ตอนที่ 111 : โทรเรียก
หลินเสี่ยวเหยาเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ใบหน้าของเธอยังคงผ่อนคลายเหมือนเดิม
แต่เมื่อเหล่าคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆเห็นว่าหมากรุกหยกเหอเทียนนั้นตกลงพื้น รูม่านตาของพวกเขาก็หดเล็กลงทันที และเหงื่อก็ค่อยๆซึมออกมาจากหน้าผากของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็รีบก้มเก็บหมากรุกหยกเหอเทียนที่หล่นอยู่ตรงพื้นขึ้นมา
นี่คือหมากรุกหยกเหอเทียน!
แค่หมากรุกตัวเดียวก็มีราคาเป็นล้าน!
หลินเสี่ยวเหยา ไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเหล่าผู้บริหาร เธอหยิบหมากรุกขึ้นมาอย่างลวกๆ
ดูนี่…
หลังจากเก็บหมากรุกขึ้นมาหมดแล้ว เหล่าผู้บริหารก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของพวกเขา
หลินเสี่ยวเหยาถาม “พวกคุณอยากเล่นหมากรุกกันไหม”
เล่นหมากรุกหยกเหอเทียนหรอ?
ถ้าเกิดมันตกลงพื้นอีกล่ะ?
“พวกฉันไม่เล่นหรอก”
“หนูเอาหมากรุกไปเก็บได้เลย”
“ใช่แล้ว เอาไปเก็บได้เลย”

เหล่าผู้บริหารพูดกันทีละคนพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย
ซึ่งทำให้ใบหน้าสวยของหลินเสี่ยวเหยานั้นเต็มไปด้วยความแปลกใจ
จากนั้นหลินเสี่ยวเหยาจึงหยิบหมากรุกไปวางไว้ที่โต๊ะข้างประตู
และเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้…
เหล่าผู้บริหารก็หันมามองหน้ากันในทันที
หมากรุกหยกเหอเทียนที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน ถูกเอาไปวางไว้ที่ข้างประตูอย่างงั้นหรอ?
“บูม!”
ตอนนั้นเอง ก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นมา
หนึ่งคัน สองคัน สาม…
จากนั้น…
กลุ่มรถหรูจำนวนหลายคันที่ขับมาทางนี้ ก็หยุดอยู่ที่หน้าบังกะโล
และเหล่าชายหญิงจำนวนมากก็ค่อยๆเดินลงมาจากรถทีละคน
เมื่อวานนี้ หลินฟานยังคงพักอยู่ที่ชิงซีกับเชฟทั้งสามคน และเขาก็ได้บังเอิญพบกับโจวเฉิงจุนที่กำลังพูดคุยกับลูกค้าเข้าพอดี
ซึ่งในตอนนั้น โจวเฉิงจุนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เจอหลินฟาน
และเมื่อหลินฟานได้เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 70 ปีของคุณปู่
โจวเฉิงจุนก็รีบพูดทันทีว่าเขาจะไปร่วมแสดงความยินดีในงานเลี้ยงอย่างแน่นอน
และหลังจากที่โจวเฉิงจุนกับหลินฟานได้แยกทางกัน เขาก็โทรไปรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับซงจื้อเฟิง ผู้ที่เป็นประธานของหยินซานกรุ๊ปทราบทันที
ซึ่งซงจื้อเฟิงนั้นให้ความสำคัญกับหลินฟานที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างมาก
ดังนั้นเมื่อเขาได้รู้ว่าจะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับปู่ของหลินฟาน เขาจึงไม่ลังเลและรีบนำผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทบินตรงมายังชิงซีในชั่วข้ามคืนทันที
ตอนนี้เอง ซงจื้อเฟิงได้เดินไปข้างหน้าและพูดว่า “สวัสดีครับคุณหลิน ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”
และเมื่อคำพูดของเขาสิ้นสุดลง เขาก็ค่อยๆยื่นมือขวาออกไป
หลินฟานเองก็ไม่เคยเห็นซงจื้อเฟิงมาก่อน แต่เมื่อเขาเห็นว่าโจวเฉิงจุนยืนอยู่ข้างๆด้วยท่าทางที่ให้เกียรติ เขาก็พอจะเดาได้และพูด “สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับคุณหลิน” ผู้บริหารที่ยืนอยู่รอบๆของซงจื้อเฟิงก็พูดออกมาด้วยความเคารพ

ถึงแม้ว่าหลินฟานจะยังดูเด็กอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่แสดงท่าทางดูถูกออกมาแม้แต่น้อย
เพราะหลินฟานนั้นเป็นถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของหยินซานกรุ๊ป!
