[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 544 : ล้างความทรงจำ!
เยี่ยนจื่อเดินเข้าไปยืนข้างซูปิงหยานพร้อมกับถอนหายใจ และพูดขึ้นว่า “นั่นสิคะ.. ตอนนี้รูปร่างหน้าตาของหลิงหยุนก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ไม่เพียงหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ร่างกายยังมีกล้ามเนื้อแน่นไปหมด เท่ห์ชะมัด!”
เยี่ยนจื่อพูดขึ้นด้วยแววตาที่เป็นประกายลุกวาว จากนั้นก็นั่งลงกินเกี๊ยวต่อ..
ซูปิงหยานได้ฟังเยี่ยนจื่อพูดจาประชดประชันก็รู้สึกโมโหอย่างมาก เธอโน้มตัวลงไปหาเยี่ยนจื่อจนหน้าอกแนบกับด้านบนของเคาน์เตอร์ และกระชากตะเกียบออกจากมือของเยี่ยนจื่อทันที
เยี่ยนจื่อจึงแกล้งถามยิ้มๆ “อะไรกันคะ?!”
ใบหน้าสวยงามแบบผู้ใหญ่ของซูปิงหยานแดงขึ้น เธอกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะดุเยี่ยนจื่อ “กล้าล้อเลียนฉัน อยากตายหรือยังไง? เอาเบอร์มือถือของเขามาให้ฉันเร็วเข้า!”
“เมื่อครู่คุณซูก็ได้ยินแล้วนี่คะ?” เยี่ยนจื่อตอบยิ้มๆ
“ฉันไม่ได้ยิน..” ซูปิงหยานตอบพร้อมกับแสยะยิ้มจนเห็นฟันขาว
“คุณซูคะ.. ฉันว่าคุณซูได้ยิน แต่กลัวจะฟังผิดมากกว่า! เบอร์ของหลิงหยุนอยู่ในมือถือของฉัน คุณดูเอาเองก็แล้วกัน..”
“เด็กบ้า.. ถ้ายังกล้าล้อเลียนฉันอีก ฉันจะหักเงินเดือนเธอ.. คอยดูสิ!”
พูดจบซูปิงหยานก็คว้าโทรศัพท์มือถือมาจากมือของเยี่ยนจื่อ
……….
หลิงหยุนขับรถออกจากร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่ไม่ได้กลับไปที่บ้าน เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังอพาร์ทเมนท์ใกล้โรงเรียนมัธยมจิงฉูแทน
และเพียงแค่หลิงหยุนจอดรถ ไป๋เซียนเอ๋อก็กระโดดลงมา นางสวมชุดสีขาว ผมยาวปลิวสะบัด บนใบหน้าที่แสนงดงามนั้นมีแว่นกันแดดอันใหญ่อำพรางความงามของนางไว้
“พี่หลิงหยุน.. ” ไป๋เซียนเอ๋อพุ่งเข้าหาอ้อมกอดของหลิงหยุนทันที
แม้ไป๋เซียนเอ๋อจะสวมแว่นตากันแดดอันใหญ่ปิดบังใบหน้าไว้ แต่ก็ไม่สามารถบดบังหน้าผากที่เกลี้ยงเกลา จมูกเล็กน่ารัก และริมฝีปากสีแดงยั่วยวนของนางไว้ได้ อีกทั้งแว่นดำที่สวมใส่นั้นกลับยิ่งเพิ่มความลึกลับน่าค้นหาให้กับนางอย่างช่วยไม่ได้
แต่อย่างน้อยการสวมแว่นกันแดดเช่นนี้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความโกลาหลวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในเวลาออกไปข้างนอกได้
“แว่นกันแดดนี้สวยมากเลย!”
หลิงหยุนพูดพร้อมกับโอบเอวของไป๋เซียนเอ๋อ และถามต่อว่า “แล้วหลงหวู่ล่ะ?”
ไป๋เซียนเอ๋อตอบไปว่า “หลังจากนางเอาหมวกกับแว่นกันแดดมาให้ข้า นางก็นั่งดูข้าฝึกอยู่สักพัก แต่นางคงจะรู้สึกเบื่อหน่าย ก็เลยออกไปข้างนอกแล้ว..”
หลิงหยุนพยักหน้ายิ้มๆ และได้แต่คิดในใจว่าด้วยบุคลิก ด้วยนิสัยของหลงหวู่ เธอคงจะไม่ยอมนั่งเฉยๆอยู่บ้านอย่างแน่นอน
“เข้าไปในห้องกันดีกว่า..”
หลิงหยุนปล่อยให้ไป๋เซียนเอ๋อเดินนำหน้าไปเปิดประตู ส่วนตัวเขากลับไปที่รถเพื่อนำตัวหลี่กังลงมา จากนั้นจึงเดินตามไป๋เซียนเอ๋อขึ้นไปบนห้อง
“นี่.. คุณ.. คุณ.. คุณคือ.. หลิง.. หยุน?!”
