บทที่ 358 อวิ๋นหลัวฉวนจะหย่า

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 358 อวิ๋นหลัวฉวนจะหย่า
ตอนแรกเริ่มทั้งสองสามีภรรยาไม่กล้าตบ ฮูหยินของพ่อบ้านร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม แม้ฐานะเดิมนางจะเป็นสาวใช้ แต่พ่อบ้านเป็นคนสนิทของพระมเหสีหวา นั่นเป็นครอบครัวของฝ่ายหญิงเคยช่วยชีวิตพระมเหสีหวา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาพระมเหสีหวาเป็นผู้ถือหาง คนของพระองค์ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง

เมื่อสมัยนั้นตอนที่ท่านอ๋องตวนออกจากพระราชวังพระมเหสีหวาเป็นผู้เลือกพ่อบ้านอาวุโส ก็เพื่อจะให้ดูแลท่านอ๋องตวน คนผู้นี้มีความจงรักภักดี แต่ก็ไม่สามารถที่จะเชื่อเขาได้ทั้งหมด

เลยเอาบ่าวข้างกายที่เชื่อใจที่สุดมอบแก่เขา แน่นอนว่าพ่อบ้านอาวุโสรักและถนอมน้ำใจเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่ฮูหยินแต่งงานกับพ่อบ้าน ไม่เคยได้รับความทุกข์เลย คนนอกไม่รู้ แต่ทุกปีพระมเหสีหวาล้วนมีสิ่งที่เป็นรางวัลมอบให้ ฮูหยินของพ่อบ้านได้รับมาก บางครั้งยังให้แม่นมเว่ยกับเหล่าแม่นมมาพูดคุยกับนางในจวนด้วย

คนของพระมเหสีหวา ไม่มีเหตุผลที่จะได้รับความไม่ยุติธรรม

วันนี้จวินฉูฉู่ทำเช่นนี้ ฮูหยินของพ่อบ้านหลั่งน้ำตาอย่างหนักหน่วง นางไม่ใช่ร้องไห้เพราะถูกตบตี แต่นางร้องที่นางกับสามีถูกดูถูกเหยียดหยามเยี่ยงนี้

ใจของพ่อบ้านราวกับมีดทิ่มแทง เขาเคยมอบบทลงโทษเยี่ยงนี้แก่ฮูหยินที่ไหนกัน ภายในใจนั้นเคียดแค้นจวินฉูฉู่ยิ่งนัก

จวินฉูฉู่เห็นพวกเขาไม่ลงมือ

เลยเรียกสาวใช้ข้างกายลงมือตีฮูหยิน โดยการใช้ไม้กระดานตี พอตีลงไปเรื่อยๆจนเลือดไหลออกปาก พ่อบ้านร้องขออ้อนวอนก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายทำได้เพียงตีเอง

ฮูหยินไร้เรี่ยวแรง ตีแล้วตีอีกจนนางเป็นลม จวินฉูฉู่เรียกคนให้ตื่นแล้วตีอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายพ่อบ้านเลยคุกเข่าแนบศีรษะลงบนพื้น กล่าวว่า “พระชายาไว้ชีวิตบ่าวเถิด บ่าวสมควรตาย ไว้ชีวิตบ่าวชั่วด้วยเถิด”

“ข้าไว้ชีวิตเจ้าแล้วผู้ใดไว้ชีวิตข้า?”จวินฉูฉู่มองพ่อบ้านด้วยหางตา โมโหเลยถีบพ่อบ้านเข้าให้

“หากเจ้าไม่ตบตี ข้าจะสั่งผู้อื่นทำ ในจวนนี้คนเยอะ ตบคนละที ก็ต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมง”

พ่อบ้านรู้สึกกลัดกลุ้มใจ เขาเลยตบตีเอง

ฮูหยินของพ่อบ้านหายใจติดขัด มองพ่อบ้านที่ต้องรับโทษเลยอดทนไม่ไหวลุกขึ้นก็ชนกับโต๊ะ เลือดไหลแล้วเป็นลมไป

“อ๋า!”