ถ้าหากทำให้เขาไม่พอใจ ก็อาจจะโดนไล่ออกได้ในทันที!
หลินฟานพยักหน้าและพูด “นี่คือปู่ของฉัน”
“สวัสดีครับปู่หลิน ขอให้ปู่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความสุขมากๆนะครับ!” ซงจื้อเฟิงกล่าวอย่างเร่งรีบ และในขณะเดียวกันเขาก็หยิบพระพุทธรูปหยกอันละเอียดอ่อนออกมาให้
หลินลี่เฉียงลังเลที่จะรับของขวัญและพูดตอบ“ ขอบคุณมากพ่อหนุ่ม! ว่าแต่พ่อหนุ่มชื่ออะไรล่ะ?”
“โอ้ ผมชื่อซงจื้อเฟิง เป็นประธานของหยินซานกรุ๊ป” ซงจื้อเฟิงพูด
เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หลินลี่เฉียงก็เพิ่งได้พบกับผู้บริหารจำนวนมาก
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีอาการตกใจมากนัก
แต่เมื่อหวางจงเต๋อและผู้บริหารที่อยู่ไม่ไกลได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ถึงกับเบิกตากว้าง ใบหน้าของพวกเขาในตอนนี้ก็ปรากฏให้เห็นถึงความตกใจ
แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นหัวหน้าของบริษัทต่างๆ แต่บริษัทของพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับบริษัทหยินซานกรุ๊ปได้เลย!
หยินซานกรุ๊ปนั้นเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าในตลาดนับหมื่นล้าน!
และประธานบริษัทขนาดใหญ่คนนั้นก็มาร่วมฉลองงานวันเกิดด้วยตนเอง!
นอกจากนี้ ในคำพูดเหล่านั้นก็ยังมีคำเยินยอให้กับหลินฟานอีกด้วย
ไม่คิดว่าหลินฟานที่อยู่เบื้องหลังของอาคารเฉียนคุนจะยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้!
“ผมเป็นผู้จัดการทั่วไปของหยินซานกรุ๊ป ชื่อเซียงลี่กัว ผมขอให้ปู่หลินโชคดีและมีอายุยืนยาวเหมือนกับเขตหนานซาน!”
“ผมเป็นผู้อำนวยการส่งเสริมการลงทุนของหยินซานกรุ๊ป ชื่อเย่ชิง คุณปู่หลิน ผมขอให้คุณสมหวังทุกประการและมีรอยยิ้มอยู่ในทุกช่วงเวลา !”

หลังจากที่ซ่งจื้อเฟิงได้ทำการอวยพรให้คุณปู่ ผู้บริหารระดับสูงของหยินซานกรุ๊ปก็เริ่มกล่าวคำอวยพรและมอบซองจดหมายสีแดงหรือของขวัญต่างๆตามทันที
จากนั้นก็มาถึงตาของโจวเฉิงจุน ผู้ที่มีตำแหน่งต่ำที่สุดในที่แห่งนี้กล่าว “ผมเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างสรรพสินค้าหยินซาน ผมขอให้โชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองอยู่รอบตัวของปู่หลินครับ!”
ซึ่งทันทีที่มีการแนะนำตัวของคนเหล่านี้ ใบหน้าของทุกคนที่อยู่รอบๆก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ทำไมประธานและผู้บริหารของหยินซานกรุ๊ปถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
และเขาคนนั้นเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างหยินซานจริงๆหรอ?
