บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 217 เสบียง
“แหม ข้าไม่คิดเลยนะว่าท่านพี่จะเลือกข้ามาเป็นผู้ช่วย แบบนี้”จอหลานยิ้มพลางเดินเข้ามาในท้องพระโรงอย่างสง่า ผ่าเผย
“ช่วยไม่ได้หรอก เรื่องนี้เจ้าเตรียมตัวมาพร้อมที่ สุดแล้ว”อูหมิงตอบพลางอ่านเอกสารที่เหล่าขุนนางส่ง มาให้อย่างเคร่งเครียด
“ตลอดเดือนที่ผ่านมาท่านเองก็ทําได้ดีไม่ ใช่หรือ”จอหลานถามพลางยิ้มหวาน แม้แต่นางเอกงยังไม่อยากจะเชื่อว่าอู่หมิงจะทําได้ดีเช่นนี้ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของมัน เอาแต่เดินทางกับท่านอาวุโสเทียนหมิงแท้ๆ หรืออาจจะเพ ราะมันเดินทางไปไหนต่อไหนมาเยอะ ทําให้อู่หมิงทราบภูมิ ศาสตร์ของสนามรบตรงนั้นดีกว่าคนที่อ่านแต่จากตํารากระ
“ยังดีไม่พอ ถึงพวกเราจะต้านเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้าน ได้อีกนานแค่ไหน”อูหมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา แค่ การที่อู่หมิงสามารถส่งกําลังคนไปต้านรับกําลังของ 3 อาณาจักรอย่าง ฮัว จง ซุย เอาไว้ได้ทั้งๆที่พวกมันโจมตีเข้า มาพร้อมกันนั้นก็น่าเหลือเชื่อพอแล้ว ท่าทางอี้หมิงจะทราบ ฝีมือของแม่ทัพฝั่งตัวเองดีทีเดียว แถมยังคาดเดากําลังของ อีกฝ่ายได้แม่นยําไม่น้อย ทําให้สถาณการณ์ที่ควรจะเละเทะ ไม่เป็นท่ายังคงอยู่ในสภาพดูเชิงเช่นนี้ต่อไปได้
“แล้ว ตอนนี้ท่านประสบปัญหาอะไรหรือถึงได้เรียกข้า มา”จ่อหลานถามพลางนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งขวามือของอูหมิง
“เรื่องเสบียงที่จะส่งไปให้แนวหน้านะสิ”อูหมิงตอบเสียง เรียบ เพราะอยู่ในสภาวะสงคราม ทําให้การเกษตรใกล้เคียง กับเขตสงครามทําผลผลิตได้ยากมาก แถมพวกอาณาจักรซุย ยังส่งคนมาก่อกวนเขตการเกษตรของอาณาจักรอู่อยู่บ่อยๆ แต่จะจัดคนมาคุ้มกันก็ไม่ได้เพราะต้องใช้กําลังคนใน การรับมือทัพใหญ่ แถมยังมีพวกมาดักปล้นเสบียงกลางทาง อีกต่างหาก
“ไม่เห็นยาก ก็ยึดเอาจากชาวบ้านก็หมดเรื่อง ตอนนี้พึ่ง เริ่มเข้าสภาวะสงคราม พวกชาวบ้านต้องกักตุนเสบียงเอา ไว้เป็นของตนเองแน่ๆ แค่บุกเข้าไปในบ้านแล้วยึด มาซะ” จือหลานยิ้มพลางมองท่าทีของอู่หมิงนิ่ง แต่เห็นอู่ห มิงไม่มีท่าที่สะดุ้งสะเทือนเลยนางจึงทราบว่าอู่หมิงไม่ได้ติด กับคํายั่วยุของนาง
“เจ้าเลิกล้อเล่นเถอะ”อูหมิงส่ายหน้า พลางจ้องมองคือหลานอย่างจริงจัง แม้นางจะกระหายสงค รามแต่นางก็ไม่ใช่ผู้นําที่เลวร้ายพอจะปล้นคนของตนเอง
