“น่าประทับใจมาก!”

“เธอนั้นสมกับเป็นน้องสาวของ คู่ กุ้ยหลิน จริงๆ ความสามารถของเธอก็แข็งแกร่งไม่แพ้พี่สาวของเธอเลย”

“เธอจะต้องเป็นที่หนึ่งในกลุ่มตํารวจอาสา ที่มาฝึกฝนที่ค่ายของเราอย่าง แน่นอน!”

กลุ่มตํารวจอาสา ต่างก็มองไปที่คู่เฉียนเซวียด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเคารพแต่มันก็มีความหวาดกลัวเจือปนอยู่ด้วยภายใต้เงื้อมมือของอาจารย์ เฟิงนั้นไม่เพียงแต่เธอจะสามารถแลกเปลี่ยนกระทวนท่าการต่อสู้ได้10 กระบวนท่าเท่านั้นแต่เธอยังสามารถเอาชนะอาจารย์เฟิงได้เลยโดยตรงด้วย นี่มันเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวมากจริงๆ

“ฉันรู้สึกว่าเธอสามารถฆ่าฉันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว…” เหลยเฟิง วางมือลงบนใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขาและพูดออกมาอย่างเอียงอาย

เสี่ยวหลัวเพียงยิ้มออกมาและไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ในใจของเขาเขายังนึกชื่นชมทักษะของ’เฉียนเซวีย และคิดว่าความสามารถของเธอนั้นแข็งแกร่งและน่าจดจํา

“มีใครอยากได้วันหยุดอีกไหม?” เหยียนหวังถามออกมาเสียงดังแต่ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าที่จะตอบเพราะว่าพวกเขานั้นไม่มีทักษะการต่อสู้ที่ดีดังเช่นคู่เฉียนเซวียมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรอดพ้นจาก 10 กระบวนท่าภายใต้เงื้อมมือของอาจารย์เฟิง

สายตาของเหยียนหวัง จ้องมองไปที่เสี่ยวหลัว และถามเขาด้วยรอยยิ้ม ” เสี่ยวหลัวคุณจะไม่ลองดูหน่อยเหรอ?”

ก่ เฉียนเซวีย ที่ซึ่งกําลังจะจากไปก็หยุดฝีเท้าของเธอ แล้วหันไปมองที่ เสี่ยวหลัวดวงตาที่ชาญฉลาดของเธอดูเหมือนว่ามันกําลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่

คนอื่นๆที่เหลือทุกคนต่างก็หันไปมองเสี่ยวหลัว ด้วยใบหน้าอันงุนงงของพวกเขา

“ทําไมอาจารย์เหยียน ถึงได้เจาะจงถามเขาเป็นพิเศษ?”

“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หากอาจารย์เหยียน ไม่ได้ตะโกนเรียกชื่อของเขา ฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันมีคนๆ นี้อยู่ในกลุ่มตํารวจอาสาของเรา”

“จ๊ๆ…อย่าพูดถึงเพื่อนร่วมงานของเราลับหลัง”

บางคนพูดคุยกันเบาๆและกระซิบกระซาบกันด้วยความสงสัย ในขณะที่บางคน แนะนําว่าอย่าพูดถึงคนอื่นลับหลัง

เสี่ยวหลัวเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่า เหยียนหวัง จะตะโกนเรียกเขาเช่นนี้ เสี่ยวหลัวก้าวไปข้างหน้าและตอบว่า“รายงาน!อาจารย์ครับผมไม่สามารถทนรับ 10 กระบวนท่าจากอาจารย์เฟิงได้หรอก”
การเปิดเผยความสามารถบนเวที มันไม่มีความหมายอะไรสําหรับเขาเลย

“โอ๋? คุณไม่มั่นใจในตัวเองงั้นเหรอ?”

เหยียนหวังมองไปที่ เสี่ยวหลัว และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะขี้เล่น “สัญชาตญาณของฉันมันบอกกับฉันว่าคุณสามารถขึ้นไปและลองดูได้”

เสียวหลัวไม่ตอบ เขาทําเพียงส่ายหัว

“ช่างเป็นคนที่ขี้ขลาดซะจริง คนอื่นๆก็ล้วนแล้วแต่ลองพยาม แต่คุณกลับกลัวหัวหดคุณแน่ใจหรือว่าคุณมาที่นี่เพื่อมาเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจอาสา!” การแสดงออกของเหยียนหวังเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง

“รายงาน ผู้คนจะต้องรู้กําลังของตัวเองว่าอันไหนทําได้และอันไหนทําไม่ได้พวกเขาจะได้ไม่ต้องพยามอย่างไร้ความหมาย”เสี่ยวหลัวตอบ

เหยียนหวัง หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ถ้าคุณไม่กล้าแม้แต่จะลอง คุณกับปลาเค็มมันจะต่างกันอย่างไร

“เสี่ยวหลัวหยุดหลบเลี่ยงได้แล้ว ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายก็มาสู้กับฉัน!” เฟิง เสี่ยวที่อยู่บนเวทีพูดออกมา

เสี่ยวหลัว พูด “รายงาน ผมไม่ต้องการที่จะต่อสู้ มันผิดกฏข้อไหนเหรอ?”

