ใบหน้าของพนักงานเปลี่ยนไปอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพอจะเดาอะไรบางอย่างได้
พนักงานหญิงคนหนึ่งตะโกนออกมา “สายลับ ต้องเป็นสายลับเชิงพาณิชย์ที่ขโมยข้อมูลของบริษัทฮัวจือดีและทำลายคอมพิวเตอร์ของประธาน!”
“ใช่แล้ว!”
“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!”
พนักงานหลายคนเห็นด้วย
พนักงานสอบสวนถาม “มีใครที่พวกคุณสงสัยหรือไม่?”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ เขาก็พูดต่อว่า “ถ้าเป็นสายลับอย่างที่พวกคุณพูดจริงๆ คนๆนั้นจะต้องรู้จักโครงสร้างของบริษัทดี บางทีอาจจะเป็นคนในบริษัทของเราเอง”
ขณะที่เขาพูด เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองพนักงานทีละคน ท่าทางเหมือนกับต้องการหาว่าใครเป็นสายลับกันแน่
แม้ว่าจะเหลือบมองเพียงแค่แวบเดียว
จ้าวจือฉงที่ถูกมองก็กลัวมากจนมีเหงื่อบางๆไหลออกมาจากหน้าผากของเขา
เขามีความรู้สึกว่าถ้าหากเขาไม่ทำอะไรเลยละก็ เขาจะถูกจับได้ว่าเป็นสายลับ
ดังนั้น จ้าวจือฉงจึงเริ่มพูด “เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนที่ชื่อหลินฟาน เขามักจะมาที่บริษัทของเรา … ”
จากที่เขาพูด พนักงานทุกคนก็เริ่มกระซิบกัน
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยหลินฟาน
ท้ายที่สุด คนส่วนใหญ่ในบริษัทต่างก็คุ้นเคยกันดี
มีเพียงแค่หลินฟานเท่านั้นที่เป็นคนนอก
นอกจากนี้ พนักงานทุกคนรู้ว่าหลินฟานและประธานชูหยุนเยว่สนิทสนมกันมาก และทั้งสองก็มีสิทธิ์เป็นคนขโมยข้อมูลไปได้เช่นกัน
เมื่อฟังสิ่งที่จ้าวจือฉงพูดจบ พนักงานสอบสวนก็ถามว่า “ใครคือหลินฟาน?”
จ้าวจือฉงตอบอย่างรวดเร็ว“เป็นชายหนุ่มที่ปรากฏตัวในบริษัทของเราในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจงใจเข้าใกล้ประธานของเราทุกวัน… ลองคิดดูสิ หลินฟานคนนี้น่าสงสัยจริงๆ!”
เมื่อชูหยุนเยว่ได้ยินเรื่องนี้ เธอก็พูดโต้กลับทันที
แม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้จักกับหลินฟานนานนัก แต่เธอก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวของหลินฟานอย่างมาก
นอกจากนี้ หลินฟานไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเช่นนี้เลย
เพราะการจารกรรมทางการค้าคือการขโมยความลับทางการค้าและรับเงิน
และจากทักษะการวิจัยน้ำหอมของหลินฟาน เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะหาเงินจากเรื่องนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่ซีรีส์น้ำหอมเหลียนซินมีกลิ่นที่น่าหลงไหลได้อย่างทุกวันนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะหลินฟ่าน
แล้วเธอยังโอนหุ้นอีก 10% ของบริษัทให้เขาไปอีก
นี่ก็ทำให้หลินฟานเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฮัวจือดีเช่นกัน
ขโมยข้อมูลบริษัทของตัวเองไปให้คนอื่น?
เป็นไปไม่ได้!
“ปับ!”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ชูหยุนเยว่จะได้พูดอะไรออกไป ตอนนั้นเองก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากทางเดินหน้าห้อง
จากนั้น หลินฟานก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ
หลินฟานยิ้มและพูด “ผมสนุกกับละครฉากเมื่อกี้มากจริงๆ เราจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดีล่ะ งั้นเอาเป็นชื่อ ขโมยบอกให้จับขโมยเป็นไง? จ้าวจือฉง นายว่าชื่อนี้ดีไหม?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา จ้าวจือฉงก็รีบตะโกนกลับไปทันที “หลินฟาน นายยังมีหน้ามาที่บริษัทฮัวจือดีของเราอยู่อีกหรอ!”
“ตั้งแต่บริษัทฮัวจือดีของก่อตั้งมา ไม่มีข้อมูลอะไรถูกขโมยไปเลย!”