“มันก็มีหลายๆวิธีอย่างเร่งกําลังผลิต ปล้นเอาจากค่าศึก หรือไม่ก็รับซื้อเอาจากอาณาจักรอื่น”ได้ยินที่จื่อหลานพูดอู่ห มิงก็ไม่มีท่าที่ประหลาดใจเท่าไหร่ ความจริงมันก็คิดเอาไว้อ ยู่แล้ว แต่การเร่งกําลังผลิตนั้นต้องใช้เวลา อี้หมิงได้ส่ง พันธ์พืชและปุ๋ยไปให้เมืองต่างๆช่วยเหลือเรื่องปลูกพืชเพื่อ ทําเป็นเสบียงเอาไว้แล้ว แต่มันก็ยังแก้ปัญหาในตอนนี้ไม่ได้ แถมยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีใครเข้ามาทําลายหรือไม่อีกต่าง หาก
ส่วนการปล้นเอาจากศัตรู หากเป็นการรบระหว่าง อาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งอาจจะทําได้ แต่ด้วยกําลังคนที่ มากกว่าเกือบ 3 เท่าตัว พวกมันสารถส่งคนมาคุ้มกันเสบี ยงของตนได้ตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับฝั่งอาณาจักรอู่ที่ไม่ สามารถคุ้มครองเสบียงได้อย่างเต็มที่ ทําให้นอกจากเสียเสบี ยงไปเพราะการปล้นแล้วพวกมันยังเอาเสบี ยงไปเป็นของพวกมันอีกต่างหาก การโดนปล้นเสบี ยงก็ถือเป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน
ส่วนซื้อขายจากอาณาจักรอื่น ไม่ทราบจะหัวเรา ะหรือร้องให้ดี เพราะอาณาจักรที่ติดกับอาณาจักร อู่นั้นหันคมดาบมาทางอาณาจักรอุ้จนหมด เหลือเพียง อาณาจักรทางใต้และทะเลว่างเปล่าทางตะวันออกเท่านั้นที่ ยังไม่หันคมดาบใส่อาณาจักร แต่ทางใต้นั้นก็มีเขตอสูรผา ไร้กันกั้นเอาไว้ ทําให้ไม่สามารถติดต่อกับอาณาจักรทางใต้ ได้เลย ทางเดียวที่พวกมันจะไปซื้อขายกับอาณาจักรทางใต้ ได้นั้นคือต้องอ้อมเส้นทางผ่านอาณาจักรชูไป แน่นอนว่าหา กพิธีอภิเษกผ่านไปได้ด้วยดีพวกมันคงสามารถใช้เส้นทาง นี้เดินทางไปยังอาณาจักรหลิวเพื่อซื้อเสบียงได้ แต่นั้นก็เป็น ระยะทางที่ไกลเกินไป กว่าจะเดินทางไปและกลับข้าวที่ปลูก เอาไว้คงเก็บเกี่ยวได้ 2 รอบแล้ว ส่วนทางฝั่งทะเลว่างเปล่า หากออกเรือไปหลายเดือนก็อาจจะเจอแผ่นดินสักแห่ง แต่ นั้นก็คงฝันลมๆแล้งๆเกินไป
“เป็นอย่างที่คิด ปล้นเอาจากประชาชนง่ายที่สุดจ ริงๆ”จ่อหลานหัวเราะพลางแหย่อู่หมิงอีกครั้ง ทําเอาอู่หมิง ส่ายหน้าพลางลุกขึ้นยืนด้วยท่าที่เหนื่อยอ่อน
“ข้าจะไม่ทําเช่นนั้นหรอก ขอข้าคิดหา วิธสักครู่แล้วกัน”อู่หมิงว่าพลางเดินออกไปช้าๆ ตอนนี้ความ ได้เปรียบแต่เดิมของอาณาจักรธุ์อย่างเสบียงอาหารโดนพวก อาณาจักรซุยเผาทําลายไปมาก โชคดีมากแล้วที่ยารักษายัง สามารถผลิตได้อย่างไม่มีปัญหา แม้เมืองจะพึ่งถูกทําลายแต่ เหล่านักล่าอสูรยังคงออกเดินทางไปยังเขตอสูรเพื่อนําสมุน ไพรกลับมาให้สมาคมแพทย์ปรุงยาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือปัจจัยสําคัญที่ทําให้อาณาจักรอู่ยังยื้ออยู่ได้เป็นเดือน แต่ยาไม่สามารถกินให้อิมได้ ตอนนี้อู่หมิงจําเป็นต้องกาเสบี ยงมาเพิ่มระหว่างรอให้ผลผลิตรอบต่อไปงอกงาม
