ตอนที่ 89 พลังชีวิตที่พุ่งพรวด

Legend of the mythological genes

หลังจากการบ่มเพาะและการเผชิญหน้าที่ไม่คาดคิดกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วและท้องฟ้าก็มืดลง

เฟิงหลินใช้ความเร็วเต็มกำลังทำให้เกิดภาพติดตาไล่ตามหลัง

เสื้อผ้าของเขาสั่นไหวไปตามลมด้วยความเร็วสูงคน การเคลื่อนไหวของเขาเหมือนมีดคมฟาดกับผ่าลมทำให้เกิดเสียงหวีด

เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น อุณหภูมิของดาวอังคารก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิสูงเกิน 50 องศา ร้อนจนไม่สามารถทนได้ ลมแรงทำให้เกิดทรายและฝุ่นฟุ้งกระจายอย่างบ้าคลั่ง

หลังลงมาจากภูเขา เฟิงหลินก็ไม่ได้หยุด เขาใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเข้าถึงป่ากังหันลมของของเมืองชิไท จากนั้นเขาก็เข้าไปในลิฟต์และลงไปใต้เมือง

ต่อจากนี้เป็นเวลาว่างของเขา เฟิงหลินรีบเอาไมโครชิปออกมาและเคาะมันอย่างรวดเร็ว

ไมโครชิปสามารถบันทึกข้อมูลและประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับในทุกวันโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้จะทำหน้าที่เป็นเครื่องช่วยจำ เพื่อให้ไม่ลืมสิ่งสำคัญและสามารถอ่านสิ่งที่บันทึกไว้ได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกองทัพปฏิวัติดาวอังคารไม่สมควรที่จะถูกบันทึกไว้

สิ่งต่างๆในไมโครชิปไม่ได้เป็นความลับ แฮกเกอร์ระหว่างดวงดาวสามารถใช้ไวรัสเพื่อทำลายไฟร์วอลล์(ความปลอดภัยในระบบคอมพิวเตอร์)และเข้าถึงข้อมูลภายในได้

มีความลับที่แปลกๆมากเกินไปในบริษัทยาไจแอนท์ที่ทำให้เฟิงหลินรู้สึกได้ว่าเขาต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด

ถ้ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารไม่ได้โกหก สถานการณ์ของเขาย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน

ด้วยอำนาจของบริษัทยาไจแอนท์ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจ้างแฮ็กเกอร์ระหว่างดวงดาว

หากผู้คนในบริษัทไจแอนท์รู้ถึงการเผชิญหน้าของเขากับกองทัพปฏิวัติ เขาไม่แน่ใจว่าจะมีเกิดปัญหาหรือเปล่า

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เฟิงหลินจึงตัดสินใจลบข้อมูลที่บันทึกโดยอัตโนมัติ เผื่อมันตกไปอยู่ในมือคนอื่นและทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย

แต่เมื่อเขาเห็นข้อมูลการติดต่อที่ส่งมาจากชายชุดยาว เขาก็ครุ่นคิดเล็กน้อยและตัดสินใจที่จะเก็บไว้ตามที่มันถูกเข้ารหัสเอาไว้แล้ว

หากเขาเจอกับอันตรายจริงๆ การมีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทางจะเท่ากับการมีเส้นทางเอาชีวิตรอดเพิ่มมาอีกทางหนึ่ง

หลังจากเดินออกจากลิฟต์ เขาก็เหลียวมองไปทางใต้ของเมืองที่มีชีวิตชีวา และเฟิงหลินก็ขึ้นรถไฟที่จะพาเขาไปบริษัทยาไจแอนท์

สีหน้าเขาสงบลง เขาตัดสินใจที่จะลืมเรื่องการเผชิญหน้าของเขาเมื่อคืน และไม่คิดถึงมันอีก

สำหรับข้อมูลที่ลุคบอกเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเลย แต่เพียงว่าเขาไม่เชื่อทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม มีความจริงบางอย่างอยู่ภายใน

ต่อไปสิ่งที่เขาต้องทำคือพยายามตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้เรียนรู้

หากบริษัทยาไจแอนท์มีเจตนาชั่วร้ายจริงๆ ก็ไม่เป็นไรตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขา

เฟิงหลินรู้จักตัวเองดีพอ เขาเพิ่งก้าวไปบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะไม่นานมานี้ เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว เขายังคงห่างไกลจากการมีพลังมากพอที่จะควบคุมชะตากรรมของเขาเอง

ความระมัดระวังและความอดกลั้นเป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว!

