เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 399 โอกาสที่น่าอึดอัดใจ

โดยปกติแล้ว แอเรียนจะไม่ถามมาร์คเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เพราะดูเหมือนเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

หลังจากเอธานพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงอาหารค่ำ เขาจึงตัดสินใจทานอาหารค่ำกับพวกเขาในคืนนั้น

สีหน้าของเขาแย่ลง หลังจากมาร์คได้รับข้อความนั้น “เราจะไปดินเนอร์กันที่ ไวท์ วอเตอร์ เบย์ ในคืนนี้”

แอเรียนเดาอย่างมีสติว่า อีธานคือคนที่ชวนพวกเขามารับประทานอาหาร “อีธานเป็นคนเชิญเราใช่ไหม?”

มาร์คไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังพยักหน้าอยู่ เขาถึงกับดึงเน็กไทด้วยความโมโห มันทําให้เธอสับสนมากขึ้น ทําไมเขาถึงทําตัวเหมือนถูกข่มขู่จากใครบางคน? เธอรู้ว่าเขาเป็นยังไง ถ้าเขาไม่ยอม คงไม่มีใครบังคับเขาให้ทําอะไรได้

สีหน้าของเขาดีขึ้น เมื่อรู้ว่าหล่อนกําลังจ้องมองเขาอยู่ “ตอนนี้ฉันยุ่งมาก แต่ฉันก็ยังต้องรับมือกับเขาอยู่ดี มันน่ารําคาญมาก…”

เธอปิดปากเงียบ จากนั้นเธอก็หยิบถั่วออกมาและกินมันเสียงดัง

เวลาห้าโมงครึ่งในตอนเย็น มาร์คกับแอเรียนไปถึงที่ ไวท์วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ อีธานได้จองโต๊ะสี่คนไว้ที่ห้องโถง มันเป็นเรื่องจริง ในจํานวนนี้มีสี่คนรวมถึงทิฟฟานี่

ทิฟฟานี่นั่งข้างแอเรียนทันทีเมื่อมาถึง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทําไมอีธานถึงชวนแอเรียนกับมาร์คมากินข้าวด้วยกัน มันน่าตกใจมากที่มาร์คจะยุ่งแค่ไหน แต่อีธานก็ยังสามารถชวนเขาออกไปกินข้าวนอกบ้านด้วยได้

อีธานไม่ได้ปล่อยให้ทิฟฟานี่อยู่ในความมืดเป็นเวลานาน หลังจากสั่งอาหารแล้วเขาก็พูดว่า “ทิฟฟ์ ให้ฉันแนะนําเธออีกทีนะ นี่คือพี่ชาย และพี่สะใภ้ของฉัน”

ทิฟฟานี่รู้สึกสับสน “หืม? คุณพบกันเมื่อไหร่? ทําไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้? นานจริงจังใช่ไหม?”

อีธานไม่ได้สนใจ สีหน้าที่ดุร้ายของมาร์ค เขาอธิบายว่า “เรื่องมันยาว ฉันเคยอยู่กับแม่ตอนเด็ก ฉันไม่เคยอยู่กับพวกเทรมอนต์ แต่ฉันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเทรมอนต์ มันยังคงเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จริงไหมครับพี่?”

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น มาร์คไม่ตอบรับ แอเรียนก็กัวลเช่นกัน

อีธานไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ “ผู้หลักผู้ใหญ่ของครอบครัวเทรมอนต์ไม่อยู่แล้ว ผมอยากพาแฟนผมไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ ผมเลยต้องพาเธอไปพบพี่ชายผมเท่านั้น พี่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเราไหม? อีกอย่างทิฟฟ์เป็นเพื่อนสนิทพี่สะใภ้ผมด้วย” เขาพูดประโยคสุดท้ายชัดเจน ดูเหมือนเขาจะเตือนมาร์ค เพื่อให้เขาให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และแท้ที่จริงพวกเขานั้น ต่างกุมความลับของกันและกันเอาไว้อยู่

มาร์คหรี่ตา ไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของเขาได้ น้ำเสียงของเขาดูเย็นชา “แน่นอน”

แอเรียนแอบโล่งอก นั่นเพราะทิฟฟานี่อยู่กับพวกเขา ไม่ว่ามาร์คจะเกลียดน้องชายแค่ไหน เขาก็จําเป็นต้องช่วยเธอบ้าง ไม่ควรไปสร้างประเด็นตรงนั้นจะดีกว่า ถ้าเอธานไม่ใช่คนที่วางแผนร้ายพวกนี้จริง ๆ เธอคงจะมีความสุขถ้าเอธานสามารถอยู่กับทิฟฟานี่ได้ เธอสามารถเป็นสมาชิกครอบครัวที่แท้จริงกับเพื่อนสนิทของเธอได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะใกล้ชิดกันมากขึ้น

