บทที่ 150 จูบผมสักทีส

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

หวางซานได้แต่นั่งอยู่บนพื้นที่เลอะเทอะอย่างทรุดโทรม

ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรกว่าเย่เทียนแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาควรหยุดความคิดในการแก้แค้นของหลิวเหวินซวุ่และอยู่ให้ห่างจากเย่เทียน!

ด้วยวิธีนี้ ครอบครัวตระกูลหลิวจะไม่พินาศ ศิษย์พี่หวางลี่ก็จะไม่ตาย และผู้อาวุโสทั้งสามก็ไม่จำเป็นต้องตายเช่นกัน

“หวางซาน ตอนนี้เหลือแค่คุณคนเดียวแล้วนะ!”

ทันใดนั้น สายลมพัดขึ้นเบาๆ ในขณะที่หวางซานลืมตาขึ้น ร่างเงาของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาพร้อมกับคำพูดที่เย็นชาและไร้ซึ่งความปรานีดังเข้ามาในหู

นอกจากเย่เทียนแล้วจะเป็นใครได้อีก?!

เมื่อยืนยันแล้วว่าคือเย่เทียน สีหน้าของหวางซานผู้ซึ่งเคยเย่อหยิ่งมาตลอดคนนี้ก็กลายเป็นสีฝุ่นในทันที ร่างกายของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา ลำคอของเขาดูเหมือนถูกขัดด้วยบางสิ่งซึ่งทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก

แต่จากนั้น ใบหน้าอันทรุดโทรมของหวางซานค่อยๆ ตั้งสติได้ สีหน้าของเขากลายเป็นความโกรธขึ้นมาทันที และมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็ถูกชักออกมาให้เห็น

“เย่เทียน ผมรู้ว่าคุณเก่ง แต่คุณจะถูกฝังกับผมไปด้วยกันที่นี่!”

“ผมไม่กล้วหรอกนะ เพราะผมได้ฝังระเบิดห้ากิโลกรัมไว้ในโกดังนี้แล้ว ขอแค่ผมปล่อยมือ อย่าว่าแต่โกดังนี้เลย แม้แต่ระยะสองร้อยเมตรก็จะไม่เหลืออะไร!”

เย่เทียนผงะไปครู่หนึ่ง แต่ก็หัวเราะออกมาจนได้ “ถ้านี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของคุณ ขอโทษนะ เส้นทางของโลกภายหน้าคุณคงต้องเดินคนเดียวก่อนแล้วล่ะ!”

หลังจากที่พูดอย่างนั้น และก่อนที่หวางซานจะตั้งตัวได้ เย่เทียนสะบัดเท้าแล้วหายตัวไป แต่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น เขาก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหวางซานแล้ว

หวางซานตกใจจนหน้าซีด ด้วยความคิดที่จะตายไปพร้อมกัน เขาจึงเตรียมจะปล่อยคอนโทรลเลอร์ในมือทิ้ง

แต่ว่า ในขณะที่เขาเพิ่งเริ่มความคิดนั้น เย่เทียนก็พุ่งเข้าไปติดตัวเขาและจี้เขาด้วยนิ้วเดียว

และในวินาทีถัดมา หวางซานไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่นิดเดียว!

แม้จะเป็นเพียงท่าง่ายๆ ในการคลายนิ้วโป้งเขายังไม่สามารถทำได้ มีเพียงลูกตาสองลูกที่ยังขยับขึ้นลงได้ แต่ส่วนอื่นของร่างกายเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกเลย

“จะหาว่าคุณเป็นปัญญาอ่อนมันก็ไม่ผิดเลยนะ”

เย่เทียนตวาดเสียงดังและใช้ฝ่ามือครอบหัวหวางซานไว้ “คิดว่าผมจี้จุดไม่เป็นงั้นเหรอ? จะควบคุมคุณมันก็แค่เรื่องในวินาทีเดียวเท่านั้น!”

