192 : หมวกเขียว 2 เท่าและการสัมผัสความสุขจากสีเขียวถึง 2 เท่า!!!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 192 : หมวกเขียว 2 เท่าและการสัมผัสความสุขจากสีเขียวถึง 2 เท่า!!!

 

[พิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง]

 

เวลาเองที่พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งกําลังมีรถหรูมากมายจอดรวมตัวกันอยู่และเหล่าคนดังก็มารวมตัวกัน

 

Lamborghini Rolls-Royce Ferrari McLaren~~

 

รถหรูมากมายต่างต่อแถวกันมาเข้าร่วมงาน

 

ที่หน้าโต๊ะลงชื่อขนาดใหญ่ นักข่าวจากสํานักข่าวมากมายต่างรุมเข้ามาถ่ายทํา

 

คนดังทุกคนที่มาที่นี่มักจะโดนถ่ายรูป สัมภาษณ์นักข่าวปิดล้อมกันแทบทุกคน-

 

เพราะนี่คืองานการประมูลเพื่อการกุศลของพิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง ทั้งสื่อและคนดังมากมายจากให้ความสําคัญกับงานนี้อย่างมาก

 

และงานการกุศลนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นงานการแสดงที่ดีที่สุดสําหรับการแสดงของดาราและคนดังต่างๆ!

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การแสดงแบบนี้ก็เป็นการแสดงที่ดูสูงส่ง และดูมีศีลธรรมและไม่เป็นที่น่ารังเกียจ — พอเมื่อยิ่งคุณใช้จ่ายเงิน เพื่อการกุศลมากเท่าไหร่คุณก็จะได้รับค่านิยมทางสังคมมากยิ่งขึ้น ซึ่งดีกว่าการเอาเงินไปเผาเพื่ออวดความมั่งคั่งต่อคนธรรมดามาก!

 

อย่างนั้นงานนี้จะมีบัตรเชิญสําหรับคนเพียงหนึ่งร้อยคนเท่านั้น และในบรรดาหนึ่งร้อยคนนี้ต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง

 

“ว้าว! มีดาราดังเต็มไปหมดเลย! แถมยังมีบรรดามหาเศรษฐีในนิตยสาร Forbes ด้วย!”

 

หญิงสาวเจ้าเล่ห์อย่างหลิวหลานก็ยังต้องเบิกตากว้าง!

 

รสชาติของเงินที่เธอโปรดปราน!

 

“พรมแดง สัมภาษณ์กับสื่อ?”

 

หลิวหลานรู้สึกราวกับว่าชีวิตของเธอนั้นมาถึงจุดสุดยอดแล้ว!

 

เจียงเฉินนั้นนับเป็นอะไรได้บ้าง? ตกนรกมากกว่า! ก็แค่คนส่งพัสดุ!

 

ฮึ

 

คนอย่างนั้นจะมางานนี้ได้ไหมล่ะ?

 

หวางเฉียนขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างดูถูก “อย่าทําตัวอ่ะ มันทําให้ฉันเสียหน้า”

 

“ค่ะ!”

 

หลิวหลานทําตัวเชื่อฟังและควงแขนของหวางเฉียนก่อนจะเดินออกจากตัวรถ Bentley แล้วเดินขึ้นไปบนพรมแดง

 

หวางเฉียนเดินไปบนพรมแดงไม่นานก็เห็น

 

รถ Audi ขับเข้ามาใกล้ทั้งคู่

 

“นั้นมัน!”

 

หลิวหลานที่กําลังแสดงอยู่ก็ตกใจกลัวจนยืนด้วยรองเท้าส้นสูงของเธออย่างไม่มั่นคงก่อนที่จะล้มลง!

 

แน่นอนว่าสื่อย่อมต้องไม่พลาดฉากเด็ดนี้ไปอย่างแน่นอน

 

หลิวหลานแทบจะอาเจียนเป็นเลือด

 

น่าอับอายมาก!

 

“คุณ คุณต้องช่วยฉันนะ! ฉันอับอายมาก!”

 

“ไอ้เวร!”

 

หวางเฉียนรู้สึกว่าตัวเองโดนหักหน้าเขาจ้องมองไปที่รถอย่างโกรธเคือง

 

ทันใดนั้นเขาก็ตกตะลึง!

