เนื่องจากเถาวัลย์ปกคลุมไปทั่วทางเข้า ถ้ำจึงมืดมิดและยังมีลมเย็นพัดเข้ามาเป็นครั้งเป็นคราว ซึ่งบรรยากาศก็เหมือนกับฉากสยองขวัญในภาพยนตร์
ด้วยแสงตะวันอ่อนๆ ที่ส่องเข้ามา เย่เทียนจึงเห็นร่างมนุษย์สองคนที่เลือนรางอยู่ไม่ไกลข้างหน้า เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปทันที
ซึ่งสองคนที่นอนหมดสติไป จะเป็นใครที่ไหนไม่ได้ นอกจากจี้เยียนหรันกับกงหย่วน!
“เยียนหรัน! หัวหน้ากง!”
เย่เทียนเข้าไปหาทั้งสองและตรวจสอบสถานการณ์ของทั้งสองคนคร่าวๆ ก่อน
โชคดีที่ทั้งสองคนถูกวางยาพิษและหมดสติไปในอาการโคม่าเท่านั้น แต่ไม่ได้มีสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตแต่อย่างใด
หลังจากที่เงยหน้าขึ้นและสำรวจไปยังส่วนลึกของถ้ำ เย่เทียนจึงหยิบยาแก้พิษสองเม็ดที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วยัดเข้าไปในปากของทั้งสอง จากนั้นก็อุ้มจี้เยียนหรันขึ้นมาและลากกงหย่วนออกมาจากถ้ำก่อน
ลี่ชุ่ยฮวายังคงซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ แล้วใครจะรู้ว่านี่เป็นแผนของลี่ชุ่ยฮวาที่จงใจทิ้งทั้งสองคนไว้ที่ทางเข้าเพื่อรอโอกาสที่จะลอบโจมตีหรือไม่?
ในความเป็นจริง ทั้งสองถูกลี่ชุ่ยฮวาลากมาที่ทางเข้านี้จริง
ซึ่งเธอตั้งใจจะลองใจเย่เทียนว่า หลังจากที่ได้สองคนนี้คืน เย่เทียนอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้
เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้ตำรวจกลุ่มนี้ไล่ล่ามาถึงที่นี่ ก็เพื่อสองคนนี้ไม่ใช่หรือ?
แน่นอน หากมีโอกาส ลี่ชุ่ยฮวาจะไม่มีวันพลาด และเธออาจเล่นแผนลอบโจมตีได้เช่นกัน
แต่ที่น่าเสียดาย เย่เทียนกลับเฝ้าระวังตลอดทั้งกระบวนการ แม้ว่าเขาจะป้อนยาแก้พิษให้กับคนสองคนที่หมดสติไป แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องเข้ามาในถ้ำอย่างระมัดระวัง และไม่เปิดโอกาสให้เธอเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อนำทั้งสองคนออกจากถ้ำ เย่เทียนก็กวักมือเรียกโจ๋หย่วนหันและคนอื่นๆ
“ผู้บัญชาโจ๋ รบกวนพวกคุณส่งเยียนหรันกับเขาไปที่โรงพยาบาลก่อนนะครับ”
“ผมยังไม่ได้จัดการลี่ชุ่ยฮวา ผมว่าเธอน่าจะหลบอยู่ในถ้ำนี้ ผมต้องเข้าไปจัดการเธอให้ได้ก่อน แล้วผมจะตามไปที่โรงพยาบาลนะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เย่เทียนไม่ได้รอการตอบสนองของทุกคน ได้แต่ขยับเท้าแล้วเดินเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง
โจ๋หย่วนหันและคนอื่นๆ ลำบากใจมาก แต่ก็กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับจี้เยียนหรันและกงหย่วน หลังจากตกลงกันเสร็จ เหลยซวี่กับตำรวจติดอาวุธอีกคนรอต่อที่หน้าทางเข้าถ้ำ ส่วนคนอื่นๆ ก็พาจี้เยียนหรันกับกงหย่วนกลับไปที่โรงพยาบาลก่อน
ถ้ำนี้ค่อนข้างลึก เมื่อสังเกตทั้งสองฝั่งของถ้ำ เห็นได้ชัดว่าเป็นถ้ำที่ถูกขุดมาก่อน ซึ่งถ้าหากมองเข้าไปในถ้ำ จะเห็นแสงสีเขียวจางๆ อยู่ในส่วนลึกของถ้ำ
ยังดีคนที่เข้ามาคือเย่เทียน เพราะถ้าหากเป็นคนอื่น เขาคงจะตกใจกลัวจนขาสั่น และอาจจะล้มลุกคลุกคลานหนีออกไปจากสถานที่ผีสิงแห่งนี้แล้ว
เหนือสิ่งอื่นใด เพราะในถ้ำนี้มันน่าขนลุกและแปลกประหลาด และมันน่ากลัวเกินไป!
