ตอนที่ 1141 ไม่มีวันแทนที่ได้

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

แม้ว่าถังหนิงจะออกปากแนะนำแล้ว ซูโยวหรานก็ยังคงไม่ได้ทำตามที่บอก จริงๆ แล้วเธอเป็นห่วงความรู้สึกของหนานกงเฉวียนมากกว่า

ไม่สิ ว่ากันตามจริง เธอเริ่มสนใจความรู้สึกของหนานกงเฉวียนไปโดยไม่รู้ตัว เธอจึงยังไปรับเสี่ยวต้านเขอกับฝาแฝดแยกกันต่อไป

หลังจากอยู่บ้านตระกูลหนานกงมาหลายวัน เธอก็ยังไม่ค่อยมีโอกาสเจอหนานกงเฉวียนเพราะเขาค่อนข้างงานยุ่ง

ด้วยเขาเพิ่งกลับมาที่ปักกิ่งไม่นาน จึงไม่ได้มีรากฐานมั่นคงอย่างโม่ถิง เขาจึงต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ซ้ำตอนนี้เขามีคนคอยดูแลเสี่ยวต้านเขอให้แล้ว จึงมีเวลาไปทุ่มเทกับการทำงานมากขึ้น

นั่นยิ่งทำให้ซูโยวหรานรู้สึกสั่นคลอนกับความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีวันนั้นหนานกงเฉวียนอาจจะทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และไม่ได้หมายความอย่างที่เขาพูด

ทว่าในคืนนั้น จังหวะที่เธอเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง ก็ได้เจอกับหนานกงเฉวียนที่บันไดตอนที่เขาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน

สายตาพวกเขาสบประสานกัน ซูโยวหรานส่งยิ้มบางให้ขณะไม่ได้หยุดเท้าซึ่งเดินไปที่ห้องของเธอ อย่างไรก็ตามหนานกงเฉวียนเรียกรั้งเธอไว้ “คืนพรุ่งนี้คุณมีเวลาว่างหรือเปล่าครับ”

“หือ”

“คุณอยากจะไปดูหนังด้วยกันไหมครับ” หนานกงเฉวียนถามด้วยท่าทีจริงจัง

เธอชะงักไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้า “โอเคค่ะ เจอกันหน้าโรงตอนสามทุ่มแล้วกันนะคะ”

เพราะพวกเขาต้องเก็บเป็นความลับจากเสี่ยวต้านเขอกับคุณนายซู เป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องแยกกันออกจากบ้าน หนานกงเฉวียนพยักหน้ารับก่อนกลับห้องตัวเองไป

พวกเขาจะไปดูหนังด้วยกัน…

หนานกงเฉวียนทำให้ซูโยวหรานสับสนระคนว้าวุ่น ชายคนนี้ตบปากรับคำว่าจะทำกับเธออย่างคู่นัดบอด ทว่าหลังจากวันนั้น เขาก็ยุ่งอยู่ตลอดเวลาและไม่ได้สนใจเธอมากนัก ตอนนี้เขากลับมาชวนเธอไปดูหนัง หรือนี่เป็นลูกเล่นของผู้ชายกันนะ เขากำลังเล่นตัวอยู่หรือ

ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ซูโยวหรานก็ยังตัดสินใจแต่งตัวไปเล็กน้อย เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีดำได้รูปและยังพยายามใส่รองเท้าส้นสูง แม้ว่าจะเดินลำบากไปบ้างเธอก็ยังมาถึงโรงภาพยนตร์ตรงเวลา หนานกงเฉวียนมาถึงก่อนเวลาและกำลังรอเธออยู่

เมื่อเห็นการแต่งตัวของเธอ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเคยชินกับภาพเธอในเสื้อยืดกางเกงยีนมากกว่า มันทำให้เธอดูสดใสและร่าเริงกว่า

“ต่อไปคุณแต่งตัวสบายๆ ก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวอย่างนี้หรอก…”