 

รถ Audi?!

 

พระเจ้า!

 

รถคันนี้เข้ามาได้ยังไง?

 

สื่อที่อยู่รอบและคนดังต่างพากันตกตะลึง!

 

ต้องรู้ไว้ก่อนว่า งานนี้มีเพียงดาราดังและคนที่ร่ํารวยหนึ่งร้อยคน เท่านั้นที่สามารถร่วมงานเลี้ยงการกุศลในครั้งนี้ได้ และการที่จะเข้างานเลี้ยงได้ทุกคนนั้นก็ใช้เงินไปอย่างต่ําแล้วถึงสองล้าน!

 

แต่

 

แต่เจ้าของ Audi คันนี้กลับไม่ใสใจแม้แต่น้อย

 

Audi ที่ราคาไม่ถึง 200,000 มางาน!

 

ทันใดนั้นห้องโถงก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

“ว้าว ฮ่าฮ่า! นี่ใครกัน?”

 

“รถคันนี้แตกต่างออกไปจริงๆ!”

 

“เจ๋งมาก เจ๋งจริงๆ!”

 

คนบนรถออดี้ลงมานา

 

หนุ่มหล่อ!

 

เจียงเฉิน!

 

เขาดึงหญิงสาวที่สวยงามราวกับเทพธิดาลงมา ฉู่หลิงเหยา!

 

คนสองคนที่มีรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดาทําให้คนที่ได้เห็นต่างรู้สึกตกตะลึง!

 

ทุกคนในงานต่างกลั้นหายใจ

 

ในเวลานี้การหัวเราะเยาะของคนทุกคนที่ได้เห็นก็หยุดลงทันที

 

ไม่มีทาง!

 

หล่อมาก หล่อเกินไปแล้ว!

 

อีกสาวเองก็สวยมาก!

 

เจียงเฉินพาฉู่หลิงเหยาเดินไปตามพรมแดง!

 

และเวลานี้เองหวางเฉียนกับหลิวหลานก็ร้องออกมาพร้อมกัน

 

“เจียงเฉิน?”

 

“หลิงเหยา?”

 

ทั้งคู่ตะโกนออกมาก่อนจะหันมามองหน้ากัน

 

ทั้งสองแสดงสีหน้าตกตะลึง–

 

เจียงเฉินนั้นไม่ได้สนใจที่จะดูทั้งสองเลยแต่ดู่หลิงเหยากลับรู้สึกประหลาดใจ

 

“หืม? คนๆนั้นดูคุ้นๆนะ…”

 

ก่อนหน้านี้แม่เลี้ยงของเธอได้ให้เธอดูรูปของคุณชายตระกูลใหญ่ ฉู่หลิงเหยาจึงจําเขาได้

 

คนนี้ดูเหมือนจะเป็นหวางเฉียน!

 

เอ๊ะ?

 

ฉู่หลิงเหยาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว….หลิวหลานกําลังควงแขนกับหวางเฉียนอยู่

 

ฉู่หลิงเหยายิ้มออกมาเล็กน้อย ในดวงตาของเธอฉายแววดูถูก

 

ดูเหมือนว่าหวางเฉียนคนนี้จะเป็นคนแบบที่ฉันเดาไว้จริงๆด้วย!

 

ใบหน้าของหวางเฉียนเต็มไปด้วยความอับอาย

 

เขานั้นคิดว่าการที่ฉู่หลิงเหยาปฏิเสธไปแล้วและเธอก็คงจะไม่มางานนี้ เขาก็เลยพาหญิงสาวตัวสํารองมาแทนทันที!

 

แบบนี้มันน่าอายมาก

 

“หลิงเหยาฟังผมอธิบายก่อน!”

 

หวางเฉียนส่ายหน้าให้หลิวหลานก่อนจะก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดออกกับฉู่หลิงเหยา “ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอนะเราเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ผมไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอจริงๆนะ! จริงๆแล้วผมอยากมาเดทกับคุณแต่คุณไม่มา ผมก็แค่…”

 

หลิวหลานโดนหวางเฉียนโยนทิ้งไปในทันที…

 

อกหัก!

 

เธอรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที!

