บทที่ 548 : เกิดเหตุกับตระกูลเกา!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 548 : เกิดเหตุกับตระกูลเกา!

“นี่.. คุณคิดอะไรของคุณ? ผมแค่จะไปเช่าเรือ!” หลิงหยุนหลิ่วตาตอบพร้อมกับชี้ไปที่ร้านเช่าเรือ

ผมสั้นของฉางหลิงถูกหวีอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอสวมเสื้อยืดรัดรูปทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตสีชมพู และสวมกระโปรงสั้นเผยให้เห็นเรียวขาที่ยาว และเซ็กซี่มาก จนแม้แต่เจ้าของร้านเช่าเรืองยังถึงกับจ้องมองไม่วางตา

“เอ่อ.. ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีร้านปิดให้บริการแล้ว..”

ในที่สุดเจ้าของร้านก็รู้สึกตัว และรีบละสายตาจากฉางหลิงมามองที่หลิงหยุนแทนพร้อมกับแอบคิดอยู่ในใจว่า พ่อหนุ่มคนนี้ช่างน่าอิจฉานัก ดึกๆดื่นๆ ยังมีสาวสวยมานั่งเรือเล่นเป็นเพื่อนอีก..

“ให้ผมเช่าเถอะนะครับ? ผมไม่อยากเดินไปถามที่ร้านอื่น!”

หลิงหยุนหยิบเอาธนบัตรสีแดงออกมาปึกหนึ่ง และใช้นิ้วโป้งค่อยๆนับได้เป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นหยวน เขายิ้มให้กับเจ้าของร้าน

“ห๊ะ.. นี่จะให้ผมทั้งหมดนี่เลยเหรอ?!”

แววตาของเจ้าของร้านเป็นประกายขึ้นมาทันที และสดใสกว่าเมื่อตอนที่มองฉางหลิงเสียอีก

“รับไว้สิครับ..” หลิงหยุนพูดยิ้มๆ พร้อมกับยัดธนักบัตรจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนนั้นลงไปในมือเจ้าของร้าน

“ถ้างั้นก็เชิญไปเลือกเรือเลย.. ขับเล่นจนพอใจเมื่อไหร่ก็ค่อยเอากลับมาส่งที่ร้าน..”

เจ้าของร้านฉีกยิ้มอย่างมีความสุข แต่ฉางหลิงกลับนึกหงุดหงิดในความใจกว้างของหลิงหยุน และรู้สึกว่านี่ช่างเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้ดีมากเลยทีเดียว เพียงแค่ให้เช่าเรือลำเดียวก็มีรายได้ถึงหนึ่งหมื่นหยวน!

ส่วนหลิงหยุนกลับไม่รู้สึกอะไร เขาคิดว่าหากต้องการบรรยากาศที่โรแมนติก ก็ต้องยอมจ่ายเงินบ้างถึงจะถูก!

และด้วยความร่วมมือของเจ้าของร้าน หลิงหยุนก็เลือกเรือลำที่หรูหราที่สุด และพาฉางหลิงนั่งเรือล่องไปตามทะเลสาบ

ฤดูฝนในเจียงหนานปีนี้ค่อนข้างยาวนาน แม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูร้อนมากว่าครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังมีฝนตกโปรยปรายอยู่ตลอด กลางวันก็จะร้อนจนแทบไหม้ แต่กลางคืนก็ยังพอเย็นอยู่บ้าง

แสงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วผืนฟ้า คืนนี้มีทางช้างเผือกปรากฏให้เห็น แสงสว่างจากท้องฟ้าจึงส่องกระทบกับผิวน้ำในทะเลสาบเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม แสงสว่างที่สะท้อนกับผืนน้ำนั้น ทำให้ดูคล้ายกับว่ามีเส้นทางทอดลงไปใต้น้ำ และดูงดงามอย่างน่าประหลาด

“เรือลำนี้ดูหรูหราสะดวกสบายไม่เลว!”

เมื่อครั้งที่เดินทางไปยังทะเลจีนฝั่งตะวันออกนั้น ทำให้หลิงหยุนได้กลายเป็นนักขับเรือที่เก่งฉกาจคนหนึ่งไปแล้ว เขาขับเรืองล่องไปตามทะเลสาบช้าๆ

“เงินตั้งหมื่นหยวน นายให้ไปได้ยังไงกัน? ใจป้ำจังเลยนะ!” ฉางหลิงยังคงบ่นพึมพำด้วยความเสียดายเงินปึกใหญ่นั่น

“ตั้งแต่ที่ผมไปบ้านคุณครั้งก่อนแล้วถูกน้าเล็กของคุณจับได้ ผมก็ไม่เคยมีเวลาได้อยู่กับคุณตามลำพังเลย คืนนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดี! เงินแค่นั้นจะเป็นไรไปล่ะ?”