พ่อบ้านร้องคร่ำครวญโหยหวนอุ้มฮูหยินขึ้น เขาร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในเรือน ก็ตื่นตะลึงทั้งจวนอ๋องตวนแล้ว

จวินฉูฉู่ลุกขึ้น

หมอประจำจวนก็ได้รับโทษไม่น้อย รีบวิ่งไปตรวจดูอาการให้ฮูหยินของพ่อบ้าน มองด้วยตารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว

“ท่านพ่อบ้าน ท่านรีบหาคนคนหนึ่งไปหาท่านอ๋องเถอะ ถ้าไม่ได้ก็ไปหาพระชายาเย่ มีเพียงนางที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ท่านอ๋องกลับมาเกรงว่าก็จะเพิ่มความหยิ่งยโสแก่นาง ไม่อย่างนั้นพวกเราตายในมือนางหมดแน่”

พ่อบ้านเกลียดจวินฉูฉู่เข้ากระดูกดำ พยักหน้าแล้วกล่าวว่า“เร็ว รีบไปเชิญพระชายาเย่มา บอกว่าจวนของพวกเราเกิดเรื่องจนจะต้องเอาชีวิตคนแล้ว หากนางไม่มา…….”

พ่อบ้านเกิดความสับสน ทันใดนั้นได้นึกถึงจี้หยกบนคอของฮูหยิน เขาเปิดเสื้อออกแล้วหยิบออกมา แล้วยื่นให้หมอประจำจวน“นี่เป็นสิ่งที่ปฐมกษัตริย์มอบแก่พระมเหสีหวา เมื่อตอนเกิดเรื่องกับท่านอ๋องตวนจะได้เข้าวังสะดวก ด้านหลังเป็นตราของราชวงศ์ ท่านรีบไปหาพระชายาเย่ นางเห็นแล้วจะต้องมาแน่นอน”

หมอประจำจวนหยิบจี้หยกแล้ววิ่งออกไป ไม่อย่างนั้นเขาก็ตายด้วยเช่นกัน

พอหมอประจำจวนมาถึงจวนอ๋องเย่จึงนั่งคุกเข่าลง แล้วมองเข้าไปด้านใน พ่อบ้านของจวนอ๋องเย่ตกใจจนตัวสั่นเทา นี่คือหมอประจำจวนของจวนอ๋องตวน เขาเป็นคนกล่าวเอง

จากนั้นได้หยิบจี้หยกของราชวงศ์ออกมาให้ดู

“ไอ๋หยา พระชายาไม่อยู่หรอก ท่านมาผิดเวลาแล้ว!”พ่อบ้านได้ยินว่าจวนอ๋องตวนเกิดเรื่อง แต่พระชายาและท่านอ๋องต่างไม่มีคนอยู่

หมอประจำตระกูลไม่เชื่อ จวนอ๋องตวนกับพระชายาเย่เคยมีปัญหากัน พ่อบ้านพูดว่าไม่มีคนอยู่เขาก็ไม่เชื่อ

“พระชายาเย่ พระชายาเย่………”

หมอประจำจวนคุกเข่าเรียก ทำจนพ่อบ้านสับสนทำอะไรไม่ถูก

“ท่านอย่าตะโกน อย่าตะโกน…….”

พ่อบ้านกล่าวเกลี้ยกล่อม หมอประจำจวนยิ่งร้องเสียงดังมากขึ้น“พระชายาเย่ช่วยด้วย ช่วยด้วย…….”

หมอประจำจวนร้องตะโกนเช่นนี้ ไม่ได้ทำให้พระชายาเย่ออกมา คนที่ออกมากลับเป็นท่านอ๋องตวนและอวิ๋นหลัวฉวน

ทั้งสองคนตื่นนอนออกมา คิดวางแผนว่าจะกินอะไรก่อน พอได้ยินในจวนมีเสียงคนร้องตะโกน ท่านอ๋องตวนรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้ เลยพาอวิ๋นหลัวฉวนออกมาดู

“เหตุใดถึงต้องร้องเสียงดังอื้ออึง?”หนานกงเหยี่ยนสีหน้าดูไม่ได้ รู้สึกว่าจวนอ๋องเย่ช่างไร้กฎเกณฑ์ เช้าตรู่มีคนมาร้องโหวกเหวกเสียงดัง

พอพ่อบ้านเห็นอ๋องตอน ก็รีบไปถวายความเคารพ“ท่านอ๋อง พระชายารองอวิ๋น”

หนานกงเหยี่ยนไม่ได้ใส่ใจมองคนลนพื้น เขามองไปที่หมอประจำจวนที่คุกเข่าอยู่ มองหน้าเขาแล้วชะงักงัน กล่าวถามว่า“หมอจ้าวหรือ?”

