หลิงฮันถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ข้าขอถามพวกเจ้าหน่อยเถอะ พวกเจ้าคงจะลอบฆ่าคนอื่นล้มเหลวอีกครั้งและยั่วยุให้คนพวกนั้นตามล่าพวกเจ้ามาสินะ?”่
“หืม เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกเราคือนักฆ่า?” หญิงสาวคนน้องพูดด้วยความแปลกใจ
“พวกเจ้ายังจำเสียงของข้าไม่ได้อีกรึ?” หลิงฮันถึงกับพูดไม่ออก หญิงสาวทั้งสองคนยังเหมาะสมที่จะถูกเรียกว่านักฆ่าหรือไม่?
หญิงสาวคนน้องรีบจุดตะเกียงน้ำมัน และยื่นไปข้างหน้าตรงหน้าหลิงฮัน และอดที่จะโกรธออกมาด้วยความตกใจไม่ได้ว่า “แม่เจ้า” ขณะที่ชี้นิ้วใส่หลิงฮัน นางพูดว่า “เจ้านี่เอง! ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่? ข้านึกว่าเห็นผีเสียอีก!”
นักฆ่าทั้งสองคนเห็นได้ชัดว่าเป็นลิ่วเฟิงเอ๋อและหลิ่วลู่เอ๋อที่ลอบสังหารซูเค่อซินพลาดและจากไปพร้อมกับหยุนชวงชวงไปที่แคว้นอัคคี แต่การที่พวกเขามาพบเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปเพราะแคว้นอัคคีนั้นกว้างใหญ่มาก
หลิงฮันหัวเราะลั่นและพูดว่า “ไม่ต้องสนใจหรอกว่าทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่ ทำไมไม่ฟังเรื่องของเจ้าดีกว่าล่ะ?”
“พวกเราต้องสร้างความเดือดร้อนให้กับนายน้อยฮันอีกแล้วเพื่อให้ที่หลบซ่อนพวกเราสองพี่น้อง” ลิ่วเฟิงเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่สุขุมและใจเย็นเกินไป ซึ่งไม่เหมือนชายหนุ่มคนอื่นทำให้พวกนางรู้สึกปลอดภัยมากเมื่ออยู่กับเขา
“หึ่ม พวกเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเจ้าไปรุกรานใครมาหรือเปล่าถึงหลบหนีมาที่เมืองบ้านนอกแบบนี้ แต่เจ้ายังต้องการที่จะปกป้องพวกข้างั้นรึ?” ลิ่วลู่เอ๋อยังคงเป็นเหมือนเดิม นางจะรู้สึกอึดอัดถ้าไม่ได้พูดยั่วยุคนอื่น
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นข้าคงต้องขอโทษพวกเจ้าด้วย โปรดกลับไปที่ที่เจ้าจากมา”
“ข้าแค่พูดล้อเล่น เจ้าจริงจังกับคำพูดพวกนั้นด้วยหรือ?” ลิ่วลู่เอ๋อบุ้ยปาก
“แล้วครั้งนี้พวกเจ้าไปรุกรานใครเข้าให้ล่ะ?” หลิงฮันถอนหายใจ
ลิ่วลู่เอ๋อแสดงท่าทีภาคภูมิใจตัวเองออกมาทันทีและพูดว่า “พวกเราพยายามลอบสังหารขุนนางของแคว้นอัคคี น่าจือเหยียน!”่
“ว..ว..ว่าไงนะ ทำไมชื่อมันถึงแปลกประหลาดขนาดนี้?” หลิงฮันอุทาน
“น่าจือเหยียนชายสกปรกแต่ชื่อของมันกับคล้ายกับผู้หญิง” ลิ่วลู่เอ๋อดูเหมือนจะเข้าใจตรงกับหลิงฮันและแสดงใบหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว เหมือนกับที่ข้าได้พูดไปชื่อของมันแปลกมาก”
ลิ่วเฟิงเอ๋อถึงกับไร้คำพูดและพูดว่า “ชื่อไม่สำคัญ แต่ประเด็นคือน่าจือเหยียนเพิ่งปรากฏตัวออกมาในช่วงครึ่งปีที่แล้ว และกลายเป็นคนที่จักรพรรดิอัคคีนับถือมาที่สุด มันกล่อมให้จักรพรรดิอัคคีขุดเหมืองที่แปลกประหลาดขึ้นมา และทุกครั้งที่คนงานกลับออกมาจากเหมือง พวกเขาก็ตายวันรุ่งขึ้น”
“อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิอัคคีนั้นไม่ยอมแพ้ และได้รวบรวมกำลังคนจากทั้งแคว้นเพื่อขุดเหมือง ใครก็ตามที่กล้าขัดขืนจะต้องถูกฆ่า และตอนนี้มีผู้คนนับไม่ถ้วนในแคว้นต่างหวาดผวา ดังนั้นพวกเราต้องฆ่าน่าจือเหยียนเพื่อกำจัดความชั่วร้ายออกไปจากแคว้น!”