“……” แววตาของหวางซานโกรธจนแทบจะลุกเป็นไฟ ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเย่เทียนคงเละไม่เป็นท่าไปแล้ว

“ในเมื่อคุณอยากถูกระเบิดจนร่างกระจาย งั้นผมจะสมทบให้ละกัน เผื่อตอนคุณเจอยมบาลแล้วจะกล่าวหาว่าผมไม่เอาไหน”

เย่เทียนไม่อยากเสียเวลากับหวางซานอีก เขาจึงหันไปอุ้มเหลียงเยว่หรูที่หมดสติขึ้นมาแล้วเดินออกจากโกดังนั้นทันที

เดิมทีคิดว่าเฉินไห่หรือหลิวชิงจะมาเก็บศพที่นี่ แต่ไม่คิดเลยว่าหวางซานได้คำนึงถึงเรื่องนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครลำบากใครอีก แล้วจะรออะไร?

หวางซานที่ถูกจี้จุดไม่มีทางที่จะห้ามใครได้ทั้งนั้น ได้แต่เฝ้ามองเย่เทียนเดินจากไป

หลังเดินออกจากโกดังแล้วเย่เทียนก็วางเหลียงเยว่หรูไว้ในรถอย่างระมัดระวัง เขายังไม่ได้รีบร้อนที่จะไปไหน แต่เดินไปเปิดประตูโกดังร้างนี้ให้กว้างก่อน

และจากนั้นเขาก็เดินไปทั่วโกดัง เมื่อเจอรถของหวางซานที่จอดอยู่ข้างโกดังแล้ว เขาเก็บท่อนเหล็กเก่าแล้วนำไปใส่ไว้ที่คันเร่งของรถ และเมื่อเห็นรถยนต์คันดังกล่าวค่อยๆ ขยับไปหาหวางซาน เย่เทียนถึงจะพึงพอใจแล้วขึ้นไปบนรถของเขาและเหยียบคันเร่งออกไปให้เร็วที่สุด

ความตายนั้นไม่ได้น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือต้องเฝ้ามองความตายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย!

แม้ความเร็วของรถที่เคลื่อนเข้าหาหวางซานจะช้ามาก และมันไม่อาจชนเขาจนถึงกับตายได้

แต่ อย่าลืมแผงควบคุมระเบิดในมือเขา!

ขอแค่รถชนกับหวางซาน ร่างกายที่ถูกจี้จุดจะไม่สามารถบังคับแผงควบคุมระเบิดนั้นได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเขาได้แต่ถูกระเบิดที่ตัวเองวางไว้จนกลายเป็นชิ้นเนื้อ!

หวางซานจะไม่เข้าใจความคิดของเย่เทียนได้อย่างไร แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงรอความตาย!

ตู้ม!

เมื่อเย่เทียนขับรถออกจากโกดังมาเกือบร้อยเมตร ในที่สุดเสียงระเบิดก็ดังขึ้นจากข้างหลังเขา และเมฆรูปเห็ดยักษ์ก็ปะทุขึ้น

“อื้อฮือ!”

เหลียงเยว่หรูที่หมดสติก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและค่อยๆ ลืมตาพร้อมกับเสียงอุทาน

“ตื่นแล้วเหรอ?”

เย่เทียนที่ได้ยินเสียงก็เหลือบมองไปที่เธอแล้วยิ้มจนเห็นฟันสีขาวของเขา

เหลียงเยว่หรูที่ยังคงครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ตะโกนขึ้นโดยไม่รู้ตัว “เย่เทียน คุณไม่ต้องสนใจฉัน รีบหนีไป!”

ความรู้สึกของเธอยังคงอยู่ในสถานการณ์ก่อนที่เธอจะสลบไป ภาพของเหล่าอาวุโสทั้งสามที่ระเบิดพลังอย่างน่ากลัว แล้วจะให้เธอไม่กังวลเย่เทียนได้อย่างไร?

“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ”

เย่เทียนที่กำลังขับรถอยู่ก็ยืนมือข้างหนึ่งออกไปจับมืออันเรียวงามของผู้หญิงคนนี้และพูดอย่างนุ่มนวลว่า “ทุกอย่างจบแล้ว คุณหายห่วงได้แล้วนะ”

สีหน้าของเธอยังคงซีดเซียวไม่จางหาย เธอได้แต่จับมือของเย่เทียนไว้แน่นๆ และไม่กล้าปล่อยมือจากเขาเลย

“น้องสาว ผมยอมรับว่ามือของคุณนุ่มลื่นมาก แต่ผมกำลังขับรถอยู่นะ?”