 

หลิวหลานรู้สึกน้อยเนื้อต่ําใจเธอเอามือไปคว้าหวางเฉียนไว้ “หวางเฉียน! เธอเป็นใครกัน? ไหนคุณบอกว่าคุณรักฉันคนเดียวไง!”

 

หวางเฉียนตอบกลับอย่างโกรธเคือง “ออกไป!”

 

ฮิฮิฮิ

 

ฉู่หลิงเหยาที่เห็นก็ไม่ได้โกรธแต่กลับรู้สึกสนุกด้วยซ้ํา เธอถ่ายรูปของหวางเฉียนกับหลิวหลานที่กําลังซื้อกันไปซื้อกันมาแล้วส่งไปให้แม่เลี้ยงของเธอ ให้แม่เลี้ยงของเธอได้เห็นว่านี่คือแฟนหนุ่มที่เธอนั้นพยายามแนะนําให้รู้จัก!

 

“ดีแล้วล่ะ”

 

ฉู่หลิงเหยายิ้มเธอจับมือของเจียงเฉินเอาไว้แน่น “เพราะยังไงซะ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอยู่แล้ว และตอนนี้ฉันก็มีแฟนแล้วฉันก็ไม่สนหรอกว่าคุณจะมากับใคร”

 

“อะไรนะ?”

 

หวางเฉียนโกรธและอิจฉาขึ้นมาทันที “แฟนของเธอ? เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่? ใครมันกล้าแย่งแฟนสาวของฉันไปจากฉันคนนี้?!”

 

ดวงตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องไปที่เจียงเฉิน

 

“มันชื่อเจียงเฉินใช่ไหม?!”

 

เขาหันศีรษะก่อนจะคํารามไปที่หลิวหลาน: “เธอเพิ่งถามมัน มันชื่อเจียงเฉินด้วยใช่ไหม นั่นคือมันใช่ไหม?!”

 

หลิวหลานพยักหน้าอย่างสั่นเทา

 

หวางเฉียนจู่ๆ ก็รู้สึกถึงเสียงเพลงที่ออกมาจากหัวของเขา

 

ฉันกําลังมองไปไกลๆ เหนือทุ่งหญ้า

 

หมวกสีเขียวที่ใบที่โบยบินอย่างอิสระ

 

ผู้หญิงในฝันคือแฟนสาวคนปัจจุบันของเจียงเฉิน

 

แฟนสำรองคือผู้หญิงที่เจียงเฉินไม่ต้องการ

 

หมวกเขียวยกกําลังสอง!

 

ยกกําลังสองแล้วยกกําลังสองอีกที!!

 

หวางเฉียนใจสลาย

 

แม้ว่าริวลานจะอธิบายอย่างสุดชีวิตว่าเจียงเฉินนั้นเป็นฝ่ายที่ตามตื้อเธอ แต่เธอนั้นก็ปฏิเสธเขายังเด็ดเดี่ยว แต่ยิ่งเธออธิบายมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งดูมืดมนลงเท่านั้น และคนที่อยู่รอบข้างก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่าแท้จริงแล้วมันเป็นยังไง!

 

คนที่อยู่รอบต่ําๆพูดคุยกัน

 

“ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องราวที่อธิบายไม่ได้อะไรเกิดขึ้น?”

 

“ยังไม่ชัดเจนอีกหรอ ผู้หญิงที่ผู้ชายคนนั้นกําลังไล่ตามกําลังควงแขนกับหนุ่มหล่อคนนั้นซึ่งเป็นแฟนของเธอ ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆก็เป็นผู้หญิงที่หนุ่มหล่อคนนั้นไม่อยากเล่นด้วยยังไงล่ะ!”

 

“สวมหมวกเขียวกําลังสอง สัมผัสความสุขจากสีเขียวเป็นสองเขา”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!! หน้าของหวางเฉียนตอนนี้น่าดูจริงๆ!”

 

“….”

 

หวางเฉียน มักจะอาศัยเงินและความแข็งแกร่งของตัวเองทําเรื่องอยู่ตลอดเวลาเขานั้นชอบรังแกทุกคนที่อยู่รอบๆและโอ้อวดออกมา

 

ในตอนนี้เขานั้นโดนคนนับไม่ถ้วนรอบเยาะเย้ยออกมาในขณะที่ตัวเขานั้นดูไม่ต่างกับสุนัขที่กําลังจมน้ํา

 

“ไอ้เวร!”

