นาหลันฮงวูรวบรวมพลังภายในของเขาเพื่อส่งพลังไปถึงเทคนิคดาบอันน่ากลัวมันสกัดพลังทางจิตวิญญาณของผู้ฝึกฝนสองคนนั้นทันที
“เป้นไปไม่ได้!”
“ใคร!? ใครเป็นคนทำ!?” ผู้ฝึกฝนสองคนมองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัวแต่แล้วเขาก็ไม่พบใคร
“มันอยู่ที่ไหน!? ใครโจมตี?” ผู้ฝึกฝนผมดำตะโกน “มันไม่ยุติธรรมกับการแอบโจมตีเช่นนี้! ออกมาสู้ให้รู้กันไปสิ ถ้าเจ้ากล้าพอ!”
ความโกรธแค้นผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ความเห็นเริ่มท่วมท้นหน้าจออีกครั้ง
[ต้องการต่อสู้หรอ? แล้วพวกเจ้าแอบอยู่ที่ไหนกันละ?]
[ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าบอกอย่าแอบแล้วพวกเจ้าละ? กล้าโจมตีตาจินของเรา]
[เจ้าของร้านเรายอดเยี่ยมาก เจ้าของร้านจะต้องทำลายที่ตั้งกลุ่มใหญ่ของพวกเขาให้เละจมดิน!]
บนหน้าจอปรากฎใบมีดที่พุ่งลงมาราวกับพายุ
ทางเข้าของกลุ่มกัลสู่สภาวะปกติในขณะเดียวกันรูปปั้นสัตว์ขนาดใหญ่กลับมาเป็นเหมือนเดิมและถูกวางลงที่เดิมอีกครั้ง ท้องฟ้าเริ่มปลอดโปร่ง
…
“ท่านอาจารย์! ท่านอาจารย์! ข่าวร้าย!”
คนภายในจากกลุ่มไทชิรีบวิ่งกุลีกุจ่อออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว
ดู๋เหยาที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวกำลังนั่งตกปลาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ใจเย็นๆ บอกข้าซิว่าเกิดอะไรขึ้น!?”
“.. น นายฟางจากร้านต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ที่นี่ เขากำลังสร้างปัญหาให้แก่กลุ่มของเรา!” สาวกพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“เขามาแล้วหรือ?” ดู๋เหยาหัวเราะและกล่าวว่า “ข้าประหลาดใจที่เขามาเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้ นี่แหละคือสิ่งที่ข้าต้องการ ไม่ต้องกังวล ประตูศักดิ์สิทธิ์นั่นได้รับการปกป้องจากเหล่าผู้อาวุโส แม้ว่าเขาจะมีพลังอำนาจมากแค่ไหนก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรที่จะบุกเข้าไป!”
“ไม่ ..” ศิษย์ตอบกลับ “พวกเขาพังมันแล้ว!”
“ใจเย็นๆ เจ้าจำสิ่งที่ข้าสอนได้มั้ย!?” เขาดึงเบ็ดตกปลาออกแล้วเงยหน้าขึ้น ดาบหลายเล็มก่อตัวคล้ายม่านยักษ์ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
จากนั้นดาบก็เทลงมาราวกับพายุเม็ดฝน!
“อาจารย์ ..” ศิษย์ส่งเสียงเรียกเขาอีกครั้งให้ตื่นจากภวังค์ “นั่น นั่น .. อะไร!?”
“กล้าดียังไง!?” ดู๋เหยาโยนเบ็ดตกปลาลงพื้นทันทีใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสี่เข้ม “ขาวดำอยู่ไหน? พวกเขาอยู่ไหน!?”
“รอยสลักจิตวิญญาณหินนั้นถูกบดแตก!” ศิษย์พูดด้วยน้ำเสียงกังวล “มันแตกสลาย ข้ากลัวว่าจะมีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้อาวุโสขาวดำ!”
“อะไร!?” ดู๋เหยาเคร่งเครียดกว่าเดิม “มันกล้าจริงๆ”
“พวกเขากล้ามากที่บุกมาที่กลุ่มของข้าและแตะต้องพวกเรา!” ดู๋เหยายิ้มพลางปัดฝุ่นออกจากเสื้อ “ออกมากับข้าสิ!”
“เรา .. เราควรเปิดใช้งานสาระจติสำคัญของเหล่าผู้พิทักษ์หรือไม่?” สาวกถาม
“กี่คน?”
“สอง” สาวกตอบพร้อมชูสองนิ้ว
“แค่สอง! แล้วมาทำหน้าตื่นตนก!” ดู๋เหยาพูดเสียงเย็น “สาระจิตสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่คอยปกป้องสมบัติที่ดีที่สุดของบรรพบุรุษ พวกเจ้าคิดว่าสองคนนี้สมควรได้รับสาระจิตสำคัญของเราหรือไม่?”
“อันเชิญพี่น้องชายหญิงผู้อาวุโสของเจ้าออกไปข้างนอกกับข้าเพื่อตรวจดูสถานการณ์”
“ขอรับ!” สาวกรับปากด้วยเหงื่อแตกซิก
…
ขณะเดียวกันที่เขตแดนทางตะวันออกของตาจิน กลุ่มเรือรบขนาดใหญ่จากภูเขาหลิงหลางที่กำลังเตรียมตัวพร้อมด้วยกองกำลังผู้ฝึกฝนหลายคน
“หืม?”
“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้อาวุโสเสื้อขาวมองไปรอบๆ “แปลก ..”
“มีอะไรผิดปกติหรือท่านผู้อาวุโส!?”
