ดู๋เหยาเบิกตาของเขาขึ้นราวกับว่าเขากำลังพยายามที่จะทำความเข้าใจในฉากข้างหน้า ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่เข้าใจทำไมสิ่งที่อยู่ตรงหน้าช่างน่ากลัวขนาดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานในกองทหารผู้พิทักษ์และพลังงานจากดวงดาวต่างๆ กำลังถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็วเพื่อโจมตีแท่นแปดเหลี่ยม!
“ไม่! เป็นไปไม่ได้!” ดู๋เหยาแผดเสียง “นี่เป็นแท่นรอยสลักจิตวิญญาณที่สืบทอดมาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ .. มันเป็นของของปรมาจารย์บรรพบุรุษสืบทอดพวกท่านบอกเราว่ามันแข็งแกร่งและสามารถดักจับเหล่าปีศาจแม้จะมีชีวิตอมตะได้”
“เป็นไปไม่ได้ ไม่ เป็นไปไม่ได้!” เขาพึมพำกับตัวเองราวกับคนบ้าที่เริ่มคลั่ง
สิ่งที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้น .. รอยแตกราวที่ปรากฎเริ่มกัดกินไปยังใจกลางของแท่นแปดเหลี่ยม สอง สาม สี่ ..
รอยร้าวมากมายปรากฎขึ้นแท่นเริ่มสั่นคลอน
สาวกและผู้อาวุโสของกลุ่มซวนซงและหยูซูทุกคนต่างเงยหน้ามองภาพที่น่าสะพรึงกลัวปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าด้วยความห่างไกลมันน่ากลัวสยองขวัญราวกับเป็นวันสิ้นโลก
“นั่นอะไร!?”
“นั่นคือทิศทางที่อยู่ของกลุ่มไทชิ”
ฉากอันสยองขวัญกำลังตะลึงเข้าตาพวกเขา!
ณ ร้านทั้งสองแห่ง
ผู้ฝึกฝนและนักรบที่ไม่ได้เคยเล่นคิงออฟไฟเตอร์ต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็น “นั่น .. อะไรน่ะ!?”
แม้แต่หนิงไป่เองยังยืนขึ้นเมื่อเธอจะเคยเห็นพลังของโอโรชิแล้วก็ตาม แต่นี่คือของจริงไม่ใช่แค่ในเกมเธอจึงไม่สามารถหาข้อเปรียบเทียบกับสิ่งใดในโลกความจริงได้เลย อย่างไรก็ตามนี่คือพลังของโอโรชิของจริง!
ความรู่สึกนี้ช่างน่าทึ้งกว่าสิ่งที่เห็นในเกมเป็นหลายเท่า มันแข็งแกร่งและทรงพลังมากกว่าตอนสัมผัมจากในเกม
ดวงตาคู่สวยสีเขียวของเธอเปล่งประกาย “ข้าตัดสิจใจแล้ว ข้าจะใช้ความพยายามมากขึ้นในการฝึกฝนเทคนิคในเกมคิงออฟไฟเตอร์ต่อไป!”
อาจารย์ซีชิเองก็จ้องมองหน้าจอโดยไม่กระพริบตา “หยุนเอ๋อเจ้ารู้ไหมว่าเทคนิคนี้คืออะไร? เราสามารถเรียนรู้มันจากที่ร้านได้หรือไม่? ทำไมข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย!?”
“เป็นเพราะท่านไม่เคยเล่นเกมคิงออฟไฟเตอร์!” หลิวหนิงหยุนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“หยุนเอ๋อเจ้าช่วยแสดงวิธีเล่นคิงออฟไฟเตอร์ให้ข้าดูได้มั้ย!?” อาจารย์ซีชิถามด้วยความตื่นเต้น “ถ้าข้าสามารถนำเทคนิคนี้มาผสานกับแสงสวรรค์ของเรา ..”
เธอเริ่มฝันถึงอนาคต
“…”
“ทุกอย่างถูกทำลาย!” ดู๋เหยามองดูการควบคุมของกลุ่มไทชิกำลังล่มสลาย แม้แต่ผีเสื้อเหลืองลึกลับที่ช่วยเขาให้รอดพ้นจากดาบระดับยี่สิบสามก็ยังแยกตัวเป็นชิ้นๆ ด้วยความเกลียดชังในหัวใจเขาแววตาและใบหน้าของเขาเริ่มดุร้ายคล้ายผีแก่เต็มที
เขาจ้องมองฟางฉีด้วยแววตาโกรธชัง “กลุ่มไทชิของข้าไม่ได้ทำอะไรให้เจ้าเลย ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้กับเรา! เจ้าไม่กลัวหรือว่าเจ้าจะถูกลงโทษจากสวรรค์และฟ้าผ่า!”
ในมุมมองของกลุ่มไทชิ จริงอยู่พวกเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน
“ข้ามาที่นี่เพื่อเหล่าสาวกของกลุ่มต่างๆ เจ้ากักขังและทรมานพวกเขา!” ฟางฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“อะไรที่เรียกว่าทรมาน!?” ดู๋เหยาตะโกน “เตียนเล้ยซี! เตียนเล้ยซีเจ้าอยู่ไหน!?”
เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า “เจ้าทำอย่างนี้เพราะกลัวว่าสิ่งที่เจ้าทำจะสูญเปล่างั้นสิ? วันนี้แหละข้าจะนำพาความสูญเปล่าไปฝังหลุมพร้อมกับเจ้า!”
“เตียนเล้ยซี!”
“ด้วยความศักดิ์สิทธิ์!” ขณะเดียวกันร่างถูกปกคลุมไปด้วยเลือดและสีหน้าอันน่ากลัวเริ่มไล่ตามสาวกกว่าร้อยคนด้วยความโกรธจัด
“บ้าเอ้ย! อย่าวิ่งข้าจะให้พวกเจ้าได้สัมผัสกับการถูกฟ้าผ่า!”