 

ความคิดของหวางเฉียนพังทลายลงและเขาโกรธมาก “เจียงเฉิน แกมาที่นี่ได้ยังไง!”

หลิวหลานที่เกลียดชังเจียงเฉินแทบตายก็พูดตามออกมา “ใช่แล้ว! แกเป็นแค่คนส่งพัสดุ แทบรถที่ขับแค่รถพัง แกมางานการกุศลระดับนี้ได้ยังไง! หรือว่าแกมาเพื่อรับเงินการกุศลกันแน่!”

 

แม้ว่าหลิวหลานจะรู้ว่าเจียงเฉินนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่แต่ปัญหาคือ…

 

คือนั้นได้บินขึ้นมาบนกิ่งไม้และกลายเป็นนกฟินิกซ์ของคุณชายตระกูลใหญ่ไปแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้นเจียงเฉินนั้นขับรถ Audi มาในวันนี้บางที่ครอบครัวของเขาอาจจะล้มละลายแล้ว!

 

ดังนั้นเธอคิดว่าหวางเฉียนในตอนนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเจียงเฉิน!

 

ดังนั้นเธอก็เลยเหน็บแนมตามออกมา!!

 

” อะไรนะ?”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หวางเฉียนรู้ว่าเจียงเฉินนั้นเคยเป็นคนส่งพัสดุมาก่อนเค้าหัวเราะออกมา “แกเป็นแค่คนส่งพัสดุงั้นหรอ?”

 

“ผิดแล้ว” เจียงเฉินพูดออกมา

 

“แล้วแกทําอะไรอยู่ล่ะ?” หวางเฉียนถามต่อ

 

“ตอนนี้ผมเป็นคนขับตี้ตี้”

 

“อา? ฮ่าฮ่าฮ่า– สองงานนี้มันแตกต่างด้วยหรอ?”

 

หวางเฉียนหัวเราะจนน้ําตาแทบไหลออกมา

 

หลิวหลานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเจียงเฉินนั้นจะล้มละลายจริงๆเธอเยาะเย้ยออกมา “เจียงเฉินฟังฉันนะ แม้ว่าความแข็งแกร่งของแกจะสูงขึ้นมาจากอดีตเพียงเล็กน้อย แต่งานเลี้ยงระดับคุณสมบัติของแกนะยังไม่เพียงพอหรอกนะและคนที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอก็คือคนแบบสามีของฉัน หวางเฉียนที่จะสามารถเข้าร่วมงานได้”

 

ในขณะที่เธอเหยียบย่ําเจียงเฉินเธอนั้นก็พูดเชิดชูหวางเฉียนไปในเวลาเดียวกันและได้เพียงแต่หวังว่าหวางเฉียนนั้นจะยอมให้เธอนั้นเป็นผู้หญิงของเขาต่อไปแม้ว่าจะเป็นแค่ตัวสํารองก็ตาม

 

เจียงเฉินยักไหล่ “อย่าดูถูกผู้คนสิ คุณลองกันเองก็แล้วกันว่าคนขับตี้ตี้จะเข้างานได้ไหม?”

 

พูดจบเขาก็จับมือของฉ่หลิงเหยาแล้วเดินเข้าไปในงานทันที

 

หวางเฉียนเยาะเย้ย “บัตรเชิญของแกอยู่ไหนล่ะ?”

 

เจียงเฉินมองดูอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแปลกๆ “บัตรเชิญ มันคืออะไร?”

 

หวางเฉียนโบกมือเผยให้เห็นบัตรเชิญสีทองสองใบ

 

“เห็นเจ้านี่ไหม ตราบใดที่แกไม่มีบัตรสองใบนี้แกก็ไม่มีสิทธิ์เข้า!”

 

หวางเฉียนพูดอย่างภาคภูมิใจ “นี่เป็นงานประมูลการกุศลในเมืองหลวงไม่ใช่สถานที่ที่แมวกับหมาจรจัดจะเข้ามาเล่นได้!”

 

และด้วยคําพูดนี้ทําให้คนรวยและคนดังหลายคนพากันพยักหน้าตาม

 

“ใช่แล้ว! น้องชายแม้ว่านายจะหล่อเหลา แต่ความแข็งแกร่งของนายน่าเป็นห่วงจริงๆ!”