“ท่านอ๋อง”

หมอจ้าวก็ชะงักงันเช่นกัน ชายเติบโตขนาดนี้ร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม หน้าบวมเป่งราวกับหมั่นโถว อีกนิดหนึ่งหนานกงเหยี่ยนก็ดูไม่ออกแล้ว เวลานี้มองหมอประจำจวนก็ใช้เวลาจ้องนาน

“เจ้าสารเลว มาที่นี่ให้ขายหน้าหรือ?”หนานกงเหยี่ยนกล่าวด้วยความเดือดดาล อีกนิดหนึ่งก็ถีบหมอจ้าวแล้ว

หมอจ้าวเห็นท่านอ๋องตวนก็ไม่กล้าพูด เขากลัวว่าท่านอ๋องตวนจะอยู่ฝั่งของพระชายาตวน

แต่เขากลับไปทั้งอย่างนี้ เขาได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

พอคิดแล้วหมอจ้าวเลยคุกเข่าต่อหน้าอวิ๋นหลัวฉวน แขนข้างหนึ่งกอดที่ขาของนาง จากนั้นกล่าวว่า“พระชายารองอวิ๋น ได้โปรดช่วยชีวิตด้วย คนร้อยกว่าชีวิตที่จวนจะตายหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

อวิ๋นหลัวฉวนตะลึง ชีวิตของคนนับร้อย

หนานกงเหยี่ยนเห็นขาของอวิ๋นหลัวฉวนถูกชายอื่นกอดรัดไว้ เลยถีบหมอจ้าว และกล่าวว่า“สามหาวนัก!”

หมอประจำจวนจ้าวร้องห่มร้องไห้เสียงดัง กล่าวว่า“พระชายาตวนเห็นคนในจวนเป็นมด ต่างให้ตบตีกันไปมา ฮูหยินของพ่อบ้านไม่สามารถที่จะทนการดูถูกเหยียดหยามได้ ฮูหยินของพ่อบ้านบังคับใจตนชนโต๊ะ หากว่าไม่สนใจ พระชายาตวนจะกลายเป็นปีศาจบนดินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

อวิ๋นหลัวฉวนชะงักงัน กล่าวขึ้นว่า“ว่าอย่างไรนะ?ตบตีกันไปมาหรือ?”

อวิ๋นหลัวฉวนเดือดดาล นางไม่เคยเห็นผู้ใดที่หน้าด้านไร้ยางอายอย่างนี้เลย เลยกล่าวด้วยความโมโหว่า“ไป กลับไปดูกัน”

ตอนนี้หมอประจำจวนจ้าวไม่สนใจหนานกงเหยี่ยนแล้ว รีบลุกขึ้นกล่าวว่า“นี่เป็นจี้หยกฮูหยินของพ่อบ้าน ปฐมกษัตริย์มอบเป็นของขวัญ บอกว่าเข้าวังได้ตลอดเวลา พระชายารอง ตอนนี้ฮูหยินของพ่อบ้านจะไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าสามารถทนความเจ็บปวดได้หรือไม่ กระหม่อมมาเชิญพระชายาเย่ นางไม่พบกระหม่อมเลย”

พ่อบ้านไม่พอใจกล่าวว่า “พระชายาเข้าวังกับท่านอ๋องแล้ว หากท่านไม่เชื่อถามท่านอ๋องของท่านดูได้เลย พระชายารองก็รู้”

หมอประจำจวนจ้าวมองพระชายารองอวิ๋น วันนี้ในสายตาของเขาไม่มีอ๋องตวนแล้ว

อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า“ไม่อยู่จริงๆ พ่อบ้านไม่มีทางพูดปด แต่ในเมื่อเข้าวังแล้ว พ่อบ้าน รบกวนท่านเชิญคุณชายทังมาที เอาจี้หยกนี้ไปเชิญท่านพี่เสียนเฟยที่วัง ไม่อย่างนั้นได้เกิดเรื่องขึ้นจริงอย่างแน่นอน”

