บันไดพันขั้นที่จะนำพาไปสู่ประตูหลักของกลุ่มไทชิ ตอนนี้เหล่าสาวกต่างจับมือกันเพื่อสร้างคลื่นผ่านบันไดกว้าง! รัศมีของพวกเขาทรงพลังไม่น้อย
“ใครมันกล้ามายุ่มย่ามกับกลุ่มไทชิของเรา!?” เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง
“ในนิมิตของข้าข้าเห็นเหมือนหยกที่หายากสีขาวราวหิมะมีช่องว่างอันชัดเจน” ชายคนหนึ่งกำลังท่องมนตร์
อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “ข้ามองเห็นย้อนไปเมื่อพันปีก่อน!”
“สายลมและท้องฟ้ากำลังหัวเราะ” เสียงผู้หญิงกำลังสวดมนตร์ “หรือนี่ข้ากลับไปยังจุดสูงสุดของกลุ่มไทชิเพื่อตามหานักบวชเต๋ากันนะ”
ผู้คนต่างเงบหน้าขึ้นและเห็นผู้ฝึกฝนสี่คนกำลังเกาะอยู่บนท้องฟ้าดูคล้ายว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา
“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ
“ข้าประหลาดใจที่ท่ายซู, ท่านเฉิน, ท่านจางและนักบวชผู้เฒ่าทั้งสี่ท่านออกจากโลกฝึกฝนในวันนี้!” ชายชราชุดขาวเอ่ยขึ้น เขาปรากฎตัวอยู่ตรงกลางของกลุ่ม เขาคือดู๋เหยา!
ความเห็นพุ่งพล่านบนหน้าจออีกครั้ง
“สุดยอด!”
“ยังกับเรื่องราวในบทกวี”
“โอ้โห พวกเขาดูเท่มาก!”
“แน่นอนว่าเมื่อเห็นพวกเขาที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าแบบนั้นแล้วไม่แปลกที่ทุกคนจะรู้สึกตื่นเต้น!”
“ข้ารู้สึกไม่ดีแทนเจ้าของร้าน ..”
ขณะเดียวกันผู้ชมในเมืองครึ่งกำลังเฝ้ามองหน้าจอยักษ์บนโซฟา
“ฝ่านนี้นี่น่ากลัว” ปีศาจดำเอ่ย
วังหลิงจ่าว, อาจารย์ซีชิและเตียนจู้เองก็นั่งดูอยู่ด้วยกัน “หืม!? ทำไมพวกเขาดูยิ่งใหญ่กว่าพวกเรา!”
ข้างๆ พวกเขาคือหลันโมและยื่อหยันต่างก็กระซิบกัน “ข้าคิดว่าพวกเขามีกลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยยิ่งใหญ่แล้วนะ แต่พอได้เห็นกลุ่มนี้แล้วทำไมพวกเขาช่างทรงพลังเช่นนี้?”
“มีการกล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปนั้น ..”
“เจ้าคิดว่าเจ้าของร้านจะมีปัญหาหรือไม่?”
“ข้าหวังว่าไม่ ..”
“อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านเคยจัดการกับอะไรที่แข็งแกร่งมาแล้วตอนที่พวกเขาพาเราออกบิน ..”
“แล้วเขาจะทำยังไง? ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาสามารถหนีได้ด้วยเทคนิคควบคุมดาบ พวกมันจับเขาไม่ได้แน่!”
“เงียบ!”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็เริ่มกังวลเมื่อเห็นฉากนี้
เวลาเดียวกันในจุดบนสุดของประตูกลุ่มไทชิ จิงซูชายผู้สวมหมวกทรงสูงกล่าวว่า “นักรบในอาณาจักรนักรบจักรพรรดิและนักรบบรรพบุรุษพวกเจ้าไม่สมควรต่อสู้กับพวกท่าน ให้ข้าจัดการกับพวกเขาเอง!”
“ประตูของเราถูกปกป้องโดยเจ้าขาวดำใช่มั้ย? ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าเฒ่าสองคนนั้นมัวแต่เล่นหมากรุกกันอยู่เป็นแน่ จึงได้ปล่อยให้กลุ่มของเราถูกนักรบชั้นต่ำบุกรุกเช่นนี้!” เล่าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย้ย
ดู๋เหยาพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณท่านจิงซู”
นักบวชเต๋าพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “เจ้าสองคนมาต่อสู้กับข้าดีกว่า ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะมีความสามารถมากแค่ไหน!”
ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับเจ็ดของอาณาจักรมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันเกินพอที่จะจัดการกับนักรบในระยะแรกของอาณาจักรนักรบ
ความเห็นบนหน้าจอพุ่งขึ้นอีกครั้ง
[เจ๋ง!]
[เมื่อไรข้าจะเจ๋งเหมือนเขาบ้าง!]
“เขากล้าที่จะต่อสู้กับผู้อาวุโสนาหลันฮงวูและเจ้าของร้านพร้อมกันหรือเปล่า? โถ่ทำเป็นพูด!”
