ตอนที่ 374

Black Tech Internet Cafe System

“นั่นพวกเจ้ากำลังดูอะไรกัน!?” ปีศาจดำที่เพิ่งเดินเข้ามาเห็นผู้คนกำลังมองสายฟ้าบนหน้าจอยักษ์

 

“เร็วเข้ามาดูนี่เร็ว!” ตังหยวนอาจารย์จากหยวนเฮงเอ่ยเรียก เขาตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นอย่างมากเขาชี้ไปที่หน้าจอพลางตักบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าปาก “มีบางคนจากเมืองจิวหัวพวกเขาถูกบุกรุกรานจากคนกลุ่มใหญ่ พวกเขาสร้างปัญหาให้เจ้าของร้านแถมยังจับผู้ตัวเล่นหน้าใหม่หลายคนของสมาคมไป ตอนนี้เจ้าของร้านกำลังเข้าโจมตีที่ตั้งสำนักของกองกำลังนี้”

 

“จริง!?” ปีศาจดำตบต้นขาของเขาและตะโกนว่า “เมื่อไม่นานมานี้สมาคมปีศาจของข้าเองก็เพิ่งมีสมาชิกใหม่ ข้าละสงสัยและคิดไม่ตกว่าพวกเขาหายไปไหนกันเป็นไปได้มั้ยว่าพวกเขาเป็น ..”

 

เขาจ้องมองที่หน้าจออย่างตั้งใจ

 

ในไม่ช้าเขาก็เริ่มเข้าใจถึงสถานการณ์ “เป็นไปได้มั้ยที่พวกมันเหล่านี้ .. สถานที่นี้ไกลแค่ไหน? ข้าไปที่นั่นด้วยดาบได้มั้ย?”

 

เขากระโจนขึ้นด้วยความโมโหและหิวกระหายอยากกำจัดพวกมันเต็มที่

 

เวลาเดียวกัน ณ ร้านค้าในจิวหัว ตงชิงลี่ที่เพิ่งมาถึงร้านเห็นข้อความบนหน้าจอ [สุดยอด!] เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย “มันเกิดอะไรขึ้น!? ทำหน้าวันนี้ถึงมีการถ่ายทอดสดได้ละ?”

 

“ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะของซงฉิงเฟิงดังขึ้นพลางชี้นิ้วไปที่หน้าจอ “เจ้าเพิ่งพลาดฉากที่ยอดเยี่ยมาก เจ้าเด็กคนหนึ่งในกลุ่มไมชิแสดงให้เห็นถึงพลังสายฟ้าของเขาแต่เจ้าของร้านใช้เทคนิคควบคุมสายฟ้าที่แท้จริง ดูสีหน้าของเจ้าเด็กนั่นสิ!”

 

“ไหนไหน!?” เมื่อได้ยินคำพูดของเขาหลายคนหันไปจ้องที่จอโดยพร้อมเพียงและเห็นสีหน้าแปลกของเฟิงชีเหมือนว่าเขาเพิ่งตกใจกลัวอะไรสักอย่าง

 

“นี่มัน .. อะไรกัน!?” เฟิงชีตะโกน

 

ในประวัติศาสตร์ของโลกแห่งการฝึกฝนคาถาของกลุ่มไทชิถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและนี่เป็นสาเหตุให้เขาตั้งใจเลือกเพื่อเป็นผู้ฝึกฝนของไทชิและมุ่งหน้าฝึกฝนให้มีขั้นสูงถึงระดับมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์

 

ตามทฤษฏีแล้วช่วงต้นจักรพรรดินักรบสามารถเอาชนะผู้ฝึกฝนมหาสมุทรในระยะแรกได้ แต่ผู้ฝึกฝนของไทชิถือเป็นผู้ได้รับข้อยกเว้น!

 

ทักษะของพวกเขาอยู่เหนือกลุ่มผู้ฝึกฝนส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ ..

 

คาถาของกลุ่มที่เขาภูมิใจมากที่สุดดูเหมือนจะกลายเป็นคาถาที่ไร้สาระเหมาะกับเด็กวัยหัดเดินเมื่อเจอพลังของฟางฉี แม้แต่พลังงานสายฟ้าที่เขารวมรวบไว้ด้วยความพยายามอย่างมากก็ยังถูกทำลายลง!

 

สายฟ้าพุ่งชน! เสียงกรีดร้องดังโหยหวน 

 

“อ่า!” เสียงกรีดร้องยังดังอย่างต่อเนื่องเสียงสายฟ้าก็เช่นกัน

 

ต้วนยื่อส่งคำชม [เพื่อนยักบวชเต๋าของจิวหัว พวกเขาคือใครกัน? ชายคนนั้นกล้าแสดงแสงสายฟ้าจองเขาต่อหน้าเจ้าของร้านได้อย่างไร!?]

 

[เพื่อนยักบวชเต๋าจากเมืองครึ่งของเรากำลังตั้งใจดู]

 

[สุดยอดมาก พวกเราจากครึ่งเมืองเป็นกำลังใจให้เจ้าของร้านอยู่!]

 

ซงฉิงเฟิงตอบกลับความเห็นทันที [พวกเขาคือกลุ่มไทชิที่คิดจะทำลายชื่อเสียงของเรา ..]