“ฟังข้า! ข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้าเยี่ยงพ่อแม่และกลุ่มของเราดูแลเจ้าอย่างดี แต่พวกเจ้ากลับทำลายความหวังดีของเราที่สร้างขึ้น คนอย่างพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์จะมีชีวิตอยู่!”
“!!!” หญิงสาวหน้ากลมอายุราวสิบหกปีตะโกนด้วยน้ำตา “เจ้าโกหก! หลังจากวันที่ข้าจากบ้านมาชีวิตข้าช่างเลวร้ายกว่าเดิมอีก ..”
“ไม่ .. ไม่ใช่ข้า” ดู๋เหยามองดูเตียนเล้ยซีที่ชี้มาทางเขาเอ่ยโบ้ย “เพราะเขา! เขาสั่งให้ข้าทำมันไม่ใช่ความคิดของข้า ดูนั่นเขาต้องการให้เจ้าตายไปกับเขาด้วย!”
“บ้าเอ้ยวันนี้แหละข้าจะทำให้เจ้าทรมานจากฟ้าผ่า!”
“อ่า!” ก่อนที่ฟางฉีจะลงมือ คนสองกลุ่มกลับตีกันด้วยความโกรธแค้น เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นทันทีทั่วภูเขา
…
เวลาเดียวกันเรือจิตวิญญาณของหลิงหลางเองก็ได้ทำตามคำแนะนำที่ได้รับจากจดหมายที่มีคำสั่งให้ย้ายไปยังสถานที่ที่กำหนด อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับการต้อนรับจากคลื่นสายฟ้าอันน่ากลัว
“นี่คือ ..”
“คาถาของกลุ่มกงชู!?”
“เป็นไปไม่ได้! ตระกูลกงเข้าร่วมสงครามกับเราหรือ!?”
“ทำไม .. มีรัศมีรอบตัวเรา?”
“ไม่! พวกเราตกหลุมพราง!”
“…”
เวลาไล่เลี่ยกันเสียงตะโกรและเสียงโหยหวนดังขึ้น เรือขนาดใหญ่ได้รับความเสียหายอย่างมากมายภายใต้การโจมตีของรัศมีที่ถูกสร้างขึ้นโดยเรือรบจำนวนมากที่จิวหัวยึดมาจากตระกูลกงชู
“ส่งข้อความไปบอกพวกเขาด่วนว่าพวกเราตกหลุมพราง!”
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้รับคำตอบและข้อความทั้งหมดที่ถูกส่งออกไปนั้นหายไปลับตาเหมือนกับหินที่จมลึกลงไปในมหาสมุทร ผู้ฝึกฝนของภูเขาหยกเองก็ยังไม่ได้ออกเดินทางพวกเขารอจนกว่าจะได้รับสัญญาณ แต่ตอนนี้เหล่าสมาชิกระดับสูงส่วนใหญ่ก็ได้ถูกจับตัวไว้เกือบหมดแล้ว
แผนกลยุทธ์ของตาจินได้ผลดี
…
“แปลก .. ทำไมท่านผู้อาวุโสซูยังไม่ตอบข้อความของข้า” อาจารย์จากภูเขาหยกสงสารว่าทำไมหยกในมือเขาถึงไม่มีการตอบโต้
ขณะนี้เสียงดังมาจากข้างนอกพวกเขาเองได้ยินแว่ว “ฟังให้ดี! พวกเจ้าถูกล้อมไว้หมดแล้ว มอบสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณของพวกเจ้าให้เราเดี๋ยวนี้!”
“อะไร!?” สีหน้าหลายคนดูไม่พอใจ “เรายังไม่ได้รับข้อความ .. งี้ไม่สนุกเลย!”
หลังจากออกจากที่ซ่อนพวกเขาเห็นเรือรบขั้นสูงราวๆ สิบลำของตระกูลกงชูปรากฎขึ้นช้าๆ ในท้องฟ้าสีครามเหนือเมือง
…
ขณะเดียวกัน ณ กลุ่มไทชิ กลิ่นฉุนคล้ายเหนือสัตว์รุนแรงแทรกซึมอยู่ในอากาศ .. หลายคนถูกเผาด้วยสายฟ้า
“เจ้าช่างกล้า!” รัศมีอันทรงพลังแพร่กระจายออก
หญิงชายผู้งดงามปรากฎตัวขึ้นพวกเขาอยู่ในระดับอาณาจักรมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์ ผู้ชายสวมเสื้อสีม่วท้องเขาดูหล่อเหลาและกล้าหาญ ส่วนผู้หญิงนั้นสวมชุดคลุมสีขาวลวดลายหยก เธอดูสง่างาม
พวกเขาจ้องมองมาที่ฟางฉีด้วยสีหน้าเย็นชา
ฟางฉีที่ดูท่าทางใจเย็นหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ “พวกเจ้าควรถามสิ่งที่พวกเขากระทำกับเหล่าสาวกทีกำลังโกรธแค้นจะดีกว่า”
เขาเคาะบุหรี่ “นี่คือสาเหตุที่ข้ามาที่นี่เพื่อจัดการกับพวกเจ้า”
แม้ว่าพวกเขาสองคนจะมีพลังมากแต่ทั้งคู่ก็สัมผัสได้ว่าพลังของฟางฉีนั้นเป็นพลังที่ให้ความรู้สึกควบคุมไม่ได้ พวกเขาที่ยืนอยู่จึงได้รับคำตอบทันที
[ปี๊ป! ภารกิจเสร็จสิ้น!]