเอง

ฟ่านเจี้ยนเอ่ยด้วยใบหน้าเขียวปัด : “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณอา นับจากวันนี้ไป ฉันกับแกไม่มีความสัมพันธ์อันใดอีก !”

ครืน !

ได้ยินคำพูดนี้ หวางชงล้มเป็นอัมพาตลงบนพื้นทั้งตัว

เขากลายเป็นผู้จัดการแผนกของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปได้ ทั้งหมดเป็นเพราะฟ่านเจี้ยน

หากว่าฟ่านเจี้ยนตัดขาดความสัมพันธ์กับตนเองแล้ว อย่างนั้นตนเองก็ไม่มีอะไรแล้วไม่ใช่หรอกเหรอ ?

ฟ่านเจี้ยนไม่ได้สนใจสีหน้าของหวางชง เขาโขกศีรษะพร้อมเอ่ยอ้อนวอน : “คุณหยาง เป็นเพราะผมมีตาหามีแววไม่ ถึงได้ทำให้หวางชงล่วงเกินคุณ ขอคุณอย่าได้คิดเล็กคิดน้อย ยกโทษครั้งนี้ให้ผมด้วยเถอะ !”

“คุณหยาง เป็นเพราะผมตาบอด มีตาหามีแววไม่ คุณถือเสียว่าผมเป็นตดเถอะครับ !”