ตอนที่ 1497

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1497  ดอกเหมยหิมะ (1)

จวินอู๋เสียไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า  ประมุขวิหารหยกวิญญาณจะเป็นผู้ครอบครองภูติพฤกษาเช่นเดียวกัน!  มิน่าเขาถึงเชื่อคำพูดของนางอย่างง่ายดายเมื่อนางบอกว่านางถูกสิบสองวิหารข่มเหงเพราะครอบครองภูติพฤกษา

ร่างกายของอ้าวเสว่หานเหมย (ดอกเหมยหิมะ) นั้นเหมือนกับทหารเป็นอย่างมาก  ใบหน้าของเขาก็หล่อเข้มแข็งแกร่ง  แต่ชุดสีชมพูสดใสบนตัวเขา……เป็นเรื่องยากที่คนจะยอมรับได้จริงๆ

“ถ้าเจ้ายังไม่ลุก  ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ!!”  บัวเมากัดฟันกรอด

อ้าวเสว่หานเหมยไม่ได้ใส่ใจเสียงขู่นั้นเลย  เขากลับทำหน้าหล่อๆของเขาให้ดูเจ็บปวดและเศร้าโศกอย่างมาก  แล้วพูดว่า  “ดอกบัวน้อย  ทำไมตัวพูดจาทำร้ายจิตใจเค้าแบบนี้ล่ะ?”

เสียงนั้นยังไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย  มันมีพลังและดังกังวานเหมือนเสียงคำรามจากทหาร

อิงซู่ถูกเบียดออกไปพ้นทางนานแล้ว  เขานั่งอยู่บนพื้นในท่าเอนหลัง  มือข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ขณะมองสีหน้าของบัวเมาที่ดูเหมือนกำลังจะคลั่ง  แล้วอิงซู่ก็กลั้นต่อไปไม่ไหว  ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น

“เจ้านั่งดูสบายใจเลยนะ!”  บัวเมาอยากจะฉีกคนทั้งสองออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มที

อิงซู่แสร้งทำหน้าเสียใจแล้วส่ายหัวอย่างจนปัญญา  จากนั้นก็เอียงคอมองบัวเมาที่ทำหน้าหงุดหงิดอย่างที่สุด  “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วย  แต่พลังของอ้าวเสว่……”

บัวเมาขบกรามแน่น  ทันใดนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นแสงสีขาว

อ้าวเสว่หานเหมยรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดของเขาหดเล็กลงอย่างกะทันหัน  เมื่อแสงจางลง  ในอ้อมกอดของอ้าวเสว่หานเหมยก็มีเพียงบัวน้อยที่สวมชุดเอี๊ยมของทารกกำลังทำหน้างุนงง

สีหน้าของอ้าวเสว่แข็งทื่อทันที

“พี่อ้าวเสว่!”  พอบัวน้อยเห็นอ้าวเสว่หานเหมย  เขาก็ยื่นมือออกไปกอดแขนที่หนากว่าลำตัวของเขา  แล้วทำตัวน่ารักน่าเอ็นดู  ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเหมือนได้กลับมารวมตัวกับคนในครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันมานาน

“ทำไมพี่อ้าวเสว่ถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ?”  บัวน้อยไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์เอาซะเลย  เขากระพริบตาปริบๆมองอ้าวเสว่หานเหมย

อิงซู่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่

บัวน้อยเอียงคอมองเครื่องแต่งกายแปลกประหลาดที่อ้าวเสว่หานเหมยสวมอยู่

“พี่อ้าวเสว่  ท่าน……”  ดวงตาของบัวน้อยเต็มไปด้วยความกังวลและไม่สบายใจ

มุมปากของอ้าวเสว่หานเหมยกระตุก

เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น  แล้วหมอกควันก็พวยพุ่งปกคลุมร่างของอ้าวเสว่หานเหมย  บดบังสายตาของทุกคน  พอควันสลายไปหมด  ทุกคนก็พากันจ้องมองด้วยความตกตะลึง

“คิงคองบาร์บี้” ที่ทำให้มุมมองโลกของทุกคนต้องแตกสลายได้หายไปโดยไม่เหลือร่องรอย  ตอนนี้คนที่คุกเข่าข้างหนึ่งและอุ้มบัวน้อยเอาไว้เป็นผู้ชายร่างสูงสวมเกราะสีเงิน  ใบหน้าหล่อเหลา  องอาจสง่างามราวเทพแห่งสงคราม!

“ข้าไม่เป็นไร  เจ้าตัวเล็ก  ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”  บนใบหน้าที่หล่อเหลางามสง่านั้น  มีรอยยิ้มที่น่าเชื่อถือมาก  เสียงทุ้มต่ำของเขาราวกับดังมาจากสวรรค์

“พี่อ้าวเสว่  ข้าคิดถึงท่านจังเลย”  บัวน้อยฉีกยิ้มกว้างทันทีขณะมองไปที่ชายร่างกำยำสูงตระหง่านตรงหน้า

แต่ทว่า……

ใบหน้าของจวินอู๋เสียไม่แสดงความรู้สึกใดๆอีกต่อไปแล้ว

[อ้าวเสว่หานเหมยคนนี้……สามารถแปลงร่างเป็นแบบนี้ได้ด้วยหรือ?]

คนที่ประหลาดใจยิ่งกว่าจวินอู๋เสียคือประมุขวิหารหยกวิญญาณ  เขามองภูติประจำตัวของตัวเองอย่างตกตะลึง  ราวกับว่าร่างสูงตระหง่านตรงหน้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“อ้าวเสว่หานเหมย?”  ท่าทางของประมุขวิหารหยกวิญญาณดูแปลกประหลาด  เมื่อเห็นสภาพของอ้าวเสว่หานเหมยในตอนนี้  เขาก็รู้สึก……

“ใช่แล้ว  เจ้านาย”  อ้าวเสว่หานเหมยยืนขึ้นและวางบัวน้อยให้นั่งบนไหล่ของเขา  ได้เห็นรูปลักษณ์ที่ดูมั่นคงเป็นผู้ใหญ่ของเขาแล้ว  มันก็ยากที่จะเชื่อมโยงเขากับ “คิงคองบาร์บี้” ที่ทำลายมุมมองของผู้คนที่มีต่อโลกใบนี้

ประมุขวิหารหยกวิญญาณมองอ้าวเสว่หานเหมยอยู่นาน  แล้วเขาก็ก้มหน้าเอามือกุมขมับพร้อมทั้งหลับตาลง

“ขอข้าตั้งสติสักครู่”