หลี่กังที่ถูกหลิงหยุนจับโยนไว้ที่พื้น ร้องถามออกมาด้วยความหวาดกลัวจนลืมความเจ็บปวดทั้งหมดที่ได้รับ..
เมื่อครู่ที่ไป๋เซียนเอ๋อเรียกชื่อหลิงหยุนนั้น หลี่กังได้ยินเต็มสองหู!
ต่อหลี่กังไม่อยากจะเชื่อ เขาก็ต้องยอมรับว่าเด็กหนุ่มหน้าตางดงามราวกับเทพบุตรที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นคือหลิงหยุนจริงๆ หลิงหยุนที่ก่อนหน้านี้อ้วนเหมือนหมู และถูกหวังเล่ยขับรถพ่วงชน
หลิงหยุนแสยะยิ้ม “ใช่แล้ว.. ฉันคือหลิงหยุน! แต่ฉันจะยังไม่จัดการกับแกตอนนี้!”
“ห๊ะ! ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย อย่าฆ่าผมเลย.. ผมไม่ได้เป็นคนขับรถชนคุณ..”
หลี่กังลืมความเจ็บปวดทั้งหมดซึ่งเกิดจากเข็มที่ฝังอยู่บนน่อง เขารีบคลานไปหาหลิงหยุนพร้อมกับโขกศรีษะร้องขอชีวิตจากหลิงหยุนจนเลือดไหล
“แกไม่ต้องกังวล.. ในเมื่อวันนี้แกยอมพูดความจริง และไม่โกหกฉัน ฉันจะไม่ฆ่าแกแน่! แต่ยังมีบางเรื่องที่ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ จึงต้องจัดการบางอย่างกับแกอีกเล็กน้อย..”
หลิงหยุนพาตัวหลี่กังขึ้นไปบนห้อง และจับเขาไปขังไว้ในห้องนอนที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่
หลิงหยุนจะใช้วิชาฝังเข็มจัดการลบความทรงจำบางส่วนของหลี่กังออก!
หลิงหยุนมีความลับที่ไม่ต้องการให้คนอื่นได้ล่วงรู้ และเรื่องที่เขาถูกรถพ่วงชนตายก็เป็นอีกเรื่องที่เขาไม่ต้องการให้เล็ดลอดไปถึงหูคนอื่น
การได้มาเกิดใหม่ในร่างของหลิงหยุนนี้ เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา!
“พี่หลิงหยุน.. ชายผู้นี้เป็นใคร?!” ไป๋เซียนเอ๋อร้องถามขึ้น
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย “เขาเป็นคนที่เคยช่วยผู้อื่นให้ลงมือสังหารข้า แต่วันนี้ถูกข้าจับได้..”
ไป๋เซียนเอ๋อได้ยินเช่นนั้น ดวงตางดงามที่อยู่ภายใต้แว่นกันแดด ก็เปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้นมาทันที นางร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห
“เหตุใดท่านจึงได้เมตตามัน? คนอย่างมันต้องถูกจับฉีกเป็นชิ้นๆ!”
หลิงหยุนถึงกับเหงื่อตก และรีบบอกไป๋เซียนเอ๋ออย่างใจเย็น “เซียนเอ๋อ.. ชายผู้นี้เป็นเพียงคนธรรมดาไร้วรยุทธ และก่อเหตุเพียงเพราะความโลภอยากได้เงิน อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ลงมือสังหารข้าด้วยตนเอง และตอนนี้เขาก็ได้รับบทเรียนที่สมควรจะได้รับแล้ว..”
ฝ่ามือของไป๋เซียนเอ๋อสั่น และมีลูกไฟสองลูกปรากฏออกมา ไป๋เซียนเอ๋อที่ต้องการจะใช้วิชาจิ้งจอกระเริงไฟสังหารหลี่กัง ร้องอออกมาอย่างไม่พอใจ
มันคือวิชาจิ้งจอกระเริงไฟ ไป๋เซียนเอ๋อร้องออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจนั
“ไม่ได้!”
สำหรับไป๋เซียนเอ๋อนั้น นางจะเชื่อฟังหลิงหยุน และว่านอนสอนง่ายอย่างที่สุด แต่หากใครก็ตามที่กล้าทำให้หลิงหยุนไม่พอใจ นางจะไม่สนใจ และสามารถลงมือฆ่าได้ทันที หากหลิงหยุนไม่ห้ามไว้ รับรองว่าตอนนี้หลี่กังคงต้องหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้แล้ว
เมื่อหลี่กังเห็นลูกไฟสองลูกบนฝ่ามือของไป๋เซียนเอ๋อนั้น เขาก็ถึงกับตกใจอย่างมากจนต้องทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพร้อมกับร้องขอความเมตตา
“เซียนเอ๋อ.. มีวิธีการอื่นที่ดีกว่าการฆ่าเขา!”
