บทที่ 353 เข้าประตูขอคำอธิบาย

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ ทที่ 353 เข้าประตูขอคำอธิบาย
ผู้คนด้านล่างเริ่มด่าทอไปทั่ว ฉีเฟยอวิ๋นจึงให้คนโบยพวกเขาและยังโบยเอาให้ตายแล้วผู้ใดจะทนได้

ไม่นานเสียงคร่ำครวญก็กลบเสียงก่นด่า ฉีเฟยอวิ๋นนั่งอยู่บนโถงมองดูผู้คนเบื้องล่างตัวบิดเบี้ยวคดงออยู่รวมกัน เลือดนั้นกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

ขณะที่อาอวี่มา ผู้คนบางคนก็เป็นลมหมดสติไปแล้ว

“พระชายา เมื่อครู่ข้าน้อยไปตรวจสอบแล้ว ผู้คนเหล่านี้ล้วนแล้วถูกจ้างมาด้วยเงิน”

“อืม”

ฉีเฟยอวิ๋นคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ภายใต้การลงโทษสถานหนักเช่นไรก็ต้องมีคนพูดออกมา

แน่นอนว่าขณะที่อาอวี่พูดอยู่ มีคนข้างล่างผู้หนึ่งตะโกนเสียงแหบว่า: “พระชายาเย่ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย พวกเราถูกจ้างมา”

คำพูดประโยคหนึ่งทำให้ทุกคนตรงนั้นตกใจจนตัวสั่น คนของที่ทำการอยู่โดยรอบทั้งซ้ายขวา เริ่มแรกยังหวาดผวาในความโหดเหี้ยมของฉีเฟยอวิ๋น แต่ตอนนี้กลับดูหนทางออกบ้างแล้ว

ที่นี่คือที่ทำการปกครองเมืองหลวง ข้าหลวงประจำเมืองก็อยู่ตรงด้านข้างของฉีเฟยอวิ๋น

“พระชายา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวงอภัยให้ไม่ได้ ควรรีบกราบทูลต่อฝ่าบาททันที”

ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้า: “แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ฟังพวกเขาพูด”

ข้าหลวงประจำเมืองหลวงนั้นเป็นผู้ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน ตั้งแต่หนานกงเย่เข้ามารับตำแหน่งก็เปลี่ยนถ่ายกลุ่มคน ผู้ที่ฉีเฟยอวิ๋นรู้นั้นก็คือข้าหลวงประจำเมืองหลวงเวยฉือ

ผู้ที่ทนการถูกโบยตีไม่ไหวถูกลากไปอยู่ฝั่งหนึ่ง อาอวี่เข้าไปสอบถามอีกฝ่ายก็คายออกมา

เดิมทีพวกเขาทั้งหมดถูกชายผู้หนึ่งชื่อเฉินสือคังเรียกไปพบขอให้พวกเขาไปก่อความวุ่นวาย

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ: “คนผู้นี้คือผู้ใดกัน?”

“เขาเป็นอันธพาลประจำถิ่นผู้หนึ่งซึ่งพอมีชื่อเสียงอยู่บ้างในเมืองหลวงและมีการค้าเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง ส่วนคนอื่นๆทำการค้าในหอบุปผาบ้าง แต่ว่าคนผู้นี้ไม่ได้ต่อต้านราชสำนัก เหตุใดเขาถึงมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ได้?”