และอย่างที่จื่อหลานว่า แม้จะไม่ถึงกับปล้นประชาชนแต่ หากยึดเอาเสบียงของชาวบ้านส่งไปยังแนวหน้าย่อมสามาร ถผ่านพ้นปัญหาในช่วงนี้ไปได้ แต่นั่นก็จะทําให้ความตั้งใจขอ งชาวบ้านลดลง ในตอนนี้พวกมันยังจําเป็นต้องพึ่งพาอาศัย ชาวบ้านเพื่อผลิตพืชผลต่อไป หากไม่โดนบีบคั้นจริงๆอี้หมิง ก็อยากจะเก็บทางเลือกยึดอาหารเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านัน
โครม! ขณะอู่หมิงกําลังเดินออกมาพักสมอง ร่างๆหนึ่งก็ร่ วงตุบลงมาจากหลังคา ตอนแรกอู่หมิงเป็นห่วงคนที่ร่วงลง มาอยู่บ้าง แต่พอเห็นว่านางคือหลินหลินอี้หมิงก็ปัดเรื่องนาง จะบาดเจ็บทิ้งไปทันที เกราะหนาๆของนางที่แม้แต่อาวุ ธวิเศษยังฟันไม่เข้าจะมาเสียหายจากการตกหลังคาได้อย่าง
“พี่หมิง” หลินหลินมองอี้หมิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้านางอ ย่างประหลาดใจ เพราะเขตที่หลินหลินอยู่เป็นเขตของซูหลานนั่นเอง
ฟุบ..พอหลินหลินร่วงลงมาจากหลังคา ปิงปิงก็โผล่ออก มาในสภาพห้อยหัว นางมองมาทางอี้หมิงเช่นเดียวกับหลิน หลินราวกับจะถามว่าอู่หมิงมาที่นี้ทําไมกัน
“พวกเจ้านี่ซนกันจริงๆ ”อูหมิงยิ้มออกมาพลางมองหลิน หลินที่กําลังปัดเอาหิมะออกจากเสื้อผ้าตนเอง ไม่ทราบพวก นางเล่นอะไรกันถึงได้มีหิมะกลางหน้าร้อนได้ แต่เห็นท่าทาง พวกนางสดใสเช่นนี้ความเครียดในหัวของอู่หมิงก็เบาบางลง เล็กน้อย
“ซูหลานอยู่หรือเปล่า ข้ามาดูอาการของนาง”อูหมิง ว่าพลางมองเข้าไปในห้องของซูหลาน
“พี่ไปกําลังตรวจร่างกายให้พี่ซูหลานอยู่” หลินหลินตอบพลางรับร่างของปิงปิงที่กระโดดลงมาจากหลังคาเช่นกัน
“ไปจูเหวินอยู่ที่นี่งั้นเหรอ”อูหมิงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ จะเรียกว่าพอดีเลยก็ว่าได้เพราะมันกําลังมีปัญหา คาใจอยู่พอดี แถมหนึ่งในนั้นยังเกี่ยวกับอสูรที่กลุ่มนักล่าอ สูรเป็นผู้เชี่ยวชาญอีกต่างหาก
“ขอบใจ ข้าจะเข้าไปดูอาการของซูหลานหน่อย”อี้หมิง ว่าพลางเดินผ่านพวกหลินหลินเข้าไปในอาคาร เมื่อมาถึง ห้องของซูหลานสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูก็ก้มหัวลงพลาง เข้าไปรายงานซูหลานทันที
“อาการของซูหลานเป็นอย่างไรบ้าง”หมิงถามพลางเดิน มานั่งลงข้างๆไปจูเหวินที่อยู่ข้างเตียงของซูหลาน
“นางไม่เป็นอะไรแล้ว พอเอาปรสิตออกมาก็เหลือแค่รักษาแผลบนแขนเท่านั้น”ไปจูเหวินตอบ ซึ่งแผลบนแขนขอ งซูหลานหายไปนานแล้วเพราะนางถือครองพลังธาตุศักดิ์สิ ทธิ์ แต่เพราะความเป็นห่วงของอดีตพระมเหสีนาง เลยขอร้องให้ไปจูเหวินเข้ามาดูอาการของซูหลานอีกหน่อย
