บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 211 หวั่นใจ
“พี่ไป๋ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”เหม่ยหลินที่อยู่ร่วมฝึกกับไป๋จูเหวินมาได้สักพักเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของไป๋จูเหวินขึ้นมาแล้ว นอกจากมันจะไม่มีสมาธิฝึกฝนวิชาแล้ว มันยังเอาแต่นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่เสียอีก
“เปล่าก็แค่รู้สึกไม่ดีเท่านั้นเอง”ไป๋จูเหวินตอบเสียงเบาพลางเหม่อมองออกไปนอกถ้ำ
“ท่านอย่ามาโกหกขาเลย พลังของท่านปั่นปวนขนาดนี้จะไม่มีอะไรได้อย่างไร” เหม่ยหลินถามพลางจับมือของไป๋จูเหวินเอาไว้ ตั้งแต่วันที่ไป๋จูเหวินเลื่อนขึ้นมาเป็นระดับก่อกําเนิดพลังเซียน ไป๋จูเหวินก็มีท่าที่กังวลมาตลอด ทําให้การฝึกหลังจากนั้นแทบจะไม่คืบหน้าเลย
“มันอาจจะเป็นแค่เรื่องที่ข้าคิดไปเองก็ได้ แต่ข้าแค่รู้สึกว่าเรื่องไม่ดีกําลังจะเกิดขึ้น”ไป๋จูเหวินตอบ เพราะมันดันเห็นภาพของเมืองร้อยแปดอสูรซ้อนทับกับเขตนักล่าอสูรของอาณาจักรชูขึ้นมา ไม่ใช่ว่าพี่ปักเป้าเผลอพองตัวจนทําเมืองย่อยยับนะ
“หากท่านเป็นห่วง ก็ออกไปเถอะ”เหม่ยหลินเสนอโดยยังไม่ได้ปล่อยมือไป๋จูเหวินแต่อย่างไร
“แต่…”ไม่ต้องรอให้ไป๋จูเหวินพูดจบ เหม่ยหลินก็ทราบว่าไป๋จูเหวินจะบอกว่ามันไม่ควรออกไปจากถ้ำฝึกฝนเพราะพวกมันกําลังโดนลงโทษอยู่แน่ๆ
“ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องท่านพ่อหรอก ท่านบอกให้เราฝึกฝนเราก็ฝึกฝนแล้ว แถมพัฒนาไปได้ดีทีเดียว ท่านต้องพึงพอใจแน่ๆ”เหม่ยหลินยิ้มเพื่อจะบอกว่าไม่เป็นอะไร ทําให้ไป๋จูเหวินพยักหน้าช้าๆ
“เช่นนั้น ข้าจะไปพบท่านหัวหน้าก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา ทําให้เหม่ยหลินสบายใจขึ้นมาก แม้นางจะอยากอยู่ในถ้ำกับไป๋จูเหวินอีกสักหน่อย แต่หากเป็นเพื่อความสบายใจของไป๋จูเหวินนางย่อมยินดีช่วย
“ท่านหัวหน้า”ไป๋จูเหวินเมื่อออกจากถ้ำมาแล้วก็ตรงไปที่วังมังกรทันที แน่นอนว่าการออกมาของไป๋จูเหวินทําให้หวงหลงประหลาดใจอย่างมาก แต่พอเห็นพลังที่เพิ่มขึ้นหลายขั้นของมันหวงหลงจึงไม่ได้ต่อว่าอะไรออกไปก่อน
“มีอะไรหรือ” หวงหลังถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ท่าทีของไป๋จูเหวินจริงจังทีเดียว หรือมันจะมาพุกเรื่องเหม่ยหลินกัน?