อาอวี่ไขข้อสงสัยไม่ออก ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองอาอวี่ครั้งหนึ่งด้วยความกังวลในความสามารถทางความนึกคิดของอาอวี่จริงๆ

“เจ้าไปนำตัวเขามา ข้าจะถามดู”

อาอวี่พยักหน้าและหันหลังไปกระทำในเวลานี้

ข้าหลวงประจำเมืองหลวงเวยฉือเหงื่อแตก เขารู้เพียงว่าอ๋องเย่กระทำการฆ่าและทารุณอยู่เสมอเป็นนิสัย ไม่คิดเลยว่าพระชายาเย่ก็เป็นเช่นเดียวกัน

เรื่องใดก็ตามประหารก่อนค่อยรายงาน จับกุมตัวมาก็โบยเลย

ไม่น่าแปลกใจที่มีคนลือว่าอ๋องเย่เกรงกลัวภรรยา

ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

เฉินสือคังถูกนำตัวมาอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เฉินสือคังก็ตกใจกลัวมากเช่นกัน เมื่อเห็นเลือดที่อยู่ด้านหน้านั้นตัวเขาก็สั่นสะท้าน

เขาเป็นแค่หนุ่มนักเลงซึ่งพอมีเงินอยู่บ้างและก็ไม่เคยคาดคิดที่จะฆ่าคนเป็นผักปลา

เขาทำการค้าก็เพื่อหาเงิน หากมีคนให้เงินเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เอา จวนอ๋องเย่เป็นสถานที่ใดนั้นเขารู้ แต่เขาเพียงแค่หาคนไม่กี่คนกระจายข่าวลือและไปก่อกวนตรงหน้าประตูจวนอ๋องเย่ไม่ได้กระทำเรื่องราวใหญ่โตฆ่าฟันสิ่งใดดังนั้นก็ไม่ได้เกรงกลัว

แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเลือดท่วมเต็มพื้นเขาก็กลัวซะแล้ว กลัวจนทันทีที่เขาเข้าประตูมาก็คุกเข่าให้ฉีเฟยอวิ๋น

ในทางกลับกันเมื่อมองไปยังฉีเฟยอวิ๋นนั้นนางกำลังมองผู้คนซึ่งกลัวจนตัวสั่นอย่างเฉยเมย

ฉีเฟยอวิ๋นตระหนักในทันทีว่าบางครั้งความโหดร้ายนั้นจำเป็นและการฆ่าก็จำเป็นเช่นกัน

นางเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าในการที่หนานกงเย่โหดเหี้ยมมากเช่นนั้น

หากไร้ซึ่งความโหดเหี้ยมของเขาแล้วจะมีความอิจฉาริษยาของผู้คนเบื้องล่างได้เช่นไร

“เจ้าเป็นผู้ใด?” ฉีเฟยอวิ๋นถาม เฉินสือคังซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างก็รีบตอบ

“ข้าชื่อเฉินสือคัง” เฉินสือคังตอบอย่างสั่นเทา เขาตกใจกลัวจนแย่แล้ว

ฉีเฟยอวิ๋นถามต่อว่า: “เจ้าเป็นผู้ใช้เงินจ้างผู้คนเหล่านี้ให้มาก่อความวุ่นวายในจวนอ๋องเย่ของข้าหรือ?”

“ไม่ใช่…..ไม่ใช่……ไว้ชีวิตด้วย พระชายาเย่ไว้ชีวิตด้วย ผู้น้อยก็ถูกบังคับเช่นเดียวกัน!”

“โอ้?”

ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองไปยังข้าหลวงประจำเมืองหลวง ข้าหลวงประจำเมืองรีบนำปากกาและหมึกมาจดคำพูดของเฉินสือคัง จากนั้นนำคำสารภาพนั้นมาฉีเฟยอวิ๋นก็เหลือบมองครั้งหนึ่งแล้วดวงตาก็ค่อยๆลึกลง

จวินฉูฉู่?

อาอวี่ถาม: “พระชายา เหตุใดถึงเป็นพระชายาอ๋องตวน?”