แต่ถ้าคนอื่นทำให้เขาขุ่นเคืองจริงๆ เฟิงหลินก็คงจะไม่ยอมง่ายๆ

แม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งพอ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะนั่งรอความตาย

ทุกย่างก้าวบนเส้นทางแห่งการฝึกฝนนั้นยากมาก หากไม่มีความกล้าพอและมีหัวใจที่แน่วแน่ เขาจะไม่สามารถเดินไปได้ไกลบนเส้นทางนี้

เฟิงหลินสวมเครื่องแบบของบริษัทยาไจแอนท์ และเป็นที่จับตามองอย่างมากของชาวดาวอังคาร คนรอบข้างจะมองเขาแปลกๆ ทั้งมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ความโลภ ความริษยา ความอาฆาตพยาบาท – มีหลากหลายอารมณ์

 

“ดูเร็ว คนนั้นเป็นพนักงานของบริษัทยาไจแอนท์ เขาคงจะร่ำรวยมากใช่ไหม ฉันอิจฉาเขาจัง!”

“คนในบริษัทยาไจแอทน์เป็นแวมไพร์ดูดเลือด ไม่มีอะไรให้น่าอิจฉา!”

“บริษัทนั้นเป็นเนื้อร้ายของเมืองชิไทของเรา!”

 

 

เสียงบทสนทนามีอยู่ทุกหนทุกแห่งและบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง หัวใจของเฟิงหลินดำดิ่งลง บริษัทยาไจแอนท์เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชิไท แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง มันคุ้มค่าที่จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด

เมื่อเผชิญหน้ากับความคิดเห็นรอบตัว เขาก็ทำตัวเหมือนคนพวกนั้นไม่ได้พูดถึงเขา และเขาก็ไม่เห็นหรือได้ยินอะไรเลย จนกระทั่งมาถึงหน้าบริษัทยาไจแอนท์

วันนี้เป็นวันพักผ่อนของเขา เขามีเวลาว่างที่จะบ่มเพาะ เสริมสร้างรากฐานของเขาต่อ

พื้นที่ที่บริษัทยาไจแอนท์ครอบครองนั้นยอดเยี่ยมมาก มีแผนกสิบแผนก และมีอาชีพทุกประเภท

ในฐานะเด็กใหม่เฟิงหลินเลือกที่จะไม่เดินให้ทั่ว เขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น

หลังจากกลับไปที่ห้องพักของเขา เขาก็เริ่มฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง

โครก~

ความหิวโหยทำให้ท้องของเขาร้องเสียงดัง หลังจากการฝึกฝน มันก็ผลาญทั้งพลังงานกายและใจ มันรู้สึกราวกับเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ยาวนานและพลังเขาก็หมดลง

เฟิงหลินหิวมากมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้

เขาหยิบสารอาหารเหลวประเภทAที่ผลิตโดยบริษัทยาไจแอนท์ออกมาและดื่มมัน

น่าเศร้าที่มันมีรสชาติอ่อน นอกจากกลิ่นอาหารเล็กๆน้อยๆ เขาไม่รู้สึกอะไรเลย มันจืดชืดเหมือนน้ำ

สารอาหารคุณภาพสูงชนิดนี้อาจเหมาะกับมนุษย์ธรรมดา แต่สำหรับเฟิงหลินซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว มันแทบไม่ส่งผลอะไรกับเขาเลย

ตอนนี้ เขาทำได้เพียงดื่มยาแห่งชีวิต!

เฟิงหลินหยิบยาแห่งชีวิตออกมาแล้วดื่มมัน เขารู้สึกถึงของเหลวเย็นๆไหลผ่านร่างกาย ช่วยดับความร้อนในกายเขา

ในที่สุดก็มีผลกระทบบางอย่าง แม้ว่าจะอ่อนมากก็ตาม

ตอนนี้สิ่งทุกอย่างแตกต่างอย่างแท้จริง!