“ข้ามีเรื่องไม่สบายใจอยากจะมาปรึกษาท่านขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินเข้าไปใกล้หวงหลงมากกว่าปกติ
“เรื่องไม่สบายใจ? ลองว่ามาสิ” หวงหลงว่าพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ข้ารู้สึกกระวนกระวายใจขอรับ ไม่ทราบว่าทําไมแต่ข้ารู้สึกเหมือนจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น”ไป๋จูเหวินตอบออกไปเช่นนั้นเพราะมันไม่ทราบว่าดวงตาสีเงินของมันนั้นเกิดขึ้นมาตอนไหน เอาเข้าจริงมันไม่ทราบด้วยซ้ำว่าดวงตา มันเปลี่ยนเป็นสีเงินตอนเห็นภาพดังกล่าว
“ไม่สบายใจ? เจ้าออกตากถ้ำมาด้วยเรื่องแค่นี้นะหรือ” หวงหลงแสดงท่าที่งุนงงอย่างเห็นได้ชัด หากไม่ใช่ไป๋จูเหวินละก็ มันได้เตะคนที่พูดเช่นนี้ออกนอกห้องไปแล้วแน่ๆ
“ขะ ขอรับ อาจจะฟังดูเลาะเลือน แต่ข้ารู้สึกเช่นนี้มาได้สักพักแล้ว อย่างน้อยข้าขอเดินทางไปที่สมาคมแพทย์ได้หรือไม่ขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางจ้องมองหวงหลงด้วยท่าทีจริงจัง นิมิตเช่านนี้จะเอามาบอกคนอื่นให้เชื่อนั้นเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ
“เห็นแก่ความขยันของเจ้า” หวงหลงว่าพลางสัมผัสพลังของไป๋จูเหวิน มันไม่ทราบว่าพลังอสูรของไป๋จูเหวินอยู่ระดับใด แต่พลังวิญญาณของมันก็ก้าวขึ้นมาอยู่ระดับก่อกําเนิดพลังเซียนแล้ว นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อยกับการฝึกไม่ถึงเดือนนี้
“ข้าจะอนุญาตให้เจ้าได้ไปตามที่เจ้าต้องการก็แล้วกัน” หวงหลงตอบพลางหยักหน้าช้าๆ
“ขอบพระคุณขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางรีบขอตัวออกไปทันที อย่างแรกที่มันต้องการจะทําคือการตรวจคลังยาของสมาคมแพทย์ มันต้องการผลิตยาให้มากกว่านี้เพื่อรองรับการบาดเจ็บ หากเรื่องที่มันเห็นในนิมิตเป็นจริง ยาพวกนี้จะได้ชิประโยชน์ แต่หากไม่เกิดขึ้นจริง การผลิตยาเพิ่มก็ไม่ได้เสียหายอะไร
เพียงแต่พวกหลินหลินยังไม่กลับมาจากคําเชิญของพระมเหสี ทําให้ไป๋จูเหวินไม่อาจขี่หลินหลินไปได้ สุกท้ายหวงหลงเลยให้ ชิงหลง อสูรมังกรของมันพาไป๋จูเหวินไปส่งที่สมาคมแพทย์พร้อมกับต้าชิงและต้าเฉินที่รอไป๋จูเหวินออกมาจากถ้ำอยู่แล้ว
“เห็นภาพแปลกๆเหรอขอรับ” พวกต้าชิงถามด้วยความแปลกใจ เพราะอยู่ๆนายน้อยของพวกมันก็มาตามตัวให้พวกมันเดินทางไปด้วยทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาออกจากถ้ำฝึกฝนแท้ๆ
“ใช่ มันเหมือนว่าเมืองร้อยแปดอสูรโดนถล่มจนเละเทะเลย”ไป๋จูเหวินเล่าพลางถอนหายใจออกมา ภาพนั้นมันเหมือนจริงมากเลยทีเดียว
“อย่างน้อยตอนนี้เจ้าปักเป้านั่นก็ไม่อยู่ที่เมืองละนะ” ต้าชิงว่าพลางเช็ดเหงื่อ คนที่เคยได้เห็นพลังของอสูรปักเป้มามาแล้ว พอโยงกับเมืองที่พังทลายไม่มีชิ้นดีแล้วก็พานึกถึงอสูรปักเป้าขึ้นมาทันทีเลย
