ตอนที่ 1507 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (4)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1507  การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (4)

การสูญเสียผู้อาวุโส 2 คนติดต่อกันได้สร้างความเสียหายให้กับจุดยืนของวิหารปีศาจเพลิงอยู่ไม่น้อย  ดังนั้นคนจากวิหารปีศาจเพลิงจึงมาที่ภูเขาฝูเหยาพร้อมภารกิจอย่างหนึ่ง

แม้ว่าความอดทนของพวกเขาจะลดน้อยลง  แต่ทั้ง 3 คนก็ยังทนเฝ้าดูต่อไป  สถานการณ์ของคนจากวิหารอื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก  การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ

หลังจากรออยู่นานพอสมควร  ในที่สุดจวินอู๋เสียก็ได้ยินเสียงเรียกหมายเลขของนาง  นางเดินออกมาจากฝูงชนอย่างช้าๆ

คนที่ยืนอยู่หน้าเวทีตรวจสอบป้ายหมายเลขของจวินอู๋เสีย  และยืนยันว่าอายุของนางอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด  ก่อนจะอนุญาตให้นางเดินขึ้นไปบนเวที

พวกผู้เยาว์ที่กำลังรอให้ถึงรอบขึ้นเวทีของตัวเองก็เงยหน้าขึ้นทีละคนเพื่อมองดูผู้เยาว์ที่ดูผอมบางบนเวที

“ยังเด็กอยู่เลยนี่  ดูไม่เหมือนคนเผ่าแม่มดหมอผีด้วย”  บางคนเริ่มบ่นจากด้านข้าง  ผู้เยาว์ส่วนใหญ่ที่ยังเด็กเกินไปมักจะยังไม่เข้าใจถึงความสามารถพิเศษของเผ่าตัวเอง  ดังนั้นโอกาสที่พวกเขาจะเข้ารอบต่อไปจึงค่อนข้างน้อย

ผู้เยาว์ที่มีอายุใกล้เคียงกับจวินอู๋เสียก่อนหน้านี้  ส่วนใหญ่ถูกคัดออกเนื่องจากความสามารถไม่ถึง  มีเพียงผู้เยาว์ไม่กี่คนจากเผ่าแม่มดหมอผีเท่านั้นที่สามารถเข้ารอบต่อไปได้โดยไม่คำนึงถึงความสามารถว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

จวินอู๋เสียยืนอยู่บนเวทีโดยไม่รีบร้อนที่จะทำอะไร  เพียงแค่เรียกแมวดำตัวน้อยออกมายืนบนพื้นเวทีเท่านั้น

การกระทำของนางทำให้พวกผู้เยาว์ที่อยู่รอบๆเวทีพากันสับสนงุนงง

“เจ้าหมอนี่รู้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น?  นี่ไม่ใช่การแข่งภูติประจำตัวซะหน่อย  ทำไมถึงเรียกภูติประจำตัวออกมาล่ะ?  จะแสดงการเต้นรำรึไง?”

“ล้อเล่นน่า!  แมวตัวเล็กๆแบบนั้น  ต่อให้ไปที่การแข่งภูติประจำตัว  มันก็จะถูกบีบให้ตายทันทีนั่นแหละ”

เมื่อกลุ่มผู้เยาว์เห็นแมวดำของจวินอู๋เสีย  เสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังขึ้นทันที  พวกเขาเห็นว่าจวินอู๋เสียยังเด็กมาก  และดูไม่เหมือนคนของเผ่าพิเศษไหนเลย  พอขึ้นมาบนเวที  เขาก็แค่เรียกภูติประจำตัวของตัวเองออกมาซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกตลกมาก

จวินอู๋เสียที่ตัวผอมบางยืนอยู่บนเวทีขนาดใหญ่พร้อมกับเจ้าแมวดำตัวจิ๋ว  ดูโดดเด่นมากจนผู้แข่งขันจากเวทีอื่นสังเกตเห็นสถานการณ์ทางด้านจวินอู๋เสีย  สายตาที่ทุกคนมองมาที่นางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและดูถูกเหยียดหยาม

ทุกคนต่างคิดว่าสมองของจวินอู๋เสียต้องมีอะไรผิดปกติแน่

เสียงหัวเราะเยาะที่ไม่ปิดบังและถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามทั้งหมดวนเวียนอยู่ในหูของจวินอู๋เสีย  แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางเปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด  นางยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ท่ามกลางเสียงดูถูก  จากนั้นก็ค่อยๆก้มลงหยิบถุงน้ำและพู่กันที่นางเตรียมไว้ออกมา

ภายในห้องส่วนตัว  ชาย 3 คนจากวิหารปีศาจเพลิงก็สังเกตเห็นความวุ่นวายตรงนั้นเช่นกัน

“ฮ่า!  ข้าเห็นอะไรล่ะนั่น?  มีคนงี่เง่าเรียกภูติประจำตัวออกมาที่การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดด้วย?  ฮ่าๆ!  เจ้าตัวเล็กนั่นหัวทึบขนาดมาผิดสนามแข่งเลยเหรอ?”

“ข้าว่าเขาไม่ได้แค่หัวทึบหรอก  เขาอาจจะเพิ่งตื่นด้วยซ้ำ!  หมอนั่นเอาถุงน้ำกับพู่กันขึ้นมาทำอะไรบนเวที?  จะแสดงให้เราดูว่าภูติประจำตัวของเขาเขียนตัวอักษรได้หรือไง?”

ทั้งสามคนอดหัวเราะออกมาเสียงดังไม่ได้  พวกเขาไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเด็กตัวเล็กๆบนเวทีนั้น  นอกจากเป็นเรื่องตลกให้พวกเขาได้หัวเราะ

บนเวที  จวินอู๋เสียค่อยๆเทน้ำจากถุงลงในฝาปิดของมัน  น้ำใสปริ่มเล็กน้อย  จวินอู๋เสียถือพู่กันและจุ่มลงในน้ำเบาๆ  หลังจากนั้น  ภายใต้การเยาะเย้ยถากถางมากมาย  นางยกมือขึ้นและใช้พู่กันจุ่มน้ำนั้นค่อยๆเขียนอักษรโบราณที่ดูลึกลับและแปลกประหลาดลงบนพื้นเวที……