ตอนที่ 1498 ดอกเหมยหิมะ (2)
เจ้าแมวดำรู้สึกเหมือน……มันเองก็ต้องการสงบจิตใจบ้างเหมือนกัน
หลังจากความเงียบแปลกๆที่น่าอึดอัดปกคลุมไปทั่วห้อง อิงซู่ที่นั่งอยู่บนพื้นก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ เขางอขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางพาดที่เข่าอีกข้าง แล้วมองมนุษย์ผู้ครอบครองภูติแห่งแหวนทั้งสองซึ่งกำลังตะลึงงันกับอ้าวเสว่หานเหมย
“พวกท่านสองคนอย่าไปใส่ใจเขาเลย ปกติอ้าวเสว่ก็เป็นแบบนี้แหละ” อิงซู่รู้สึกว่าถ้าเขาไม่พยายามอธิบายอะไรสักหน่อย เขาอาจจะถูกจวินอู๋เสีย ‘ซ่อม’ เอาทีหลังได้
“ไปนั่งคุยกันเถอะ” จวินอู๋เสียกระแอมในลำคอ ประมุขวิหารหยกวิญญาณเดินเข้าไปอย่างอารมณ์เสีย มือยังคงกุมหน้าผากอยู่
อ้าวเสว่หานเหมยอุ้มบัวน้อยมายืนที่ด้านข้าง บัวน้อยดูมีความสุขมากซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ตรงข้ามกับตอนที่เจออิงซู่ อ้าวเสว่หานเหมยยอมให้บัวน้อยอย่างมาก แต่จวินอู๋เสียคิดว่านางเห็นแววตาของเขาแฝงความจนปัญญาและ……ความเจ็บปวดเสียใจอยู่เล็กน้อย
“อ้าวเสว่ก็เหมือนกับพวกเรา เราทุกคนมาจากโลกวิญญาณ และเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอด สิ่งที่พวกท่านเห็นเมื่อกี้คือบุคลิกหลักของเขา และรูปลักษณ์ที่เห็นตอนนี้คือสิ่งที่เขาฝืนทำออกมาเพื่อจัดการกับบัวน้อย” อิงซู่หัวเราะเบาๆ
อ้าวเสว่หานเหมยเกิดมาพร้อมการมีหลายบุคลิก บัวน้อยขี้อาย บัวขี้เมาเจ้าอารมณ์ อ้าวเสว่หานเหมยชอบบัวขี้เมาที่เย่อหยิ่งมากกว่า จึงพยายามหาทางเข้าใกล้เขาอยู่ตลอด แต่ก็ถูกบัวขี้เมารังเกียจ เจอเมื่อไรถ้าไม่สู้กันจนตายไปข้าง บัวเมาก็ไม่ยอมเลิกรา
แต่ถึงจะทุบตีอย่างโหดร้าย ต่อสู้กันทุกวัน ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ดังนั้นตอนที่ไม่เมา บัวเมาก็จะกลายร่างเป็นบัวน้อย กลายเป็นคนที่อ้าวเสว่หานเหมยที่มีบุคลิกแบบเด็กๆรับมือไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเด็กเล็กที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ยังไง แต่เขายังอยากอยู่ใกล้ๆกับบัวเมา ดังนั้นเขาจึงรับบทเป็นผู้พิทักษ์ในยามที่บัวน้อยโดนรังแก ปกป้องบัวน้อยจากลมและฝนเพื่อให้บัวเมาเห็นความดีในตัวเขา
อย่างไรก็ตาม……
บัวเมายังคงรังเกียจเขาสุดหัวใจ กลับเป็นบัวน้อย เจ้าตัวกระสอบทรายของสังคม ที่ประทับภาพลักษณ์ผู้พิทักษ์ที่มีคุณธรรมของอ้าวเสว่หานเหมยเอาไว้อย่างแน่วแน่ในหัวใจ ทำให้อ้าวเสว่หานเหมยจนปัญญาและไม่มีทางเลือกนอกจากวางมาดเป็นผู้พิทักษ์ต่อไปในตอนที่บัวน้อยปรากฏตัว
ประมุขวิหารหยกวิญญาณก้มหน้าคอตกอยู่ตลอดเวลา ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ดูเหมือนเขาโดนเข้าไปหนักทีเดียว หลังจากเงียบอยู่เป็นเวลานาน เขาก็เงยหน้าขึ้นมองอ้าวเสว่หานเหมยผู้สูงใหญ่ซึ่งโดนบัวน้อยตัวจิ๋วปราบซะสิ้นท่า
“ในเมื่อเจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้ ทำไมเจ้าต้องให้ข้าเจอกับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาด้วย?”
อ้าวเสว่หานเหมยพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจัง “ตอนที่เจ้าตัวเล็กไม่ได้อยู่ใกล้ๆ มันไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้นี่”
ประมุขวิหารหยกวิญญาณถอนหายใจยาว……มาก
จวินอู๋เสียเห็นประมุขอยู่ในสภาพเช่นนั้นก็รู้สึกสงสารขึ้นมาทันที นางรินน้ำให้เขาแก้วหนึ่งเพื่อพยายามจะปลอบใจ แต่ประมุขวิหารหยกวิญญาณมัวแต่สะเทือนใจเลยไม่ได้รู้ตัวเลย
หลังจากน้ำไหลลงคอไปแล้ว ร่างของเขาก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที
เขาจ้องแก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือเขม็ง จากนั้นก็หันไปมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นมือที่ถือแก้วก็เริ่มสั่น เขาลุกพรวดขึ้นและเดินออกจากห้องของจวินอู๋เสียอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
“เจ้านายเจ้าเป็นอะไร? เขาก็แค่ดื่มน้ำ แล้วจู่ๆก็ทำท่ายังกับเห็นผี” อิงซู่คิดมาตลอดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับประมุขวิหารหยกวิญญาณคนนี้
อ้าวเสว่หานเหมยพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดว่า “ตอนที่ข้าเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเขา ตอนนั้นจิตใจของเขาอ่อนแอมาก เขาจึงได้รับผลกระทบมากทีเดียว และได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ความรู้สึกของข้า ตอนที่ข้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ เขาก็จะทำบางอย่าง เจ้าน่าจะรู้ดีว่าข้ากำลังพูดถึงอะไร”
อิงซู่ผงะ แล้วจากนั้นก็ฉีกยิ้มออกมา
“เจ้าคงไม่ได้……ฮ่าๆๆๆ……”
จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจกับเสียงหัวเราะของอิงซู่ นางไม่เข้าใจอะไรเลย หลังจากนั้นพักใหญ่ เมื่ออิงซู่หัวเราะจนพอแล้ว เขาก็อธิบายให้จวินอู๋เสียฟังถึงสิ่งที่อ้าวเสว่หานเหมยจะทำ