ซูโยวหรานพยักหน้ารับ “โอเคค่ะ” เธอเองก็ไม่ชอบแต่งตัวอย่างนี้เช่นกัน

“ไปด้านในกันเถอะครับ…”

พูดจบ หนานกงเฉวียนยื่นมือมาให้เธอ

เดิมทีเขามีตัวเลือกในการจองการฉายภาพยนตร์รอบพิเศษเป็นการส่วนตัวและดูภาพยนตร์สองต่อสองกับซูโยวหราน แต่เขารู้สึกว่าเธอคงสบายใจที่จะได้ทำความรู้จักกันอย่างเช่นคนทั่วไปมากกว่า

ดังนั้นแม้จะสุ่มเสี่ยงกับการโดนจับได้ เขาก็ยังยืนยันจะพาเธอไปโรงภาพยนตร์ทั่วไป

ตอนนั้นเองที่รถยนต์สีดำคันหนึ่งปรากฏขึ้นด้านนอกโรงภาพยนตร์ ชายสูงอายุวัยหกสิบเจ็ดปีพร้อมผมขาวบนศีรษะนั่งอยู่ด้านใน สบถออกมาในขณะที่มองหนานกงเฉวียนกับซูโยวหรานหายเข้าไปในโรงภาพยนตร์ “ไอ้สวะไร้ค่า”

มีแค้นที่ต้องตามสะสาง แต่เขาก็ยังเสียเวลาไปกับการจีบสาวและมาเดต!

“นายครับ เราต้องไปแล้วครับ”

“อย่างนั้นก็ไปสิ” เขาสั่งคนขับรถขณะกระแทกไม้เท้าลงกับพื้น “ช่วยฉันสืบประวัติผู้หญิงคนนี้ทีหลังด้วย…”

“ครับผม”

“ตอนนี้หลานของฉันเติบโตขึ้นมาแล้วก็ลืมไปแล้วว่าตระกูลหนานกงพังทลายได้ยังไง

“แต่ฉันไม่มีทางลืมลง! …

โชคดีที่ฉันยังมีฝีมืออยู่ ถ้าฉันต้องรอให้ตระกูลหนานกงช่วยแก้แค้น ฉันว่ามันคงไม่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของฉันแน่…”

ดูท่าทีของหนานกงเฉวียนแล้ว ชายสูงวัยรู้ว่าเหตุใดชิวจิ้นถึงสิ้นหวังจนสมควรตาย!

ในขณะเดียวกัน ถังหนิงกับโม่ถิงยังไม่ได้ข่าวว่าผู้อาวุโสหนานกงถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกแล้ว อย่างไรเสียทุกคนต่างคิดว่าสุดท้ายชายแก่คงจะตายอยู่ในคุก

แม้แต่หนานกงเฉวียนยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ล่าสุดของปู่ตัวเอง ความจริงแล้วชายแก่ได้สร้างคุณงามความดีไว้ในคุกมากมายจนได้รับการตัดสินลดโทษ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพันธมิตรใหม่เป็นโขยง ทันทีที่เขาถูกปล่อยตัวออกมา เขาเปลี่ยนชื่อโดยไม่ได้บอกใครทั้งนั้น อย่างไม่เชื่อใจใครหน้าไหนและกลัวว่าจะถูกศัตรูตามแก้แค้น

ตอนแรกมันทำให้เขาต้องเสียเวลาเข้ารับการรักษาอาการป่วยอยู่ที่อเมริกา หลังจากที่ฟื้นตัวแล้ว เขาได้ยินว่าหลายชายกำลังกลับมาที่จีน เดิมทีเขาคิดว่าหลานตัวเองจะแก้แค้นให้ แต่ก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นว่าหนานกงเฉวียนเที่ยวจีบสาวไปทั่วแทน!

ช่างน่าผิดหวังจริงๆ!