“ตอนนี้ข้าเป็นห่วงเจ้ามากกว่า งานของจักรพรรดิคงเห นื่อยน่าดู”ไปจเหวินยิ้มพลางมองสีหน้าของอูหมิง แม้ ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณจะสามารถอดนอนได้หลายวันติ ดต่อกัน แต่ขอบตาของอู่หมิงก็คล้ําลงมาก ท่าทางหนึ่งเดือน ที่ผ่านมามันคงไม่ค่อยได้นอนเลย
“ใช่ มันเป็นภาระที่ใหญ่จริงๆ”อู่หมิงถอนหาย ใจพลางผ่อนท่าที่จริงจังลง ยามเมื่อมันอยู่กับน้องสาวและส หายมันสามารถผ่อนไหล่ลงเอนหลังเล็กน้อยเพื่อเข้าสู่ท่าทาง สบายๆได้บ้าง ไม่จําเป็นต้องทําตัวองอาจอยู่ตลอดเหมือ นตอนอยู่บนบัลลังก์
“เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ ยังไงเราก็เป็นสหาย กันข้ายินดีช่วยอยู่แล้ว”ไปจูเหวินถามพลางมองไปทางอี้หมิง ราวกับกําลังรอคอยคําตอบ
“ถ้าเจ้ามีวิธีผ่านเขตอสูรผาไร้กก้นเพื่อซื้อเสบียงจาก อาณาจักรหลิวได้ก็คงดี”อู่หมิงว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ แม้แต่ อาวุโสเทียนหมิงยังต้องเตรียมตัวอยู่นานเพื่อลักลอบเข้าไป หาสมุนไพรในเขคอสูรผาไร้กัน ในวันแรกที่ธุ์หมิงและไปจู เหวินได้เจอกันหากไปจูเหวินไม่ได้มอบยาให้มันก็ไม่ทราบเช่ นกันว่าอาวุโสเทียนหมิงจะได้กลับมาหรือไม่ แน่นอนว่า หากจัดยอดฝีมือสัก 5 คนเพื่อเดินทางผ่านเขตอสูรผาไร้ก้น อาจจะพอมีหวัง แต่นั่นก็เท่ากับอู่หมิงต้องยอมเสียกําลังสํา คัญไปเลยก็ว่าได้
“หรือไม่ก็ หาวิธีขนส่งเสบียงโดยไม่ถูกปล้น”อู่หมิง พูดออกมาลอยๆราวกับจะต้องการเพียงระบายออกมาเท่า นั้น เพราะมันยังไม่ทราบเรื่องพลังของไปจูเหวิน จะ ว่าแปลกหรือก็ว่าได้อี้หมิงที่เป็นสหายสนิทของไปจูเหวินยัง ไม่เคยเห็นตอนที่ไปจูเหวินทําให้อสูรน่า กลัวๆเชื่องเลยสักครั้ง
“ทําไมจะไม่มีล่ะ”ไปจูเหวินตอบออกไปตามตรง แม้ สําหรับคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องทําได้ยาก แต่สําหรับไปจูเหวิ นนั้นการผ่านเขตอสูรผาไร้กันเป็นเรื่องง่ายดายมาก เพ ราะมันแทบไม่ต่างจากเดินผ่านบ้านตัวเองเลย เพียงแต่ไปจู เหวินไม่อยากให้คนของอาณาจักรเข้าไปเดินเข้าออกเขตอ สูรเสียเท่าไหร่ ท่าทางมันคงต้องไปจัดการด้วยตนเองเสีย แล้ว
“เห็นไหม เจ้าเองก็ไม่มีวิธีอะไรนะ”อูหมิงสะดุ้งโหยง เมื่อทราบว่าไปจูเหวินสามารถทําสิ่งที่มันบอกไปได้
“ข้าบอกเจ้าว่า ข้าสามารถเดินทางไปอาณาจักรหลิวได้ และยังมีวิธีขนเสบียงของเจ้าโดยไม่โดนปล้นกลางทาง อีกด้วย”ไปจเหวินยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นใบหน้าที่ นตกใจของอี้หมิง
“จะ จริงงั้นเหรอ”อูหมิงถามย้ําด้วยความตื่นเต้น หากสา มารถทําได้ปัญหาเรื่องเสบียงจะเบาลงทันที ทําให้ยังสา มารถยื้อกําลังอยู่ที่เขตชายแดนต่อไปได้ และนั่นจะทําให้อู่ห มิงสามารถเดินแผนขั้นต่อไปได้นั่นเอง