หลิงหยุนไม่พูดเยิ่นเย้ออะไรอีก เขาเรียกเข็มเงินออกมา และจัดการฝังลงไปบนศรีษะของหลี่กังทันที
เข็มเงินเล่มแรกนั้นฝังลงไปที่กลางศรีษะของหลี่กัง และเขาก็รู้สึกว่าตอนนี้หัวของเขาราวกับมีไฟฟ้าช็อต หลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดไปหมด และแล้วหลี่กังก็หมดสติไป
หลิงหยุนไม่ได้เอาชีวิตหลี่กัง เขาเพียงแค่ใช้วิชาฝังเข็มลบความทรงจำของหลี่กังเท่านั้น และผลลัพธ์จากการฝังเข็มในครั้งนี้ ก็ไม่ต่างจากการกลืนโอสถไร้ใจของอารามจิ้งซิน..
การฝังเข็มให้หลี่กังในครั้งนี้ ไม่ต่างจากการที่สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จนทำให้คนผู้นั้นหลงลืมเรื่องราวต่างๆได้อย่างถาวร อีกทั้งความแม่นยำในการฝังเข็มของหลิงหยุนนั้น ก็มีอานุภาพเข้าไปลบความทรงจำของหลี่กังที่มีมากว่าหนึ่งปีเต็ม
การลบความทรงจำของหลี่กังในระยะเวลาหนึ่งปี แลกกับการมีชีวิตอยู่ต่อนั้น สำหรับหลิงหยุนแล้วนี่นับว่าเป็นการลงโทษที่เบามากแล้ว!
เพียงแค่สองสามนาทีต่อมา หลิงหยุนก็จัดการถอนเข็มเงินบนศรีษะของหลี่กังออก และจัดการฟาดฝ่ามือลงบนน่องของหลี่กัง และเข็มใหญ่สองเล่มก็พุ่งออกมา
หลิงหยุนไม่สนใจหลี่กังที่นอนหมดสติอยู่ เขากลับเดินไปหาไป๋เซียนเอ๋อในห้องรับแขกพร้อมกับร้องถามขึ้นว่า
“เซียนเอ๋อ.. แว่นกันแดดที่หลงหวู่ซื้อมาให้ข้าอยู่ที่ใหน?”
ไป๋เซียนเอ๋อยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ที่อยู่ในถุงนั่นเป็นของท่านทั้งหมด ส่วนอันนี้เป็นของข้า..”
หลิงหยุนหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวม เขารู้สึกได้ทันทีว่าภาพที่อยู่ตรงหน้านั้นได้เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มขึ้นมาทันที และหลังจากปรับตัวอยู่ครู่หนึ่ง หลิงหยุนก็หันไปมองไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับร้องขึ้นว่า
“มันเจ๋งมาก!”
ไป๋เซียนเอ๋อยิ้มพร้อมกับร้องตาม.. “เจ๋ง..?!”
หลิงหยุนพบว่าการใส่แว่นกันแดดเช่นนี้ จะทำให้เขาสามารถใช้เนตรหยินหยางได้สะดวกมากขึ้น
ในเวลาที่หลิงหยุนใช้เนตรหยินหยางนั้น ลูกนัยน์ตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และสีขาว ซึ่งคนธรรมดาก็จะสามารถสังเกตเห็นลูกนัยน์ตาที่เปลี่ยนไปของเขาได้ แต่หกาเขาสวมแว่นกันแดดนี้ปิดบังดวงตาไว้ คนทั่วไปก็จะไม่สามารถเห็นดวงตาที่เปลี่ยนไปของเขาได้อีก
‘โอ้โห.. หน้าอกของเซียนเอ๋อช่างงดงามยิ่งนัก..!’