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องพึ่งตัวเองเสียแล้ว

เขาอยากจะเห็นว่าตระกูลโม่จะมั่นคงและแข็งแกร่งเพียงไหน

ตอนนี้เองที่มดราชินีสองของถังหนิงพร้อมจะดำเนินการ พวกเขาเพียงรอกำหนดวันเปิดกองเพื่อจะได้เดินกล้องถ่าย นักแสดงหน้าใหม่ที่ถูกคัดตัวมายินดีกับโอกาสที่หาได้ยากในการทำงานกับถังหนิง พวกเขาจึงอ่อนน้อมและทุ่มเทเป็นพิเศษ โดยเฉพาะลัวเซิง เขาฝันที่จะแสดงในภาพยนตร์ของถังหนิงมานาน แม้เขาจะถูกถังหนิงค้นพบ แต่ก็ไม่เคยถูกเลือกเป็นนักแสดงของเธอเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับพวกเขาสักครั้ง

ดังนั้นแม้เธอจะเป็นคนค้นพบความสามารถของเขา เธอคงไม่มีทางพิจารณาเขาหากไม่เหมาะสมจริงๆ

แน่นอนว่าถังหนิงมีส่วนร่วมกับการคัดเลือกนักแสดงและทีมงาน ว่าแต่แล้วคนอื่นๆ เล่า

ผู้อาวุโสหนานกงรวบรวมข่าวความคืบหน้าของภาพยนตร์ของถังหนิงจากช่องทางต่างๆ เขามีจุดประสงค์เรียบง่ายอย่างหนึ่ง เขาต้องการแอบแฝงตัวไปในทีมงานวางระเบิด

หากยังมีโอกาสลงมือด้วยตัวเอง ความฝันของเขาคือการเข้าไปในฝ่ายที่ไม่ได้เป็นที่สังเกตแต่สำคัญนี้… ที่เขาต้องทำก็แค่สร้างสถานการณ์แล้วโม่ถิงก็จะถึงแก่ชีวิต

ด้วยจุดประสงค์นี้ ชายสูงวัยต้องปิดบังตัวตนของตัวเอง เขาจึงยินดีที่ไม่ได้ไปหาหลานชายตัวเอง

ทำเพียงคอยตามอยู่เรื่อยๆ และพบว่าอีกฝ่ายกำลังวุ่นอยู่กับการจีบสาว…

“มาเลือกฤกษ์ดีที่จะเริ่มถ่ายทำมดราชินีสองกันเถอะค่ะ”

กลางดึกคืนหนึ่งขณะที่ถังหนิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของโม่ถิง เธอเอ่ยเสียงงัวเงียก่อนที่จะเข้านอน “ฉันรอดูคุณแสดงเป็นตัวร้ายไม่ไหวแล้วละค่ะ”

โม่ถิงลูบหลังเธอพลางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ตราบใดที่เป็นความต้องการของภรรยา เขายินดีที่จะทำให้อยู่แล้ว “พักผ่อนก่อนเถอะครับ ไว้เราคุยเรื่องกำหนดการกันพรุ่งนี้นะครับ”

“ถิงคะ…ฉันรู้ว่าคุณเหนื่อยมาก แต่ฉันก็เห็นแก่ตัว ฉันอยากเห็นคุณอยู่ในหนังทุกๆ เรื่องของฉันค่ะ

“คุณต้องเป็นคนพิเศษของฉัน คุณจะอยู่ได้แค่ในหนังของฉันเท่านั้นนะคะ

“อย่างที่คุณเป็นผู้จัดการกิตติมศักดิ์ของฉันไงคะ…”

ความหวงแหนนี้นั้นมีผลต่อใจโม่ถิง มันหมายความว่าใครก็ไม่มีวันแทนที่เขาในใจเธอได้

“ตามใจคุณเลยครับ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาเธอก็พลันลืมขึ้น ช้อนมองเขาด้วยแววตราตรึงและปรารถนา…

แววตาที่ดึงดูดโม่ถิงให้ดำดิ่งลงไป…