“ไม่ใช่หรอก ตอนแรกข้าก็คิดแบบนั้น แต่ถ้าเป็นพี่ปักเป้าเมืองต้องพังทลายไม่มีชิ้นดีกว่านั้น”ไป๋จูเหวินตอบเพราะมันเองก็นึกถึงอสูรปักเป้าเช่นกัน
“มันเหมือน ฝีมือของมนุษย์มากกว่า”ไป๋จูเหวินตอบด้วยท่าที่กังวล ไม่ทราบทําไมมันถึงได้ยึดติดกับภาพนั้นนัก หากมันเข้าไปถามอสูรแมงมุมมารดาของมันในจิตใต้สํานึกได้ มันอาจจะได้คําตอบแท้ๆ แต่ไม่ทราบทําไมภาพห้องที่มันจะได้เจอทั้งมารดามนุษย์และมารดาอสูรนั้นไม่สามารถเข้าไปได้ด้วยตัวไป๋จูเหวินเอง
“ถ้าเช่นนั้น พอสั่งงานที่สมาคมแพทย์เสร็จแล้วก็เดินทาง ไปสํารวจรอบๆเมืองร้อยแปดอสูรดีไหมขอรับ”ต้าเฉินเสนอ แต่ไป๋จูเหวินกลับส่ายหน้าออกมา
“ข้าลองตรวจสอบแล้ว รอบๆเมืองร้อยแปดอสูรไม่มคนน่าสงสัยอยู่เลย”ไป๋จูเหวินตอบเช่นนั้นเพราะก่อนมันจะมาถึงวังมังกร มันได้ใช้ดวงตาสีน้ำเงินตรวจสอบไปรอบๆแล้ว แต่ในระยะที่ไป๋จูเหวินมองเห็นไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย บางทีภาพนั้นอาจจะไม่ได้เกิดตอนนี้ก็ได้
“นายน้อย ถึงแล้วขอรับ” ชิงหลงที่บินด้วยความเร็วสูงสุดมาตลอดทางรายงาน แต่น้ำเสียงของมันกลับไม่สู้ดีนัก
“ควัน”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้วพลางเปลี่ยนดวงตาตนเองเป็นสีน้ำเงินอีกครั้งเพื่อมองไปทางที่สมาคมแพทย์ตั้งอยู่
“เกิดอะไรขึ้นหรือนายน้อย”ต้าชิงถามด้วยความสงสัย เพราะมันยังมองไม่เห็นว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น
“สมาคมแพทย์มีควันลอยออกมา”ไป๋จูเหวินว่าพลางเพ่งมองให้ชัด ปกติแล้วพวกมันจะปรุงยากันตลอดเวลา การมีควันลอยออกมาไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ควันคราวนี้มันทั้งดําและเยอะจนผิดปกติ
“พี่ชิงหลง ท่านช่วยเร่งกว่านี้หน่อย”ไป๋จูเหวินว่าพลางเพ่งมองสมาคมแพทย์อย่างพิจารณา แต่เพราะควันไฟค่อนข้างหนา ทําให้มันมองเห็นได้ลําบากมาก แต่สิ่งที่ไป๋จูเหวินเห็นแน่ๆคือคนของสมาคมแพทย์ที่กําลังหนีออกมาจากตัวอาคาร แสดงว่าไฟพึ่งไหม้ได้ไม่นาน
“ตรงนั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางชี้ไปที่ด้านหนึ่งของกําแพงสมาคม ที่นั้นมีร่างของชาย 5 คนยืนอยู่ พวกมันสวมใส่เสื้อผ้าของกลุ่มนักล่าอสูร แต่พลังของพวกมันกลับสูงมากที เดียวโดย 3 คนที่พลังน้อยที่สุดอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นแรก อีกคนหนึ่งอยู่ขั้นที่ 4 และคนสุดท้ายอยู่ขั้นที่ 6 ซึ่งนั่นทําให้ไป๋จูเหวินเข้าใจได้ทันทีว่าพวกมันไม่ใช่คนของกลั่มนักล่าอสูรแน่ๆ
“ฮ้าๆ สมาคมยา พวกเจ้ามันชอบหาเรื่องดีนักโดนเผาไปซะเถอะ” ชายคนหนึ่งตะโกนพลางพยายามโชว์สร้อยคอกระดูกสัตว์บนอกจนผิดสังเกต
“พวกเจ้าเป็นใคร” คนที่ออกมาถามคืออาวุโส 11 หรือหัวหน้าสมาคมแพทย์คนปัจจุบันนั้นเอง
“ข้าคือสมาชิกของกลุ่มนักล่าอสูร คู่แค้นของพวกเจ้ายังไงล่ะ” ชายที่ระดับพลังสูงที่สุดตะโกนพลางหัวเราะเสียงดังก้อง
