ตอนที่ 1500 งานชุมนุมเทพยุทธ์ (1)
วันคืนของจวินอู๋เสียในวิหารหยกวิญญาณเป็นไปอย่างง่ายๆสบายๆ หลังจากความวุ่นวายครั้งที่แล้ว ไม่รู้ว่าประมุขวิหารหยกวิญญาณอธิบายให้สาวๆที่ “หวาดกลัว” ฟังยังไง แต่ศิษย์ทุกคนก็ยอมรับได้ทันทีเรื่องที่มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอย่างร้ายกาจกับเด็กหนุ่มที่ดูหยิ่งยโสปรากฏตัวในห้องของจวินอู๋เสียเป็นประจำ
และด้วยการยอมรับนั้นทำให้ศิษย์ที่มาส่งอาหารที่ห้องของจวินอู๋เสียทุกวันเริ่มเปลี่ยนไป หลังจากพวกนางนำอาหารมาส่ง พวกนางไม่ได้วิ่งหนีไปทันทีด้วยความเขินอาย แต่กลับถือกล่องอาหารรอจนประตูเปิด แล้วค่อยส่งของให้พร้อมกับหน้าแดง คนที่รับกล่องอาหารไม่เคยเป็นจวินอู๋เสีย แต่จะเป็นอิงซู่หรือบัวเมา หรือบางครั้งก็เป็นเด็กน้อยน่ารัก
อาหาร 3 มื้อ 3 ครั้งต่อวัน เด็กสาวที่มาส่งอาหารจะเปลี่ยนคนตลอด……
ยายเยว่มักจะยืนอยู่นอกเรือนของจวินอู๋เสียบ่อยๆ เพื่อมองดูสาวๆขี้อายเดินเอามือปิดหน้าออกมาด้วยความเขิน แล้วนางก็ถอนหายใจยาว
“ท่านประมุข สองคนที่อยู่ในห้องของคุณชายจวินเป็นเหมือนกับคนของท่านประมุขหรือเจ้าคะ?” ยายเยว่ถามอย่างจริงจังเมื่อเข้ามาในห้องของประมุขวิหารหยกวิญญาณ
ประมุขวิหารหยกวิญญาณกำลังนอนตะแคงอยู่บนโซฟานุ่ม พร้อมกับเอามือข้างหนึ่งหนุนศีรษะ และมืออีกข้างพลิกเปิดดูหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง เมื่อได้ยินคำถามของยายเยว่ เขาก็ไม่ได้กระพริบตาเลยสักนิด แค่ส่งเสียงยอมรับด้วยความขี้เกียจอย่างมาก
“เราต้องแจ้งเรื่องนี้ให้คนอื่นในวิหารรู้รึเปล่า?” ยายเยว่ถามอย่างกังวล
“ไม่จำเป็น” ประมุขวิหารหยกวิญญาณตอบอย่างเกียจคร้าน
ยายเยว่มองประมุขของนางที่ตอบอย่างสบายๆ ในใจเต็มไปด้วยความกังวลที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ หลังจากเห็นเด็กสาวๆพวกนั้นมีแววตาที่เต็มไปด้วยความรักแล้ว นางก็อดกังวลไม่ได้
ประมุขวิหารหยกวิญญาณเห็นว่ายายเยว่ยังไม่ออกไป เขาก็วางหนังสือลงและลุกขึ้นนั่ง
“อีกแค่ 2 วันก็จะเริ่มงานชุมนุมเทพยุทธ์ เขาก็จะไม่อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องเดือดร้อนไปหรอก” ภูติพฤกษานั้น สำหรับผู้ครอบครองแล้วก็เป็นทั้งพรและคำสาป คนที่รู้เรื่องอ้าวเสว่หานเหมยของเขานั้น ก็มีแค่คนใกล้ชิดที่เขาไว้ใจที่สุดไม่กี่คนซึ่งติดตามเขามานานที่สุด ศิษย์คนอื่นของวิหารหยกวิญญาณไม่รู้เรื่องนี้เลย
ดังนั้น ประมุขวิหารหยกวิญญาณจึงไม่คิดที่จะเปิดเผยประเภทของภูติประจำตัวของจวินอู๋เสีย
“เจ้าค่ะ” ยายเยว่พยักหน้า ไม่ใช่ว่านางไม่พอใจจวินอู๋เสีย ตรงกันข้ามนางชอบผู้เยาว์ที่เงียบและมั่นคงคนนี้มาก จวินอู๋เสียทำให้นางรู้สึกสบายใจมาก เขาไม่เหมือนเด็กหนุ่มคนอื่นๆที่หน้าด้านหยาบคาย จวินอู๋เสียตกลงที่จะไม่เดินไปรอบๆตามใจชอบในตอนแรก และตั้งแต่เขาย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนนั้น เขาก็ไม่ได้ก้าวออกจากเรือนแม้แต่ก้าวเดียว ไม่ได้ออกมาเดินเล่นในลานบ้านของตัวเองบ่อยๆด้วย
สองวันผ่านไปในพริบตา หนึ่งวันก่อนที่งานชุมนุมเทพยุทธ์จะเริ่มขึ้น จวินอู๋เสียก็เก็บข้าวของทั้งหมด และเตรียมตัวจะออกไปจากวิหารหยกวิญญาณ
ก่อนไป ประมุขวิหารหยกวิญญาณได้ออกมาส่งนางที่วิหารชั้นนอกด้วยตัวเอง
เมื่อเขาเห็นจวินอู๋เสีย ดวงตาของประมุขวิหารหยกวิญญาณก็ฉายแววประหลาดใจ
“หลายวันมานี้รบกวนท่านแล้ว” จวินอู๋เสียมองประมุขวิหารหยกวิญญาณและพยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพ
สายตาของประมุขวิหารหยกวิญญาณหยุดนิ่งที่จวินอู๋เสียครู่หนึ่ง แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็กอดอกเอียงคอ ยิ้มมุมปากอย่างเกียจคร้าน แล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าแค่อำนวยความสะดวกให้เจ้าเท่านั้น แต่เจ้าซิ ไม่ได้ใช้เวลาที่นี่ไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย”
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากไป
ประมุขวิหารหยกวิญญาณดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบพูดว่า “คนในอาณาจักรล่างทุกคนมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาเหมือนเจ้ารึเปล่า?”
ฝีเท้าของจวินอู๋เสียหยุดชะงักเล็กน้อย แต่นางไม่ได้พูดอะไรและเดินต่อไป
ภายในห้องโถงใหญ่ จื่อจินซ่อนตัวอยู่หลังเสาขณะมองด้านหลังที่ห่างออกไปเรื่อยๆ