193 : เจียงเฉินที่กําลังเริ่มแผนการอีกครั้ง!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 193 : เจียงเฉินที่กําลังเริ่มแผนการอีกครั้ง!

ตอนที่ 193 : เจียงเฉินที่กําลังเริ่มแผนการอีกครั้ง!

ห้องประมูลตั้งอยู่ใน (ห้องโถงซงซี]

ที่นี่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณสมัยราชวงศ์หมิงที่ถูกทําขึ้นมาใหม่มี ทั้งเครื่องเรือนไม้แพร์ ทําให้บรรยากาศนั้นดูหรูหรามาก

 

ทั้งสองด้านของห้องโถงก็มีภาพวาดอยู่ ด้านหนึ่งคือภาพ “เซียนสี่ถู” ที่ถูกวาดโดยฉีไปซื้อ และอีกหนึ่งก็คือภาพ “คงซานซีหยูโฮ่ว”ที่ถูกวาดโดยจางต้าเฉียน!

หากต้องการพวกมันมาเป็นของตัวเองคุณก็คงต้องใช้จ่ายเงินไม่น้อยกว่าหลายสิบล้านในเวลาเดียว!

เหล่าเศรษฐีต่างพากันตกใจ

และด้วยกลิ่นอายโบราณพวกนี้ทําให้คนทุกคนต่างก็ต้องชื่นชมพวกมัน

พวกเขาเริ่มกระตือรือร้นที่จะทําการประมูลซื้อวัตถุโบราณจากพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งแล้ว!

 

“ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลาของการประมูลแล้ว!”

หัวใจของหวางเฉียนพองโต!

เพราะในที่สุดเขาก็จะได้โอ้อวดความร่ํารยของตัวเองแล้ว!

เขาอยากจะให้โลกได้รู้ว่าเขานั้นรวยแค่ไหน!

เขาเข้าไปชิงที่นั่งตรงกลางด้านหน้าคนแรกทันที!

 

รวย! เผด็จการ! เอาแต่ใจ!

หลิวหลานเองก็กําลังวางแผนขณะที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

เหล่าบรรดาเศรษฐีต่างพากันแย่งที่นั่งตําแหน่งดีๆกันทันที

เจียงเฉินพาฉ่หลิงเหยาไปนั่งที่นั่งส่วนท้าย

นักข่าวเดินตามเข้ามาเพื่อทําการเก็บภาพ

นักข่าวเดินเข้าไปสัมภาษณ์หวางเฉียน “คุณหวางเฉียนคะในฐานะผู้ท้าชิงตําแหน่งเศรษฐีอายุน้อยของนิตยาสาร Forbes คุณวางแผนที่จะจัดการกับงานประมูลการกุศลครั้งนี้ยังไงดีคะ?”

หวางเฉียนพูดตอบออกมา

 

“ประการแรก ผมต้องขอขอบคุณทางพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งที่เชิญผมมาเข้าร่วมงานการกุศลในครั้งนี้ ประการที่สองผมนั้นพร้อมที่จะทุ่มเงินจํานวนมากเพื่อบริจาคเงินให้กับบรรดาเด็กกําพร้า และสุดท้ายผมอยากจะแนะนําคนที่โชคร้ายซักหน่อยถ้าตัวเองไม่มีกําลังมากพอก็อย่ามาขายหน้าที่นี่เลย!”

หวางเฉียนกล่าวพร้อมกับยิ้มให้เจียงเฉินและรู่หลิงเหยาด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า

“ต่อไป เรามาต้อนรับคุณจ้าวฉีซาง กับคุณจ้าวเหลาผู้เป็นเจ้าภาพการประมูลครั้งนี้กันดีกว่าครับ!”

จ้าวฉีซาง กับจ้าวเหลาเดินออกไป

 

พวกเขาขึ้นไปยืนบนเวทีในขณะที่พวกเขากําลังพูดออกมาพวกเขาก็สังเกตุเห็นเจียงเฉินที่กําลังนั่งอยู่แถวท้ายสุด

จ้าวฉีซาง “ 12

เขาดูอึ้ง!

 

เถ้าแก่คนใหม่ของเขาบอกว่าเขาจะไม่มาไม่ใช่หรอ?

