“อย่าห้ามข้า! กลุ่มไทชินั่นมีพลังมากเลยหรือ? ข้าสามารถจัดการกับพวกเขาได้แม้จะเขามาพร้อมกันสิบคนก็ตาม!” ฟางฉีผู้พ่ายแพ้อย่างหมดสติจากห้องฝึกฝนตะโกนอย่างดุเดือด
“เจ้าสามารถจัดการกับสาวกของเขาได้? แต่พวกเขามีสาวกชั้นยอดร้อยถึงพันคน!” พวกเขาพูดให้กระตุ้นให้ฟางฉีตื่นขึ้นและให้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาต้องห้ามปราม
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้!?”
“เสี่ยวหยูมานี่! มาหยุดเจ้านายของเจ้า!”
กลุ่มคนล้อมรอบฟางฉีเพื่อปิดกั้นเส้นทางทั้งหมด
“เจ้าบอกเราได้มั้ยว่าทำไมเจ้าต้องไปทำลายกลุ่มนักบวชไทชิ!?” นาหลันฮงวูเอ่ยถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “เจ้าหนูการทำสงครามมันไม่ใช่เกม หากเจ้าไม่ระวังคนอื่นอาจต้องตาย สำรวจความพร้อมของตัวเองก่อน ข้าเป็นชายชราที่มีอายุมายาวนานแล้วข้าไม่รังเกียจและพร้อมจะร่วมภารกิจอันป่าเถื่อนของเจ้า แล้วคนอื่นๆ ละเจ้าจะพาพวกเขาไปเสี่ยงชีวิตด้วยหรือ!?”
คนอื่นๆ มองฟางฉีด้วยสายตากังวลใจ
“ถูกต้อง!” ซูเทียนจิเสริม “ลองบอกปัญหาที่เจ้ากำลังเผชิญให้พวกเราฟังหน่อย เผื่อเราจะช่วยเจ้าได้มิฉะนั้นเราก็คงจะต้องเป็นกังวลต่อไปหลังจากที่เจ้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มไทชิ”
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะสูงแต่หากเทียบกับกลุ่มใหญ่อย่างไทชิแล้วความแข็งแกร่งของฟางฉีก็ยังคงเทียบไม่ได้ เนื่องจากพลังในการฝึกฝนของเขายังไม่ได้สูงขนาดนั้น นอกจากนี้เขาเองก็ยังยืนยันที่จะไปยังกลุ่มไทชิที่ๆ เต็มไปด้วยกับดัก
“การทำลายกลุ่มใหญ่แบบนั้นถือเป็นพื้นที่เสี่ยง หากเจ้ายอมจำนนต่อข้าและเคารพข้า ข้าจะ ..” เมฆสีดำที่ลอยอยู่เอ่ยไม่ทันจบ
ตู้ม!
“อ่า! เจ้าเด็กนี่เจ้าจะต้องตายอย่างหน้าสงสารเจ้าทุบตีข้าผู้ยิ่งใหญ่”
เสียงกรีดร้องถูกเตะขึ้นกลับไปชั้นบนอีกครั้ง
ฟางฉีหันหน้ามาอีกครั้งเพื่ออธิบาย แต่แล้วหยกสื่อสารของซูเทียนจิก็สั่นขึ้น รวมไปถึงผู้ฝึกฝนอย่างจีวูที่กำลังเล่นเกมก็สั่นเช่นกัน
พวกเขาได้รับเวลาเดียวกันและรูปแบบข้อความเหมือนกัน (กลุ่มของเราได้รวบรวมกองกำลังทหารเพื่อส่งไปยังเขตสามของตาจิน)
“เกิดอะไรขึ้น!?” พวกเขาชะงัก
กลุ่มกองกำลังสำคัญกำลังไปทำอะไรที่ชายแดนของตาจิน พวกเขาสงสัย
นอกป้อมในภาคเหนือก่อนถึงเขตของประเทศตาจินมีเรือจิตวิญญาณและผู้ฝึกฝนหลายคนกับกำลังรวมตัวกันอยู่
ทหารยามหลายคนแสดงสีหน้าที่ดุดันเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“อะไรหอบพวกเจ้ามาที่ป้อมของตาจิน!?” นายพลถามเสียงดัง
นักบวชเต๋าเสื้อคลุมสีขาวมีตราสัญลักษณ์รูปคำทำนายบนหน้าอกตะโกนกลับมา “บอกให้จักรพรรดิของพวกเจ้ามอบร้านค้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ให้รา เราจะทำลายมันให้สิ้นซาก!”
“อะไร!?”
“ยโส!”
“มาตั้งไกล!” นายพลสบถใส่ศัตรู
จีวูผู้ได้รับรายงานด่วนจากทหารรู้สึกโกรธเลือดขึ้นหน้า “ช่างน่าเวทนา! พวกมันกำลังจับตามองเรา!”
ฟางฉีหยักไหล่แล้วพูดว่า “พวกท่านเห็นหรือยังไร้ประโยชน์ที่พวกท่านจะหยุดข้า!”
“พวกเขาคือกลุ่มใหญ่ที่อยู่ใกล้กับประเทศเราไม่ใช่หรอ?” เฟงหัวถาม “แล้วมันมีที่มายังไง?”
ซูเทียนจิพูดเย้ยหยันว่า “หากไม่มีผู้บงการอยู่เบื้องหลังพวกเขาเหล่านี้จะรวมตัวกันได้อย่างไร!”
“อย่างไร .. เอ๊ะ” จีวูมองไปที่ฟางฉีด้วยความงงงวย “ทำไมพวกเขาต้องตามล่าเจ้าด้วยละเจ้าของ?”