 

“ใครจะให้นายเข้าไปกันถ้าไม่มีบัตรเชิญ!”

 

“นี่เป็นงานประมูลการกุศลนะ! การประมูลทุกรายการนั้นมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้าน! ถ้านานไม่มีกําลังมากพอก็อย่าเข้าไปสร้างความอับอายเลย!”

 

“พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งเต็มไปด้วยสมบัติล้ําค่า! น้องชายช่วยเคารพมันน้อยเถอะ!”

 

พวกเขาได้เห็นรถ Audi กูขับมาโดยที่ฉุกเฉินและยังได้ยินว่าเขานั้นเป็นแค่คนขับตี้ตี้ พวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เจียงเฉินเขาไปงานและพยายามเกลี้ยกล่อมเขา

 

เจียงเชิญยิ้มและพาฉู่หลิงเหยาเดินตรงไปที่ทางเข้า

 

บริเวณนั้นมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบบัตรเชิญอยู่

 

หวางเฉียนชี้ไปที่เฉินและตะโกนออกมา “เขาไม่มีบัตรเชิญ!”

 

สายตาของคนบริเวณนั้นรวมตัวบริเวณที่เจียงเฉินทันที

 

สายตาของพนักงานจับจ้องไปที่เจียงเฉิน

 

ร่างกายสั่นสะท้าน!

“เถ้าแก่!”

 

ผู้คนที่ยืนดูพากันช็อกไปทั้งแถบ!

 

“เถ้าแก่?”

 

เจียงเฉินกะพริบตามอง

 

พนักงานที่ถูกมองด้วยความเฉลียวฉลาดของตัวเองก็รีบเปลี่ยนคําพูดของตัวเองทันที “อ่า อาจารย์เจียงคนขับรถตี้ตี้ของเถ้าแก่!”

 

“พรูด!”

 

กลุ่มเศรษฐีและคนดังในเมืองหลวงพากันงง

 

เถ้าแก่– คนขับรถตี้ตี้ของเถ้าแก่?

 

เจียงเฉินพยักหน้าและยิ้ม “บอกว่าเถ้าแก่ของพวกนายเชิญฉันมาเข้าใจไหม?”

 

เจียงเฉิน : ก็ในเมื่อฉันเป็นเถ้าแก่และเชื่อตัวเองมาก็คงไม่ผิดหรอกมั้ง?!!

 

พนักงานพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ! เถ้าแก่เป็นคนบอกผมด้วยตัวเอง!”

 

พนักงาน : แต่เมื่อเถ้าแก่บอกมาขนาดนี้แล้วไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน!

 

ซูหลิงเหยากระพริบตาที่สวยงามของเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

อย่างไรก็ตาม…

 

ในใจของเธอนั้นเจียงเฉินนั้นเป็นคนที่ลึกลับและมีอํานาจมาก

 

หลอกคนรวยที่ได้ยินว่าเจียงเฉินเป็นคนขับรถของจ้าวฉีซางพวกเขาก็ส่ายหัวไปมาและไม่เห็นด้วย

 

“เฮ้ ถ้าพูดถึงคุณจ้าวแล้ว ฉันว่าช่วงนี้เขาแปลกไปหน่อยนะ”

 

“ใช่ๆ ปล่อยคนขับตี้ตี้พาแฟนสาวมางานเลี้ยงวแบบนี้ได้ยังไง”

 

“ผู้อาวุโสจ้าวเป็นเหมือนกับเด็กซยในร่างชายแก่ เขามักจะทําตัวแปลกๆแล้วก็คาดเดาไม่ค่อยได้”

 

“ลืมมันไปเถอะอย่าไปสนใจเขาเลย”

 

หวางเฉียนยิ่งรู้สึกไม่ยอมเจียงเฉินเพราะเจียงเฉินนั้นเป็นเพียงแค่คนขับตีตี้แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจ้าวฉีซางก็เลยได้เข้าร่วมงานเลี้ยง

 

“หึหึ”

 

เขาพูดกับฉ่หลิงเหยา “ดูแฟนของเธอสิ พาเธอเข้ามางานการกุศลแต่ไม่รู้ว่าจะพาเข้าทางประตูหลังรึเปล่า เธอไม่รู้สึกเลยหรอว่าทําแบบนี้มันทําให้ตัวของเธอดูไร้ค่านะ!”