หลิงหยุนบอกกับฉางหลิงพร้อมกับเรียกขวดเครื่องดื่มออกมาจากแหวนพื้นที่สองขวด จานั้นจึงใช้วิชาพลังลับหยินหยาง จัดการปล่อยพลังเย็นออกมาจากฝ่ามือ และเครื่องดื่มทั้งสองขวดก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่เย็นเจี๊ยบราวกับผ่านการแช่ตู้เย็นมานานนับสิบชั่วโมง

“มาฉลองกัน..”

“นี่.. นี่นายทำได้ยังไง?!”

ฉางหลิงหยิบขวดเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบตรงหน้าขึ้นจิบ พร้อมกับส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในตอนนี้ การใช้วิชาพลังลับหยินหยางนั้น สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร

“เชื่อเถอะ.. ไม่มีอะไรที่คนอย่างพี่หลิงหยุนทำไม่ได้ เข้าใจมั๊ย?!” หลิงหยุนหยอกเย้าพร้อมกับยกขวดเครื่องดื่มขึ้นจิบ

“เชอะ.. ขี้โม้!”

ฉางหลิงเห็นสายตาของหลิงหยุนที่เหลือบมองมา ก็ได้แต่เมินหน้าหลบ และมองออกไปรอบๆทะเลสาบแทน ยิ่งเรือแล่นออกไปไกลมากเท่าไหร่ ใจของเธอก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น หลิงหยุนเป็นคนที่ทำให้เธอสามารถแปลกใจได้อยู่ตลอดเวลา และไม่รู้ว่าต่อจากนี้เขาจะทำอะไรอีก?!

แต่ถึงกระนั้น.. ฉางหลิงเองก็ชื่นชอบความรู้สึกตื่นเต้น และลุ้นระทึกเช่นนี้ หากเป็นไปได้ เธอแทบอยากหยุดเวลาไว้เพียงเท่านี้

“คุณกำลังคิดเรื่องของผมเหรอ?”

หลิงหยุนมองฉางหลิงที่กำลังเหม่อมองไปด้านนอก พร้อมกับร้องถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข

แต่ฉางหลิงกลับหันมาทำตาดุใส่เขาพร้อมกับเม้มริมฝีปาก และถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก

“ฉันส่งข้อความไปให้นายตั้งมากมาย นายไม่ได้อ่านบ้างหรือยังไง?”

ฉางหลิงไม่สามารถเข้าใจได้ว่า เพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงมีธุระมากมายถึงเพียงนี้ และเพราะเหตุใดรอบกายของเขาจึงรายล้อมไปด้วยสาวงามมากมาย? หากเป็นไปได้ เธออยากจะให้หลิงหยุนกลับไปเป็นหลิงหยุนเมื่อสองเดือนที่แล้วมากกว่า

‘ข้าได้อ่านหมดแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ตอบกลับ..’ หลิงหยุนได้แต่นึกเก้อเขินที่ถูกฉางหลิงตำหนิเรื่องนี้

ฉางหลิงเลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “ฉันส่งข้อความไปให้นายเป็นยี่สิบข้อความได้ นายจะตอบกลับฉันสักครั้งไม่ได้หรือยังไง? หรือไม่อย่างน้อยก็โทรมาบอกข่าวคราวให้ฉันรู้บ้าง!”

หลิงหยุนได้แต่นิ่งเงียบ..

ภายในห้องโดยสารเรือเวลานี้มีเพียงความเงียบสงัด และบรรยากาศก็เริ่มอึมครึม ไม่มีเสียงการพูดคุยกันอีกเลย

จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ น้ำเสียงที่สงบเยือกเย็นเป็นปกติของหลิงหยุนก็ดังขึ้น “แล้วเรื่องการเรียนขอบคุณเป็นยังไงบ้าง?”

ฉางหลิงหตอบกลับยิ้มๆ “ผลการทดสอบเมื่อเดือนที่แล้ว ฉันได้คะแนนอันดับสามของห้อง และได้อันดับห้าของสาย..”