แล้วนี่มันยังไงกัน?

แต่เจียงเฉินก็กระพริบตาออกมาและผู้อาวุโสจ้าวก็เข้าใจเถ้าแก่ของตัวเองได้ทันที

เขาเข้าใจแล้วว่าเจ้านายของตัวเองมีแผนการบางอย่างอยู่

 

เขาไอออกมา “อืม ผมมีธุระนิดหน่อยผมขอตัวซักครู่ ทุกคนช่วยรอผมซัก 5 นาทีนะครับ!”

เขารีบเดินลงจากเวทีทันที

เจียงเฉินที่เห็นก็ยิ้มและหาข้ออ้างเดินออกมาจากโถงทันที

แผนการเริ่มขึ้น!”

“ผู้อาวุโสจ้าว มันเป็นแบบนี้… %.Ye”

 

เจียงเฉินอธิบายแผนการของเขาสั้นๆ

“อะไรนะ เถ้าแก่คุณแน่ใจหรอว่าต้องการทําแบบนี้น่ะ”

ผู้อาวุโสจ้าวเบิกตากว่าง “แต่นั่นมันสมบัตหายากเลยนะ!”

“มีผมอยู่ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ”

เจียงเฉินยิ้มและพูดต่อ “คนพวกนี้ต่างก็มาเพื่อเสแสร้งไม่ใช่หรอพวกเขาก็คงไม่หยุดจนกว่าพวกเขาจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้นพวกเราก็จะให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ!”

“ฉันเข้าใจแล้ว!”

 

ผู้อาวุโสจ้าวพยักหน้าและยิ้มออกมา

เถ้าแก่ นี่เป็นแผนการที่รัดกุมมากเลยจริงๆ!

ตอนนี้เขานั้นเริ่มเป็นฝ่ายเป็นห่วงเหล่าบรรดาเศรษฐีทั้งหลายที่ต้องการมาโอ้อวดเงินของตัวเองแล้ว

 

หลังจากที่เตรียมการบางอย่างเสร็จ จ้าวฉีซางก็กลับมในงานและทําหน้าที่ประธานการประมูลต่อไป

 

“ก่อนอื่น ในนามของพิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง ผมขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านอย่างจริงใจ!”

หวางเฉียนเสแสร้งออกมาด้วยการยืนขึ้นแล้วโบกมือ

จ้าวฉีซางพูดไม่ออก “…”

“ก่อนหน้านี้ทางพิพิธภัณฑ์ของเราได้ทําการตัดสินใจครั้งสําคัญ”

จ้าวฉีซางประกาศด้วยน้ําเสียงที่น่าตื่นเต้น “เนื่องจากความกระตือรือร้นของทุกคนในการมีส่วนร่วมในงานการกุศลครั้งนี้ทางเราจึงได้ปรับเปลี่ยนของที่จะนําออกมาประมูลทางเรานั้นได้เพิ่มวัตถุโบราณ 2 ชิ้นเข้ามา! มันเป็นวัตถุโบราณที่หายากมาก!”

 

ทันทีที่จ้าวฉีซางพูดว่า “วัตถุโบราณที่หายากมาก” กลุ่มคนที่ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าพิพิธภัณฑ์จะไม่นําของหายากมาจัดประมูลเหล่าบรรดาเศรษฐีและคนดังก็พากันผิดหวังแต่ตอนนี้พวกเขากลับมาที่นเต้นกันอีกครั้ง

พวกเขาต่างก็ได้เห็นกันแล้วว่าพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งแห่งนี้เต็มไปด้วยวัตถุโบราณหายาก!

และการที่พวกเขามาที่นี่พวกเขานั้นก็หวังจะได้วัตุโบราณที่หายากติดมือกลับไปกันซักชิ้น!

 

และตอนนี้จ้าวฉีซางก็เปลี่ยนแผนการประมูลโดยไม่คาดคิดและยังนําวัตถุโบราณหายากออกมาประมูลถึง 2 ชิ้น!

ต้องได้มาให้ได้!

ต้องประมูลให้ได้

ในห้องโถงประมูลเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ร้อนระอุทันที

หวางเฉียนยึดร่างกายของตัวเองแล้วหันไปมองที่อู่หลิงเหยาอย่างภาคภูมิใจ

ฉันจะต้องแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา!

