ตอนที่ 376

Black Tech Internet Cafe System

บันไดพันขั้นที่จะนำพาไปสู่ประตูหลักของกลุ่มไทชิ ตอนนี้เหล่าสาวกต่างจับมือกันเพื่อสร้างคลื่นผ่านบันไดกว้าง! รัศมีของพวกเขาทรงพลังไม่น้อย

 

“ใครมันกล้ามายุ่มย่ามกับกลุ่มไทชิของเรา!?” เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง

 

“ในนิมิตของข้าข้าเห็นเหมือนหยกที่หายากสีขาวราวหิมะมีช่องว่างอันชัดเจน” ชายคนหนึ่งกำลังท่องมนตร์

 

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “ข้ามองเห็นย้อนไปเมื่อพันปีก่อน!”

 

“สายลมและท้องฟ้ากำลังหัวเราะ” เสียงผู้หญิงกำลังสวดมนตร์ “หรือนี่ข้ากลับไปยังจุดสูงสุดของกลุ่มไทชิเพื่อตามหานักบวชเต๋ากันนะ”

 

ผู้คนต่างเงบหน้าขึ้นและเห็นผู้ฝึกฝนสี่คนกำลังเกาะอยู่บนท้องฟ้าดูคล้ายว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา

 

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ

 

“ข้าประหลาดใจที่ท่ายซู, ท่านเฉิน, ท่านจางและนักบวชผู้เฒ่าทั้งสี่ท่านออกจากโลกฝึกฝนในวันนี้!” ชายชราชุดขาวเอ่ยขึ้น เขาปรากฎตัวอยู่ตรงกลางของกลุ่ม เขาคือดู๋เหยา!

 

ความเห็นพุ่งพล่านบนหน้าจออีกครั้ง

 

“สุดยอด!”

 

“ยังกับเรื่องราวในบทกวี”

 

“โอ้โห พวกเขาดูเท่มาก!”

 

“แน่นอนว่าเมื่อเห็นพวกเขาที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าแบบนั้นแล้วไม่แปลกที่ทุกคนจะรู้สึกตื่นเต้น!”

 

“ข้ารู้สึกไม่ดีแทนเจ้าของร้าน ..”

 

ขณะเดียวกันผู้ชมในเมืองครึ่งกำลังเฝ้ามองหน้าจอยักษ์บนโซฟา

 

“ฝ่านนี้นี่น่ากลัว” ปีศาจดำเอ่ย

 

วังหลิงจ่าว, อาจารย์ซีชิและเตียนจู้เองก็นั่งดูอยู่ด้วยกัน “หืม!? ทำไมพวกเขาดูยิ่งใหญ่กว่าพวกเรา!”

 

ข้างๆ พวกเขาคือหลันโมและยื่อหยันต่างก็กระซิบกัน “ข้าคิดว่าพวกเขามีกลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยยิ่งใหญ่แล้วนะ แต่พอได้เห็นกลุ่มนี้แล้วทำไมพวกเขาช่างทรงพลังเช่นนี้?”

 

“มีการกล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปนั้น ..”

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าของร้านจะมีปัญหาหรือไม่?”

 

“ข้าหวังว่าไม่ ..”

 

“อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านเคยจัดการกับอะไรที่แข็งแกร่งมาแล้วตอนที่พวกเขาพาเราออกบิน ..”

 

“แล้วเขาจะทำยังไง? ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาสามารถหนีได้ด้วยเทคนิคควบคุมดาบ พวกมันจับเขาไม่ได้แน่!”

 

“เงียบ!”

 

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็เริ่มกังวลเมื่อเห็นฉากนี้

 

เวลาเดียวกันในจุดบนสุดของประตูกลุ่มไทชิ จิงซูชายผู้สวมหมวกทรงสูงกล่าวว่า “นักรบในอาณาจักรนักรบจักรพรรดิและนักรบบรรพบุรุษพวกเจ้าไม่สมควรต่อสู้กับพวกท่าน ให้ข้าจัดการกับพวกเขาเอง!”

 

“ประตูของเราถูกปกป้องโดยเจ้าขาวดำใช่มั้ย? ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าเฒ่าสองคนนั้นมัวแต่เล่นหมากรุกกันอยู่เป็นแน่ จึงได้ปล่อยให้กลุ่มของเราถูกนักรบชั้นต่ำบุกรุกเช่นนี้!” เล่าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย้ย

 

ดู๋เหยาพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณท่านจิงซู”

 

นักบวชเต๋าพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “เจ้าสองคนมาต่อสู้กับข้าดีกว่า ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะมีความสามารถมากแค่ไหน!”

 

ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับเจ็ดของอาณาจักรมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันเกินพอที่จะจัดการกับนักรบในระยะแรกของอาณาจักรนักรบ

 

ความเห็นบนหน้าจอพุ่งขึ้นอีกครั้ง

 

[เจ๋ง!]

 

[เมื่อไรข้าจะเจ๋งเหมือนเขาบ้าง!]

 

“เขากล้าที่จะต่อสู้กับผู้อาวุโสนาหลันฮงวูและเจ้าของร้านพร้อมกันหรือเปล่า? โถ่ทำเป็นพูด!”