ฉางหลิงเป็นคนประเภทที่สามารถหาแรงจูงใจในการเรียนได้อยู่เสมอ แม้กระทั่งเวลาที่เธอคิดถึงหลิงหยุนมากจนนอนไม่หลับ เธอก็จะไปหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือแทน เธอรู้ดีว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่จะทำให้เธอสามารถยืนเคียงข้างหลิงหยุนได้

การเรียนของฉางหลิงพัฒนาขึ้นอย่างมาก และเธอมั่นใจว่าจะสามารถทำคะแนนได้ติดอันดับหนึ่งในห้าที่ทำคะแนนได้สูงสุดในเมืองจิงฉู อีกทั้งยังมั่นใจว่าจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศได้อย่างแน่นอน

“แต่ถ้าเฉินเฉินยังอยู่ ฉันคงจะไม่สามารถขึ้นมาเป็นห้าอันดับแรกในสายได้อย่างแน่นอน..”

ฉางหลิงเล่าให้หลิงหยุนฟังด้วยแววตาที่ตื่นเต้น..

“ใช่สิ! แล้วตอนนี้เกาเป็นยังไงบ้าง? เธอติดต่อคุณมาบ้างมั๊ย?” หลิงหยุนรีบถามขึ้นทันที

ฉางหลิงมองหลิงหยุนพร้อมกับพูดอย่างน้อยใจ “ฉันรู้ว่าที่นายพาฉันออกมาวันนี้ ก็เพราะต้องการรู้ข่าวของเฉินเฉินสินะ..!”

หลิงหยุนไม่กล้าสบตาฉางหลิง และได้แต่อธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉางหลิง.. คุณก็รู้ว่าที่เฉินเฉินกลับไปปักกิ่งเพราะเรื่องของผม และตอนนี้ก็หายตัวไปไม่มีข่าวคราวเลย เรื่องนี้ดูผิดปกติอย่างมาก แล้วจะไม่ให้ผมเป็นห่วงเธอได้ยังไงกัน?”

ฉางหลิงสังเกตเห็นความกังวลใจในดวงตาของหลิงหยุน และเมื่อเห็นเหลิงหยุนเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาวคนอื่น ฉางหลิงจึงอดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ เพราะปกติหลิงหยุนมักไม่ค่อยแสดงความกังวลใจออกมาเช่นนี้ เขาจะสามารถปกปิดมันไว้ได้ดี

จากการคาดเดาของหลิงหยุน.. การที่เกาเฉินเฉินต้องกลับไปบ้านอย่างกะทันหันนั้น ก็น่าจะเป็นเพราะคำข่มขู่ของคนตระกูลเฉินที่เคยโทรข่มขู่เธอ ซึ่งหลิงหยุนเองก็เคยได้ยินก่อนหน้านี้

ตระกูลเฉินที่ร่วมมือกับตระกูลของชาวญี่ปุ่นสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายทุกด้านขึ้นในประเทศ

แต่หากจะบอกว่าเกาเฉินเฉินลืมหลิงหยุนไปแล้ว และเปลี่ยนใจจากเขานั้น หลิงหยุนเชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

เกาเฉินเฉินยอมทำทุกอย่าง แม้แต่ลดระดับของตนเองลงเพื่อเขา แต่ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในเวลานี้ ก็ยังไม่แกร่งมากพอที่จะกล้าบุกตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงให้ขุ่นเคืองใจได้

ฉางหลิงถอนหายใจเล็กน้อย เธอเอนกายพิงหลิงหยุนพร้อมกับโอบแขนของหลิงหยุนไว้พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“หลิงหยุน.. นายไม่ต้องเป็นหว่งเฉินเฉินแล้ว ตอนนี้เฉินเฉินปลอดภัยดี เพียงแต่..”

“แต่อะไร?”

“นายอ่านเอาเองก็แล้วกัน..”

ฉางหลิงตอบพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เธอเริ่มค้นหาข้อความในมือถือพร้อมกับเปิดออก และส่งให้หลิงหยุนอ่าน

หลิงหยุนเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์มือถือจากฉางหลิง ข้อความที่เกาเฉินเฉินส่งมานั้นมีใจความว่า..

-ฉางหลิง.. ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร! เรื่องระหว่างฉันกับหลิงหยุนคงเป็นไปไม่ได้ เธอช่วยดูแลหลิงหยุนแทนฉันด้วย และช่วยทำให้เขาลืมฉันให้ได้ ขอให้เธอกับหลิงหยุนและเพื่อนๆทุกคนในห้องมีแต่ความสุข 0125-

ทันทีที่อ่านข้อความจบ คิ้วของหลิงหยุนก็ขมวดเข้าหากันทันที และถึงกับต้องสงบจิตสงบใจตัวเองก่อนจะสบถออกมาอย่างโมโห

“ไม่มีทาง.. นี่ต้องไม่ใช่ข้อความที่เกาเฉินเฉินเขียนเอง!”

