ตอนที่ 371

Black Tech Internet Cafe System

“ระบบนี่เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้เล่นตลกกับข้า!?” ฟางฉีมองหน้าอินเตอร์เฟซและพบว่ามันห่างออกไปเหมือนกับตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันออกเฉียงใต้ “มันไกลจากที่นี่!?”

 

“ทำไมผู้เล่นของร้านเราถึงถูกทรมาน?” ฟางฉีตะโกนถามระบบ “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนถูกทรมานเนื่องจากเล่นเกม! การเล่นเกมก่อให้เกิดอาชญากรรม? เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหลอกข้าได้เพียงเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรอ?”

 

ระบบไม่ตอบสนองราวกับว่ามันกำลังบอกให้ฟางฉีกลับไปทบทวนตัวเอง

 

“ข้าสามารถได้รับรางวัลในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้รางกายหรือไม่?” ฟางฉีถามต่อว่า “มีอะไรที่ช่วยเสริมกำลังของข้าโดยที่ข้าไม่ต้องเจ็บตัวมั้ย?”

 

ความทรงจำครั้งก่อนที่จำได้คือเขาฉีด T-Virus ที่อ้างว่าไร้ผลข้างเคียงใดเข้าสู่ร่างกาย มันไม่จริง! เขานอนทรมาณอยู่สักพักซึ่งนั่นทำให้เขาเจ็บปวดปางตายจนฝั่งใจและไม่ต้องการพบกับมันอีก

 

ขณะเดียวกันสำหรับการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาในการใช้ห้องฝึกฝนหรือเล่นเกมและดูหนังนั่นถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟางฉีลังเลว่าควรจะเลือกทางไหนดี

 

ระบบตอบว่า “ด้วยโชคของท่าน ท่านมีโอกาสสูงมากที่จะชนะในเกม (ดังนั้นลองคิดหาโอกาสใหม่ๆ)”

 

“บ้าเอ้ย! เจ้าหมายความว่ายังไง” ฟางฉีร้อนตัวเล็กน้อยเมื่อเขาเองยังไม่สามารถผ่านด่านใน GTAV ได้

 

ขณะนี้ซูเทียนจิ, เยเสี่ยวเย้และอีกสองสามคนที่ยังไม่ได้เล่นเกมกำลังพูดคุยกันอย่างไม่ลงรอยว่าทำไมผู้เล่นบางคนในสมาคมจู่ๆ ก็หายไป ฟางฉีที่เดินเข้ามาพอดียื่นกระดาษและดินสอให้พวกเธอ “พวกเจ้าดูสิถ้าตาจินอยู่ในตำแหน่งนี้ ..”

 

เขาชี้นิ้วไปที่มุมขวาล่างของกระดาษตำแหน่งด้านซ้ายบนเหนือกึ่งกลาง “ถ้ามองคราวๆ สถานที่นี้อยู่ที่ไหน!?” ทิศทางของฟางฉีนั่นชั่งแย่และเขาเองก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

 

“ตรงนี้ที่ไหน?” ซูเทียนจิขมวดคิ้วพลางมอง เธอจ้องมองแผนที่ที่ฟางฉีแขนด้วยแววตาสงสัย “ตาจินนี่ก็ไม่ได้เล็กมาก จากที่มองตำแหน่งนั้น ..”

 

“ภูเขาฟีนิกซ์!?” เธอส่ายหัว “แต่ที่ตั้งของภูเขานั้นน่าจะอยู่ทางด้านขวาออกไป หรือว่าอาจเป็นพื้นที่ของกลุ่มไทชิ .. เจ้าถามทำไม?”

 

“กลุ่มนักบวชไทชิ?” ฟางฉีครุ่นคิด “พวกเขาเป็นใคร? นักบุญอะไรนั้นหรอ? มีพลังมากหรือเปล่า!?”