 

สมกระโชกแรงขึ้นอาจารย์จิงซูเหาะขึ้นไปบนอากาศเขาควักมือเรียกชายสองคน “มาสิ!”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบดาบพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วที่ไม่อาจจินตนาการได้ ก่อนที่เขาจะตอบสนองกำปั้นขนาดใหญ่ก็พุ่งซัดเข้าที่หน้าเขาทันที

 

“อ่า!”

 

เสียงร้องดังขึ้น ร่างกายของเขากระแทกลงพื้นในทันที

 

ตุบ!

 

การล่วงหล่นของเขาทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ มองแล้วรู้เลยว่าแรงกระแทกนั้นแทบทำให้จมดิน

 

“ฮ่าๆๆๆ ผู้ฝึกฝนของไทชิเป็นง่อยหรอ?”

 

“คนง่ายนี่กล้าท้าทายผู้อาวุโสและเจ้าของร้านของเรา?”

 

ผู้ฝึกฝนในร้านหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

นาหลันฮงวูมองคนที่เหลือและเอ่ยเย้ยว่า “พวกเจ้ามาให้หมดเลยสิ!”

 

ผู้ฝึกฝนของกลุ่มไทชิต่างทำหน้างงไปตามๆ กัน

 

อาจารย์จิงซูเช็ดเลือดที่กระอักขึ้นใบหน้าของเขาและพูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ข้าประเมินพวกเจ้าต่ำเกินไป แต่พวกเจ้ากล้ารับมือกับพวกเขาทั้งสี่หรือ!?”

 

“สร้างสัญลักษณ์รอยสลักจิตวิญญาณอันยิ่งใหย่!” เสียงแหลมของนักบวชดังขึ้นอีกสามคนตอบรับพร้อมเพียงกัน

 

“สาวกไปที่ตำแหน่งของจางหยาง!” จิงซูคำรามด้วยความโกรธ เขาเหาะขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง

 

“ตำแหน่งเชาหยาง!” เล่าเฉินที่กระโดดลงมาจากประตูเพื่อประจำตำแหน่งที่สอง “สาวกแบ่งกันมาตำแหน่งเชาหยาง!”

 

“ตำแหน่งจางหยาง!”

 

“ตำแหน่งเชาหยิน”

 

ตามคำสั่งของจิงซูเหล่าสาวกแยกตัวไปประจำตามตำแหน่งที่พวกเขากำหนด ลมกรรโชกรุนแรงขึ้นอีกครั้ง นาหลันฮงวูและฟางฉีพวกเขากำลังยืนประครองตัวเองอยู่ใต้พายุ

 

“พวกเจ้าเห้นสิ่งนี้มั้ย?” จิงซูเย้ยหยันหลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้ติดอยู่ในรัศมีพลังของพวกเขา “แต่ไม่ต้องตกใจไปสิ่งที่พวกเจ้ากำลังเห็นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวพลังของพวกเราสี่คน ในรัศมีนี้พวกเจ้าไม่สามารถใช้พลังแก่นแท้ของสภาพแวดล้อมเพื่อร้องขอพลังจากสวรรค์และโลกได้ ข้าละอยากจะรู้จริงว่าพวกเจ้าจะมามุกไหนอีก!”

 

นาหลันฮงวูมองไปที่ฟางฉีและหยักไหล่ “ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ควบคุมดาบสายฟ้าของพระเจ้าได้”

 

ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต

 

“ดาบสายฟ้าของพระเจ้า!? มีจริงหรอ?”

 

“พวกเขาน่ารังเกียจมาก ใช้วิธีสกปรก!”

 

“ฮ่าๆๆๆๆ” จิงซูหัวเราะอย่างดุเดือดและพูดว่า “พวกเจ้าคิดว่าจะจัดการกับเราสี่คนพร้อมกันไหวงั้นหรอ? ข้ารอฟังเสียงอ้อนวอนขอชีวิตอยู่นะ”

 

ดู๋เหยาลูบเคราของเขาอย่างสงบและพยักหน้าพูดว่า “พวกเขาประเมินตัวเองสูงเกินไป ดูเหมือนว่าข้าคงไม่จำเป็นต้องแสดงฝีมือด้วยตัวเอง”

 

เขาสบัดแขนของเขาและหันหลังกลับ “ไปกันเถอะ!”

 

“ขอรับท่านอาจารย์!”

 

ขณะที่ดู๋เหยากำลังวางใจเขาสัมผัสได้ว่าสาระจิตวิญญาณของดาบกำลังขยายตัวกระจายไปทั่วท้องฟ้า

 

สาระจิตวิญญาณนี้ดูน่ากลัวราวกับว่ามันถูกส่งตรงมาจากนรกร่องรอยและพลังของมันทำให้บรรยากาศเริ่มหนาวสั่นเข้าไปในสันกระดูก

 

“ท่านอาจารย์!” เขาได้ยินเสียงเรียก “ระ ร่างกาย ขะ ของข้า .. ทำไมข้าถึงขยับไม่ได้!?”

 

นาหลันฮงวูตะโกน “เจ้ากล้าดูถูกนักรบงั้นหรือ!?”

 

“วันนี้ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นพลังของดาบระดับยี่สิบสามให้พวกเจ้าได้เห็นเป็นขวัญตา!”