ฮ่าฮ่าฮ่าๆ –

“ของชิ้นแรกที่จะนําเข้ามาประมูลในคืนนี้เป็นวัตถุโบราณที่ล้ําค่าและหายากมาก!”

 

จ้าวฉีซางหัวเราะออกมาก่อนจะทําการหยิบเครื่องประดับชิ้นหนึ่งออกมา

 

“วัตถุโบราณชิ้นนี้มาจากสมัยราชวงศ์ชิง! มันเป็นของจักรพรรดิดินีคนแรกของจักรพรรดิคังซี! [เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา]”

เขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมาจากกล่องเครื่องประดับ

สมบัตหายาก!

หยกเขียวจักรพรรดิชั้นยอดและนกฟินิกซ์ที่มีหางสีทองห้าตัวที่กําลังสยายปีกซึ่งทอด้วยเส้นลวดทองคํา!

ทันที่ที่มันถูกนําออกมาผู้ชมไม่ว่าชายหรือหญิงไม่ว่าจะฐานะสูงหรือต่ําต่างตกใจกันทั้งหมด

เกิดความโกลาหลขึ้น!

“ พระเจ้า!!”

“สวยมากเลย!!”

 

“ต้องเป็นจักรพรรดินีของราชวงศ์ชิงเท่านั้นที่สวม?”

“นี่คือเครื่องประดับที่จักรพรรดินีเท่านั้งถึงใส่ได้!”

[เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] ที่อยู่ในมือของจางฉีซางเปล่งประกายแสงอันสูงส่งออกมาแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งและการเป็นศิลปะชั้นนําของโลก!

 

ทุกคนตาแดงอละคลั่งไคล้ไปกันมัน!

 

“สมกับที่เป็นสมบัติหายาก!”

“พระเจ้า! นี่คือความหรูหราระดับสูงสุด! จะกระเป๋าแบรนด์ดังอะไรก็เทียบมันไม่ได้!”

จ้าวฉีซางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา “ปูเหยา เพียงแค่คํานี้ก็บ่งบอกแล้วว่ามันจะแกว่งไปมาเวลาที่พวกคุณเดินเครื่องประดับหัวแบบนี้พวกคุณน่าจะพอคุ้นเคยกับมันอยู่บ้างเพราะผู้หญิงที่อยู่ในละครย้อนยุคที่มีฐานะสูงส่งเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับเครื่องประดับแบบนี้แม้แต่สตรีในวังถ้าจะใส่พวกมันได้อย่างน้อยก็ต้อง เป็นระดับสนมขึ้นไป และแน่นอนว่าชาวบ้านทั่วไปก็ยังพอมีใส่อยู่บ้างแต่วัสดุนั้นไม่สามารถเทียบได้กับเครื่องประดับชิ้นนี้ ดังนั้นเครี่องประดับชิ้นนี้จึงมีความงดงามและล้ําค่าเป็นที่สุด! และยังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองด้วย!”

 

“ [เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] ในมือของผมนั้นเป็นของจักรพรรดินีคนแรกของจักรพรรดิคังซีของราชวงศ์ชิง มีเพียงจักพรรดินีเสี่ยวเฉิงเหรินเท่านั้นที่เป็นผู้สวมใส่เครื่องประดับชิ้นนี้!”

“และด้วย เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา นี้มันนั้นสามารถแสดงได้สถานะที่สูงที่สุดของสตรีดังนั้น…”

ด้วยการแนะนํามันในครั้งนี้มันก็ทําให้เหล่าบรรดามหาเศรษฐีที่อยู่ข้างล่างพากันตื่นเต้นมา

มูลค่าของเครื่องประดับชิ้นในสายตาพวกเขานั้นพุ่งขึ้นสูงมาก!!

มารดาแห่งแผ่นดิน จักรพรรดิดีของจักรพรรดิคังซี!!

 

ผู้ที่ได้สวมใสนั้นจะเป็นผู้ที่มีสถานะสูงที่สุด!

 

ดวงตาของหวางเฉียนร้อนผ่าว!

ดวงตาของหลิวหลานแดงกํา!

