เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 404 คุณคือชายชรา!
เธอหยุดเดินและหันกลับไปมองเขา “ฮืม?”
“คุณแน่ใจเหรอ? การจุดถ่านไฟเก่าเป็นไปได้จริง ๆ เหรอ? คุณสามารถชอบใครสักคนได้มากเท่าที่คุณเคยทำหลังจากที่เลิกกันไปแล้วจริง ๆ เหรอ?
เนื่องจากแจ็คสันหลีกเลี่ยงการสนทนาส่วนตัวกับทิฟฟานี่มาสักพักแล้ว เธอจึงแปลกใจนิดหน่อยกับคำถามของเขา เธอไตร่ตรองคำถามของเขาสักพักก่อนที่เพียงจะตอบด้วยคำตอบที่ไม่ชัดเจนว่า “ก็ เราเคยคบกันสามปีและฉันก็ทุ่มเทให้กับเขามาก ถ้าเรายังชอบกันอยู่มันก็เป็นธรรมดาที่เราจะคบกัน ในเมื่อฉันตัดสินใจที่จะกลับไปคบกันแล้ว ฉันก็ต้องจริงจังกับมัน”
เขายิ้มอย่างโล่งอก “คุณไม่ได้ทำงานเก่งอะไรขนาดนั้น เพราะฉะนั้นการลาออกของคุณจึงไม่ได้กระทบอะไรผมนัก ไม่ต้องกังวล ผมยินดีที่จะเซ็นใบลาออกของคุณ”
เธอจ้องมองเขา “ฉันควรจะดีใจแทนคุณไหมที่ในที่สุดคุณก็สามารถกำจัดพนักงานไร้ประโยชน์จากบริษัทของคุณได้? โอเค เก็บความดีใจของคุณไว้กับตัวเองเถอะ… ฉันไปล่ะ…”
ทันทีที่ประตูปิดลงแจ็คสันก็โยนใบลาออกนั้นลงถังขยะ เขาเปิดเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ที่เปิดโปงทุกอาชญากรรมของ อีธาน คอนเนอร์ ขึ้นมา ด้วยความรู้สึกสับสน แจ็คสันสับสนว่าเขาควรจะปล่อยให้เธอกระโดดลงขุมนรกนั้นดีไหม อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถบอกอะไรเธอได้ มือของเขาถูกผูกเอาไว้ มือข้างนึงเป็นมาร์ค อีกข้างนึงเป็นทิฟฟานี่
สุดท้ายแล้วเขาก็หยิบใบลาออกนั้นขึ้นมาจากถังขยะ เขาหยิบปากกามาและเซ็นชื่อตัวเองลงไปด้วยความรู้สึกหนักใจ สองคำที่เขาเคยเขียนมาแล้วจนนับครั้งไม่ได้ในตอนนี้ทำให้เขาใช้เวลาในการเขียนนานกว่าปกติ
เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงาน ทิฟฟานี่กลับไปที่ห้องทำงานแจ็คสันอีกครั้ง “ฉันทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จหมดแล้ว คุณเซ็นใบลาออกฉันหรือยัง? ฉันต้องไปเอาเงินเดือนที่แผนกการเงินอีก”
แจ็คสันส่งใบลาออกที่ถูกเซ็นแล้วให้เธอ เมื่อทิฟฟานี่หันกลับไปเพื่อเดินกลับเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า “ไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหม?”
เธอตกใจเล็กน้อย “ทำไม? คุณจะเลี้ยงส่งฉันหรอ?”
เขาหัวเราะ “อะไรประมาณนั้น ผมจะบอกคุณตอนนี้เลย ผมจะให้บริการคุณเป็นพิเศษเลย คุณสามารถตัดสินใจเองได้ว่าจะรับมันไหม”
“คุณทำให้มันฟังดูเหมือนว่า… ฉันจะไม่กล้าไป เพราะฉะนั้น ฉันจะไป!” เธอพยักหน้าทันที
ทิฟฟานี่รีบไปที่แผนกการเงินก่อนที่จะเลิกงานเพื่อรับเงินเดือนสุดท้ายของเธอ
แจ็คสันเองก็เลิกงานเร็วเช่นกันเพื่อพาทิฟฟานี่ไปที่ร้าน ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของแต่เขาก็ยังคงนั่งทานกับทิฟฟานี่เหมือนลูกค้าทั่วไป ข้อดีก็คือ โต๊ะของพวกเขาได้รับการรับรองไม่ว่าร้านอาหารจะแออัดแค่ไหน
แจ็คสันเปิดขวดไวน์แดงราคาแพงอย่างใจกว้าง ทั้งคู่ชนแก้วกันและดื่มมันหมดในครั้งเดียว “สำหรับความสำเร็จของคุณในอนาคตหลังจากที่ออกจากบริษัท ไบรท์ อินคอร์ปอเรท”
ทิฟฟานี่หัวเราะใส่เขา “เลิกเสแสร้งสักที นี่คุณประชดเหรอ? คุณทำให้ดูเหมือนว่าฉันถูกต้มตุ๋น ไม่มีใครจะมาต้มตุ๋นฉันหรอก”
แววตาของเธอเป็นประกายตอนที่อาหารถูกเสิร์ฟตามลำดับ “ว้าว ของโปรดฉันทั้งนั้นเลย! ฉันกินจะกินล่ะนะ!”
