ผู้สร้างปฐพีไปแล้ว
แต่หลังจากฟังคำพูดสุดท้ายของอีกฝ่าย กู่ฉิงซานอดที่จะจมสู่ความคิดไม่ได้
อีกฝ่ายไม่หวาดกลัวตัวเองบนเส้นเวลาเดียวกัน
นี่เป็นความสามารถแบบไหนกัน
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก อดที่จะถอนหายใจไม่ได้
คิดไปก็ไม่มีประโยชน์
ผู้สร้างปฐพีแข็งแกร่งเกินไป เกินกว่าขอบเขตที่เขาสามารถจินตนาการได้ แทนที่จะมาคาดเดาแบบนี้ คงดีกว่าที่จะกลับไปอนาคตตัวเองก่อนหน้านี้
ด้วยการจากไปของผู้สร้างปฐพี ฉากทั้งหมดของสวรรค์ดึกดำบรรพ์กลับมาสู่กู่ฉิงซานอีกครั้ง
ฉานนู่และลั่วปิงหลีมายืนอยู่หน้าเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าวิตก
“นายท่าน ทำไมเมื่อครู่ท่านหายไปล่ะ” ฉานนู่ถามด้วยความสับสน
“ไม่เป็นไร” กู่ฉิงซานกล่าว
“นายท่าน ต้นไม้หนามโบราณหายไปแล้ว” ลั่วปิงหลีเตือนขณะมายืนข้างฉานนู่
นางทำตามฉานนู่ด้วยการเรียกกู่ฉิงซานว่านายท่าน มันช่างน่าสนใจนัก
“ไม่เป็นไร” กู่ฉิงซานยิ้ม
“แล้วก็ ข้าเพิ่งขาดการเชื่อมต่อกับดาบศักดิ์สิทธิ์ไปชั่วคราว” ลั่วปิงหลีกล่าวอย่างกังวล
“วางใจได้ ไม่เป็นไรหรอก” กู่ฉิงซานกล่าว
“เมื่อครู่ข้าเสียการสัมผัสกับนายท่านไปด้วย นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉานนู่กล่าวอย่างวิตก”
“อา ไม่เป็นไร” กู่ฉิงซานยังคงกล่าวต่อ
ลั่วปิงหลีวิตกขึ้นมา “แต่จู่ๆ เสี่ยวซีก็หายไปด้วย!”
ฉานนู่กล่าวว่า “นางหายไปแล้ว พวกเราจะกลับไปได้ยังไง”
ลั่วปิงหลีกล่าวว่า “หากไม่มีนางและต้นไม้โบราณ พวกเราอาจจะไม่สามารถกลับไปได้”
ฉานนู่เผยสีหน้าที่รับไม่ได้ออกมาแล้วกล่าวว่า “พวกเราต้องเริ่มใช้ชีวิตที่นี่หรือ”
ลั่วปิงหลีถอนหายใจ “ข้าเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น”
พวกนางมองกู่ฉิงซานแล้วกล่าวพร้อมกันว่า “นายท่าน ข้าควรทำอะไร”
“ไม่… เป็นไร…”
กู่ฉิงซานพลันรู้สึกปวดหัว
ดูท่าสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงจะเกิดขึ้นแล้ว สถานการณ์นี้อาจจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดกาล
ดาบปฐพีและดาบเสียงคลื่นลอยอยู่ข้างหนึ่งอยู่เงียบๆ ไม่พูดไม่จาสักคำราวกับได้เรียนรู้พลังของสองนางแล้ว
“แค่ก… ที่จริง เสี่ยวซีปลอดภัยดี ที่จริง ข้าไปพบกับผู้ยิ่งใหญ่มาเมื่อครู่ มันเป็นแบบนี้…”
กู่ฉิงซานอธิบายทุกอย่างอีกครั้ง ฉานนู่และลั่วปิงหลีโล่งอก
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าวอีกครั้ง
หลังจากนั้นสองสาวจึงเข้าสู่ดาบยาว
ดาบยาวสี่เล่มกลับสู่ความว่างเปล่าด้านหลังกู่ฉิงซาน
ตอนนี้ เสียงของสองสาวหายไปแล้ว
กู่ฉิงซานคือคนเดียวที่สามารถพูดได้ในโลกใบนี้
เขาอดที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้
ขณะมองซากศพของวิญญาณกรีดร้อง มังกรหุบเหวและเหรียญสีทองในมือ กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิด
เกรงว่าในอนาคต สองตัวนี้ที่ถูกสังหารด้วยตัวเองและผู้สร้างปฐพีจะต้องหาทางแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งแน่
แต่การกระทำทั้งหมดนี้ถูกปกปิดโดยผู้สร้างปฐพี
ผู้สร้างปฐพีให้เหรียญโชคดีที่แท้จริงเป็นหลักประกันความปลอดภัย น่าจะไม่มีปัญหาตอนขากลับ หากเป็นไปไม่ได้จริงๆ เขาสามารถซ่อนในโลกดินได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาปล่อยพลังวิญญาณเพื่อใช้งานเหรียญสีทอง
ดิ๊งด่อง
เหรียญสีทองส่งเสียงชัดเจน
แสงสีทองโอบอุ้มกู่ฉิงซานเอาไว้ก่อนหายไปจากยุคนี้ทันที
สวรรค์ดึกดำบรรพ์ตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าจะมีใครอีกที่มาโลกนี้อีกครา
…
อีกด้าน
กู่ฉิงซานยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าในหมอกไม่มีสิ้นสุด
เหรียญสีทองส่งเสียงกรุ้งกริ้งอย่างเริงร่า ส่องแสงสีทองอยู่ตรงหน้า ยังคงลอยไปข้างหน้าพร้อมกับเขา
ใต้หมอกแห่งมิติและเวลา ธารแสงสว่างยาวโคจรอย่างต่อเนื่อง
นี่คือแม่น้ำแห่งเวลา ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว
มีเพียงผู้ใช้ชีวิตในแม่น้ำสายยาวแห่งนี้เท่านั้นที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ไปถึงจุดจบที่ส่วนหนึ่งของแม่น้ำ
กู่ฉิงซานเหาะไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือกว่าทุกชีวิต
ในแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว บางครั้งจะมีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ไม่เป็นมิตรกระโจนขึ้นมา อ้าปากออกแล้วกินตัวตนที่อธิบายไม่ได้ที่ซ่อนอยู่ในแม่น้ำและหมอกเป็นจำนวนมาก
ทุกครั้งกู่ฉิงซานหลบหนีจากการกลืนกินของสัตว์ประหลาดมิติและเวลาโดยไม่มีความเสี่ยงใด ๆ
สัตว์ประหลาดเหล่านี้จากแม่น้ำแห่งเวลาสายยาวเอาชนะไม่ได้เสมอ
เป็นอีกครั้งที่กู่ฉิงซานเห็นภูตตัวน้อยกำลังดึงคทาสั้นออกไปมาชี้ทางสัตว์ประหลาด
สัตว์ประหลาดพลันหายไป!
สัตว์ประหลาดที่อยู่ในแม่น้ำแห่งเวลาสายยาวถูกสังหารหรือไม่ก็กลายเป็นบางสิ่งที่เหมือนกับเค้ก
ภูตตัวน้อยถือเค้กก่อนหนึ่งเอาไว้ก่อนอ้าปากกว้างกินเข้าไป
ช่างเป็นภาพที่น่าตกตะลึงนัก
กู่ฉิงซานอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่สามารถได้เห็นภูตกับตาตัวเอง
ในตอนนั้น ปาหลี่ได้รับบาดเจ็บที่ขา เพื่อช่วยเขารักษาบาดแผล เสี่ยวเมียวไปหาอาณาจักรภูตด้วยตัวเอง แต่เขาก็หาไม่พบ
ท้ายที่สุด เสี่ยวเตี๋ยมอบดอกไม้ภูตเรืองรองให้เพื่อรักษาบาดแผลที่ขาของปาหลี่
ทุกคนรู้ถึงตัวตนของภูต แต่ไม่มีใครรู้ว่าอาณาจักรภูตอยู่ที่ไหน
เกร็ดเล็กน้อยของโลกเก้าร้อยล้านชั้นวูบไหวผ่านหัวใจของกู่ฉิงซาน
เขาไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ว่ามาถึงที่ไหน กู่ฉิงซานยังคงเหาะไปข้างหน้าจนกระทั่งหมอกรอบข้างไม่อยู่อีกต่อไป เขาไม่เคลื่อนอยู่ตามแม่น้ำแห่งเวลาสายยาวอีกแล้ว
เขาเข้าใจว่าตัวเองมาถึงอนาคตแล้ว
ดิ๊ง ๆๆๆๆๆ !
ด่อง ๆๆๆๆๆ !