คือคว้าแขนของหวางเฉียน “สามี!! ฉันอยากได้ ฉันอยากได้ถ้าฉันได้ใส่มันเกรงว่าฉันจะสวยกว่าผู้หญิงคนอื่นๆนับ 10,000 เท่า

เลยนะ!”

หวางเฉียนไม่ได้สติ

เขานั้นไม่ได้มองหลิวหลานเลย แต่เขากลับมองดูไปที่

ฉ่หลิงเหยา!

เขาเชื่อว่าอู่หลิงเหยา เทพธิดที่หลงใหลไปกับเรื่องแบบนี้จะต้องไม่สามารถต่อต้าน [เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] ของจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ชิงได้อย่างแน่นอน!

สูดอากาศหายใจเข้า! ตราบใดที่ฉันได้มาและยกมันให้กับลู่หลิงเหยาอู่หลิงเหยาจะต้องทิ้งไอ้คนขับตี้ตี้คนนั่นแหละกระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของฉันอย่างแน่นอน!

 

แต่…

 

ในใจของอู่หลิงเหยาเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อเธอนั้นได้เห็น[เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปูเหยา] เป็นครั้งแรก!

ผู้หญิงทุกคนนั้นหลงใหลไปกับความงามดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยเพราะเธอนั้นก็หลงไหลไปกับมันเหมือนกัน

ลองนึกภาพ ฉ่หลิงเหยาที่เกิดเป็นหญิงสาวในสมัยโบราณเดินเล่นไปตามถนนพร้อมกับเครื่องประดับชิ้นนี้บนหัว

 

ภาพนั้นคงจะสวยงามมากจริงๆนะ

แต่

ฉ่หลิงเหยาเธอหันไปมองมันเพียงแค่ครั้งเดียวก่อนจะไม่หันกลับไปมองมันอีกเลย

 

“ทําไมดูต่อล่ะ?”

เจียงเฉินถามออกมา

“ฉันไม่ชอบมันและฉันก็ไม่ต้องการมันด้วย”

 

ฉ่หลิงเหยายิ้มและพูดออกมา “นายก็รู้ ว่าฉันมักจะฝึกเบี้ย

โน…”

เจียงเฉินนั้นมองออกได้อย่างชัดเจนว่า

อู่หลิงเหยานั้นชอบเขามาก—

และเพียงเพราะว่าเครื่องประดับชิ้นนี้มีราคาแพงเกินไปดังนั้นเธอจึงหันกลับมาพูดกับเจียงเฉินแทน แม้ว่าเธอจะชอบเครื่องประดับชิ้นนั้นมาก็ตาม

แต่ในใจของลู่หลิงเหยาแล้วเธอนั้นชอบเจียงเฉินมากกว่า

 

เครื่องประดับชิ้นนั้นสามารถละทิ้งไปได้ แต่ถ้าเธอนั้นต้องอยู่โดยที่ไม่มีเจียงเฉิงเธอคงไม่สามารถอยู่ได้

เพียงแค่เธอคิดภาพเจียงเฉินที่กําลังเล่นเปียโนอยู่ เธอนั้นก็รู้สึกว่าเขานั้นมีเสน่ห์มาก!

สําหรับเธอนั้นมีอะไรมาแทนที่สิ่งนี้ได้

ดังนั้นตราบใดที่เธออยู่เคียงข้างเจียงเฉินเธอนั้นก็พอใจแล้ว

เจียงเฉินยิ้มออกมา

 

แน่นอนว่าเขานั้นจนต้องสังเกตเห็นความตั้งใจของลู่หลิงเหยาที่มีสําหรับเขาและความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นก็คงจะไม่ต่างจากในภาพยนตร์สักเท่าไหร่

เป็นความรักที่ไม่มีจุดแตกหัก

 

ฉ่หลิงเหยานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย อ่อนโยน สง่างามและเห็นอกเห็นใจ

จะมีผู้ชายซักกี่คนกันที่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้

เจียงเฉินที่เห็นแบบนั้นก็ตั้งใจจะทําให้เธอประหลาดใจและตอบสนองต่อความต้องการของเธอ

บนเวที ขั้นตอนการประมูลนั้นก็ยังคงดําเนินต่อไป

 

“สินค้าชิ้นนี้ได้รับการรับประกันความน่าเชื่อถือจากพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งเป็นสมบัติล้ําค่า และแหล่งที่มานั้นก็ถูกกฎหมาย มันถูกนําเข้ามาจากต่างประเทศและมีใบรับรองการประมูลของคริสตี้ดังนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่ามันถูกกฎหมายอย่างแน่นอน!”