อวิ๋นหลัวฉวนสีหน้าเคร่งขรึม ตัวนางเองเป็นเด็กผู้หนึ่ง แต่เวลานี้คล้ายดั่งท่านแม่ทัพที่เผชิญหน้าสังหารศัตรู

พ่อบ้านรีบตอบรับ หมอประจำจวนจ้าวยื่นจี้หยกให้พ่อบ้าน พ่อบ้านเลยไปเชิญคุณชายทัง

อวิ๋นหลัวฉวนเดินไปหน้าประตู ท่านอ๋องตวนเห็นนางเดินอย่างรีบร้อน เลยกล่าวขึ้นว่า“ช้าหน่อยสิ”

อวิ๋นหลัวฉวนได้ยินก็โมโห หมุนตัวมองด้วยความเดือดดาลกล่าวว่า “เป็นเพราะท่านอ๋อง”

อ๋องตวนชะงัก เดินไปหาอวิ๋นหลัวฉวน กล่าวว่า“ไป”

อวิ๋นหลัวฉวนเลยเดินตามเขากลับจวน พอเข้าไปก็เห็นใบหน้าของแต่ละคนบวมเป่ง เขาสีหน้าแย่มากขึ้นเรื่อยๆ อวิ๋นหลัวฉวนเห็นแล้วโมโห ตะคอกว่า“จวินฉูฉู่ เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

อวิ๋นหลัวฉวนมุ่งไปหาจวินฉูฉู่ที่เรือนด้านหลัง เดินถึงประตูได้ใช้เท้าถีบ ท่านอ๋องตวนหน้าซีดเผือด กล่าวว่า“เจ้าประพฤติตัวดีๆให้ข้าหน่อย”

อวิ๋นหลัวฉวนหันไปมองด้วยความโมโห กล่าวว่า“วันนี้หม่อมฉันจะตีนางให้ตาย ทำให้นางเป็นบุคคลที่พบหายนะ”

หนานกงเหยี่ยนไม่ได้กล่าวอะไร อวิ๋นหลัวฉวนหมุนตัวเดินไป เขาก็เดินตามด้วยความร้อนใจระทมทุกข์

เห็นอวิ๋นหลัวฉวนโมโหอย่างนี้ เขาก็เป็นห่วง

จวินฉูฉู่ได้ยินเสียงของอวิ๋นหลัวฉวน เลยเดินออกมาจากห้อง พอเห็นหนานกงเหยี่ยนจวินฉูฉู่ก็หัวเราะ กล่าวว่า “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือนี่?”

“…….”

หนานกงเหยี่ยนไม่ได้พูดอะไร อวิ๋นหลัวฉวนยกไม้ตะบองขึ้นแล้วตีลง พอเห็นนางตีคน หนานกงเหยี่ยนเลยรีบเดินไปหานาง กล่าวด้วยความโมโหว่า“วางลง”

จวินฉูฉู่หัวเราะอย่างเยือกเย็น นางเผชิญหน้ากับอวิ๋นหลัวฉวน ภายใต้แววตาลำพองใจอย่างมาก

อวิ๋นหลัวฉวนโมโห ขาข้างหนึ่งถีบท่านอ๋องตวน อ๋องตวนจับกุมที่ข้อเท้าของนาง กลัวว่านางจะล้มเลยช้อนแขนไปที่เอวของนางและปล่อยข้อเท้าออก อวิ๋นหลัวฉวนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทั้งสองต่างมองกันและกัน อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวอย่างโมโหว่า“หม่อมฉันต้องการแยกออกมา!”

“สารเลว เจ้ากล้าหรือ?”หนานกงเหยี่ยนโมโห ใช้มือบีบกำแขนแน่น

อวิ๋นหลัวฉวนดิ้นรนขัดขืนสู้ กล่าวขึ้นอีกว่า“หากไม่ยอม หม่อมฉันจะหย่า!”

“…….”ชั่วพริบตาเดียวหนานกงเหยี่ยนหน้าอึมครึมขึ้นมา!