สมกระโชกแรงขึ้นอาจารย์จิงซูเหาะขึ้นไปบนอากาศเขาควักมือเรียกชายสองคน “มาสิ!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบดาบพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วที่ไม่อาจจินตนาการได้ ก่อนที่เขาจะตอบสนองกำปั้นขนาดใหญ่ก็พุ่งซัดเข้าที่หน้าเขาทันที
“อ่า!”
เสียงร้องดังขึ้น ร่างกายของเขากระแทกลงพื้นในทันที
ตุบ!
การล่วงหล่นของเขาทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ มองแล้วรู้เลยว่าแรงกระแทกนั้นแทบทำให้จมดิน
“ฮ่าๆๆๆ ผู้ฝึกฝนของไทชิเป็นง่อยหรอ?”
“คนง่ายนี่กล้าท้าทายผู้อาวุโสและเจ้าของร้านของเรา?”
ผู้ฝึกฝนในร้านหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
นาหลันฮงวูมองคนที่เหลือและเอ่ยเย้ยว่า “พวกเจ้ามาให้หมดเลยสิ!”
ผู้ฝึกฝนของกลุ่มไทชิต่างทำหน้างงไปตามๆ กัน
อาจารย์จิงซูเช็ดเลือดที่กระอักขึ้นใบหน้าของเขาและพูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ข้าประเมินพวกเจ้าต่ำเกินไป แต่พวกเจ้ากล้ารับมือกับพวกเขาทั้งสี่หรือ!?”
“สร้างสัญลักษณ์รอยสลักจิตวิญญาณอันยิ่งใหย่!” เสียงแหลมของนักบวชดังขึ้นอีกสามคนตอบรับพร้อมเพียงกัน
“สาวกไปที่ตำแหน่งของจางหยาง!” จิงซูคำรามด้วยความโกรธ เขาเหาะขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง
“ตำแหน่งเชาหยาง!” เล่าเฉินที่กระโดดลงมาจากประตูเพื่อประจำตำแหน่งที่สอง “สาวกแบ่งกันมาตำแหน่งเชาหยาง!”
“ตำแหน่งจางหยาง!”
“ตำแหน่งเชาหยิน”
ตามคำสั่งของจิงซูเหล่าสาวกแยกตัวไปประจำตามตำแหน่งที่พวกเขากำหนด ลมกรรโชกรุนแรงขึ้นอีกครั้ง นาหลันฮงวูและฟางฉีพวกเขากำลังยืนประครองตัวเองอยู่ใต้พายุ
“พวกเจ้าเห้นสิ่งนี้มั้ย?” จิงซูเย้ยหยันหลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้ติดอยู่ในรัศมีพลังของพวกเขา “แต่ไม่ต้องตกใจไปสิ่งที่พวกเจ้ากำลังเห็นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวพลังของพวกเราสี่คน ในรัศมีนี้พวกเจ้าไม่สามารถใช้พลังแก่นแท้ของสภาพแวดล้อมเพื่อร้องขอพลังจากสวรรค์และโลกได้ ข้าละอยากจะรู้จริงว่าพวกเจ้าจะมามุกไหนอีก!”
นาหลันฮงวูมองไปที่ฟางฉีและหยักไหล่ “ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ควบคุมดาบสายฟ้าของพระเจ้าได้”
ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต
“ดาบสายฟ้าของพระเจ้า!? มีจริงหรอ?”
“พวกเขาน่ารังเกียจมาก ใช้วิธีสกปรก!”
“ฮ่าๆๆๆๆ” จิงซูหัวเราะอย่างดุเดือดและพูดว่า “พวกเจ้าคิดว่าจะจัดการกับเราสี่คนพร้อมกันไหวงั้นหรอ? ข้ารอฟังเสียงอ้อนวอนขอชีวิตอยู่นะ”
ดู๋เหยาลูบเคราของเขาอย่างสงบและพยักหน้าพูดว่า “พวกเขาประเมินตัวเองสูงเกินไป ดูเหมือนว่าข้าคงไม่จำเป็นต้องแสดงฝีมือด้วยตัวเอง”
เขาสบัดแขนของเขาและหันหลังกลับ “ไปกันเถอะ!”
“ขอรับท่านอาจารย์!”
ขณะที่ดู๋เหยากำลังวางใจเขาสัมผัสได้ว่าสาระจิตวิญญาณของดาบกำลังขยายตัวกระจายไปทั่วท้องฟ้า
สาระจิตวิญญาณนี้ดูน่ากลัวราวกับว่ามันถูกส่งตรงมาจากนรกร่องรอยและพลังของมันทำให้บรรยากาศเริ่มหนาวสั่นเข้าไปในสันกระดูก
“ท่านอาจารย์!” เขาได้ยินเสียงเรียก “ระ ร่างกาย ขะ ของข้า .. ทำไมข้าถึงขยับไม่ได้!?”
นาหลันฮงวูตะโกน “เจ้ากล้าดูถูกนักรบงั้นหรือ!?”
“วันนี้ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นพลังของดาบระดับยี่สิบสามให้พวกเจ้าได้เห็นเป็นขวัญตา!”