ตอนที่ 1496 กลิ่นหอมของผู้หญิง (3)
ก่อนที่จื่อจินจะหลุดออกจากความคิด ประตูห้องของจวินอู๋เสียก็เปิดออก แล้วจื่อจินก็ต้องประหลาดใจอย่างมากที่จวินอู๋เสียไม่ใช่คนเปิดประตู แต่เป็นชายในชุดสีแดงที่ดูน่ากลัวและหน้าตาดีอย่างร้ายกาจ!
ตอนนั้นเอง ศิษย์หญิงทุกคนที่แอบดูอยู่ข้างนอกพากันตกตะลึงทันที
[ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก!]
[แต่!]
[นั่นไม่ใช่เด็กหนุ่มคนที่เพิ่งย้ายเข้ามานี่!!]
ประมุขวิหารหยกวิญญาณไม่สามารถเพลิดเพลินกับความสงบสุขของเขาได้อีก เมื่อจู่ๆก็มีเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้สะอึกสะอื้นแย่งกันมาฟ้องเขาด้วยน้ำตานองหน้าว่าจวินอู๋เสียซ่อน “ผู้ชาย” เอาไว้ เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นคนเดียว
ร่างของประมุขวิหารหยกวิญญาณกลายเป็นแสงพุ่งหายไปต่อหน้าต่อตาศิษย์ของเขา และมาถึงที่เรือนของจวินอู๋เสียด้วยความเร็วสูงมาก
ดอกบัวบานเต็มสระน้ำภายในลานบ้าน ประมุขวิหารหยกวิญญาณเพิ่งก้าวเข้ามาในลานก็ได้กลิ่นหอมของดอกบัวทันที กลิ่นนั้นไม่ได้มาจากสระน้ำ และมันทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างเหลือเชื่อ และท่ามกลางกลิ่นดอกบัวนั้น เขาได้กลิ่นอีกอย่างหนึ่งจางๆ มันคือกลิ่นของเหล้า
เขาไม่ได้สั่งให้ใครนำเหล้ามาให้จวินอู๋เสียเลยนี่
ประมุขวิหารหยกวิญญาณก้าวเข้าใกล้ประตูและไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูที่ปิดสนิท เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ยกมือขึ้นแต่ไม่อยากจะแตะประตูบานนั้น ในที่สุดเขาก็ใช้พลังจากฝ่ามือฟาดประตูให้เปิดออก
ทันใดนั้น ทุกอย่างในห้องก็ตกอยู่ในสายตาของประมุขวิหารหยกวิญญาณ
เด็กหนุ่มที่ดูบอบบางนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังเล่นกับบัวหิมะที่อยู่ในอ่าง ขณะที่เด็กหนุ่มหน้าตาดีมากในชุดสีขาวกำลังเตะหนุ่มหล่อชุดแดงจากด้านบนหลัง พร้อมกับกระดกเหล้าจากน้ำเต้าในมือไปด้วย
ภาพนั้น……
ดวงตาของประมุขวิหารหยกวิญญาณส่องประกายเย็นชาขึ้นทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือ พลังวิญญาณสีชมพูก็ระเบิดออกมาจากแหวนประจำตัวบนนิ้วของเขา!
“ดอกบัวน้อย!” ทันใดนั้น ร่างในชุดสีชมพูทั้งตัวก็พุ่งเข้าหาบัวเมาที่กำลังทุบตีอิงซู่อยู่อย่างโหดร้าย
บัวเมาไม่ทันจะได้สติ ก็พบว่าตัวเองถูกผลักลงไปบนพื้นแล้ว
เสียงกระแทกดังขัดจังหวะการฝึกฝนของจวินอู๋เสีย นางค่อยๆลืมตาขึ้น และสิ่งแรกที่เห็นก็คือใบหน้าที่หล่อเหลาของประมุขวิหารหยกวิญญาณดูมืดมนเล็กน้อย จากนั้นจวินอู๋เสียก็มองตามสายตาของประมุขไปและเห็น…….
ผู้ชายคนหนึ่งที่มีร่างกายกำยำล่ำสัน ใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรี กำลังนอนอยู่บนร่างของบัวเมา เขายิ้มกว้างจนใบหน้าย่น และสิ่งที่ทำให้จวินอู๋เสียตกใจมากที่สุดก็คือ ชายที่ตัวใหญ่กำยำกว่าพวกหลงฉีนั้นสวมชุดสีชมพูสดใส……
แม้แต่จวินอู๋เสียที่พ่ายแพ้ต่อสีชมพู ก็พบว่าในตอนนั้นหัวของนางมีแต่คำว่า “คิงคองบาร์บี้”!
“ไอ้เลว! ปล่อยข้า! บัดซบ!” บัวเมาถูกรัดอยู่ในอ้อมแขนของ “คิงคองบาร์บี้” เขาเกือบจะหมดสติไปแล้วจากแรงที่โดนกระแทก
“ดอกบัวน้อย เค้าไม่ได้เจอตัวตั้งนาน ทำไมตัวถึงได้เย็นชาไร้หัวใจกับเค้านัก? ตัวเองไม่ได้คิดถึงเค้าเลยนี่” เสียงที่ทุ้มราวกับเสียงปืนใหญ่และคำเรียกว่า “เค้า” ทำให้เจ้าแมวดำตัวแข็งเป็นหินทันที มุมมองชีวิตและโลกของมันแตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง
สายตาของจวินอู๋เสียเย็นยะเยียบ นางค่อยๆหันไปมองประมุขวิหารหยกวิญญาณอย่างช้าๆ
“นี่……”
“ภูติประจำตัวของข้า” ประมุขวิหารหยกวิญญาณกระซิบแผ่วเบาจนแทบจะเป็นเสียงหายใจ ราวกับเป็นเสียงกรีดร้องที่บีบออกมาจากส่วนลึกที่สุดของจิตวิญญาณของเขาซึ่งถูกทำลายลงทีละนิด
“ดอกเหมย?” จู่ๆจวินอู๋เสียก็ได้กลิ่นดอกเหมยฟุ้งกระจายอยู่ในห้อง
“ดอกเหมยหิมะ” ประมุขวิหารหยกวิญญาณก้มหน้า เอามือกุมหน้าผากเพื่อปกปิดสีหน้าของตัวเองในตอนนี้
จวินอู๋เสียไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ประมุขวิหารหยกวิญญาณจะเป็นผู้ครอบครองภูติพฤกษาเช่นเดียวกัน! มิน่าเขาถึงเชื่อคำพูดของนางอย่างง่ายดายเมื่อนางบอกว่านางถูกสิบสองวิหารข่มเหงเพราะครอบครองภูติพฤกษา