“รายงาน!” เวลานี้ผู้ส่งสารได้รายงานว่า “ท่านผู้นำได้ส่งข้อความให้เราย้ายไปที่เนินเขาอีกสิบห้ากิโลเมตรเพื่อพบกับผู้ฝึกฝนของทะเลมังกร”
ขณะเดียวกันเหล่าผู้ฝึกฝนจากทะเลมังกรเองก็ได้รับสารเช่นกัน “รายงาน! อาจารย์วังจากตาจินได้ย้ายกองกำลังเพื่อปิดกั้นผู้ฝึกฝนของภูเขาหลิงหลางเขาสั่งให้เราโจมตีเมืองหลวงของตาจินโดยตรง!”
ผู้ฝึกฝนของภูเขาหยกเองก็ได้รับข้อความเช่นกัน
ณ นอกประตูเมืองตาจิน
ในสงครามระดับนี้โดยส่วนมากหัวหน้าครอบครัวหรือผู้อาวุโสในครอบครัวส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นต้องลงมาต่อสู้ด้วยตัวเอง พวกเขาแค่ต้องการเคลื่อนย้ายทัพโดยใช้ผู้ปกครองหรือตัวแทน เพราะสำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นเพียงแค่สงครามที่ง่ายดายไม่จำเป็นต้องถึงมือ
ตอนนี้หัวหน้ากลุ่มต่างรวมตัวเพื่อร่วมฉลองชัยที่กำลังจะได้รับ
“มีการกล่าวว่าในตาจินได้เอาชนะหยุนเตียนระดับสูง พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าเราจะชนะสงครามนี้? เจ้าคิดเห็นยังไง?” หัวหน้าตระกูลจู้จากภูเขาหลิงหลางถามพลางตักอาหารเข้าปาก
“ข้าได้ยินมาว่าเรือจิตวิญญาณของภูเขาหลิงหลางนั้นเป็นสองรองจากตระกูลกงชูและมีการวางตำแหน่งการรบได้ดี” อาจารย์จากภูเขาหยกสวมเสื้อคลุมสีเขียวปรบมือของเขาและพูดด้วยเสียงชื่นชม “ตอนนี้หลิงหลางของเราได้ส่งเรือรบไปถึงสามสิบลำยังต้องสงสัยอีกหรอว่าเราจะเอาชนะได้หรือเปล่า”
“ฮ่าฮ่า! ขอบคุณสำหรับคำสรรเสริญของท่าน!” ผู้ฝึกฝนวัยกลางคนตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าแน่ใจว่าเรือรบของข้าดีพอๆ กับตระกูลกงชู นอกจากนี้ข้ายังได้ยินมาว่าสาระจิตสำคัญของกลุ่มทะเลมังกรนั้นไร้ที่ใดเทียบเทียม!”
“ขอบคุณ!” นักบวชจากทะเลมังกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จากความเห็นของข้าสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณของภูเขาหยกนั้นมีความพิเศษและทรงพลังข้าแน่ใจว่าพวกเขาต้องจัดการกับตาจินได้อย่างแน่นอนโดยไม่มีเวลาให้พวกเขาได้ตอบโต้เลยด้วยซ้ำ!”
“ฮ่าๆๆๆๆ” อาจารย์จากภูเขาหยกกล่าวต่อว่า “จากลักษณะที่เห็นข้ามองว่าตาจินก็คล้ายกับเค้กที่พร้อมจะเละทุกเมื่อ”
“ข้าไม่เห็นด้วยเลย พวกเขาได้รับผลประโยชน์จากการต่อสู้กับหยุนเตียนมากมาย นอกจากนี้ข้ายังได้ยินมาว่าหยุนเตียนมอบสมบัติหายากเกือบทุกชนิดให้แก่พวกเขา!” คนพูดคือชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีขาวเขาตะโกนขึ้นว่า “เราต้องกำจัดกองกำลังชั่วร้ายทั้งหมดในครั้งนี้ ต้องทำลายพลังความชั่วในตาจินให้หมดมันจะเป็นการดีสำหรับโลกการฝึกฝนของเรา!”
“นี่คือ .. อาจารย์ภูเขาหยกมองชายวัยกลางคนและเอ่ยถามอย่างสงสัย
“นี่คืออาจารย์จากกลุ่มดวงอาทิตย์”อาจารย์ของหลิงหลางแนะนำเขา “กลุ่มดวงอาทิตย์ไม่ค่อยออกมาโลกภายนอกเท่าไรนัก”
“พวกเราทุกคนเห็นด้วย!” อาจารย์จากภูเขาหยกกล่าวว่า “เราเพียงแค่รอที่นี่เพื่อรับข่าวดี”
“หืม?” ขณะเดียวกันนักบวชเต๋าของทะเลมังกรนำหยกสื่อสารออกมาเขารู้สึกว่ามันแปลก “แปลก ..”
“มีอะไรผิดปกติหรือ”
“ข้าส่งข้อความถึงผู้อาวุโสหลิวแต่กลับไม่ได้รับคำตอบกลับ” นักบวชทะเลมังกรกล่าวเสียงเรียบ
“เจ้าพูดถึงแล้วก็ ..” อาจารย์จากตระกูลจู้กล่าวด้วยเสียงข้องใจ “พวกเขามัวแต่ซึมซับกับสมบัติของตาจินจนไม่มีเวลาตอบกลับเลยหรือ!?”
“ดื่มเถอะ!” อาจารย์จากภูเขาหยกกล่าวว่า “ก็แค่ตาจิน เราจะได้รับข่าวดีแน่นอนหลังจากจับตัวจักรพรรดิ!”