 

“แน่นอน” ซูเทียนจิกล่าว “มันเป็นหนึ่งในกลุ่มเก่าแก่ที่สุดในดินแดนนี้ หยุนเตียนที่เคยโจมตีตาจินว่าแข็งแกร่งแล้ว แต่นั่นเทียบกับนักบุญแล้วกลายเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของพวกเขาเท่านั้น”

 

“แล้วดินแดนหยุนเตียนนี่มีพลังมากหรือเปล่า?” ฟางฉีเอ่ยถามใบหน้าเย้ยหยัน เนื่องจากว่าพวกเขาเคยต่อสู้กันมาแล้ว

 

ซูเทียนจิทำหน้าเซง “เจ้าคิดอะไร? เจ้ากำลังจะเข้าไปยุ่มย่ามกับพวกเขาหรอ? ข้าขอเตือนเลยนะว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสออกมาแน่นอน ข้าขอแนะนำว่าให้เจ้าเลิกคิดหาแผนการที่จะไปที่นั่นด้วยตัวเอง!”

 

“ฮี่ๆ ทำไมข้าถึงต้องยุ่มย่ามด้วยละ” ฟางฉีทำหน้าทะเล้น “ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ท่านคิดว่าข้าเดินทางมาหลายหมื่นกิโลเพื่อมาสร้างปัญหาหรอ?”

 

“ก็ไม่ควรอยู่แล้ว” ซูเทียนจิจ้องหน้าเขาและพูดว่า “ข้าขอเตือน! ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเจ้า ณ ปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้แก่พวกเขาแน่!”

 

ฟางฉีพยักหน้า “เข้าใจเข้าใจ!”

 

จากแผนที่ที่เขาถือในมือฟางฉีส่ายหัวเบาๆ “นี่เจ้าพยายามหลอกข้าหรือเปล่า? มันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดและอาจเต็มไปด้วยปรมาจารย์ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าชีวิจข้าจะจบลงยังไง ข้าเป็นเพียงแค่นักรบกระจอกๆ เจ้าต้องการให้ข้าไปสู้กับพวกเขาแล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้าละ!?”

 

“หรือบางทีเจ้าอยากให้ข้าถูกฆ่าตายเพื่อที่จะได้หาโฮสต์คนใหม่ มันจะดีสำหรับเจ้างั้นหรอ”

 

“…”

 

หลังจากที่ฟางฉีบ่นตีโพยตีพาย

 

ระบบอินเตอร์เฟสตอบกลับเขาว่า “โปรดสำรวจตัวเอง”

 

“สำรวจ!? บ้าเอ้ย” ฟางฉีทำหน้าบูด “เจ้าแค่อยากให้ข้าฝึกฝนมากกว่าเก่างั้นสิ?”

 

“ก็ได้ก็ได้” เขาตรวจสอบและพบว่าเขามีเวลาพอหนึ่งวันสำหรับห้องฝึกฝนและอีกสองวันสำหรับดูหนังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง

 

“ดี ..”

 

ในไม่ช้าเขาก็เริ่มสงบลงและกลับไปยังห้องฝึกฝนเพื่อเริ่มฝึกฝนขั้นต่อไป

 

“ฉันควรมีค่าประสบการณ์ด้านเทคนิคดาบพระเจ้าเพิ่มแล้วนี่นา ..” ฟางฉีขมวดคิ้วมองหลี่เสี่ยวเหยาก่อนจะพูดกับตัวเองอีกครั้งว่า “ไม่ .. การฝึกฝนของข้ายังไม่สูงพอสำหรับมัน”

 

“ข้าต้องทำต่อไป”

 

ฟางฉีเลือกเกมคิงออฟไฟเตอร์เพื่อฝึกฝน เขาเลือกเปิดตัวด้วยเคียวคุซานากิด้วยหมัดเปลวไฟสีแดงที่ดูน่ากลัว มันแข็งแกร่งมากเขาปล่อยมันออกมาได้รวดเร็วพอๆ กับตอนเล่นเกมกำปั้นเดียวพร้อมกับพลังภายในส่งแรงกระแทกพุ่งไปยังข้าหน้า!