เฟิงหลินรู้สึกหมดหนทาง แต่ก็มีความสุขเช่นกัน

เขายังคงจำได้ในครั้งแรกที่เขาดื่มยาแห่งชีวิตนี้ ร่างกายของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง และเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดมหาศาล กระบวนการก็รู้สึกเหมือนอยู่ระหว่างชีวิตและความตาย แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย

สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าแก่นแท้ของชีวิตของเขาได้มาถึงระดับที่สูงมากแล้ว และค่อยๆปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผลกระทบของยาแห่งชีวิตจึงส่งผลกระทบน้อยขนาดนี้

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหมดหนทางก็คือเขาต้องหายาที่มีคุณภาพสูงกว่านี้!

เฟิงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาปวดหัวอีกครั้ง

ยาแห่งชีวิตเป็นหนึ่งในยาทางพันธุกรรมที่มีระดับต่ำสุด และเป็นยาที่ถูกที่สุด ยาพันธุกรรมชนิดอื่นๆล้วนแต่มีค่าใช้จ่าย

ผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวเป็นอาชีพที่ใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะ เขาต้องใช้เงินเหมือนน้ำ

ถ้าใครอยากเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะให้ราบรื่น พวกเขาไม่ควรขาดคุณสมบัติเรื่องเงิน

เขาต้องเริ่มคิดแผนหาเงิน

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเรื่องนี้ เฟินหลินพบว่ามันยากที่จะทนความหิว และเขาก็ดื่มยาแห่งชีวิตอย่างต่อเนื่อง

ตัวอักษรจีนสำหรับน้ำยาแห่งชีวิตมีคำว่า’น้ำ’ ตอนนี้เขาดื่มพวกมัน พวกมันก็รสชาติเหมือนน้ำจริงๆ

ในหนึ่งลมหายใจ เฟิงหลินก็ดื่มยาที่ได้รับการปรุงด้วยเครื่องจักรไปสิบขวด หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกถึงความหิวที่หายไปเล็กน้อย โดยไม่มีทางเลือกอื่น เขาดื่มยาระดับสูงกว่าไปอีกห้าขวด แต่ก็แทบไม่พอต่อความหิวโหยของเขา!

เขาหลับตา และนั่งลงเริ่มบ่มเพาะทันที

วิธีการเปลี่ยนพลังงานเป็นชี่ไหลเวียนโดยอัตโนมัติ

เฟิงหลินรู้สึกว่ากระเพาะของเขากำลังไหม้ ราวกับว่ามันกลายไปเป็นเตาเผาขนาดใหญ่ที่เผาผลาญสารอาหารเหล่านั้น ชำระสิ่งสกปรกให้เขา กระแสความอบอุ่นที่หมุนเวียนอยู่ภายในร่างกายของเขาเติมพลังงานจากสารอาหารบริสุทธิ์ เปลี่ยนเป็นศักยภาพทางพันธุกรรมเก็บไว้

 

ศักยภาพทางพันธุกรรม + 20%, + 20%, + 20% …

ด้วยสารอาหารที่เพียงพอจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนวิธีการบ่มเพาะนี้ มันหมุนด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ ช่วยให้ศักยภาพทางพันธุกรรมในร่างกายของเขาพุ่งขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในไม่ช้าศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาก็ขึ้นสูงถึง 521%

ในขณะเดียวกันพลังของเฟิงหลินก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลังจากทะลุการเป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวได้ ดูเหมือนว่าวิวัฒนาการชีวิตของเขาจะไม่ได้หยุดเลยภายใต้การเติมสารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

สถานะพลัง 13.9, 14.1, 14.3 …

ทุกครั้งที่เพิ่มมันจะเพิ่มขึ้น 0.2 อย่างน้อย สถานะพลังของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างรวดเร็วสถานะพลังของเฟิงหลินทะลุ 15.0 และในที่สุดก็มาถึง 16.8