“พูดอะไรบ้าๆ พวกเจ้าจะเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูรได้อย่างไร”อาวุโส 11 ตอบ อย่าว่าแต่มันเคยเป็นรองอาวุโสหน่วย 10 มาก่อนรู้จักคนในกลุ่มนักล่าอสูรเป็นอย่างดีแล้ว มันยังทราบอีกด้วยว่าหวงหลงที่แข็งแกร่งที่สุดยามนี้ยังอยู่แค่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 2 ไม่มีทางที่พวกคนเหล่านี้จะเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูรได้หรอก
“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่วันนี้กลุ่มนักล่าอสูรจะกําจัดคู่แค้นอย่างพวกเจ้า” ชายคนนั้นว่าพลางสร้างลูกบอลน้ำขึ้นมาในมือ
“เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา ตอนนี้สมาคมแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักล่าอสูรแล้ว”อาวุโส 11 ว่าพลางเท้าเอวด้วยท่าทีไม่พอใจกับการแสดงที่ไม่ทําการบ้านของอีกฝ่าย
“หะ…” ชายคนนั้นเหวอไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นมันรีบหันไปหาลูกน้องทันที ซึ่งมันก็ส่ายหัวราวกับจะบอกว่ามันเองก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน
“ช่างมัน ยังไงวันนี้สมาคมแพทย์ต้องพินาศ” ชายที่มีพลังสูงสุดว่าพลางกระโดดลงไปหาอาวุโส 11 ด้วยพลังของเหล่าคนในสมาคมแพทย์ตอนนี้ต่อให้เป็นลูกน้องของมันที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 1 ก็ยังสามารถจัดการได้สบาย
ตูม! ร่างของชายที่แอบอ้างเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูรถูกกระแทกไปทางหนึ่งด้วยลูกเตะของต้าชิง แม้อีกฝ่ายตะอยู่ระดับ 6 แต่ลูกโจมตีที่เผลอเช่นนี้ย่อมสร้างความเสียหายได้ไม่ยาก
“เจ้า..เจ้าเป็นใคร” ชายที่แอบอ้างกลุ่มนักล่าอสุรถามพลางมองต้าชิงที่เข้ามาหยุดมันเอาไว้
“ข้าคือต้าชิงแห่งกลุ่มนักล่าอสูร” ต้าชิงพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ตัวต้าชิงนั้นพลังไม่ใช่ธรรมดา หากร่วมมือกับต้าเฉินต่อให้คู่ต่อสู้อยู่ระดับ 6 ก็ยังพอสูสี ยิ่งพวกมันมีนายน้อยอยู่ด้วยยิ่งมีโอกาสชนะสูง
“โกหก พวกเจ้าเป็นใคร กลุ่มนักล่าอสูรของข้าไม่มีคนระดับพลังอย่างเจ้า”อาวุโส 11 โวยพลางชีหน้ามาทางต้าชิงทําเอาต้าชิงสะดุ้งโหยง เพราะมันแทบไม่เคยทําอะไรในกลุ่มนักล่าอสูรเลย แน่นอนว่าพวกมันไม่รู้จักอาวุโส 11 แน่ๆ
“ระ เรื่องนั้น” ต้าชิงยิ้มแหยๆ พลางนึกหาวิธีอธิบาย แต่มันก็ไม่ทราบจะทําเช่นไรดี
“ท่านอาวุโส 11 ใจเย็นก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางกระโดดลงมาจากหลังของชิงหลง ส่วนต้าเฉินนั้นตรงเข้าไปเล่นงานคนบนกําแพง ทําให้คนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 1 โดนจัดการในพริบตาเดียว
“นายน้อย”อาวุโส 11 เบิกตากว้างด้วยความดีใจ มันทราบดีว่าพลังของไป๋จูเหวินยังไม่มาก แต่พอมีมันแล้วเรื่องร้ายๆก็คลี่คลายได้ง่ายขึ้นมากทําเอามันยินดีที่ไป๋จูเหวินอยู่ที่นี่มากกว่าอาวุโสคนอื่นๆอีก