เขาหัวเราะเยาะเย้ยและแซวเธออย่างไร้ความปราณี “มีอาหารอะไรที่คุณไม่ชอบด้วยเหรอ? เธอสามารถกินได้ทุกอย่างเหมือนหมู”
การพูดถึงหมูทำให้เธอนึกถึงคืนที่พวกเขาต้องนอนห้องเดียวกันช่วงที่เธอยังเล่นการแสดงให้เขาอยู่ เธอเหยียบมือเขาโดยไม่ได้ตั้งใจและเขาได้บอกแม่เขาว่ามือเขาโดนหมูเหยียบ…
ความทรงจำยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจของเธอ แจ็คสันปีนขึ้นไปบนเตียงหลังเที่ยงคืนและยืนกรานที่จะนอนข้าง ๆ เธอ ขาเธอข้างหนึ่งอยู่บนลำตัวของเขา แต่เขาไม่ได้ผลักมันออกและปล่อยให้เธอวางมันไว้ตรงนั้น …
“คุณตั้งใจจะไม่แต่งงานจริง ๆ เหรอ?” เธอเปลี่ยนเรื่องคุย
“การแต่งงานมันดีตรงไหนเหรอ? คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะมีคนคอยควบคุมคุณอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เพียงเท่านั้น แต่คุณยังต้องพร้อมที่จะรับโทรศัพธ์เพื่อดูแลเขาตลอดเวลา มันสนุกตรงไหน? ผมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ และผมก็ไม่มีวันยอมทรมานเช่นนั้นด้วย ผมมีความสุขกับการอยู่เป็นโสด” แจ็คสันพูดห้วน ๆ โดยยังคงซื่อสัตย์ต่อแผนการอยู่เป็นโสด
“คนอย่างคุณสมควรที่จะอยู่คนเดียว! มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิด สมัยนี้ผู้หญิงไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกันหมด ตอนที่ฉันคบกับอีธานตอนนั้น ฉันเป็นฝ่ายดูแลเขาตลอดระหว่างที่เขาไม่ได้สนใจอะไรฉันเลย ตอนนั้น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรทำให้ฉันกระตือรื้อร้นที่จะดูแลเขาทั้ง ๆ ที่เขาปฏิบัติกับฉันแบบนั้น ตอนนี้ฉันสูญเสียพลังนั้นไปแล้ว ตรงกันข้าม เขากลับกลายเป็นเหมือนฉันในอดีต อย่างนี้เขาเรียกว่าการสลับบทบาทกันหรือเปล่าล่ะ?” ทิฟฟานี่ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขาจึงใช่ตัวเองเป็นตัวอย่าง
เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “คุณสูญเสียพลังนั้นไปแล้วเหรอ? นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้รักเขาแล้ว คุณแค่ตกลงที่จะกลับไปคบกับเขาเพื่อที่จะฟื้นความสมดุลที่คุณเคยมีในตอนนั้น คุณต้องไปทำความเข้าใจกับตัวเองใหม่นะเด็กน้อย”
เธอกรอกตาใส่เขา “คุณนั่นแหละเด็กน้อย! ไม่สิ คุณคือชายชรา!”
แจ็คสันขมวดคิ้ว “คุณเรียกใครว่าชายชรา? ผมอายุมากกว่าคุณตั้งหลายปีเพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมจะปฏิบัติต่อคุณเหมือนเด็กน้อย อีกอย่าง ผมยังไม่ถึงอายุที่คุณจะเรียกผมว่าชายชราได้! อย่าเรียกผมแบบนั้น!”
ในที่สุดบรรยากาศระหว่างเขาสองคนก็เริ่มตึงเครียดน้อยลง ทิฟฟานี่จึงอยากเถียงเขา “คุณจะห้ามให้ฉันเรียกคุณตามที่ฉันต้องการไม่ได้หรอก! ถ้าคุณสามารถก็ลองทำให้ฉันหุบปากสิ! ฉันมีสิทธิ์ที่จะเรียกคุณว่าชายชราแม้ว่าคุณจะอายุมากกว่าฉันแค่หนึ่งวันก็ตาม! แล้วทำไม? คุณจะทำอะไรฉัน?”
แจ็คสันหรี่ตามองเธอ เขาลดเสียงลงและถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน “คุณอยากจะลองดูเองไหมล่ะว่าผมเป็นชายชราจริงรึเปล่า?”