พายุสีเทาพัดหวีดหวิว

สายลมราตรีพัดผ่านซากปรักหักพังรกร้าง

กู่ฉิงซานยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนอย่างเงียบงัน ไม่ขยับไปไหน

หน้าต่างระบบเทพสงครามปรากฏขึ้นอีกครั้งขณะติดต่อสื่อสารกับเขา

“ยินดีต้อนรับกลับสู่อนาคต กู่ฉิงซาน”

“ข้าอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว”

“ตั้งแต่ท่านถูกผนึกในโลกทรายดูดก็หนึ่งปีกับอีกเจ็ดสิบเก้าวัน”

“น่าแปลก มีคนบอกว่าข้าควรจะกลับไปยังช่วงเวลาที่จากมา ทำไมเวลาถึงผ่านไปหนึ่งปีกับอีกเจ็ดสิบเก้าวันล่ะ”

“นี่คือสิ่งที่ทำให้ท่านกลับมา”

กู่ฉิงซานเงยหน้ามอง

เขาเห็นเหรียญสีทองกำลังลอยอยู่ในความว่างเปล่าตรงหน้า มันส่งเสียงกระซิบอย่างเศร้าสร้อยเป็นครั้งคราว

กู่ฉิงซานกระแอมลำคอแล้วถามว่า “เออ… ข้าขอถามหน่อย ทำไมพวกเราถึงข้ามเวลามากกว่าหนึ่งปีล่ะ”

เหรียญสีทองส่งเสียงดิ๊งๆ ด่องๆ

เมื่อเร็วๆ นี้ในโลกเฉินอู่ กู่ฉิงซานได้รับความสามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจ

“หมายความว่าต้องก้าวข้ามมากกว่าหนึ่งปี ไม่อย่างนั้นจะถูกฆ่าอย่างนั้นหรือ” กู่ฉิงซานยืนยันอีกครั้ง

“ดิ๊งด่อง!” เหรียญสีทองส่งเสียงตอบรับอย่างมั่นใจ

กู่ฉิงซานกล่าวตามตรงว่า “ขอบคุณสำหรับโชคของเจ้า ถ้าข้ากลับมาพร้อมสามเหรียญของมนุษย์ เกรงว่าจะมีจุดจบที่คาดไม่ถึงแน่ ๆ”

“ดิ๊งๆ ด่อง ด่อง ๆ” เหรียญสีทองกล่าวอย่างเหนื่อยล้า

“เหนื่อยงั้นหรือ งั้นไปพักเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

เหรียญสีทองตกลงบนมือเขาอย่างช้าๆ เขาเก็บไว้ในถุงเก็บของก่อนวางมันไว้อย่างระวัง

กู่ฉิงซานครุ่นคิดถึงทุกสิ่งอยู่เงียบๆ ก่อนถอนหายใจออกมา “เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งปี ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกเก้าร้อยล้านชั้นบ้าง”

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “สิ่งสำคัญคือท่านรอดกลับมาและนำดาบศักดิ์สิทธิ์กลับมาได้”

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า

“คำอธิบายภารกิจ: นี่คือโศกนาฏกรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณ ท่านต้องรับมือกับเผ่าพันธุ์เทพ เผ่าพันธุ์บรรพกาล เผ่าพันธุ์มารและสัตว์ประหลาดหุบเหว ตามหาเศษเสี้ยวความหวังเพื่อความอยู่รอดของทั้งเผ่าพันธุ์และเพื่อให้ได้อาวุธที่จะตัดสินความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการต่อสู้… ดาบศักดิ์สิทธิ์”

“ท่านได้ดาบศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว”

“ภารกิจเทพสงครามเสร็จสิ้น”

“ท่านได้รับรางวัลจากภารกิจเทพสงครามนี้… ฉายาเทพสงคราม: ดาบมาร เป็นของท่านแล้ว”

“ฉายาเทพสงคราม: ดาบมาร”

“สวมใส่ฉายานี้ ท่านจะสามารถใช้สกิลฉายา: เนตรสัจจะฟาดฟันวิญญาณ ได้”

“เนตรสัจจะฟาดฟันวิญญาณ: เมินมิติและเวลา ดึงศัตรูที่เห็นเข้าสู่มิติที่สร้างขึ้นชั่วคราวทันที จากนั้นโจมตีเข้าใส่”

“หมายเหตุ: ชื่อสกิลนี้เป็นผลจากข้อมูลเชิงลึกทางวิชาดาบของท่านและจะคงพัฒนาต่อไปตราบที่วิชาดาบของท่านก้าวหน้า”

กู่ฉิงซานมองแถบตัวเลือกของ “เทพสงคราม”