“หืม แม้พวกเจ้าจะเป็นนักฆ่า แต่พวกเจ้ายังเห็นใจคนอืน?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าอย่าได้ดูหมิ่นพวกข้า มีอยู่สามอย่างเท่านั้นที่ข้าจะไม่ลงมือฆ่า!” ลิ่วลู่เอ๋อพูดอย่างภาคภูมิใจ “ข้าไม่ฆ่าเด็ก ไม่ฆ่าคนแก่และไม่ฆ่าคนดี”
หลิงฮันพยักหน้าขณะที่เขายิ้มออกมาและพูดว่า “แล้วพวกเจ้าพยายามลอบสังหารน่าจือเหยียน แต่กลับล้มเหลวและจบลงที่ถูกไล่ล่ามากกว่าหมื่นไมล์นี่คืออะไร?”่
ลิ่วลู่เอ๋อบุ้ยปากและพูดว่า “เจ้าเดาไม่ออกเลยหรือ? พวกข้าอาจจะลอบฆ่ามันสำเร็จ ทหารเลยไล่ล่าพวกข้าก็เป็นได้”่
“ฮ่าฮ่า”
“เจ้าขำอะไร?” ลิ่วลู่เอ๋อเอามือเท้าเอวและดูไม่พอใจมาก
ปัง!
เสียงดังกระหึ่มดังมาจากด้านนอก บางทีอาจมีบ้านบางหลังถูกทำลาย และมีเสียงพูดดังขึ้นมาว่า “ใครก็ตามที่อยู่เมืองนี้หากไม่มาที่ประตูทิศตะวันออกของเมืองภายในสิบห้านาที คนที่เหลือจะต้องถูกฆ่า!”
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ดูเหมือนว่าน่าจือเหยียนจะค่อนข้างเป็นตัวอันตรายทีเดียว มันถูกนักฆ่าพยายามลอบสังหารเลยส่งองค์รักษ์จักรพรรดิออกมาไล่ล่าคนร้าย”
“หึ่ม พวกมันเป็นแค่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเจ็ดคนที่ไล่ตามของข้ามา โชคดีที่พวกข้ามีไหวพริบที่เฉียบแหลมเลยหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว!” ลิ่วลู่เอ๋อกล่าวอย่างภูมิใจ
“นายน้อยฮัน!” เสียงของชูหวู่จิวดังมาจากนอกประตู
หลิงฮันครุ่นคิดและพูดว่า “ปล่อยไปและสอนบทเรียนให้กับคนพวกนั้น แต่ห้ามฆ่า”
“ขอรับ!” ชูหวู่จิวรับคำสั่งและจากไป ตอนนี้เขาเป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณขั้นสามแล้วและได้สะกัดพลังของสะกัดหินชะตาสวรรค์ พลังต่อสู้ของเขาพุ่งไปถึงสิบเอ็ดดาว และถือได้ว่าเป็นจอมยุทธระดับแนวหน้าของแคว้นอัคคี
อย่างไรก็ตาม หลิงฮันนั้นได้ถอนหายใจออกมา ด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าตระกูลหลิงจะต้องย้ายถิ่นฐานอีกครั้ง
หญิงสาวสองพี่น้องนี่ไม่ได้ทำอะไรให้กับเขาเลยนอกจากสร้างปัญหา!
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เจ้ามั่นใจเกินไปหรือเปล่าถึงดูแคลนทหารองครักษ์ที่อยู่ด้านนอก? พวกมันเป็นถึงจอมยุทธระดับห้วงวิญญาณเชียวนะ!” ลิ่วลู่เอ๋อพูดออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้าอย่าทำตัวให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้นเลย” หลิงฮันกอดอกและพูดลอยๆ “แล้วหยุนชวงชวงล่ะ?”
“หยุนชวงชวงกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในเมืองจักรพรรดิไปแล้ว ทุกคนต่างรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับฟังคุณหนูชวงชวงเล่นเครื่องดนตรี และมีผู้คนนับไม่ถ้วนที่ต้องการแต่งงานกับนาง!” ลิ่วลู่เอ๋อพูดและจ้องมองหลิงฮันอย่างชั่วร้าย หวังว่าจะเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของเขา
หลิงฮันจะสนใจหยุนชวงชวงได้อย่างไร? เขาแค่นึกออกหลังจากที่เห็นสองพี่น้องคู่นี้เท่านั้นเลยถามออกมา
ในไม่ช้า ชูหวู่จิวก็กลับมาและพูดอยู่ด้านนอกประตูว่า “นายน้อยฮัน ข้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ยังมีคำสั่งอื่นอีกไหม?”
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ไปพักผ่อนเถอะ”
“ขอรับ!” จากนั้นชูหวู่จิวก็จากไป
สีหน้าของสองพี่น้องเต็มไปด้วยความตกใจ หลังจากนั้นชั่วครู่ ในที่สุดลิ่วลู่เอ๋อก็เปิดปากพูดออกมาว่า “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน คนรับใช้ของเจ้าพูดเรื่องสาระอะไรออกมา?”
หลิงฮันยักไหล่และพูดว่า “เจ้าได้ยินเสียงหมาเห่าหอนไหมล่ะ?”
ลิ่วลู่เอ๋อรู้สึกแปลกใจก่อนที่จะรู้ว่าหลิงฮันเรียกองครักษ์จักรพรรดิว่าหมา นางหัวเราะคิกคักโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็ต้องปิดปากของตัวเองทันทีและพูดว่า “ข้าไม่ได้ยินพวกมันแล้ว!”
สีหน้าของลิ่วเฟิงเอ๋อเองก็เต็มไปด้วยความตกใจเช่นเดียวกัน “นายน้อยฮัน พวกมันเป็นถึงจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเชียวนะ!”
หลิงฮันหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าสามารถไปได้แล้ว บางทีพวกเราอาจไม่ได้พบกันอีก เฮ้อ การได้พบเจอพวกเจ้าไม่ใช่เรื่องดีเลย”
“หึ พวกข้าไม่ได้เป็นตัวโชคร้ายเสียหน่อย!” สีหน้าของลิ่วลู่เอ๋อเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และพูดต่อว่า “ถ้าเจ้าพูดขนาดนั้น ทำไมไม่ให้พวกข้ายืมตัวเขาสักวันสองวันล่ะและช่วยพวกข้าสังหารน่าจือเหยียนนั่น!”
หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “เจ้ากล้าที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมาด้วยหรือ? เจ้าเป็นนักฆ่าแต่กลับพูดแบบนั้นออกมา ช่างน่าอายยิ่งนัก!”
“หึ่ม พวกเราแค่รวมกำลังเพื่อจำกัดคนชั่วเท่านั้น!” ลิ่วลู่เอ๋อคว้าตัวหลิงฮันและพูดว่า “ตอนนี้เจ้าเองก็อยู่แคว้นอัคคีแล้ว และโชคชะตาทำให้มาพบกัน นั่นหมายความว่าสวรรค์ลิขิตให้เป็นเช่นนั้น!”
หลิงฮันปฏิเสธที่จะพูดตอบโต้ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ สองพี่น้องคู่นี้สามารถหลบหนีไปที่ไหนก็ได้ แต่พวกนางกลับบังเอิญมาพบเจอเขา
เขาลูบคางของตัวเอง ถ้าจักรพรรดิอัคคีทำแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าตระกูลหลิงจะย้ายไปที่ไหน พวกเขาก็อาจถูกตระกูลจักรพรรดิบีบบังคับให้ขุดแร่เหล่านั้น
เว้นแต่พวกเขาจะออกจากแคว้นอัคคี
อย่างไรก็ตาม เหมืองอะไรถึงทำให้จักรพรรดิอัคคีทำตัวบ้าบิ่นขนาดนี้ ถึงขั้นทำลายพื้นฐานของแคว้นตัวเอง?
หลิงฮันถามออกมาว่า “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นเหมืองอะไร?”
“พวกเราไม่รู้ พวกเรารู้แค่ว่าแร่แปลกๆนั่นที่ถูกขุดออกมาทุกวันจะถูกส่งไปยังตระกูลจักรพรรดิ” ลิ่วเฟิงเอ๋อส่ายหัวของนาง
เศษเสี้ยวของความอยากรู้อยากเห็นของหลิงฮันปะทุขึ้นมา