“บนนี้ไม่ได้เขียนว่าพระชายาอ๋องตวน แต่ตามที่เขาพูดก็น่าจะใช่ อาอวี่เจ้าหิ้วเขาขึ้นมาแล้วไปรอตรงหน้าประตูจวนอ๋องตวน ระบุตัวแล้วกลับมา”

ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นและนำผู้คนไปขังไว้ในคุกหลวง

ช่วงเวลานี้เหตุใดนางถึงลืมจวินฉูฉู่ซะได้ นางเป็นผู้ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์จริงๆ นี่แค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้นนางก็คิดวางแผนการณ์ขึ้นมาแล้ว

เป็นพระชายาฉู่อยู่ในเรือนของนางดีๆจะทำให้นางอัดอั้นหายใจไม่ออกจนตายหรือไง?

ฉีเฟยอวิ๋นรออาอวี่กลับมาแล้วอาอวี่ก็บอกว่าเฉินสือคังชี้ตัวแล้วซึ่งก็คือจวินฉูฉู่ แต่ไม่ใช่จวินฉูฉู่ลำพังผู้เดียวยังมีสาวใช้ข้างกายจวินฉูฉู่ เรื่องราวทั้งหลายรวมถึงเงินที่มอบให้ก็เป็นสาวใช้ข้างกายจวินฉูฉู่เป็นผู้กระทำ

แต่เขาก็เคยพบกับจวินฉูฉู่ เพียงแต่ว่าในตอนนั้นจวินฉูฉู่อยู่ในรถม้าและเขาก็ได้พบเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ในตอนนั้นเฉินสือคังรู้สึกว่าในรถม้าต้องเป็นผู้ที่มีภูมิหลังอันไม่ธรรมดา หากว่าสามารถรู้จักได้ก็เป็นประโยชน์ต่อเขาดังนั้นเขาจึงได้มองดูอีกสองสามครั้ง

แต่สาวใช้ข้างกายของจวินฉูฉู่นั้นเก่งกาจนัก ยังด่าทอเขาอยู่พักหนึ่ง บอกให้เขาอย่าได้มองเรื่อยเปื่อยเขาจึงไม่กล้ามองซะแล้ว

ฉีเฟยอวิ๋นถามชัดเจนแล้วก็ให้คนคุมตัวเฉินสือคังเอาไว้แล้วพาอาอวี่ไปยังด้านหน้าประตูของจวนอ๋องตวน

เกินที่ยงวันแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ

“อาอวี่ ช่วงไม่กี่วันมานี้พระชายารองอวิ๋นอยู่ในจวนอ๋องตวนหรือไม่?

“ว่ากันว่าไม่อยู่ คราวก่อนที่พระชายาถูกวางยาพิษพระชายารองอวิ๋นโทษตนเองนัก นางจึงสาบานว่าตราบใดที่จวินฉูฉู่ยังอยู่ที่จวนอ๋องตวนหนึ่งวัน นางก็จะไม่กลับจวนอ๋องตวนหนึ่งวัน ว่ากันว่าพระมเหสีหวาก็ทรงอนุญาตแล้วด้วย”

“มิน่าหล่ะ”

ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองครั้งหนึ่ง: “เจ้าจะไปถามดูว่าพระชายาตวนอยู่หรือไม่ บอกว่าข้าผ่านมาแล้วก็หิวแล้วจึงอยากทานอาหาร”

อาอวี่ไปถ่ายทอดคำสั่งตรงหน้าประตู พ่อบ้านเห็นว่าเป็นฉีเฟยอวิ๋นก็รีบกลับไปรายงานต่อจวินฉูฉู่

ในเวลานี้จวินฉูฉู่กำลังวางแผนทำร้ายฉีเฟยอวิ๋นนางต้องการให้เกิดเรื่องกับฉีเฟยอวิ๋น เมื่อฉีเฟยอวิ๋นเสียชีวิตแล้วหรือว่าเด็กไม่อยู่แล้ว อ๋องตวนถึงจะมีโอกาสเป็นรัชทายาท

พ่อบ้านเข้าประตูมาอย่างเร่งรีบ สีหน้าของจวินฉูฉู่หมองลง: “รีบๆเร่งๆอันใดกัน?”

