ตอนที่ 1499

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1499  ดอกเหมยหิมะ (3)

ตอนที่ภูติประจำตัวของประมุขวิหารหยกวิญญาณตื่นขึ้นมา  เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มอายุ 14 ปีเท่านั้น  ตอนนั้นเขาเกิดมาค่อนข้างอ่อนแอ  สุขภาพร่างกายของเขาก็ไม่ได้แข็งแรงมากนัก  หลังจากภูติประจำตัวของเขาตื่นขึ้น  มันไม่ได้ปรากฏร่างให้เห็น  ดังนั้นประมุขวิหารหยกวิญญาณน่าจะไม่รู้ตัวเลยว่าภูติประจำตัวของเขาตื่นขึ้นแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น  เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงมีความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเขาเองเลย

ถ้าเป็นความรู้สึกต่อสิ่งอื่น  มันจะไม่ส่งผลเสียต่อเขามากขนาดนั้น  แต่อ้าวเสว่หานเหมยไม่มีความรู้สึกใดๆกับผู้หญิง  และชอบแต่เด็กหนุ่มเท่านั้น

ประมุขวิหารหยกวิญญาณที่อายุ 14 ปีถูกรายล้อมไปด้วยเด็กหนุ่มมากมายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาซึ่งออกไปเที่ยวด้วยกัน  จากความตื่นเต้นของอ้าวเสว่หานเหมยตอนที่เจอบัวเมา  มันก็จินตนาการได้ไม่ยากถึงความรู้สึกของอ้าวเสว่หานเหมยในตอนนั้นที่ทำให้ประมุขวิหารหยกวิญญาณอยากทำเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้นมา

แล้ววัยหนุ่มของประมุขวิหารหยกวิญญาณก็ถูกอ้าวเสว่หานเหมยทำลาย  จะมีเด็กหนุ่มปกติคนไหนที่สามารถทนต่อความจริงที่ว่าเขาไปสัมผัสเพื่อนเพศเดียวกับเขาอย่างไม่เหมาะสมได้?

การที่อ้าวเสว่หานเหมยมีอิทธิพลต่อประมุขวิหารหยกวิญญาณในแบบนั้น  ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวทางจิตใจอย่างมาก  ถึงขนาดที่หลายปีผ่านไปประมุขวิหารหยกวิญญาณก็เริ่มรังเกียจผู้ชายทุกคนที่เขาพบ  จนถึงขั้นที่ไม่ยอมแตะต้องสิ่งที่ผู้ชายเคยสัมผัสมาก่อน

เขาไม่ต้องการให้ตัวเองเกิดความรู้สึกที่เกินขอบเขตของมิตรภาพกับเด็กหนุ่มคนอื่นๆ  และไม่สามารถยอมรับได้ว่าแรงกระตุ้นนั้นเกิดขึ้นจากในตัวของเขาเอง  ก่อนที่เขาจะพบความจริงเบื้องหลังอ้าวเสว่หานเหมยนั้น  ก็เป็นเวลานานมากที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณต้องใช้ชีวิตจมอยู่กับบาดแผลทางจิตใจครั้งใหญ่

จวินอู๋เสียฟังอย่างเงียบๆ จนกระทั่งอิงซู่อธิบายเสร็จ  นางก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที  นางคิดว่าบัวน้อยกับอิงซู่ค่อนข้างประหลาดและผิดปกติ  แต่พอเทียบกับอ้าวเสว่หานเหมยแล้ว  นางก็รู้สึกราวกับว่าภูติประจำตัวทั้งสองของนางปกติอย่างที่ไม่อาจปกติไปกว่านี้ได้แล้ว

นางนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไรถ้านางได้รับอิทธิพลจากอ้าวเสว่หานเหมยแล้วไปเที่ยวจีบพวกหนุ่มๆเข้า

ตอนนั้นเอง  เป็นช่วงเวลาที่หายากทีเดียวที่จวินอู๋เสียเกิดความรู้สึกเห็นใจประมุขวิหารหยกวิญญาณเป็นอย่างมาก

“มิน่าวิหารหยกวิญญาณถึงรับแต่ศิษย์ผู้หญิง”  จวินอู๋เสียมองอ้าวเสว่หานเหมยที่เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของเรื่องนี้

“เฮ้อ”  เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา  อ้าวเสว่หานเหมยยังมีหน้ามาทำท่าหดหู่อีก

หลังพูดคุยกันอีกพักหนึ่ง  จวินอู๋เสียก็บอกให้อ้าวเสว่หานเหมยออกไป  ตอนที่อ้าวเสว่หานเหมยกำลังจะออกไป  บัวน้อยที่ยังห้อยอยู่ที่แขนเสื้อของเขาก็เตือนอ้าวเสว่หานเหมยให้มาเยี่ยมบ่อยๆ  อ้าวเสว่หานเหมยพยักหน้าแรงๆ  แต่ดวงตาของเขาบอกว่า  “ไม่มีวัน”

จนกระทั่งอ้าวเสว่หานเหมยจากไป  บัวน้อยจึงหยิบเหยือกเหล้าขึ้นมาและดื่มลงไปจนหมด  ทำให้บัวเมากระโจนออกมาและตรึงอิงซู่เอาไว้กับพื้นเพื่อให้เขาทุบตีอีกครั้ง

จวินอู๋เสียยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ  ดูแลดอกไม้ต่อไปอย่างสงบ

โดยไม่รู้เลยว่าที่ยอดเขาฝูเหยานั้น……

“นายท่าน……คนที่ท่านสั่งให้ข้าตามหา  เรายังหาไม่เจอเลยขอรับ”  ชายคนหนึ่งยืนหน้าเศร้าอยู่ในห้องใต้หลังคา

ที่ข้างหน้าต่าง  ชายชราร่างเล็กที่ถือไม้เท้าหันกลับมาอย่างช้าๆ  ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยโทสะขณะที่ตวาดเสียงดัง  “ไอ้พวกโง่!!  ขนาดข้าวาดภาพของเด็กนั่นให้เทียบดูแล้ว  พวกเจ้าทั้งกลุ่มก็ยังหาตัวเขาไม่เจออีกเรอะ!?  พวกเจ้านี่มัน……โง่บัดซบ!”

ชายคนนั้นก้มหน้าลงอย่างลำบากใจ  จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างกังวลว่า  “ผ่านไป 15 วันแล้ว  ถ้าเรายังหาตัวเขาไม่เจอ  งานชุมนุมเทพยุทธ์……”

“ฮึ่ม!  ก็ให้พวกโง่สิบสองวิหารรอไปซิ”  ชายชราร่างเล็กพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม

ชายคนนั้นอยากจะร้องไห้แล้ว

“นายท่าน  เราทำอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ  นี่เลื่อนมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว  ถ้ายังเลื่อนต่อไปอีก  มันจะไม่เหมาะนะขอรับ”

ชายชราร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆ  “ก็ได้……ให้งานเริ่มเมื่อหมดเวลาก็ได้”