 

“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8 ล้าน!”

จ้าวฉีซางประกาศ “ราคาที่เพิ่มขึ้นแต่ละครั้งนั้นจะต้องไม่ต่ํากว่า500,000 หยวน!”

ในช่วงพริบตาราคาก็พุ่งขึ้นไปทันที!

“9 ล้าน!”

“10 ล้าน!”

“12 ล้าน!”

 

หล่อคนดังในเมืองหลวงต่างพากันคลั่งไคล้อย่างรวดเร็ว!

พวกเขาต่างทุ่มเงินแล้วออกมาอย่างมหาศาล!

เวลาผ่านไปเพียงแค่สามนาที–

 

[เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] ก็มีการเสนอราคาไปถึง 32 ครั้ง!

ราคาพุ่งจาก 8 ล้านเป็น 33 ล้าน!

ดวงตาของจ้าวฉีซางเต็มไปด้วยความสงบ

ในความคิดของเขาราคานี้เป็นราคาที่ปกติอย่างยิ่งแม้จะต่ําไปมากก็ตาม

 

เขาหันไปมองเจียงเฉินที่นั่งอยู่อย่างสงบนิ่งที่ท้ายแถว เขาก็เริ่มสงสัยในใจ

เมื่อไหร่เถ้าแก่เจียงจะเริ่มแผนการของเขากัน?

 

เห็นได้ชัดว่า [เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] ชิ้นนี้ไม่ควรจะอยู่ในรายการประมูล

สิ่งนี้มีค่ามากเกินไป!

 

มันไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อยที่จะเรียกได้ว่ามันคือสมบัติที่ตกทอดกันมา!

และแน่นอนว่าในสถานการณ์ปกติพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งนั้นย่อมไม่นํามันมาออกประมูลอย่างแน่นอน!

แต่เจียงเฉินนั้นเป็นเถ้าแก่ของเขา ในเมื่อเขาสั่งให้ทําแบบนี้จ้าวฉีซางนั้นก็ได้แต่ทําตามเท่านั้น

แ23 ล้านยังมีใครจะให้ราคามากกว่านี้อีกไหม?”

“ฮ่าๆ”

ในเวลานี้เองก็มีเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังออกมาทําให้คนที่อยู่ในงานต่างตกใจ

หวางเฉียนค่อยๆลุกยืนขึ้นมา

“สมบัติล้ําค่าแบบนี้ราคาแค่ 30 ล้านคิดจะเอาไปทิ้งรึยังไงกัน?”

“ไม่น้อยเกินไปหน่อยหรอ?”

 

อเขานั้นมองข้ามคนในห้องโถงทั้งหมดก่อนจะพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“ผมให้ 50 ล้าน!”

เกิดความโกลาหลในหมู่คนทันที–

ราคาปัจจุบันนั้นแม้จะอยู่แค่ 33 ล้านและอาจจะไม่ใช่ราคาสุดท้ายแต่หวางเฉียนกลับเพิ่ม 17 ล้านในครั้งเดียว!

นี่คือจังหวะที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่าชนะ!

และคนที่กล้าสู้กับเขาผลที่ตามมานั้นจะร้ายแรงมาก!

หวางเฉียนเยาะเย้ยออกมาก่อนจะมองไปที่เจียงเฉินกับฉ่หลิงเหยาแล้วเลิกคิ้วพูดออกมา “เจียงเฉินไอ้คนขับตี้ตี้! ทําไมที่นี้แกไม่พูด ล่ะ?!”

เจียงเฉินพับแขนก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “คนใหญ่คนโตเขาจะพูดกันคนสุดท้ายเสมอ!”

“ไอ้ตัวตลก จะกระโดดไปมาถึงไหนกัน!”

 

“แกจะพูดอะไรของแกกันแน่!”

