บทที่ 345 สูญเสียความทรงจำก็แยกแยะไม่ออกแล้วหรือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 345 สูญเสียความทรงจำก็แยกแยะไม่ออกแล้วหรือ?
เวินเส้าหยีหัวเราะเยาะตัวเองครั้งหนึ่ง ด้วยความสัมพันธ์ของสำนักอสุราและเผ่าเทียนเฟิ่นนี้ เจ้าสำนักชิงจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร

เก็บเขาไว้ เปลี่ยนจุดยืน ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปล่อยเจ้าสำนักชิงไว้เช่นกัน

เวินเส้าหยีเหลือบมองที่กำแพงหินเปลือยเปล่าและทะเลโลหิตที่เดือดพล่านแวบหนึ่ง เขาเคยคิดว่าจะตายด้วยมือของเจ้าสำนักอสุรา เคยคิดว่าจะตายด้วยน้ำมือของหอหนึ่งในหล้า เคยคิดว่าจะตายในมือของเย่จิ่งหาน แต่ไม่เคยคิดว่าจะตายอยู่ในนี้เพียงอย่างเดียว

“สำนักอสุราและเผ่าเทียนเฟิ่นมีความแค้นอะไรกันแน่?” กู้ชูหน่วนถาม

“เป็นความแค้นที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก เป้าหมายที่คนของสำนักอสุราทุกคนมีชีวิตอยู่ ก็คือหามุกมังกร ขุดรากถอนโคนเผ่าเทียนเฟิ่น อาหน่วน หากเจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นเพื่อน ก็อย่าได้ยุ่งเรื่องนี้”

เจ้าสำนักชิงไม่ได้ชี้แจงอย่างชัดเจน แต่จุดยืนของเขาแน่วแน่มาก ไม่เหลืองทางรอดให้ย้อนกลับได้สักนิด

กำลังภายในของเขาควบแน่นอยู่บนฝ่ามือ ยกมือขึ้นก็ต้องการจะสะเทือนให้กะโหลกของเวินเส้าหยีแตกสลาย

ไม่ต้องเอ่ยถึงเวินเส้าหยีที่โดนพิษดอกรัญจวนจนเหมือนตายทั้งเป็น มาเอ่ยถึงกำลังภายในของเขาที่แทบจะสูญสิ้น อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก จึงไร้หนทางตอบโต้ใดๆ

ในเวลานี้เขาเป็นเหมือนปลาบนเขียง ที่ปล่อยให้คนฆ่า

มือสองข้างของกู้ชูหน่วนเหยียดออก ขวางกั้นอยู่เบื้องหน้าของเขา กล่าวทีละคำทีละประโยค “ต้องการฆ่าเขา นอกซะจากจะฆ่าข้าก่อน ข้าติดหนี้เขาชีวิตหนึ่ง เพียงแค่ข้ายังมีลมหายใจอยู่เฮือกหนึ่ง ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้”

“อาหน่วน”

ในตาของเจ้าสำนักชิงเจ็บปวดทันที

นางสูญเสียความทรงจำ แม้แต่เรื่องถูกชอบชั่วดีก็แยกแยะไม่ออกแล้วหรือ?

ที่พวกเขาน่าอนาถถึงเพียงนี้ ทั้งหมดไม่ใช่เพราะเผ่าเทียนเฟิ่นหรือ?

นางในอดีต ทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะกำจัดคนทุกคนของเผ่าเทียนเฟิ่น โดยเฉพาะหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นและนายน้อยหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ตอนนี้นายน้อยหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นก็อยู่ตรงนี้ นางกลับสู้ตายเพื่อนปกป้องเขา

หากไม่รู้ว่านางสูญเสียความทรงจำทั้งหมด เจ้าสำนักชิงจะต้องเข้าใจผิดว่านางไม่ใช่นางแล้ว

“ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส ความสามารถก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เจ้าสังหารเขาก็ไม่ได้ชนะด้วยความสามารถ จะรอเขาจน…….”

“รอให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแล้วค่อยฆ่าเขาหรือ?” เสียงของเจ้าสำนักชิงเย็นชาลงเล็กน้อย

รอให้อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นแล้ว ค่อยคิดจะฆ่าเขาจะง่ายดายขนาดนี้ที่ไหนกัน นายน้อยหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นในใต้หล้านี้ ล้วนเป็นการคงอยู่ของบุคคลที่มีพรสวรรค์ผู้หนึ่งเช่นนั้น

ตอนนี้ความสามารถของเขาลดลงอย่างรวดเร็วถึงขั้นแรกระดับสี่ ก็ยากที่จะรับประกันว่าหลังจากที่ออกไปแล้วจะไม่ฟื้นคืนมาอย่างรวดเร็ว

“อะไรข้าก็สามารถรับปากเจ้าได้หมด มีเพียงเรื่องนี้อย่างเดียวที่ไม่ได้ เจ้าออกไป”

“อืม……”

เวินเส้าหยีเปล่งเสียงอันอัดอั้นด้วยความเจ็บปวด คลื่นความร้อนในร่างกายของเขาลูกแล้วลูกเล่า แม้ว่าเขาจะกัดริมฝีปากและลิ้นไว้แล้ว แต่สติของเขาก็ค่อยๆสูญหายไป

บวกกับเขาบาดเจ็บสาหัส ทั้งร่างกายอ่อนแอ อวัยวะภายใน เส้นเลือดแล้วเอ็นทั้งหมด เจ็บปวดจนเหลือทน แทบจะถึงจุดที่ย่ำแย่แล้ว

หากไม่ใช่เพราะเขากัดแขนอยู่ตลอด ฝืนบังคับตัวเองให้ได้สติ เกรงว่าคงจะเลอะเลือนโดยสมบูรณ์ไปนานแล้ว

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างดื้อรั้น “ข้าเคยบอกว่า เพียงแค่ของยังมีลมหายใจ จะไม่ให้ผู้ใดทำร้ายเขา หากเจ้าคิดจะเอาชีวิตเขา ก็ฆ่าข้าก่อนเถอะ”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าหรือ?” เจ้าสำนักชิงถูกนางทำให้โกรธแล้ว

คนในเผ่าของพวกเขาทุกคนล้วนถูกลงคำสาปโลหิต ผู้ชายทุกคนจะเน่าเปื่อยจากภายในสู่ภายนอก เจ็บปวดจนตายทั้งเป็น

ผู้หญิงทุกวันที่หนึ่งถึงสิบห้าของทุกเดือน พิษแห่งคำสาปโลหิตจะกำเริบ เหมือนตายทั้งเป็น

และทั้งหมดนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของเผ่าเทียนเฟิ่น

นางจะช่วยเวินเส้าหยีได้อย่างไร

“เช่นนั้นเจ้าก็ฆ่าเถอะ” กู้ชูหน่วนเงยหน้าหลับตาลง รอพลังฝ่ามือของเจ้าสำนักชิง

เจ้าสำนักชิงโมโหจนยกฝ่ามือตีไปทางกู้ชูหน่วน

เวินเส้าหยีมีสติขึ้นเล็กน้อย

เขาร้อนใจทันที อยากหยุดยั้ง แต่ทั้งร่างกลับไม่มีเรี่ยวแรงสักนิด ทำได้เพียงมองดูของฝ่ามือที่จำเป็นต้องฆ่านั่นตกลงมานิ่งๆ

ตื่นเต้น

หยุดหายใจ

เป็นกังวล

เวินเส้าหยีหายใจเร็วขึ้น