เหรียญสีทองส่งเสียงวิตกออกมา
เหรียญพากู่ฉิงซานถอยกลับก่อนมุ่งหน้าไปตามแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว แต่มันไม่ได้ดิ่งลงไป
กู่ฉิงซานต้องเคลื่อนไหวตามเหรียญสีทองเช่นกัน
ตอนแรก เขาคิดว่ามันน่าแปลก
แต่ในใจของกู่ฉิงซานค่อยๆ เข้าใจขึ้นมา
เหรียญสีทองมีโชคที่แท้จริง
แต่มันไม่เต็มใจที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาหนึ่ง
นั่นหมายความว่าอย่างไร
มีไอเย็นเยือกอยู่ในใจกู่ฉิงซาน เขาอดที่จะกล่าวออกมาไม่ได้ว่า “ไม่มีที่ให้ลงไปหรือ”
“ดิ๊งด่อง!” เหรียญสีทองส่งเสียงอย่างมั่นใจ
กู่ฉิงซานวิตกขึ้นมา
วิชาโชคที่แท้จริงจะปกป้องเขาให้ปลอดภัย แต่เหรียญสีทองที่ใช้งานวิชานี้กลับไม่สามารถหาที่ลงได้
หรือว่าชิ้นส่วนอนาคตทั้งหมดนี้จะเป็นสถานการณ์ที่ถึงฆาต
ผ่านไปสักพัก เหรียญสีทองยังไม่สามารถหาสถานที่ให้กู่ฉิงซานลงได้
เวลาล่าช้าอยู่เนิ่นนาน
เหรียญสีทองถอยกลับมาที่มือของกู่ฉิงซานก่อนทำการสื่อสารวิญญาณ
“วิชาโชคที่แท้จริงนี้สามารถคงอยู่ได้ตลอดการเดินทางหนึ่งหมื่นปี มันใกล้จะหมดลงแล้ว”
นี่คือความคิดที่ถ่ายทอดออกมาโดยเหรียญสีทอง
กู่ฉิงซานก้มศีรษะมองแม่น้ำแห่งเวลาเรืองรอง
แม่น้ำเงียบสงัด สะท้อนภาพโลกนับไม่ถ้วนออกมา
ทันใดนั้นเอง สัตว์ประหลาดเวลาขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นจากแม่น้ำ มันผ่านกู่ฉิงซานไปแล้วกัดตัวตนที่มองไม่เห็น จากนั้นกลับลงไปในแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว
อีกแค่นิดเดียว มันจะกัดกู่ฉิงซานแล้ว
ความคิดของกู่ฉิงซานวูบไหวก่อนถามอีกครั้งว่า “วิชาโชคที่แท้จริงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน”
อีกความคิดมาจากเหรียญ “สามนาที”
“ไม่เอาน่า ลองหาใหม่เถอะ” กู่ฉิงซานให้กำลังใจ
“ได้”
เหรียญสีทองลอยขึ้นอีกครั้ง พากู่ฉิงซานไปทั่วแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว
หลายครั้งที่เหรียญสีทองเกือบพากู่ฉิงซานไปยังเศษเสี้ยวมิติและเวลา แม่ในวินาทีสุดท้าย มันหยุดที่พื้นผิวแม่น้ำแห่งเวลาสายยาวทันทีก่อนลอยขึ้นในอากาศอีกครั้งเพื่อซ่อนตัวเองและกู่ฉิงซานในหมอก
ดูท่าจะมีกับดักถึงตายซ่อนอยู่ในมิติและเวลานั่น!
เหรียญสีทองยังคงลอยอ้อยอิ่ง
หนึ่งนาที
สองนาที
สองนาทีครึ่ง!
เหลืออีกสามสิบวินาทีสุดท้าย!
เหรียญสีทองโคจรรอบกู่ฉิงซานขณะกรีดร้อง
มันหาสถานที่ที่กู่ฉิงซานจะสามารถอยู่รอดได้ไม่เจอจริงๆ !
เวลายังคงผ่านไป
สิบวินาทีสุดท้าย!