 

[ฮ่าๆๆๆ พวกเขาต้องโดน]

 

“กล้าดียังไง!?” ในรัศมีอันทรงอำนาจพลังจากเทคนิคของฟางฉีกำลังพุ่งเข้าหาประตูอย่างดุเดือด

 

นาหลันฮงวูและฟางฉีที่ยืนอยู่หน้าประตูรู้สึกว่าการปราบปรามครั้งนี้น่ากลัวเหมือนกำลังล้มภูเขาลูกโต

 

เสียงแหลมสูงดังมาจากข้างใน “พวกเจ้ากล้ามากนะ!”

 

เสียงลึกลับยังคงพูดต่อว่า “พวกเจ้าช่างใจกล้าที่แสดงพลังต่อหน้ากลุ่มไทชิเช่นนี้!”

 

ณ ศาลาเล็กๆ ข้างหน้าผาห่างจากประตูไปหลายกิโลเมตร สองผู้ฝึกฝนวัยชรากำลังเล่นหมากรุกคนหนึ่งมีผมดำและอีกคนมีผมขาว

 

“ข้าประหลาดใจนักที่พวกเขาพ่ายแพ้ต่อฟางฉี แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังมากก็ตาม”

 

“แม่ว่าพวกเขาจะมีพลังและความสามารถแต่ก็เป็นเพียงแค่นักรบ พวกเขาไม่เป็นภัยคุกคามต่อเราหรอก!”

 

ข้อได้เปรียบของผู้ฝึกฝนคือพวกเขามีวิธีการโจมตีในระยะไกลทุกรูปแบบ ผู้ฝึกฝนสามารถฆ่านักรบได้หลายครั้งเพียงเพราะห่างไกลออกไปก่อนที่นักรบจะหาพวกเขาพบ

 

ขณะที่การปราบปรามทางจิตวิญญาณยังคงดุเดือดผู้ฝึกฝนผมดำยังคงเล่นหมากรุกกับผู้ฝึกฝนผมขาวต่อไป

 

ก่อนจะถึงประตู เสียงคำรามของรูปปั้นกิเลนดังขึ้นหินค่อยๆ ทลายลงมันกลับมามีชีวิตและพุ่งเข้าหาผู้บุกรุกทั้งสองด้วยแรงมหาศาล!

 

ตอนนี้นาหลันฮงวูและฟางฉีรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาโดนจับขาเข้าให้แล้ว ราวกับขาพวกเขาอยู่ในแอ่งโคลนไม่สามารถกระดุกกระดิกขาได้

 

“ไม่นะ”

 

“พวกเขาติดกับ!”

 

ผู้ชมที่ตั้งหน้าตั้งตาดูตกใจ

 

“บ้าเอ้ย!” นาหลันฮงวูตะโกนด้วยความแค้น เขาถูกเท้าของกิเลนกดลง

 

ขณะเดียวกันผู้ฝึกฝนผมสีขาวที่กำลังเล่นหมากรุกได้วางหมาก ตึง!

 

สายฟ้าฟาดลงมาที่ฟางฉี .. นี่ถ้าไม่ใช่ปฏิกิริยาที่ตอบสนองอันรวดเร็วของเขาป่านนี้เขาคงจะถูกโจมตีจนตัวไหม้เกรียมไปแล้ว

 

“ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป”

 

“ถูกต้อง!” ชายผมดำพูดพร้อมยิ้ม “สาระจิตวิญญาณหินของเราออกแบบมาเพื่อรับมือกับเหล่าผู้บุกรุก มันไม่สำคัญว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะสูงเพียงใด เดี๋ยวพวกเขาก็ค่อยๆ หนักและตายกันไปเองตามลำดับ”

 

“พวกเขาไม่สามารถจัดการกับหินที่ประตูได้!” ชายผมขาวหัวเราะ “พวกเขากล้ามากที่เข้ามายุ่งกับกลุ่มไทชิของเรา หยิ่งผยองกล้าประเมินตัวเองช่างมาแสวงหาความตาย!”

 

“นักรบพวกนี้ก็เหมือนมด” ชายผมขาวส่ายหัว “พวกเราสามารถบดขยี้พวกเขาได้ด้วยนิ้วมือของเรา!”

 

“ข้าละเกรงว่าพวกเขาจะตายอย่างน่าอนาจ” ชายผมขาวพูดอย่างสะใจ

 

“ฮ่าๆๆๆๆ” พวกเขาหัวเราะขณะเห็นนาหลันฮงวูและฟางฉีกำลังดิ้นรน

 

ก่อนที่เสียงหัวเราะจะหยุดลงพลังงานดาบสีดำก็พุ่งออกมา!

 

พลังงานดาบคมได้เปลี่ยนเป็นดาบยักษ์มหึมาทันที

 

รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาจางลง “ดาบนี้มาจากไหน!” เสียงตะโกนที่ดูแค้นเคืองดังขึ้น

 

นอกจากดาบสีดำลำแสงน้ำเงินแล้ว บนท้องฟ้ายังมีดาบจำนวนมากคล้ายกับม่านดาบ!

 

“นี่ ..” ชายชราผมขาวตะโกน “มันอะไรกันเนี่ย!?”

 

ความคิดเห็นปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

 

[นี่เรียกว่าเทคนิคการควบคุมดาบ!]

 

[พวกเขาควรออกมาจากกะลาได้แล้ว ชายชราทั้งสองควรเลิกเล่นหมากรุกและออกมาดูอะไรใหม่ๆ ได้แล้ว พวกเขาช่างกล้าจริงๆ ที่ต่อกรกับเจ้าของร้าน!]

 

[ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเจ้าอาจจะตายอย่างน่าสงสาร อยากจะรู้จริงๆ ว่าพวกเขาจะดิ้นพล่านกันแค่ไหน]