 

 

หนึ่งวันในโลกแห่งความจริงเทียบเท่ากับหนึ่งปีในโลกเสมือนจริง หลังจากที่ฟางฉีใช้เวลาในห้องฝึกฝนไปสองปี สายตาของเขาดูเฉียบคมมากกว่าเดิมแถมพลังภายในของเขานั้นบริสุทธิ์ราวกับว่าเปลวไฟกำลังปะทุขึ้นในร่างกายทุกครั้งและมันพร้อมจะระเบิดพลังออกมานับไปถ้วน

 

ณ ห้องฝึกฝน เฟยยังคงเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ข้างหน้าเป็นบ้านที่สร้างขึ้นจากกองฟางดิบในป่าไผ่เสียงเพลงเศร้าดังขึ้นจากเอ้อหู

(ผู้แปล : เอ้อหูคือซอสองสายเป็นเครื่องดนตรีบรรเลงประกอบในวงงิ้ว)

 

ชายวัยกลางคนปรากฎตัวขึ้นเขาสวมชุดสีน้ำเงินอมเทายืนอยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าอ่อนโยนพร้อมเอ้อหูในมือ เขาไม่ใช่ฤาษีแต่เขาก็ไม่ได้ฝักไฝ่ทางโลกเช่นกัน

 

ความแข็งแกร่งเป็นศุนย์

 

ชายผู้นั้นดูอ่อนโยนเขาเดินอย่างสงบเหมือนคนกำลังเดินเล่นธรรมดาในสนามหญ้า ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เลย

 

อย่างไรก็ตามฟางฉีสัมผัสได้ถึงวิญญาณดาบที่พุ่งสูงขึ้นไปในก้อนเมฆ เขามองดูสิ่งมีชีวิตบนบอกขณะที่ดาบกำลังถูกส่งขึ้นไปยังท้องฟ้า

 

ส่วนดาบในมือเขาตอนนี้มันกำลังสั่นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันกำลังคุกเขาเพื่อเคารพจักรพรรดิที่อยู่ตรงหน้า

 

 

เวลายังคงเดินผ่านไปในโลกแห่งความจริง .. 

 

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินทางตามเส้นทางไปยังภูเขาอี้เมย

 

ทันใดนั้นคล้ายว่าพลังดาบอันมากมายพุ่งมาจากท้องฟ้าราวกับพายุอันบ้าคลั่ง

 

“แดนเฉินซี!?”

 

ขณะเดียวกันฟางฉีเองก็ได้ใชเทคนิคดาบนับไม่ถ้วนเพื่อสกัดกั้นการโจมดีของดาบบินจำนวนมากทันที

 

“ชิบ!” ใบหน้าของฟางฉีดูกังวล

 

เขาถูกฆ่าตายในทันที!

 

ณ ภูเขาคุนหลุน

 

“ซวนเทียนซง!”

 

เปลวไฟสีฟ้าคล้ายคริสตัลพุ่งเข้าหาเขาทันที

 

ฟางฉีตาย!

 

เขาถูกฆ่าตายทันที

 

ณ ภูเขาอี้เมย

 

“ผู้อาวุโส!”

 

“กระจกสวรรค์!”

 

“…” ฟางฉี

 

เขาพ่ายแพ้ในห้องฝึกฝนมานานหลายปีแต่เทียบกับเวลาในโลกแห่งความจริงนั้นเพิ่งผ่านไปเพิ่งไม่กี่ชั่วโมง

 

ฟางฉีเดินลงมาจากชั้นบนด้วยรอยคล้ำใต้ตาพร้อมกับขาที่เหนื่อยล้าคล้ายเยลลี่

 

“ท่าน! เมื่อคืนไปทำอะไรมาทำไมดูเหนื่อยล้าเช่นนี้” ผู้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

 

“ข้า .. ข้ากำลังฝึกฝน!” ฟางฉีกล่าวเสียงสั่น “ข้าวางแผนว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปทำลายสิ่งที่เรียกว่านักบวชไทชิให้ราบเป็นหน้ากอง มีใครสนใจร่วมกับข้าบ้าง?”

 

“ฟู่ว!” ซูเทียนจิถอนหายใจทันที

 

หลังจากถอนหายใจแล้วเธอมองฟางฉีด้วยสายตาไม่เข้าใจนัก “จำสิ่งที่เราคุยกันไม่ได้หรอ?”

 

ทุกคนต่างมองหน้ากันและมองเขาด้วยสายตากังวล “เร็วเข้า! หยุดเขา!”

 

ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งฝึกฝนจนมาถึงช่วงต้นของอาณาจักรนักรบบรรพบุรุษ ผ่านมาแล้วสองสามวันเขาก็คืบคลานจนมาถึงตอนปลายของอาณาจักรนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนยันที่จะยุ่งกับกลุ่มนักบวชไทชิอีก!?

 

เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!