แม้แต่เย่เทียนที่กล้าหาญชาญชัยยังต้องเดินช้าๆ เพื่อเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
เพราะนี่เป็นเรื่องจำเป็น ในชาติก่อน เขาเคยเผชิญกับวิชาพิษที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ของลี่ชุ่ยฮวา แม้กระทั่งมองไม่เห็นสัตว์เลี้ยงของเธอด้วยซ้ำ
ฉะนั้น ในถ้ำที่มืดมิดซึ่งจำกัดการมองเห็นที่ไม่เกินห้าเมตรนี้ เขาจำเป็นต้องระวังอย่างที่สุด
ถึงแม้จะเตรียมยาแก้พิษมาด้วย แต่ยาแก้พิษไม่ใช่ยาอานุภาพใดๆ แล้วใครจะไปรู้ว่านอกจากแมงมุมร้อยพิษเจ็ดสี ลี่ชุ่ยฮวายังมีสัตว์เลี้ยงที่มีพิษร้ายแรงอื่นๆ อีกไหม?
ทั้ง ๆ ที่ระยะห่างออกไปเพียงแค่ห้าสิบเมตร แต่เย่เทียนยังใช้เวลาในการเดินถึงสามนาทีเต็มๆ
หลังเดินผ่านอุโมงค์ จู่ ๆ ดวงตาก็เหมือนเปิดขึ้น และสิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือห้องขนาดเกือบยี่สิบตารางเมตรที่อยู่ตรงหน้า
เหนือถ้ำนั้น มีไข่มุกราตรีขนาดเท่ากำปั้นของเด็กทารกอยู่ 3 ลูก ซึ่งดูก็รู้ว่าแสงสีเขียวสลัวที่เห็นก่อนหน้านี้ก็คือการประกายของมัน
แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเย่เทียนมากที่สุดคือ ทั้งห้องนี้กลับเต็มไปด้วยเศษกระดูก ซึ่งดูจากรูปทรงของกระดูกแล้ว มันล้วนเป็นซากกระดูกขาวของมนุษย์ทั้งนั้น
นอกจากนี้ ยังมีหลุมดินหลุมหนึ่งที่ถูกขุดขึ้นอยู่ตรงกลางห้อง ด้านในหลุมนั้นยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวของเลือด!
“เป็นสถานที่ที่น่าสยองขวัญและน่าขยะแขยงจริงๆ?!”
เมื่อสังเกตโดยรอบอย่างละเอียดแล้ว สีหน้าของเย่เทียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
สำหรับสถานที่อันน่าสยองขวัญและน่าขยะแขยงแห่งนี้ ต้องมีคนมากมายที่ตายโหงในที่นี่อย่างแน่นอน และด้วยพื้นที่เย็นชื้น ซึ่งแสงแดดไม่อาจสาดส่องถึงได้ จึงทำให้กลิ่นคาวเลือดมันรุนแรงมากขึ้น
ซึ่งสถานที่อันน่าสยองขวัญแบบนี้ ต่อให้คนสุขภาพดีแค่ไหนที่ต้องอาศัยอยู่ในนี้ รับรองว่าไม่นานก็ต้องป่วยอย่างแน่นอน
ที่สำคัญ ในที่แบบนี้มักเป็นแหล่งรวมของมวลพิเศษต่างๆ!
แน่นอนว่าความรู้เหล่านี้เย่เทียนได้มาจากคัมภีร์หวง ต่อให้อยู่ในชาติที่แล้ว เย่เทียนยังไม่เคยพบเจอกับสถานที่แบบนี้มาก่อน และเขายังไม่คาดคิดเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่จริง!
ซี่ ซี่!