เพราะนี่ไม่ใช่บุคลิกของเกาเฉินเฉินเลยแม้แต่น้อย..

ไม่ว่าอย่างไรเกาเฉินเฉินก็ต้องการอยู่เคียงข้างหลิงหยุนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะลำบากเพียงใด เกาเฉินเฉินก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเขา อีกทั้งยังยินยอมที่จะมอบกายให้กับหลิงหยุนด้วยซ้ำไป และหากไม่ใช่เพราะหลิงหยุนหยุดตัวเองไว้ ป่านนี้ทั้งคู่คงเป็นของกันและกันไปนานแล้ว!

อีกทั้งเมื่อครั้งแรกที่เกาเฉินเฉินกลับไปที่บ้าน เธอก็ยังสามารถกลับมาที่เมืองจิงฉูได้อย่างปลอดภัยดี แต่เพราะเหตุใดในครั้งนี้เธอจึงกลับมาไม่ได้!

แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลเกาอย่างแน่นอน และต้องเป็นเรื่องใหญ่โตมากด้วย!

หลิงหยุนอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือของฉางหลิง และพบว่าข้อความถูกส่งมาในวันที่ 2 พฤษภาคม เวลา 04.00 น. หลิงหยุนจึงถามขึ้นว่า

“มีเพียงข้อความที่ส่งมาตอนตีสี่นี้เพียงข้อความเดียวงั้นเหรอ?”

ฉางหลิงตอบกลับไปว่า “ใช่.. มีเพียงข้อความเดียว! ต้องโทษที่ฉันมัวแต่หลับ เพราะพอฉันตื่นขึ้นมาแล้วโทรกลับไป โทรศัพท์มือถือของเกาเฉินเฉินก็ปิดเครื่องไปแล้ว..”

หลิงหยุนเห็นฉางหลิงที่รู้สึกเสียใจและนึกตำหนิตัวเอง ก็ได้แต่โอบไหล่เธอไว้พร้อมกับพูดปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิ..”

เช้าตรู่เวลาตีสี่นั้น เป็นเวลาที่ผู้คนต่างก็หลับใหลกันอย่างมีความสุขทั้งนั้น ฉางหลิงเองก็เช่นกัน เธอเพิ่งจะเข้านอนไปตอนเที่ยงคืน จึงไม่แปลกที่จะไม่ได้ยินเสียงข้อความเข้า

หลิงหยุนพูดปลอบใจฉางหลิงพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมา และโทรไปหาเกาเฉินเฉิน แต่ก็ต้องพบว่าโทรศัพท์มือถือของเธอยังคงปิดอยู่

“คุณมั่นใจนะว่าคนที่ส่งข้อความนี้เป็นเกาเฉินเฉินจริงๆ!? แล้วหมายเลข 0125 หมายความว่าอะไร?” หลิงหยุนเก็บโทรศัพท์มือถือ และถามฉางหลิงอีกครั้ง

ฉางหลิงพยักหน้าพร้อมกับยืนยันอย่างมั่นใจ “ข้อความนี้เฉินเฉินเป็นคนส่งเองอย่างแน่นอน เพราะ 0125 เป็นวันเกิดของฉันเอง เพราะถ้าเป็นคนอื่นส่งข้อความนี้แทนเฉินเฉิน ก็ไม่น่าจะรู้หมายเลขนี้..”

“นี่ก็แสดงว่าเกาเฉินเฉินปลอดภัยแน่..”

หลิงหยุนครุ่นคิดตาม เขาขมวดคิ้วพร้อมกับตอบเสียงเบาว่า “ผมพอเข้าใจแล้ว!”

เกาเฉินเฉินอาจจะปลอดภัยดี แต่ก็คงขาดอิสรภาพอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ส่งข้อความที่สะเทือนใจเช่นนี้มาตั้งแต่ตีสี่ได้..

แต่ข้อความที่ซ่อนอยู่ในข้อความนั้นคือ ตระกูลเกากำลังมีเรื่องอย่างแน่นอน!

แต่นัยยะที่ซ่อนอยู่ในข้อความนั้นบ่งบอกว่า ตระกูลเกากำลังเกิดเรื่องอย่างแน่นอน!