 

ฉู่หลิงเหยาพูดอย่างเย็นชา “ตื่นได้แล้ว! แม้ว่าเขาจะขับตีตี้แต่ฉันก็ยังชอบเขาอยู่เหมือนเดิม!”

 

หวางเฉียนทําหน้ามุ่ยก่อนจะเดินจากไป

 

กลุ่มคนรอบๆก็พากันเดินเข้าไปในงานตาม

 

นักข่าวเองก็พยายามตามเข้าไป

 

ในเวลานี้เองเพื่อเป็นการต้อนรับการประมูลการกุศลในคืนนี้ของพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งพวกเขาได้นําสมบัติล้ําค่าหลายชิ้นที่ไม่เคยเปิดให้สาธารณชนเข้าชมก่อนออกมาจัดแสดง

 

ผู้บรรยายอธิบายอย่างกระตือรือร้น

 

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน นี่คือโถงจัดแสดงเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงที่เราได้นํามาจัดแสดงเป็นพิเศษสําหรับค่ําคืนนี้! เครื่องลายครามในโถงนี้มีมากกว่า 100 ชิ้นทุกชิ้นล้วนเป็นงานฝีมือที่วิจิตรปราณีตและหรูหราและมูลค่าของพวกมันนั้นถ้าหากนําออกมาจากประมูลคงไม่ต่ํากว่า 100 ล้านหยวน!”

 

เหล่าคนดังพากันสูดหายใจเข้าอย่างช้าๆ

 

พวกเขารวยก็จริงแต่พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจว่าพวกเขานั้นจะสามารถซื้อเครื่องลายครามพวกนี้ได้

 

หวางเฉียนที่ได้เห็นก็ตกตะลึง!

 

หลิวหลานจ้องมองเครื่องลายครามเขม็ง!

 

หวางเฉียนเยาะเย้ยและพูดออกมาเบาๆ

 

“ของพวกนี้ชั่งดูธรรมดาซะจริง!”

 

“นายพูดอะไรของนาย?”

 

หลิวหลานไม่กลัวเจียงเฉินแม้แต่น้อยเธอพูดออกมา “แกที่เป็นแค่คนขับที่จะไปรู้อะไร?”

 

“แม้ว่าพวกมันจะดูมีคุณค่ามาก แต่แท้จริงแล้วคุณค่าของพวกมันนั้นขึ้นอยู่กับประวัติศาสตร์ทั้งนั้น”

 

เจียงเฉินพูด “พวกมันเป็นสมบัติที่โดดเด่นมากที่สุดในประเทศของเรา พวกมันนั้นสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของจีนโบราณและยังมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าด้วยเงินได้”

 

หวางเฉียนกับหลิวหลานตกตะลึง

 

คําพูดของเขามันมีเหตุผล!

 

พวกเขาไม่สามารถหาอะไรมาหักล้างได้เลย!

 

เหล่าคนดังที่ได้ยินคําพูดของเจียงเฉินพวกเขาก็รู้สึกว่าคําพูดของเจียงเฉินนั้นสมเหตุสมผลและน่าสนใจมาก

 

“ใช่ เพราะมันเป็นวัตถุโบราณที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่เรื่องที่เงินจะมาวัดค่าของมันได้!”

 

“หวางเฉียนสายตาของนายมันต่ําเกินไปแล้ว!”

 

“หุบปากเดี๋ยวนี้ อะไรอะไรก็พูดแต่เงิน เงิน เงิน! นายทําให้สถานที่ที่งดงามแบบนี้ต้องแปดเปื้อน!”

 

“ใช่แล้วถ้าไม่เข้าใจพวกมันก็ออกไป!”

 

หวางเฉียนโกรธความรู้สึกปลายก่อนจะหันไปตําหนิหลิวหลาน

 

“หุบปาก!”

 

หลิวหลานแสดงสีหน้าน้อยเนื้อต่ําใจออกมา

 

ร้องไห้

 

ฉู่หลิงเหยามองเจียงเฉินด้วยสายตาที่ชื่นชม “ฉันคิดไม่ถึงเลย ว่าน่าจะเรียนรู้อะไรมากขนาดนี้น่าทึ่งมากจริงๆ!”