ทิฟฟานี่สามารถเดาได้ว่าเอธานตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดใจแค่ไหน ไม่ว่าเธอจะไร้เดียงสาแค่ไหน เธอจึงไม่ได้ถามตัวตนของเขาต่อหน้าพวกเขา เธอรู้สึกแปลก ๆ เมื่ออีธานอ้างว่าเธอเป็นแฟนของเขา เธอสัญญาว่าจะให้คําตอบกับเขาหลังจากเขาออกจากโรงพยาบาล แต่เธอไม่ได้คิดให้รอบคอบ อีธานยอมรับแล้วว่าเธอเป็นแฟนของเขา เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรในเรื่องนี้ได้

อาหารค่อย ๆ มาเสริฟขึ้นโต๊ะ อีธานทําหน้าที่ในฐานะแฟน ช่วยทิฟฟานี่ตักอาหาร “นี่เป็นอาหารโปรดของเธอมาก่อน เธอควรจะกินเยอะ ๆ นะ”

ทิฟฟานี่มองโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารโปรดของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอหมดความสนใจและไม่อยากอาหารในทันที “อย่าเอาอาหารใส่มาในจานฉันเยอะ ๆ ฉันกินมันไม่หมด…”

อีธานสัญญาว่าจะไม่ทำ แต่เขายังคงตักอาหารมาไว้ในจานของเธอ เขาจะหยุดความพยายามของเขา ก็ต่อเมื่อจานของเธอเต็ม

เทียบกับฉากโรแมนติกของทั้งคู่ ทางแอเรียนและมาร์คต่างดูเย็นชาและห่างเหินกัน พวกเขากินอาหารของตัวเองและไม่มีการตักอาการให้กันและกัน

“เอ่อ ใช่สิ พี่ชาย ร้านคาเฟ่นี้ไม่ใช่ของเพื่อนพี่เหรอ ผมเคยคุยธุรกิจกับเขาที่งานปาร์ตี้ เขาชื่อแจ็คสันหรือเปล่านะ?” จู่ ๆ อีธานก็เอ่ยชื่อแจ็คสันขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ภายในเขากลับมีความตึงเครียดที่ไม่รู้มาก่อน

มาร์คมองเขา เขาอยากรู้ว่าเอธานกำลังเตือนเขาหรือเปล่า เรื่องที่อดัมคือคนที่ให้แจ็คสันเอาผมไปตรวจผลดีเอ็นเอ

“ใช่” เขาก็ตอบเบา ๆ ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ที่จริงแล้ว เขาไม่ควรรู้สึกผิดกับเรื่องนี้

ดูเหมือนอีธานแค่ถามเฉย ๆ แล้วเขาก็ไม่พูดถึงมันอีก

ทิฟฟานี่ไม่สามารถสงบได้ ถ้าความทรงจําของเธอไม่ทําให้เธอผิดหวัง เธอจําได้ว่าแจ็คสันมักจะไปคาเฟ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์เสมอ นอกจากนี้ อีธานจองโต๊ะไว้ในห้องล็อบบี้ ไม่ใช่ห้องส่วนตัว ถ้าแจ็คสันอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องเจอกันแน่ ๆ ทําไมเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย?

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ห้านาทีต่อมา แจ็คสันเดินออกจากห้องทำงาน แล้วเดินตรงไปหาพวกเขา

ทิฟฟานี่รู้สึกประหม่า เธอก้มหน้าลงและกินอาหารด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เธอไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นมา

“มาร์ค ทําไมนายไม่บอกฉันล่ะ ว่านายจะมากินข้าวเย็นที่นี่” แจ็คสันไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ในตอนที่เขาทักทายมาร์คแบบขอไปที

“มันเป็นการตัดสินใจในนาทีสุดท้าย” มาร์ควางส้อมและช้อนลง จากนั้นเขาก็หยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดปากอย่างสง่าผ่าเผย

แจ็คสันมองคนที่อยู่ที่นั่น ไม่นานเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ขอให้สนุกกับมัน ฉันขอตัวก่อน”

จู่ ๆ อีธานก็ลุกขึ้นและเทไวน์แดงให้แจ็คสัน “ผมได้ยินว่าคุณเป็นเจ้านายของทิฟฟ์ และคุณยังเป็นเพื่อนของพี่ชายผมด้วย ขอให้ดูแลทิฟฟ์ในบริษัทให้ดี ๆ ต่อจากนี้ไป เธออาจจะช้าไปบ้าง โปรดให้อภัยเธอด้วยนะครับ”