ใบหน้าของหวางเฉียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงเขานั้นคิดไปถึงว่าเจียงเฉินนั้นจะสวนกลับเขาในเวลานี้

 

“50 ล้าน! แค่นี้พอไหมล่ะ?”

ข้างๆหวางเฉียนหลิวหลานก็ยืนขึ้นมาเคียงข้างเขา

เจียงเฉินที่นั่งอยู่แถวหลังสุดก็ยิ้มออกมา

[เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] นั้นดูสะดุดตาเกินไป

 

อแม้ว่าเศรษฐีบางคนจะไม่ค่อยถูกดึงดูดเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงที่อยู่รอบตัวพวกเขานั้นต่างก็จ้องมองไปที่มันกันทั้งนั้น

จะมีผู้หญิงสักกี่คนเที่ยวที่สามารถหักใจจากเครื่องประดับชิ้นนี้

ได้?

“ฉันให้ 52 ล้าน!”

 

เศรษฐีคนหนึ่งเสนอราคาออกมาก่อนที่จะเยาะเย้ย “หวางเฉียนนายไม่ได้รวยคนเดียวหรอกนะ!”

“ 55 ล้าน!”

 

หวางเฉียนพูดออกไปอย่างไม่ลังเล

 

ในตาของเศรษฐีคนนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา “หวางเฉียนนายจะสู้กับฉันจริงๆเหรอ?”

 

หวางเฉียนเริ่มโอ้อวดและพูดอย่างไม่อายว่า “ก็ในเมื่อผมทําเพื่อการกุศลอยู่แล้ว! ดังนั้นท้ายที่สุดเงิน 55 ล้านหยวน ของผมนั้นก็จะถูกส่งมอบเพื่อการกุศลอยู่แล้ว!”

“บัดซบ! ฉันให้ 60 ล้าน!”

เศรษฐีตะโกนลั่น

“ห์ที่ 65 ล้าน!”

หวางเฉียนนั้นขึ้นราคาอย่างอุกอาจ!

ทุกครั้งที่มีการเพิ่มราคา มันก็จะเพิ่ม นับล้านทุกๆครั้ง!

ใครที่คิดจะสู้กับเขาเขาจะทุบอีกฝ่ายจนกว่าจะตาย!

และแล้วในที่สุดเศรษฐีคนนั้นก็ยอมแพ้ไป

แม้ว่า [เฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา] นั้นจะมีราคาแพงมาก แต่ก็มีคนบางกลุ่มนั้นยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อมัน แม้ราคาจะเกิน 60 ล้านก็ตาม!”

ผู้คนในห้องโถงต่างตกตะลึงกับการโอ้อวดของหวางเฉียน!

ในตอนนี้เองแววตาของหวางเฉียนก็เปลี่ยนไป

หลิวหลานที่อยู่ข้างๆหวางเฉียนก็ตื่นเต้นมากเรากับตัวเองกําลังจะได้ไปสวรรค์เธอยืนอยู่ข้างเขาอย่างภาคภูมิใจ!

นี่แหละใช่เลย!!

ภาพในความฝัน!

 

ยืนอยู่ในจุดที่ใครก็ไม่อาจเทียบได้ แม้แต่เจียงเฉินที่เคยโยนทิ้งก็ทําได้เพียงแต่จ้องมาที่ฉันเท่านั้น

ฮ่าฮ่า –

ภูมิใจจริงๆ!

หวางเฉียนมองไปรอบๆก่อนจะพูดอย่างภาคภูมิใจ “มีใครอีกไหม? ใครจะกล้าเข้ามาสู้อีก?!”

ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังเขา–

 

“ผมให้ 80 ล้าน!”

 

ผู้คนในห้องโถงตกตะลึง!

 

เจียงเฉิน!

เป็นเจียงเฉินที่เสนอราคาออกมา!

เจียงเฉินที่เป็นแค่คนขับตีตี้

คนขับที่ที่ต้องการใช้เงิน 80 ล้านเพื่อซื้อเฟยชุ่ยเว่ยจินเฟิงปู่เหยา]?!

สู้กับหวางเฉียนที่คนทั้งห้องโถงต่างก็กลัว?

หวางเฉียนที่เจียงเฉินด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

“แก แก แกพูดว่าอะไรนะ?”

เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ “ฉันเสนอราคาที่ 80 ล้าน! และตอนนี้ราคาของฉันก็เป็นราคาเสนอที่สูงที่สุด!”

“แกจะไปเอาเงิน 80 ล้านมาจากไหน?”

หวางเฉียนนั้นคิดว่าเจียงเฉินแค่โอ้อวดออกมา “นี่ไม่ใช่ราคา 8,000หยวนนะ!แกคงไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม?!”

“ก็ไม่นิ ฉันได้ยินถูกต้องแล้ว!”

เจียงเฉินหยิบบัตรธนาคารของตัวเองออกมาแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ “ช่วยตรวจสอบให้ทุกคนดูไหนว่าเงินในบัตรเพียงพอไหม?”

 

พนักงานรับบัตรไป ไม่นานก็กลับมาแล้วพูดออกมา “พอครับ!”

เกิดความเงียบขึ้นในทันที!

 

ในห้องโถงเต็มไปด้วยความเงียบสงบ–

ทุกคนอึ้ง!

 

คนขับที่สามารถจ่ายเงิน 80 ล้านได้จริงหรอ?

เขามีคนเดียวร่ํารวยกว่าคนในห้องนี้บางคนตั้งหลายเท่า!

 

พอเรื่องมันมีอะไรผิดปกติกันแน่?

หวางเฉียนมองดูด้วยความสับสน–

เขาแทบเป็นบ้าไปในทันที!

 

เจียงเฉินสามารถจ่ายเงิน 80 ล้านได้!

 

ทั้งที่ความจริงมันควรเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเขานั้นเป็นเพียงแค่คนขับตี้ตี้เท่านั้น!

มันควรเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือยังไง?! ทั้งที่หลินหลานเองก็บอกอยู่ว่าเจ้าเจียงเฉินคนนั้นเป็นฝ่ายไล่ตามเธอแต่เป็นเธอที่ไม่เอาเขา!

หวางเฉียนมองหลิวหลานด้วยความโกรธเพราะทั้งหมดนี้เป็นเธอที่ทําให้เขาทําผิดพลาดไป!

ผู้ชายที่มีเงิน 80 ล้านจะไล่จีบคนแบบเธอหรอ? แล้วเธอแน่ใจนะว่าจะปฏิเสธเขาลง?!

“เจ้าคนจน มีเงินยังไม่เท่าคนขับติ์ตี้เลยนะ!”

เจียงเฉินยิ้มออกมาและยกนิ้วกลางให้หวางเฉียน “ขยะ!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นหวางเฉียนก็โกรธจัดทันที!

แม่งเอ๊ย!

 

กล้าดียังไงที่บอกว่าฉันจนแถมยังชูนิ้วกลางให้ฉันคนนี้อีก!

 

ฉันหวางเฉียน เป็นถึงมหาเศรษฐีรุ่นเยาว์ที่มีสิทธิ์เข้าชิงตําแหน่งในนิตยสาร Forbes!

เป็นคนรวยตัวจริงไม่ใช่แค่คนรวยในนามเท่านั้น!

 

แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทําไมคนขับตีตี้แบบแกถึงได้รวยขนาดนี้แต่!

 

เป็นไปได้อย่างแน่นอนที่แกจะรวยกว่าฉันคนนี้!

“90 ล้าน!”

หวางเฉียนที่กําลังโมโหก็ตะโกนเพิ่มมา 10 ล้านโดยทันที!

“100 ล้าน!” เจียงเฉินพูดมาเบาๆ

ความเบาและความสงบของเขานั้นสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนกับความโกรธของหวางเฉียน

หวางเฉียนโกรธ “110 ล้าน!”

เจียงเฉินพูดอย่างสงบ “120 ล้าน!”

อ้ากกกษณะ

หวางเฉียนโมโห “แกบ้าไปแล้ว! 120 ฉันยกให้แกก็ได้เ”

หวางเฉียนก้มหน้าลงอย่างหดหูเขาไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาสู้ได้อีกต่อไป

 

ทุกคนในงานรู้ดีแล้วว่าฝ่ายที่พ่ายแพ้ก็คือหวางเฉียน!

แพ้แบบยับเยิน!