 

เจียงเฉินยิ้มเล็กน้อย

 

เห็นได้ชัดว่าคําพูดนี้เดิมที่เป็นของจ้าวฉีซางที่พูดกับเขาเมื่อเช้า

 

เขานั้นยังจําคําพูดนี้ได้ดีเขาก็เลยเอาออกมาพูดเพราะรู้สึกว่ามัน เจ๋งดี!

 

ฮ่าฮ่าฮ่า!

 

หลังจากที่พวกเขาแต่เข้ามาเยี่ยมชมห้องโถงสมบัติหายากหลายสิบชิ้นพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าพวกเขานั้นได้เปิดหูเปิดตากันซักที!

 

แม้แต่พวกมหาเศรษฐีพวกเขาก็ยังไม่เคยเห็นศพวันแล้วทุกเวลามากมายขนาดนี้ในคราวเดียว

 

การที่พวกเขาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่ราวกับพระราชวังต้องห้ามในอดีต และมีสมบัติของชาติมากมายอยู่ข้างในมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้เห็นวัตถุโบราณพวกนี้อย่างใกล้ชิด

 

ทุกคนต่างมองดูพวกมันด้วยความยินดี

 

“ช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ!”

 

“ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!”

 

“เป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามาก!”

 

“มีอีเขาไม่ชันตั้งหน้าตั้งตารอกันคืนนี้มากขึ้นไปอีก ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉัน สงสัยจริงๆว่าคุณเจ้าเจ้าของพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งจะตัดใจจากสมบัติบางอย่างให้พวกเราได้ไหม?”

 

“ทุกคน อย่าโทษเรื่องที่ผมพูดเรื่องแย่ๆออกมาก่อนหน้านี้เลย การประมูลเพื่อการกุศลในครั้งนี้ผมตั้งใจจะมาเพื่อการกุศลอยู่แล้ว และผมเองก็ไม่ได้ต้องการพวกมันดังนั้นผมจะยกให้พวกคุณดีไหม?”

 

อยู่ๆก็มีเสียงชายคนหนึ่งพูดออกมา

 

“คุณคิดว่าคุณเป็นคนเดียวหรอที่สนใจที่วัตถุโบราณเหล่านี้ ฉันหมายถึง ฉันเองก็ต้องการบริจาคเงินเพื่อการกุศลด้วย!”

 

“ช่างบังเอิญจริงๆ! ฉันเองก็อยากทําบางอย่างเพื่อเด็กกําพร้าด้วยเหมือนกัน!”

 

“กระเป๋าสตางค์ของฉันพร้อมเปิดออกแล้ว!”

 

กลุ่มของบรรดามหาเศรษฐีที่ได้เห็นวัตถุโบราณที่ดูตระการ ตาในพิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง พวกเขาเกิดความคิดหากพวกเขาได้เข้าร่วมการประมูลคืนนี้ พวกเขาจะต้องได้มาสักหนึ่งหรือสองอย่างเป็นอย่างน้อย!

 

หวางเฉียน หญ้าคงยิ้มอย่างภาคภูมิใจและดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภของเขากวาดไปทั่วทั้งห้องโถง

 

“ขออภัยด้วยครับวัตถุโบราณที่จัดแสดงข้างบนนี้ เป็นวัตถุโบราณหายาดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้นําเข้ามาร่วมประมูลในครั้งนี้!”

 

พนักงานพูดอย่างตรงไปตรงมา

 

“อะไรนะ?”

 

เหล่าคนดังต่างผิดหวังกันเป็นอย่างมาก

 

“อย่างไรก็ตามแม้ว่าวัตถุโบราณที่อยู่ในรายการประมูลคืนนี้จะดีไม่เทียบเท่ากับวัตถุโบราณหายากเหล่านี้แต่พวกมันนั้นก็ดีมากเช่นกัน”

 

พนักงานมองดูด้วยความแปลกๆก็จะพูดออกมา “อะไรกัน พวกคุณไม่ได้บอกเองหรอกว่าคุณมาที่เพื่อบริจาคการกุศล?”

 

กูมาเศรษฐีถูกบังคับให้หัวเราะออกมาอย่างเชื่องช้า “ฮ่า ฮ่า ฮา—”

 

ไม่นานทุกคนก็มาถึงห้องประมูล