“ไม่ผิด!”

เหยียนหวัง พูดออกมาอย่างเสียดาย“ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะต่อสู้ ก็ลืมที่ฉันพูดไปซะ”

เหยียนหวัง สวมแว่นกันแดดกลับไปอีกครั้ง และหันกลับมา

แต่ในขณะนั้นเอง เหยียนหวัง ที่กําลังหันกลับไป ก็พุ่งเข้าจู่โจมอย่างกะทันหันร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาพุ่งเข้าไปหาเสี่ยวหลัวราวกับลูกศรสายลม! ข้ามผ่านระยะทางสีห้าเมตรไปในทันที ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน หมัดเหล็กของเขาพุ่งตรงเข้าไปที่ใบหน้าของเสี่ยวหลัว อย่างรวดเร็วและดุดัน!

การผสมผสานกันระหว่างความเร็วและความแข็งแกร่ง หมัดนี้มันพุ่งแหวกผ่านอากาศจนเกิดเสียงหวีดหวิว หากมีใครถูกหมัดนี้โจมตีก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน

“ระวัง!!!”

เหลยเฟิง ตื่นตกใจกับความเร็วและพลังของการโจมตีที่เข้ามาอย่างกะทันหันเขาตะโกนเดือนออกมาเสียงดังในทันที

ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวหลัว ก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าเหยียนหวังจะจู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหันเช่นนี้เสี่ยวหลัวไม่สามารถหลบหลีกหมัดที่พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหันนี้ได้เลยเขาทําได้เพียงแต่ยกแขนขึ้นมาป้องกันที่ใบหน้าของเขาด้วยความตื่นตระหนกจากนั้นหมัดของเหยียนหวังก็พุ่งเข้ามาปะทะที่แขนของเขาอย่าง รุนแรงในทันที

ตูมมมม!!!

พลังที่น่าหวาดกลัว กวาดสะพัดเข้าใส่ที่ใบหน้าของเขาในทันทีใบหน้าของเสี่ยวหลัวเปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับร่างของเขาที่พุ่งกระเดนถอยหลังออกไปเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่จนไปชนเข้ากับผนังของโรงยิมอย่างแรง จากนั้นเสี่ยวหลัวก็ทรุดเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น

หลายคนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขายืนเบิกตากว้างด้วยความตกใจพวกเขาขยี้ตาของตัวเองอย่างแรงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เมื่อพวกเขาเห็นเสียวหลัวถูกชัดจนกระเดนลอยไปสี่ห้าเมตรโดยหมัดเดียวจากเหยียนหวังเรื่องนี้มันทําให้พวกเขาตกตะลึงอย่างแท้จริง

“เพื่อนเหยียน…”

เฟิง ยี่เสี่ยว ที่อยู่บนเวทีเต็มไปด้วยความสับสนเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรในการทดสอบความสามารถที่แท้จริงของเสี่ยวหลัวแต่หมัดที่ปล่อยออกไปนั้นรุนแรงเกินไปเหยียนหวังถึงกับใช้พลังภายในของเขาออกไปด้วยซ้ํา แล้วเสี่ยวหลัวเขาจะทนหมัดนี้ได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามเมื่อเหยียนหวังเห็นว่า เสี่ยวหลัวคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่บนพื้น และไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆเหยียนหวังก็ขมวดคิ้วและพึมพํากับตัวเอง “ฉันคิดผิดงั้นเหรอ?”

คําพูดของเขาเบาลงเมื่อเขาเห็นว่าเสี่ยวหลัวนั้นลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นที่ตัวของตัวเองออก

เขา…ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

ตํารวจอาสาทั้งหมด หน้าเปลี่ยนสีไป กู่ เฉียนเซีย ที่อยู่ในระยะไกล ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

“นี่คือวิธีการที่คุณทดสอบความแข็งแกร่งของฉันงั้นเหรอ!” เสียงที่เยือกเย็นดังขึ้น

เสี่ยวหลัว เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ เหยียนหวัง ทันใดนั้นใบหน้าที่สง่างาม แต่เดิมก็ถูกแทนที่ด้วยออร่าที่แตกต่างออกไป เขาไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียงแต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาหลังจากที่โดนโจมตีการโจมตีของเหยียนหวังนั้นมันรุนแรงมากพอที่จะทําให้ซี่โครงของคนธรรมดาๆหักได้เลยอาจารย์ฝึกสอนคนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นราชาแห่งสวรรค์เขาก็จะทําให้ราชาคนนี้ล้มลง!