แน่นอนว่าชื่อ “ดาบมาร” ถูกจัดไว้อยู่ด้านหลังชื่อ “แม่ทัพเทพ” “ยอดมือสังหาร” “จ้าวแห่งพรสวรรค์” และอื่นๆ อีกมากมาย

ฉายา: “ดาราอัคคีเทพสงคราม” อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้แล้วเช่นกัน

กู่ฉิงซานพลันกล่าวขึ้นว่า “ข้าประสบกับหลายสิ่ง ข้าเลยลืมไปว่าเคยได้รับภารกิจเทพสงครามมาด้วย”

“แต่ข้าไม่ลืม” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว

“เจ้ามีคำแนะนำถึงสิ่งต่อไปที่ต้องทำหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม

“ไม่มี ท่านต้องตัดสินใจทำทุกสิ่งด้วยตัวเอง” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว

กู่ฉิงซานผงะไปชั่วครู่ จากนั้นจึงตอบสนอง

ใช่แล้ว ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับเขา กู่ฉิงซาน

นี่คือรูปแบบการทำงานของหน้าต่างระบบเทพสงคราม แตกต่างจากบัญญัติราชามารอย่างสิ้นเชิง

มุมปากของกู่ฉิงซานโค้งขึ้นเล็กน้อย

“เอาเถอะ ในเมื่อนี่เป็นทางเดียวที่ข้าจะรอดได้ มาดูกันเถอะว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้”

เขาพึมพำขณะเดินไปหาสัตว์ประหลาดที่ถูกสายฝนเทกระหน่ำ

…นี่คือเกราะศึกเคลื่อนที่ประเภทจู่โจมที่ถูกทำลาย

ตอนเขาก้าวข้ามภัยพิบัติ เขากลับมาจากยุคโบราณไปยังสวรรค์ดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในอนาคต แถมเขายังเคยอยู่โลกดินในยุคเดียวกันจนทิ้งเกราะศึกเคลื่อนที่เอาไว้ในโลกดินอีกด้วย

เกราะศึกเคลื่อนที่ตรงหน้าเขาขึ้นสนิมและคล้ายกับได้รับความเสียหายมาเป็นเวลานาน

รูปทรงและส่วนประกอบพัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เขาออกแบบในตอนนั้น แต่พวกเขาแค่ปรับแต่งอย่างเรียบง่ายเท่านั้น

…ใช่ นี่แค่ปีกว่าเท่านั้น

เทคโนโลยีของโลกนี้อยู่ในขั้นต้นของการวิจัยจักรกล ไม่สามารถสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างจักรกลที่เขาเคยออกแบบได้

กู่ฉิงซานตรวจสอบจักรกลที่ถูกทิ้งอย่างละเอียด

ชิ้นส่วนโครงสร้างสำคัญจำนวนมากของจักรกลแตกหัก บิดเบี้ยวและแยกจากกันอย่างสมบูรณ์ ระบบพลังได้รับความเสียหายเช่นกัน

ชิ้นส่วนของจักรกลกระจายไปทั่วพื้นที่ ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ได้แล้ว

กู่ฉิงซานเดินรอบเกราะศึกเคลื่อนที่ จากนั้นยื่นมือไปลูบโครงโลหะเย็นเยือก

…จักรกลเหมือนเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่ไร้เทียมทานจนถึงขั้นแตกหักเพราะพลังอันแก่กล้าสุดหยั่งของอีกฝ่าย

อะไรกันที่สามารถจัดการกับเกราะศึกเคลื่อนที่ได้ง่ายดายขนาดนี้

กู่ฉิงซานเดินไปที่ห้องคนขับจักรกล เอนตัวเข้าไปแล้วแตะเข้าไปในที่ลับอย่างแผ่วเบา

คลิ้ก!

ล็อคจักรกลถูกตั้งไว้ ไม่สามารถดึงเนื้อหาออกมาได้

…นี่คือโครงสร้างที่ละเอียดอ่อนมาก ไม่สามารถใช้กำลังทำลายได้ พูดง่ายๆ ก็คือจะเปิดได้ด้วยการอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น

เมื่อคำนึกถึงช่วงเวลาที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นอัมพาตในบางครั้ง มันจะล็อคส่วนนี้เอาไว้เองและเขาได้ออกแบบวิธีสับเปลี่ยนเป็นแมนนวลเอาไว้ด้วย

ทว่า โหมดแมนนวลต้องใช้เครื่องมือจักรกลที่ข้องเกี่ยวมาใช้งานก่อนจึงจะสามารถเปิดได้

กู่ฉิงซานวางมือบนถุงเก็บของแล้วหยุดทันที

คราวที่แล้วที่เขามาโลกใบนี้ สมองจักรกลส่วนตัวและเครื่องใช้จักรกลขนาดเล็กจำนวนมากเคยอยู่ที่นี่

ก่อนเขาจะทันได้เก็บของพวกนี้ เขาถูกเคลื่อนย้ายพริบตากลับไปหาผู้สร้างปฐพี

มีเพียงทวยเทพเท่านั้นที่รู้ว่าของพวกนั้นอยู่ที่ไหน

…ในตอนนั้น เขาไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมกับการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนเผยสีหน้าสงสัยออกมา

เขาหยิบดาบศักดิ์สิทธิ์จากความว่างเปล่าขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจก่อนเล็งไปที่แผ่นโลหะข้างล็อค

ควบคุมความเข้มข้นให้ดี ตั้งสมาธิเพื่อเตรียมการ…

ทางเลือกสวรรค์

ดิง ๆๆๆๆๆ !