ทัดใดนั้น ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น 
“ว่าแล้วทำไมคุ้นๆ เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างหยินซานจริงๆด้วย เมื่อกี้ฉันเห็นข่าวของในชิงซีรายงานเกี่ยวกับเรื่องของเขาพอดีเลย!”
“จริงหรอเนี่ย! สุดยอดเลย แม้แต่ผู้จัดการทั่วไปของห้างหยินซาน ก็ยังมาแสดงความยินดีให้กับปู่หลินในวันเกิด!”
“ทำไมตาแก่จางกับครอบครัวของเขาถึงยังไม่มาสักทีนะ ฉันคงต้องโทรไปเตือนสักหน่อยแล้ว!”
“ครอบครัวของตาตาแก่ซ่งก็ยังไม่มาด้วยหรอเนี่ย?”
…………
จากนั้นชาวบ้านเหล่านี้ก็เริ่มหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทีละคน และเริ่มโทรหาคนที่รู้จัก
อันที่จริง พวกเขารู้โดยธรรมชาติว่าตาแก่จาง ตาแก่ซ่ง และคนอื่นๆไปแสดงความยินดีกับหวังย่าผิงในงานวันเกิด
สิ่งนี้อิงตามธรรมเนียมของชิงซีที่ชาวบ้านปกติทั่วไปจะเลือกไปแสดงความยินดีกับแขกที่มีฐานะมากกว่า
แต่ตอนนี้ตระกูลหลินนั้นมี ‘แขก’ ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าแล้ว
แน่นอน… ว่าถึงเวลาแล้วที่คนเหล่านี้จะกลับมาที่งานเลี้ยงของครอบครัวหลิน!
…………
ทิศตะวันตกของหมู่บ้าน
ณ บ้านของหวางย่าผิง.
ในห้องครัวได้มีกลิ่นของเนื้อค่อยๆลอยออกมา
ชาวบ้านก็กำลังนั่งดมกลิ่นและพูดคุยกันอย่างสนุกสนามมากขึ้น
“กริ๊ง!”
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายอย่างช้าๆ
“อะไรนะ?”
“ที่นายพูดเป็นความจริงงั้นหรอ?”
“โอเค ฉันรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
จากนั้นเขาก็รีบเดินออกไปโดยที่ไม่ได้กล่าวลาใครเลย
และเมื่อผ่านไปไม่นาน ก็เริ่มมีชาวบ้านที่เริ่มจากไปหลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์มากขึ้น
3 คน 5 คน 8 คน 10 คน…
พวกคนที่ไม่มีคนโทรมาบอก ก็จะดึงเพื่อนมาถาม หรือบางคนก็ตามไปเลยเพราะความสงสัย…
ผ่านไปได้ไม่นาน คนจากบ้านของหวังย่าผิงก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง
หวังย่าผิงสังเกตเห็นเริ่องนี้แล้วก็ขมวดคิ้ว “พวกเขาไปไหนกันหรอ?”
จนต้องหันไปหาชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ และพูดว่า “ขอถามหน่อยสิ…”
ไม่นาน ชายวัยกลางคนก็เดินกลับมา ใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พวกเขาบอกว่ามีรถหรูหลายสิบคันจอดอยู่หน้าบ้านของตาแก่หลิน”
“มีเจ้านายและผู้บริหารมากมายมาฉลองงานวันเกิดของครอบครัวหลิน และแม้แต่ผู้จัดการทั่วไปของห้างหยินซานก็มาที่นี่ด้วย… ดังนั้น…”
ชายวัยกลางคนยังพูดไม่ทันจบ แต่หวังย่าผิงก็เข้าใจในทันที
เป็นไปตามธรรมเนียมของชิงซีที่ชาวบ้านปกติทั่วไปจะเลือกไปแสดงความยินดีกับแขกที่มีฐานะมากกว่า!