กู่ฉิงซานกัดฟัน ทันใดนั้นยื่นมือออกมา จับเหรียญสีทองเอาไว้แล้วใช้งานวิชาเคลื่อนย้ายที่อยู่ในนั้น
วิ้ง
เหรียญสีทองส่องแสง
เหรียญหมุนรอบตัวเขาก่อนลอยไปทางสุดขอบของแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว
นั่นคือโลกดินที่เป็นของยุคนี้
…
ท้องนภามืดมิด
อสนีบาตอยู่ทุกหนแห่ง
สายฝนเทกระหน่ำลงมา
โลกเหมือนกับมหาสมุทรกว้างใหญ่และปั่นป่วน
ลำแสงทะลวงผ่านท้องนภาก่อนวูบไหวทั่วราตรี
กู่ฉิงซานถือเหรียญสีทองแล้วแนบไว้ในอ้อมแขน
เขาตกลงมาตามลมฝนจนกระทั่งเข้าใจว่าไม่มีกฎเกณฑ์มาพันธนาการ จากนั้นเขาจึงลอยบนท้องนภาอีกครั้ง
รากฐานการฝึกฝนและพละกำลังที่เป็นของเขาไม่ถูกจำกัดเอาไว้แม้แต่นิดเดียว
นี่ดูไม่เหมือนกับโลกดินเลย
บัดซบ มันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่กันแน่
หลังจากเหตุการณ์ช่วงยุคโบราณ สัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสามขัดแย้งกันเองจนอยากได้ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพกันอยู่ตลอด ดังนั้นพวกมันอาจจะเตรียมการในอนาคตมาเป็นอย่างดีจนถึงขั้นวางกับดักเขาที่แล้วที่เล่า
เหรียญสีทองไม่เต็มใจที่จะพาเขาเข้าสู่มิติและเวลาเหล่านั้น นั่นก็นับว่ามีเหตุผล
แต่ทำไมโลกดินถึงคล้ายกับอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดล่ะ
กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปถือดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพเอาไว้ ดาบเสียงคลื่นและดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพปรากฏขึ้นพร้อมกันเพื่อปกป้องเขาจากด้านข้าง
เขาลอยอยู่ในสายฝนที่เทกระหน่ำไปทั่วโลก ยืนอยู่เพียงลำพังขณะมองรอบข้าง
สายฝนที่เทกระหน่ำทำให้รอบข้างพร่ามัว
แต่จิตเทพสามารถปล่อยออกมาได้อย่างง่ายดายขณะตรวจสอบทุกทิศทาง
ในโลกใบนี้ นอกจากฝนแล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นเลย
กู่ฉิงซานอดที่จะประหลาดใจไม่ได้
เขาใช้จิตเทพจนพบซากปรักหักขนาดใหญ่
เขาจับจ้องที่นั่นอยู่หลายอึดใจ
กู่ฉิงซานพลันถามเสียงดังว่า “นายท่าน ท่านอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”
แปะ ๆๆๆๆๆ
สายฝนเทกระหน่ำใส่พื้นคอนกรีต ทำให้เสียงดังกระหึ่ม
เปรี้ยง
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น
อสนีสุกสกาวในท้องนภายามราตรี มันถูกความมืดกลืนกินอย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครตอบรับ
เหรียญสีทองในมือส่งเสียงครวญครางครั้งแล้วครั้งเล่า
กู่ฉิงซานกระชับชุดคลุมสีดำให้แน่นขึ้นก่อนเริ่มเดินผ่านซากเมือง
สิ่งปลูกสร้างสูงพังทลาย สถานีถูกทิ้งร้าง สะพานเหล็กขึ้นสนิม ทางด่วนที่เต็มไปด้วยหญ้า
เมื่อเดินไปสักพัก
นอกเหนือจากซากปรักหักพังแล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีก
กู่ฉิงซานหยุด
เขาเดินอยู่ข้างถนน เอื้อมมือไปผลักกำแพงที่พังทลายออกไป ทำให้เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่ว
สัตว์ประหลาดสภาพโทรมตัวหนึ่งนอนอยู่บนพื้นไม่ขยับไปไหน ไม่นานก็เปียกโชกเพราะสายฝน
กู่ฉิงซานจ้องมันไม่ขยับไปไหน
อสนีเคลื่อนผ่านท้องนภาอีกครั้ง ช่วยส่องแสงให้กับฉากตรงหน้าทันที
เมืองร้าง
ผู้ใช้วิชาดาบสวมชุดคลุมสีดำ
เกราะศึกเคลื่อนที่ที่ถูกทำลาย
นี่เหมือนสภาพหลังวันสิ้นโลก
กู่ฉิงซานยืนอยู่กับที่ อนุมานทุกสิ่งอยู่ในใจ
ทันใดนั้นเอง เสียงเด่นชัดดังขึ้นในใจ
ดิ๊ง
“หน้าต่างระบบเทพสงครามทำงานอีกครั้ง”
………………………………