หลิงหยุนได้แต่กลืนน้ำลาย พร้อมกับจัดการเก็บแว่นกันแดดที่เหลือเข้าไปในแหวนพื้นที่
“เซียนเอ๋อ.. สวมหมวกแล้วออกไปบ้านเลขที่-1 กับข้า”
พูดจบหลิงหยุนก็เข้าไปในห้องนอน จัดการแบกร่างของหลี่กังที่ยังคงหมดสติอยู่เดินออกจากห้องไป และนำร่างของเขาไปไว้ที่ท้ายรถ
หลังจากล็อคห้องเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนกับไป๋เซียนเอ๋อก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านจิงฉี
ระหว่างทางที่กลับไปนั้น หลิงหยุนก็ได้โทรบอกหลงหวู่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องกลับมาที่อพาร์ทเมนท์แล้ว หลังจากวางสายไปเขาก็ส่งข้อความให้ฉางหลิง
-ผมจะไปรับคุณที่โรงเรียนหลังเลิกเรียน!-
หลิงหยุนสอบถามข่าวคราวของเกาเฉินเฉินจากเหมี่ยวเสี่ยวเหมา แต่เธอกลับบอกให้เขาไปถามจากฉางหลิงแทน ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือนก็จะสอบเอนทรานซ์แล้ว หลิงหยุนจึงไม่ต้องการให้มีผลกระทบกับการเรียนของฉางหลิง เขาจึงตั้งใจจะไปพบเธอหลังเลิกเรียนแทน
หลิงหยุนตั้งใจจะขับรถไปส่งฉางหลิงที่บ้าน และระหว่างทางก็จะคุยกับเธอไปด้วย เพราะหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่ห้องครูใหญ่ครั้งนั้น เขาก็ยังไม่ได้พบหน้าฉางหลิงอีกเลย
หลิงหยุน และไป๋เซียนเอ๋อกลับไปถึงบ้านเลขที่-1 ทั้งสองคนเดินลงจากรถเข้าไปยังห้องนั่งเล่น และพบว่าถังเมิ่งยังคงนั่งอยู่ในห้องพร้อมกับพี่น้องแก๊งมังกรเขียวอีกสองสามคน
ถังเมิ่งกำลังคุยโม้กับพี่น้องแก๊งมังกรเขียวที่เด็กกว่า “ฉันก็เป็นลูกพี่ของพวกนายอีกคนนะรู้มั๊ย? ต่อไปคำสั่งของฉัน ก็ไม่ต่างจากคำสั่งของตี้เสี่ยวอู๋ เข้าใจมั๊ย?”
ถังเมิ่งช่างกล้าโม้ได้อย่างไม่อาย แต่เมื่อเห็นหลิงหยุนกับไป๋เซียนเอ๋อเดินเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที
“พี่หยุน.. น้องเซียนเอ๋อ.. นี่.. นี่.. ทำไม?!”
ถังเมิ่งถึงกับผงะถอยหลังเมื่อหันไปเห็นหลิงหยุนกับไป๋เซียนเอ๋อสวมแว่นกันแดดเข้ามา ทั้งคู่ดูลึกลับและมีอำนาจจนเขาถึงกับพึมพำออกมา
“โอ้โห.. อย่างกับพวกเจ้าพ่อ!”
“ตี้เสี่ยวอู๋ล่ะ?” หลิงหยุนโอบเอวของไป๋เซียนเอ๋อพานางไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับถามถึงตี้เสี่ยวอู๋
ถังเมิ่งเกาศรีษะพร้อมกับตอบยิ้มๆ “เสี่ยวอู๋น่ะเหรอ?! เขาพาลูกน้องออกไปกับหนิงน้อยแล้ว..”
แทบไม่ต้องอธิบายต่อ.. หลิงหยุนรู้ดีว่าตี้เสี่ยวอู๋กำลังพาคนไปช่วยหนิงน้อยย้ายของมาที่นี่
หลิงหยุนหันไปสั่งถังเมิ่งว่า “นายช่วยจัดการส่งตัวหลี่กังกลับไปที่สำนักงานรักษาความมั่นคงด้วย!”
ถังเมิ่งหันไปมองรอบๆ และรถแลนด์โรเวอร์ที่จอดอยู่นอกบ้าน ก่อนจะหันกลับมาถามหลิงหยุน
“แล้วหมอนั่นอยู่ที่ใหน?”
หลิงหยุนตอบยิ้มๆ “อยู่ท้ายรถ.. นายไปปลุกเขาตื่นได้แล้ว..”
“หลังจากพาตัวหลี่กังกลับไปส่งที่สำนักงานรักษาความมั่นคงแล้ว นายก็รีบกลับมาที่นี่ทันที!” หลิงหยุนสั่งถังเมิ่ง
ถังเมิ่งรู้พยักหน้า จากนั้นจึงพาคนไปปลุกหลี่กัง และลากตัวออกมาจากท้ายรถ
“หลัวเอ้อเฟิง.. ออกมาได้แล้ว!” หลิงหยุนรู้ว่าหลัวเอ้อเฟิงยังคงอยู่ในห้องฟิตเนส เขาจึงร้องตะโกนเรียก
“รีบย้ายออกจากเมืองจิงฉูให้เร็วที่สุด และยิ่งไปให้ไกลได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี!”
“ผมจะให้เวลาคุณหนึ่งวัน หลังจากเวลานี้ในวันพรุ่งนี้ หากให้ผมได้พบเห็นคุณอยู่ในเมืองจิงฉู ผมจะฆ่าคุณทิ้งทันที!”
หลิงหยุนจ้องมองหลัวเอ้อเฟิงที่หวาดกลัวจนหน้าซีด ด้วยสายตาและน้ำเสียงที่เย็นชา..