เย่เทียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดอย่างติดตลกว่า “หรือว่าคุณอยากให้เราเล่นเกมประสบอุบัติเหตุด้วยกันแล้วพบรักในนี้?”

“เอ๊ะ?!” เหลียงเยว่หรูรีบดึงมือกลับไป แต่สีหน้ายังคงซีดอยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอยังคงรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

แต่ว่า ด้วยรูปร่างหน้าตาบวกกับความอ่อนไหวของเธอ ทำให้คนเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะปกป้องเธอย่างสุดชีวิต

เอี๊ยดดด!

เย่เทียนเหยียบเบรกแล้วหยุดรถที่ข้างถนนอย่างกะทันหัน จากนั้นเหยียดหัวออกไปแล้วพูดด้วยรอยยิ้มของปีศาจที่ชั่วร้าย “จะว่าไป ผมเพิ่งช่วยชีวิตคุณไว้นะ แล้วคุณจะตอบแทนผมยังไงล่ะ?”

“หา?!”

เหลียงเยว่หรูถึงกับผงะไป ได้แต่มองไปที่เย่เทียนที่อยู่ใกล้ชิดกับเธอแล้วพูดเบาๆ ว่า “แล้ว แล้วคุณต้องการให้ฉันตอบแทนยังไงล่ะ?”

เย่เทียนดีใจมากเมื่อได้ยินคำนี้

ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกลักพาตัวมาทำไม ความจริงแล้วศัตรูก็แค่จะเล่นงานเขา ฉะนั้น ถ้าไม่ฉวยโอกาสตอนนี้ แล้วจะฉวยโอกาสตอนไหน!

อีกอย่างถ้าปล่อยเวลาไป ด้วยความฉลาดของสาวน้อยคนนี้ เธอต้องรู้ความจริงและมันจะหมดโอกาสแน่นอน

เมื่อนึกเช่นนี้ เย่เทียนก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “เอางี้ดีกว่า ผมน่ะเป็นคนมีคุณธรรมอยู่แล้ว ผมจะไม่ขออะไรมากมายจากคุณ ขอแค่……”

“คุณจูบผมสักครั้งก็พอ!”

เย่เทียนจงใจลากเสียงยาวๆ จากนั้นมุ่ยปากเพื่อรอการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนี้

“หา?!” เหลียงเยว่หรูถึงกับทำตัวไม่ถูก

บนแก้มบางๆ ของเธอสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเย่เทียน และกลิ่นกายของความเป็นชายจากเย่เทียนค่อยๆ ลอยเข้าไปในปลายจมูกของเธอ เหลียงเยว่หรูตื่นเต้นจนนิ้วเกร็งไปหมด เธอไม่รู้จะทำตัวอย่างไรแล้ว

เธอไม่ได้รังเกียจเย่เทียน กระทั่งยังรู้สึกปลอดภัยด้วยซ้ำเมื่ออยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้

แต่ประเด็นคือ เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จะให้เธอมอบจูบท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกนี้เธอก็ไม่กล้า

แต่ถ้าเย่เทียนเป็นฝ่ายจู่โจม เธออาจจะปฏิเสธไปด้วยและให้ความร่วมมืออย่างกลมกลืน ทุกอย่างมันก็จะสำเร็จไปด้วยดี

แต่ว่า เย่เทียนในตอนนี้ตั้งท่ารอเธออย่างเดียว แล้วเธอจะก้าวข้ามกำแพงของความเขินอายนี้ได้อย่างไร!

เมื่อทำสงครามความคิดกับตัวเองเสร็จ ในที่สุดเธอก็มองไปที่เย่เทียนที่อยู่ตรงหน้า เธอค่อยๆ ตัดสินใจ ค่อยๆ หลับตาลง และเตรียมพร้อมที่จะขยับเข้าไปสัมผัสกับเย่เทียนด้วยรอยจูบ

กริ๊ง กริ๊ง!

แต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของเย่เทียนก็ดังขึ้นก่อนเวลาอันควร…