“แต่พอนายปรากฏตัวออกมาไม่กี่วัน ข้อมูลสำคัญของเราก็ถูกขโมยไปทันที”
“น่าเสียดายที่ประธานชูอุตส่าห์เชื่อใจนาย!”
จ้าวจือฉงตะโกนออกมาเป็นชุด
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถปกปิดความกลัวในใจของตัวเองได้
หลินฟาน… รู้ได้อย่างไร?
จ้าวจือฉง พยายามอย่างเต็มที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาปิดกล้องทุกตัวแล้ว และอีกอย่าง ไม่ว่าจะตอนที่เขาใช้คอมพิวเตอร์ของประธานหรือตอนทำลายคอมพิวเตอร์ก็ตาม เขาก็สวมถุงมืออยู่ตลอดเวลา…
หลังจากนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จ้าวจือฉงก็เชื่อว่าเขาไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ เขาค่อยๆ สงบสติอารมณ์และใจเย็นมากยิ่งขึ้น
หลินฟานเองก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของจ้าวจือฉง เขายิ้มก่อนจะพูด “จ้าวจือฉง นายแน่ใจหรอว่านายทำลายหลักฐานทุกอย่างหมดแล้ว นายไม่ได้ทิ้งข้อบกพร่องอะไรไว้เลยหรอ?”
“หลินฟาน ถ้านายยังพูดแบบนี้อยู่อีก ระวังฉันจะฟ้องว่านายใส่ร้าย!” จ้าวจือฉงพูดเสียงดัง
หลินฟานพูดกับตัวเอง “จ้าวจือฉงเป็นนักวิจัยระดับกลางของบริษัทฮัวจือดี และเงินเดือนของเขาประมาณ 18,000 หยวน”
“ฉันอยากจะถามว่า ทำไมถึงได้มีเงินเข้าบัญชีนายถึง 300,000 หยวนในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่าพึ่งรีบพูด ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะมีข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารในมือถือของนายอยู่ด้วยนะตอนนี้”
เมื่อหลินฟานรู้ว่าน้ำหอมฉินเฟิง เป็นน้ำหอมแบบเดียวกับซีรี่ส์น้ำหอมเหลียนซิน เขาก็รู้ได้ในทันทีว่ามีสายลับอยู่ในบริษัทฮัวจือดี
ดังนั้นเขาจึงไปที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อใช้ทักษะการแฮ็กระดับมืออาชีพเพื่อค้นหาข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับพนักงานของฮัวจือดี
ทันทีที่หลินฟานพูดจบ ใบหน้าของจ้าวจือฉงก็เปลี่ยนไปในทันที เหงื่อสองสามเม็ดไหลลงมาจากบนหน้าผากของเขา
เพราะหลินฟานพูดถูกทั้งหมด!
ไม่ผิดเลย!
เขาได้รับเงิน 300,000 หยวนถึงสามครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และยังเหลือข้อความแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ของเขาอยู่เลย
แต่หลินฟานรู้ได้ยังไงกัน?
หลินฟานพูดต่อ “นายต้องการที่จะบอกว่าเงินนั่นได้มาจากเพื่อนหรือญาติใช่ไหม? ฉันต้องบอกว่า บริษัทน้ำหอมฉินเฟิงนั้นฉลาดมาก พวกเขาเลือกที่จะโอนเงินมาจากบริษัท ต่างประเทศที่ชื่อคันดิร์”
“แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการสอบสวนจริงๆ ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะพบว่าบริษัทวันดีนั้นเป็นบริษัทน้ำหอมฉินเฟิงที่เป็นเจ้าของทั้งหมด”
คำพูดแต่ละคำที่หลินฟานพูดออกมานั้นไม่ได้ดังมาก
แต่สำหรับจ้าวจือฉง เสียงที่หลินฟานพูดออกมามันเหมือนกับมีฟ้าร้องอยู่ข้างหูของเขา
ใบหน้าของเขาซีดขาว ร่างกายสั่นเทา และมีเม็ดเหงื่อเม็ดใหญ่ๆไหลออกมา
พนักงานสอบสวนทุกคนมีสายตาที่เฉียบคม พวกเขาสังเกตุเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของจ้าวจือฉงได้อย่างชัดเจน พวกเขาจึงก้าวไปข้างหน้าก่อนจะพูด “จ้าวจือฉง โปรดตามเรามา มีบางอย่างที่ฉันอยากจะสอบถามนายเพิ่มเติม”
“ฟึบ!”