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง” ฟางฉีหยักไหล่ “ก่อนหน้านี้ข้าอยู่ที่ดินแดนทะเลดวงดาว”
“เป็นเพราะเรื่องหม้อปีศาจหรือเปล่า?”
“ไม่ต้องกังวล” ซูเทียนจิพูดเสียงดัง “ส่งเจ้าเด็กนี่ให้พวกเขาหรอ? ไม่ล่ะ!”
“อนุญาตหรอ?” นาหลันฮงวูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก “ใครก็ตามที่คิดจะทำเช่นนั้นมันต้องผ่านข้าไปก่อน!”
“หืม?” ซงฉิงเฟิงกล่าวว่า “นี่ใช่ปัญหาเดียวกับที่พูดถึงกันสองสามวันก่อนหรือเปล่า!?”
“เป็นเพื่อน ..” นาหลันหมิงสือรู้สึกว่าหลายๆ อย่างเริ่มเชื่อต่อกันจากสิ่งที่ได้เห็น ถ้าเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน สมาชิกสมาคมที่หายไป กลุ่มต่างๆ และกลุ่มไทชิ ..
“ข่าวร้าย!” เยเสี่ยวเย้ที่เดินเข้ามาในร้านเอ่ยอย่างใจจดจ่อว่า “ข้าได้รับข่าวเกี่ยวกับพวกเขาทั้งศิษย์พี่ใบลังรวมไปถึงผู้ฝึกฝนส่วนหนึ่งตอนนี้พวกเขาและสมาชิกสมาคมของเจ้าทุกคนถูกขังอยู่ในดินแดนลึกลับของกลุ่มไทชิและ ..”
“และอะไร!?” พวกเขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? ตอนนี้ฝ่ายต่างๆ ต่างประจำการที่ประตูในแต่ละเขต
“และพวกเขาถูกทรมานด้วยคาถาสายฟ้า พวกเขาต้องยอมรับว่าร่างกายของพวกเขาที่อาการเสพติดอินเตอร์เน็ตที่นี่ มิฉะนั้น ..”
“อะไร!?”
“อาจารย์และผู้อาวุโสของแต่ละกลุ่มรู้เรื่องนี้หรือไม่!?”
“พวกเขาสปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเหล่าสาวกได้อย่างไร!”
“เจ้าได้ข่าวมาจากไหน” เยซงเต๋าถาม “ทำไมข้าไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย”
เยเสี่ยวเย้พูดเสียงเศร้าว่า “มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อสืบข้อมูลจากศิษย์พี่ใบและคนอื่นๆ เราต้องรีบไปช่วยพวกเขา ข้ากลัวว่าจะมีบางคนหลุดข่าวให้กลุ่มไทชิได้รู้ ..”
จีวูกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน “พวกเขาจะไม่ทำอะไรกับเหล่าอาจารย์และผู้อาวุโสหรอก แต่ก็ต้องรีบไปช่วยหากมีข่าวรั่วไหลออกไปพวกเขาอาจเป็นอันตรายต่อคนของเราได้!”
ฟางฉีหยักไหล่ “ตอนนี้พวกท่านยังจะหยุดข้าอีกหรือไม่!?”
“พวกเขาอยู่ไกลเกินไป” นาหลันฮงวูตอบ “ข้าจะไปกับเจ้า!”
“ข้าด้วย!” ซูเทียนจิเอ่ย
“ข้าด้วย!”
“รวมข้าด้วย!”
“ไปยังกลุ่มไทชิเพื่อจัดการ!”
“จัดการ!? พวกเขาส่งทหารมายังดินแดนของเรา พวกเราต้องไปช่วยกันทำลายพวกเขาให้จมราบไปเลย!”
คนอื่นต่างยกมือและตะโกนตกลง
“เอาล่ะ!” นาหลันหมิงสือกล่าว “ถ้าเราไปกันมันจะเข้ากับแผนการของพวกเขา เราต้องออกจากที่นี่โดยไม่มีประกาศใดๆ จะได้เป็นการถ่วงเวลาให้พวกเขาเข้าสู่ดินแดนของเรา”
“ข้ามีความเห็นว่าให้เจ้าของร้านและผู้อาวุโสของครอบครัวข้าไปช่วยพวกเขา ขณะที่พวกเราที่เหลืออยู่ที่นี่เพื่อปกป้องประเทศจากกองกำลังใหญ่”
“ข้าไปด้วย” ซูเทียนจิไม่พอใจกับแนวคิดนี้
“ตกลง! ตกลง! ท่านแค่พยายามจะหยุดข้า แต่ไงละสุดท้ายก็ทนไม่ได้ที่จะทิ้งใครไว้ข้างหลังงั้นไปกันเถอะ!” ฟางฉีโบกมือ “จะมาโทษข้าทีหลังว่าไม่พาไปไม่ได้นะ!”
“ข้าคือคนที่จะพาเจ้าไป!” ซูเทียนจิจ้องหน้าเขา
“ตกลง!” ฟางฉีเอ่ยเรียบง่าย “แต่ข้าขอพูดให้ชัดเจนก่อนว่า ข้าจะไม่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของท่าย หากมีอะไรข้าจะวิ่งทันที!”
ซูเทียนจิทำหน้าแค้นเคืองเมื่อได้ยินคำประกาศของเขา “เออ! ข้าก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหรอก แค่อย่ามาเป็นภาระก็พอ!”
“นี่คือคำตัดสิน!” ฟางฉีกล่าวว่า “พวกเราสามคนจะไปยังกลุ่มไทชิ!”