เสียงดังติดต่อกันหกครั้งจนแทบไม่ได้ยิน

ชิ้นส่วนเจ็ดถึงแปดอย่างพุ่งออกมาจากหัวเข็มขัดของแผ่นโลหะพร้อมกัน

เปรี้ยะ!

ล็อคจักรกลเปิดออก

เขาเห็นกล่องโลหะสีดำขนาดเท่าฝ่ามือวางอยู่ข้างในอยู่เงียบ ๆ

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนเอื้อมไปแตะกล่องสีดำ กล่องสีดำโผล่ออกมาก่อนมาอยู่ในมือของเขา

ในเวลาเดียวกัน ดาบศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงของลั่วปิงหลีอย่างเกรี้ยวกราดว่า

“ทางเลือกสวรรค์ใช้เพื่อฆ่าศัตรู ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะใช้ทักษะที่ทรงพลังครั้งแรกเพื่อซ่อมของแบบนี้”

“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สำคัญยิ่งกว่าการฆ่าศัตรูเสียอีก” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจัง

“เพื่อกล่องสีดำเนี่ยนะ มันคืออะไร” ลั่วปิงหลีถาม

“มันบันทึกกระบวนการและข้อมูลการต่อสู้ทั้งหมดเอาไว้ สามารถช่วยให้พวกเราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้” กู่ฉิงซานกล่าว

“ถึงแม้ข้าจะตายแล้ว แต่ยังสามารถจดจำเรื่องในอดีตได้ ช่างเป็นเรื่องที่วิเศษนัก…” ลั่วปิงหลีพึมพำด้วยความโล่งอก

ดาบศักดิ์สิทธิ์กลับมาเงียบอีกครั้ง

กู่ฉิงซานเก็บกล่องสีดำอย่างระวัง

…ตอนนี้ต้องหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่ออ่านสิ่งที่บันทึกอยู่ในกล่องสีดำ

ในสถานที่ที่มีการซ่อมแซมจักรกล ที่นั่นน่าจะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพระดับสามพันโลกเพื่อกวาดทั่วเมือง

ถนน สิ่งปลูกสร้าง ซากศพ ต้นไม้ แม่น้ำและอื่นๆ ทุกสิ่งไม่สามารถหนีรอดจากจิตเทพของกู่ฉิงซานได้

น่าเสียดายที่จักรกลคือนักฆ่าขนาดใหญ่ ไม่ได้รับความนิยมในโลกใบนี้ ดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวกับจักรกลจึงถูกควบคุมอย่างเข้มงวดและหาไม่ได้ง่าย ๆ

ทั่วทั้งเมืองคือสถานที่แห่งความตาย แทบจะหาสิ่งมีชีวิตเจอได้ยาก ไม่มีสิ่งปลูกสร้างสภาพสมบูรณ์ ไม่มีค่าที่จะค้นหาแต่อย่างใด

กู่ฉิงซานยังไม่เรียกสติคืน จิตเทพยังคงกระจายไปทุกทิศทาง ค้นหาทุกสิ่งบนปฐพี

ในที่สุด สถานที่รกร้างไกลออกไปจากเมืองสามร้อยไมล์ กู่ฉิงซานพบสิ่งปลูกสร้างซับซ้อนซ่อนอยู่

ป้ายของสถาบันวิจัยการทหารแขวนอยู่ตรงประตูสิ่งปลูกสร้างซับซ้อน สภาพของมันดูย่ำแย่หลังจากผ่านหายนะมา

ถึงแม้สถาบันวิจัยทั้งหมดจะถูกทำลายไปแล้ว แต่อุปกรณ์บางชิ้นในโรงซ่อมบำรุงจักรกลของสถาบันวิจัยคล้ายกับเอามาใช้ได้

…แค่นั้นก็พอแล้ว!

ในโลกที่พังพินาศนี้ หากมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยกู่ฉิงซานในการอ่านรายละเอียดของกล่องสีดำล่ะก็ มันก็ต้องเป็นที่นี่แหละ

ร่างของกู่ฉิงซานเคลื่อนไหวขณะเหาะไปทางสถาบันวิจัย

………………………..