พ่อบ้านรีบโค้งคำนับ: “พระชายา พระชายาเย่อยู่ตรงหน้าประตู”

“นางมาทำอันใด?” จวินฉูฉู่แปลกใจ หรือว่าสวรรค์จะช่วยนาง ต้องการสิ่งใดสิ่งนั้นก็มา?

พ่อบ้านกล่าวว่า “นางบอกว่าหิวแล้วจึงต้องการทานอาหารที่จวนอ๋องตวน”

“ตลกสิ้นดี นางอยากทานอาหาร ข้าก็ต้องให้นางอยู่ทานอาหารหรือ?”

พ่อบ้านไม่ตอบแล้วจวินฉูฉู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “เช่นนั้นก็ให้นางเข้ามาเถอะ ข้าจะไปดูหน่อย”

“ขอรับ”

พ่อบ้านอาวุโสออกมาอย่างรวดเร็ว ฉีเฟยอวิ๋นเห็นคนก็เดินตามเข้าไป เข้ามายังห้องโถงด้านหน้าฉีเฟยอวิ๋นก็นั่งลง ไม่นานนักจวินฉูฉู่ก็ได้เข้ามาจากด้านนอก

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าการต้อนรับแขกของจวินฉูฉู่นั้นมีปัญหา นางเข้ามาแล้วแม้แต่ชาสักคำก็ไม่ให้จิบเลย

จวินฉูฉู่สวมชุดสีแดงเข้ามาจากด้านนอก อยากให้ดูหรูหรามากเท่าใดก็ดูหรูหรามากเท่านั้น

“พระชายาเย่มาแล้วหรือ?” จวินฉูฉู่เดินไปนั่งตรงฝั่งหนึ่งและเหลือบมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างดูแคลน สาวใช้ข้างกายพยุงจวินฉูฉู่จนจวินฉูฉู่นั่งลงเรียบร้อยแล้วจึงได้ถอยไปอยู่ฝั่งหนึ่ง

คนใช้ยกน้ำชามาก็เพียงแค่วางน้ำชาให้จวินฉูฉู่โดยไม่สนใจตรงฝั่งของฉีเฟยอวิ๋น

ฉีเฟยอวิ๋นนั้นไม่ยอมปล่อยผ่านไปเป็นธรรมดาจึงเอ่ยถามขึ้นว่า: “การต้อนรับแขกของพระชายาตวนช่างลึกลับเช่นนี้ มีความหมายลึกซึ้งใดหรือไม่?”

จวินฉูฉู่ยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วเป่าอย่างระมัดระวังจากนั้นก็จิบแล้ววางลงพร้อมกับกล่าวว่า: “พระชายาเย่กำลังตั้งครรภ์แล้วชาก็เป็นของเย็น จึงไม่เป็นการดีที่จะเชิญให้พระชายาเย่ดื่ม”

ฉีเฟยอวิ๋นขบขัน จวินฉูฉู่ก็เป็นได้แค่เช่นนี้ คิดที่จะบินขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงเพื่อเป็นหงส์ตัวใหญ่ แต่กลับถือสาเรื่องเล็กน้อยอยู่ตลอดทั้งวันไม่ยอมปล่อย

ไร้ศีลธรรมมากพอ!

ฉีเฟยอวิ๋นจัดเสื้อผ้าแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อรู้ว่าข้ากำลังตั้งครรภ์และไม่สามารถดื่มแม้กระทั่งชาได้ เช่นนั้นพระชายาอ๋องตวนส่งคนไปก่อความวุ่นวายยังจวนของข้าเพื่อเป็นการทำร้ายข้าแล้วจะกล่าวเช่นไร?”

จวินฉูฉู่ใบหน้าซีดเผือด มือไม้สั่น แววตาปะปนไปด้วยความตกตะลึง นางมองไปยังฉีเฟยอวิ๋นแล้วอ้าปากแต่กลับกล่าวไม่ออก!