เมื่อจ้าวจือฉงได้ยินคำพูดเหล่านี้ มันเหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายขาดลง เขาตกใจจนต้องลงไปนั่งกับพื้น
เขารู้… ทุกอย่างมันจบแล้ว
หลังจากที่จ้าวจือฉงถูกนำตัวไป บรรยากาศในบริษัทฮัวจือดีก็ยังคงไม่ดีขึ้น
แม้ว่าจ้าวจือฉงจะถูกจับกุม แต่ข้อมูลของซีรี่ส์น้ำหอมเหลียนซินก็ถูกทำลายไปแล้ว และในขณะเดียวกัน บริษัทน้ำหอมฉินเฟิงก็เปิดตัวซีรีส์น้ำหอมเหลียนซินไปแล้วด้วย
การแก้ปัญหาด้วยวิธีการขึ้นศาลนั้นใช้เวลานานมาก และอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในท้ายที่สุดด้วยซ้ำ
บริษัทฮัวจือดี ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
สถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้…ยังอยู่ในขั้นวิกฤต
หลินฟานเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “หยุนเยว่ ไปที่ห้องวิจัยกันเถอะ”
“โอเค” ชูหยุนเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
ในห้องวิจัย หลินฟานพลิกดูเนื้อหาและภาพทั้งหมดเกี่ยวกับน้ำหอมเหลียนซินอย่างรวดเร็ว
【ติ๊ง! คุณต้องการใช้การ์ดเพิ่มพลังทักษะสองเท่า เพื่อเพิ่มทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ใช่หรือไม่? 】
“ใช่!”
ทันใดนั้น กระบวนการผลิตน้ำหอมเหลียนซินก็แวบเข้ามาในจิตใจของหลินฟาน ราวกับเขาพึ่งได้ดูหนังไปเรื่องหนึ่ง
จากนั้นเขาก็จุดตะเกียงแอลกอฮอล์อย่างรวดเร็ว วางบีกเกอร์ให้เข้าที่ เชื่อมต่อท่อรูปตัวยู กรวยแยก อุปกรณ์ของคิบ ขวดกลั่นและอื่นๆ
จากนั้นก็เทของหัวเชื้อดอกกุหลาบ หัวเชื้อเก๊กฮวย หัวเชื้อออสมันตัสหอมหวาน ฯลฯ ลงในเวลาที่เหมาะสมและตามปริมาณ
ปรับสภาพ ผสม แอลกอฮอล์ แช่แข็ง กรอง แก้สี…
ชูหยุนเยว่ที่ยืนอยู่ข้างเห็นกระบวนการทั้งหมดนี้ในสายตาของเธอ
เธอแสดงท่าทีสงสัยในตอนแรก เธอไม่รู้ว่าหลินฟานต้องการจะทำอะไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ชูหยุนเยว่ก็รู้สึกตกตะลึงขึ้นเรื่อยๆ
หลินฟานเคลื่อนไหวอย่างชำนาญและสวยงาม เสียงเครื่องแก้วกระทบกันเป็นครั้งคราว
ในสายตาของชูหยุนเยว่ เธอไม่ได้เห็นหลินฟานทำน้ำหอมอยู่เลย แต่เขากำลังยืนอยู่บนเวทีโลกและแสดงคอนเสิร์ตที่น่าตื่นตาตื่นใจ
[ทักษะ: ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม เสน่ห์เบ่งบาน! 】
ซึ่งในที่สุด ตอนนี้หลินฟานก็หยุดมือลง
และในขณะเดียวกัน เขาก็ถือน้ำหอมที่มีสีสันสดใสอยู่ในมือ
หลินฟานค่อยๆเปิดขวดน้ำหอมออก
“ฟู่!”
ทันใดนั้น กลิ่มที่หอมสดชื่นและอ่อนหวาน ทั้งแข็งแกร่งและลึกลับ นุ่มนวลสง่างาม แถมยังมีกลิ่นผลไม้ผสมนิดๆ กลิ่นทั้งหมดแทรกซึมไปทั่วห้องวิจัยอย่างรวดเร็ว
น้ำหอมขวดนี้มีกลิ่นของน้ำหอมทั้งเจ็ดกลิ่นในซีรีส์น้ำหอมเหลียนซิน ทั้งเจ็ดกลิ่นถูกผสมให้เข้ากันอย่างลงตัว มันชัดเจนและไม่มีกลิ่นฉุนจนเกินไป!
หากจะพูดว่าน้ำหอมเหลียนซิน นั้นทำให้ผู้คนกลายเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม
จากนั้นน้ำหอมขวดนี้ทำให้ผู้คนกลายเป็นนางฟ้าดอกไม้ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาอยู่บนก้อนเมฆ ด้วยเสน่ห์ที่ไร้ขีดจำกัด!
ชูหยุนเยว่ ได้กลิ่นและเธอก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์