ในเวลานี้ เย่เทียนสัมผัสได้ถึงการคลานของสิ่งแปลกประหลาดในความมืด
เขาถึงกับตกใจและแผ่พลังคัมภีร์หวงออกมาทันที เมื่อชี่ทิพย์แผ่ออกมาและรวมตัวกันที่มือของเย่เทียน ทันใดนั้น มือซ้ายของเขาก็เปล่งประกายราวกับถือหลอดไฟไว้
แต่ว่า เมื่อเห็นบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เย่เทียนถึงกับขนหัวลุก และขนลุกไปทั่วร่างกาย
นอกเหนือจากสิ่งอื่นใด สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคือฝูงแมงมุมสีแดงเลือดอันน่าสะพรึงกลัว พวกมันมีมากมายนับไปถ้วน คลานอยู่เต็มพื้น ราวกับว่ากองทัพทั้งหมดได้ล้อมเขาไว้ตรงกลาง
ซึ่งถ้าตั้งใจสังเกตแล้ว ฝูงแมงมุมนี้ยังมีเลือดหยดลงจากตัวของพวกมัน เห็นได้ชัดว่าพวกมันเพิ่งคลานออกมาจากบ่อเลือด
แมงมุมเหล่านี้มีขนาดประมาณเท่าหัวแม่มือ ด้วยกลิ่นเหม็นคาวจากตัวของพวกมัน นี่แหละแมงมุมร้อยพิษ!
นอกเหนือจากนี้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีก ดูเหมือนว่าสถานที่อันน่าสยดสยองและน่าขยะแขยงแห่งนี้จะถูกพวกเขายึดครองไปแล้ว และกลายเป็นรังเฉพาะของพวกมันไปแล้วด้วย!
เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเขาไป ต่อให้เขาไม่มีโรคกลัวใดๆ แต่เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะขนลุก
“แมงมุมร้อยพิษมาจากไหนเยอะขนาดนี้?”
ซู่ซ่า!
ทันใดนั้น ลี่ชุ่ยฮวาก็นั่งอยู่ในบ่อเลือดนั้น และพูดอย่างบ้าคลั่งว่า “ไอ้สารเลว! แกบังคับฉันเองนะ! แกเป็นคนบังคับฉันเองนะ!”
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ เขาได้แต่มองไปที่ทรงผมกะเซอะกะเซิงและเลือดอาบทั่วตัวของลี่ชุ่ยฮวา และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ฉันอุตส่าห์เสียเวลามาสามปี! สามปีเต็มๆ!”
“ขอแค่เจ็ดวัน อีกเจ็ดวันฉันก็จะสำเร็จแล้ว!”
“ทำไม! ทำไมแกต้องมาขัดขวางฉัน! ทำไมแกต้องมาดับฝันฉันในวินาทีสุดท้ายแบบนี้!”
ลี่ชุ่ยฮวาตวาดเสียงดังอย่างไม่หยุด ดวงตาเปื้อนเลือดของเธอจ้องเขม็งไปเย่เทียน เธอในตอนนี้ราวกับปีศาจที่คลานออกมาจากขุมนรกเก้าชั้น ซึ่งทำให้คนเห็นแล้วต้องสะพรึงกลัว
ในฐานะนักฆ่ามืออาชีพ ถ้าเธอเลือกที่จะอยู่ในเมืองเอกก็ย่อมมีเหตุผลของเธออยู่แล้ว
เหตุผลที่เธอถูกขับไล่ออกจากสำนักพิษห้า ก็เพราะเธอแอบดูคัมภีร์พิษห้าของสำนักพิษห้าที่เจ้าสำนักสามารถดูได้แค่คนเดียวเท่านั้น
แม้ในที่สุดเธอจะถูกขับไล่ออกจากสำนักพิษห้า แต่เธอยังสามารถจำเนื้อหาส่วนหนึ่งของคัมภีร์พิษห้าได้
เมื่อสามปีที่แล้ว เธอบังเอิญเจอกับถ้ำแห่งนี้ เธอจึงรู้ทันทีว่าที่นี่คือสถานที่สำหรับการฝึกฝนวิชาพิษที่ถูกบันทึกอยู่ในคัมภีร์พิษห้า และตั้งแต่นั้นมา เธอก็ฝึกฝนอย่างอุตสาหะ เธอพยายามจะผสมพันธุ์แมงมุมร้อยพิษเจ็ดสีที่ทั้งดุร้ายและน่ากลัวนี้
แต่เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าสักวันเธอจะถูกสัตว์ประหลาดที่เกิดใหม่อย่างเย่เทียนคนนี้เปิดเผยตัวตนและทุกสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
และสิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดคิดมากกว่านั้นคือฝีมืออันร้ายกาจของเย่เทียน เพราะแม้แต่ทังหยูหลงผู้ซึ่งเป็นผู้ประมาทส่งโลงศพยังสู้เขาไม่ได้ ฉะนั้น เพื่อเอาตัวรอด เธอจึงจำเป็นต้องทำลายความฝันขั้นตอนอยู่ท้ายของเธอเอง……