การแสดงออกของ เหยียนหวัง เปลี่ยนไปตกใจกับออร่าที่มืดมิดและเย็นชาที่เสี่ยวหลัวปลดปล่อยออกมาในตอนนี้

เหยียนหวัง เผยรอยยิ้มออกมา “นี่คือวิธีการของฉันจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะทุ่มกําลังทั้งหมดออกมาเพื่อล้มฉัน!”

“คุณแน่ใจงั้นเหรอ?” เสี่ยวหลัว หัวเราะอย่างเย้ยหยัน

“แน่ใจ ฉันอยู่ที่ค่ายฝึกนี้มานานเกินไปมันเป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันไม่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมฉันหวังว่าคุณจะทําให้ฉันประหลาดใจได้”

เหยียนหวัง ถอดแว่นกันแดดออกแล้วโยนมันทิ้งไปสัญชาตญาณของเขามันบอกกับเขาว่าเสี่ยวหลัวนั้นเป็นสัตว์ร้ายที่แสนอันตรายและหมัดของเขามันก็ได้ไปปลุกสัตว์ร้ายตัวนี้ให้ตื่นขึ้นมาในฐานะนักล่าเขารู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ความหวาดกลัวแต่มันกลับเป็นความรู้สึกตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้!

“ฉันจะทําให้คุณพอใจ!”

เสี่ยวหลัวคํารามออกมาเขาย่างก้าวออกไปอย่างรวดเร็วสี่ห้าก้าวพุ่งตรงไปยังคู่ต่อสู้ของเขาเท้าของเขาเหยียบลงไปที่พื้นอย่างรุนแรงจากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยพลังกําลังอันมหาสารตอนนี้ร่างของเสี่ยวหลัวราวกับจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงการกระทําของเสี่ยวหลัวมันทําให้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

ตูม! เสี่ยวหลัว ส่งหมัดที่ทรงพลังด้วยพลังที่สามารถเจาะทะลวงภูภาตรงเข้าไปหาเหยียนหวัง!

หมัดนี้มันแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ!

เมื่อเห็นการโจมตีที่พุ่งเข้ามาการแสดงออกของเหยียนหวังก็เปลี่ยนไปอย่างมากเขาก้าวถอยไปข้างหลังในทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงจากหมัดที่ทรงพลังของเสี่ยวหลัว

หมัดของเสี่ยวหลัวทะลุผ่านความว่างเปล่าเฉียดผ่านคางของเหยียนหวัง ไป อย่างฉิวเฉียดจากนั้นหมัดนั้นก็กระแทกลงไปที่พื้นอย่างแรงราวกับดาวตกที่พุ่งตกลงมาบนโลก!

พลังหมัดกวาดพัดความแรงของการกระแทกมันทําให้ฝุ่นผงซาดกระเซ็น เหยียนหวังที่หลีกเลี่ยงอย่างกะทันหันทําได้เพียงแค่ทําให้ตัวเองมั่นคง จากนั้นเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงในจุดที่เกิดการระเบิดจากหมัดของเสี่ยวหลัวหมัดนั้นได้ทุบทําลายพื้นกระเบื้องเซรามิกจนเป็นหลุมลึกเท่าชามข้าว!

อึก~

เหยียนหวัง ไม่สามารถช่วยได้ได้แต่กลืนน้ำลายลงไปอย่างอยากลําบาก ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปจนบิดเบี้ยวเขาพูดกับตัวเองว่า”เชื้…ยเอ้ยนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า”

เหลยเฟิง ตะลึงจนอ้าปากค้าง

ดวงตาที่ชาญฉลาดของคู่เฉียนเซวียเต็มไปด้วยความตกใจเธอไม่คิดเลยว่าเสี่ยวหลัวจะแข็งแกร่งขนาดนี้

เมื่อการโจมตีของตัวเองล้มเหลว เสี่ยวหลัว ก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองไปที่เหยียนหวังเหมือนกับสัตว์ร้าย

เหยียนหวัง เหงื่อเย็นไหลหลั่ง แม้ว่าเขาจะเคยอยู่ในวัดเส้าหลินมาเป็นระยะเวลาหนึ่งและได้ฝึกฝนทักษะกําลังภายในมาชุดหนึ่งแต่เขาก็มั่นใจมากว่าตนเองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสี่ยวหลัวเขารีบยื่นมือออกมาเพื่อหยุดการต่อสู้ในทันทีและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า:”เอาล่ะเอาล่ะฉันมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับพลังของคุณแล้ว”

“คุณไม่อยากรู้มากกว่านี้เหรอ?”เสี่ยวหลัวมองไปที่เหยียนหวังอย่างเย็นชา

เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเหยียนหวังก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำแต่ตอนนี้มีตํารวจอาสาอยู่ที่นี่เป็นจํานวนมากดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเสียหน้าได้เขาพยายามสงบสติอารมณ์และพูดออกมาอย่างเด็ดขาดพร้อมกับไอแห้งออกมาว่า “ไม่จําเป็นฉันได้รับรู้เกี่ยวกับความสามารถและพลังทั้งหมดของคุณแล้ว”